The Breadwinner (2017) สามารถดูได้ใน Netflix
ถือเป็นแอนิเมชั่นที่เล่าเรียบง่ายแต่สามารถถ่ายทอดเนื้อหาชีวิตประจำวันของผู้หญิงอัฟกานิสถานในยุคตาลีบันเรืองอำนาจได้ชวนเห็นภาพชัดเจนยิ่งกว่าคำบอกเล่าเสียอีก ในขณะที่นิทานหลอกเด็กที่คอยเล่านั้นทุกอย่างดูง่ายและฟังดูมีความหวังในตอนจบ แต่สำหรับชีวิตจริงมันไม่ได้สวยหรูเหมือนในนิทานที่คอยปลอบประโลมใจแม้แต่นิดเดียว การที่ผู้หญิงไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้กระทั่งการเดินออกนอกบ้านลำพัง, จะไปไหนต้องมีสามีหรือผู้ชายไปด้วย, ไม่ต้องพูดถึงการซื้อของที่เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้สำหรับผู้หญิง ดังนั้นเมื่อเสาหลักของครอบครัวคือพ่อ/สามีถูกจับไปขังคุก จึงทำให้ครอบครัวที่เหลือเพียงแม่และลูกสาว 2 คนกับเด็กชายตัวน้อยจึงหมดสิ้นหนทางในทันที ทางออกระยะสั้นของเด็กสาวอย่าง 'ปาร์วานา' จึงเลือกตัดผมแต่งชุดปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชาย ส่วนทางออกระยะยาวคือการที่คนแม่ต้องอ้อนวอนญาติห่าง ๆ ให้ช่วยส่งลูกชายมาแต่งงานกับลูกสาวคนโตเพื่อจะได้หนีออกจากเมืองนี้และมีที่พึ่งพิงอันแสดงให้เห็นถึงสภาพสังคมที่ชายเป็นใหญ่แบบผู้หญิงไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรเลย
.
อัฟกานิสถานในแอนิเมชั่นคือช่วงปี 2001 ช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ 9/11 ประเทศยังเป็นเอมิเรตอิสลามอัฟกานิสถานที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมมีอำนาจและสั่งการเคร่งครัดจำกัดเสรีภาพผู้หญิงอย่างรุนแรง ในขณะที่ตัวเรื่องราวสะท้อนความโหดร้ายที่กระทำต่อมนุษย์ด้วยกัน แต่อีกด้านก็เผยถึงความเมตตาโอบอ้อมอารีของมนุษย์เท่าที่พอจะทำได้ในสถานการณ์เช่นนั้น ท่ามกลางข้อห้ามที่เข้มงวดและบทลงโทษที่รุนแรงจึงเป็นเหตุผลให้ผู้คนตกอยู่ภายใต้ความกลัว ถึงแม้ลึก ๆ จะรู้ว่าอะไรถูกอะไรผิดก็ตาม พอโลกความจริงมันโหดร้ายขนาดนั้นจึงไม่แปลกใจที่คนเราจะหาทางออกเยียวยาตัวเองด้วยเรื่องปลอบประโลมใจผ่านนิทานก็ยังดี เพียงแต่ในนิทานมันเป็นการต่อสู้ของคน ๆ เดียวที่จะไปต่อกรกับศัตรูร้าย แต่ในความจริงแล้วการฉายเดี่ยวมันไม่ได้มีอานุภาพอะไรเลยถ้าปราศจากแนวร่วม และการบอกเล่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นในทุกวันก็ไม่เพียงพอจะหยุดการคุกคาม บางคนอาจมองความตายของคนใกล้ชิดเป็นเหตุให้ต่อต้านสงครามและการเข่นฆ่า แต่บางคนอาจมองความตายให้กลายเป็นความแค้นที่ส่งต่อเนื่องไปหลายชั่วอายุคน นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่สงครามไม่จบสิ้นสักที
Director: Nora Twomey
book: Deborah Ellis
story: Deborah Ellis
screenplay: Anita Doron
Genre: animation, drama
7.5/10
