Loki (สามารถดูได้ใน Disney+ Hotstar)
• นึกถึงพวกหนังไซไฟที่สร้างจากงานของ Philip K. Dick แต่ไม่ได้เป็น hard sci-fi ขนาดนั้น อย่างน้อยระหว่างดูก็นึกถึง The Adjustment Bureau ขึ้นมาเรื่องหนึ่งละ ที่พูดถึงองค์กรที่คอยควบคุมชะตาชีวิตคนให้เป็นตามเส้นทางที่วางไว้ แปลว่ามนุษย์ไม่มีเจตจำนงเสรี
• ซีรีส์ทั้งปั้น โลกิ ในแง่การสร้างพัฒนาการของตัวละครเต็มขั้น และอีกทางหนึ่งก็เตรียมพร้อมทางการตลาด ในการเอาคาแรคเตอร์ซูเปอร์ฮีโร่กลับมาแบบเปลี่ยนนักแสดงและตีความใหม่ได้หมด ผ่านการเป็น multiverse
• ปูทางไปสู่หนัง phase 4 เต็มตัว โดยเฉพาะบทสรุปช่วงท้าย เหมือนทั้งซีซั่นมีจุดสำคัญสำหรับมาร์เวลคือตอนจบซีซั่นเนี่ยแหละ
• โลกิ กับ ซิลวี่ คือดีงาม โดยเฉพาะ EP.3 ยังไงก็ตกหลุมรักความสัมพันธ์ของสองคนนี้ เข้าใจคำว่า 'เขารักตัวเองนะ' ขึ้นมาเลย
• บทสรุปของ TVA คือทางเลือกที่ยากจริง ๆ
• น้อนเข้โลกิ โคตรขโมยซีน ถ้ามีตัวนี้อยู่ใน Avengers ป่านนี้ชนะธานอสไปนานแล้ว ชนะตั้งแต่มัวไปถอดถุงมือกันนั่นแหละ
-------------------------------------
ซีรีส์ Loki จะเล่าเหตุการณ์ต่อเนื่องจากฉากเหล่า Avengers ย้อนเวลาใน Avengers: Endgame โดย 'โลกิ' (Tom Hiddleston) หลบหนีการจับตัวพร้อมกับขโมย Space Stone (Tesseract) มาได้ ทำให้เกิดเป็นไทม์ไลน์ใหม่ เป็นโลกิเวอร์ชั่นไม่ได้ปรากฎตัวใน Thor: The Dark World, Thor: Ragnarok, และไม่ได้สู้กับธานอสใน Avengers: Infinity War หรืออธิบายอีกแบบคือเป็นโลกิเวอร์ชั่นต่อเนื่องจากหนัง The Avengers (2012) โดยตรงเลย
.
ทีนี้โลกิโดนองค์กร TVA ที่คอยดูแลเส้นเวลาไม่ให้ผิดเพี้ยนจับกุมตัว โลกิในฐานะตัวแปรได้รับข้อเสนอจาก 'โมเบียส' (Owen Wilson) เจ้าหน้าที่สืบสวนวายร้ายสุดอันตราย ให้มาช่วยตามจับโลกิตัวแปรอีกคนที่สังหารเจ้าหน้าที่ TVA ไปหลายราย แต่คนเจ้าเล่ห์แบบโลกิเนี่ยนะจะมาเป็นฮีโร่ช่วยเหลือการจับกุม
.
เอาจริง ๆ ระหว่างดูช่วงแรกรู้สึกเฉยมาก อย่าง EP.1 ก็ปูพื้นนานเต็มตอน พอเข้า EP.2 ก็ยังรู้สึกธรรมดา โชว์ความไว้ใจไม่ได้ของโลกิกับความต้องการพิสูจน์ว่าตัวเองถูกประมาณนั้น อาจมีมุมเหมือนหนังสืบสวนที่ต้องคิดเหมือนอาชญากร เรื่องมันไม่ได้ดูว้าวหรือสดใหม่แบบตอนดู WandaVision แต่พอเข้า EP.3 มันเหมือนโทนเรื่องเปลี่ยนไปโดยไม่รู้ตัว อยู่ดี ๆ เริ่มเห็นพัฒนาการของโลกิเล็กน้อยและบรรยากาศการเล่าเรื่องคู่กัดระหว่างโลกิ กับ 'ซิลวี่' (Sophia Di Martino) ก็มีเสน่ห์โรแมนติกแบบไม่ตั้งใจเกินไป พัฒนาความสัมพันธ์จากความไม่ไว้วางใจและเงื่อนไขต้องเกาะติดกันไปตลอด (คนนึงมีเทมแพดสำหรับวาร์ป อีกคนรู้วิธีซ่อมพลังงาน) กลายเป็นว่าซีรีส์เซ็ตประเด็นของตัวเองสำเร็จจนได้
.
หลังจากนั้นซีรีส์จึงพาคนดูสำรวจเบื้องหลังองค์กร TVA มากขึ้น อารมณ์ประมาณว่าโลกิกับซิลวี่ จะมาเป็นผู้เบิกเนตรให้เหล่าเจ้าหน้าที่ TVA ได้ตาสว่างกันสักทีว่ามันไม่ได้เป็นแบบที่เขาหลอกลวง เช่นเดียวกับคนดูที่ค่อย ๆ เข้าใจหลักการของ TVA และเหตุผลที่มันต้องดำรงอยู่ใน EP. สุดท้าย ซึ่งระหว่างการเดินทางไปสู่จุดจบของเวลา ซีรีส์ก็ยังสร้างความบันเทิงได้ตลอด โดยเฉพาะการแทรกเดอะแก๊งตัวแปรโลกิหลากเวอร์ชั่น ที่สามารถต่อยอดไปเป็นหนังสั้นของตัวเองได้หมด
.
ไฮไลท์สำคัญที่ทำให้เราชอบซีรีส์น่าจะเป็นเพราะพอถึง EP.6 เราก็เชื่อในคาแรคเตอร์ใหม่ของโลกิคนนี้ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว ในเวลาไม่กี่ตอนของซีรีส์ ตัวละครสามารถเติบโตขึ้น มีความเปลี่ยนแปลงจากเหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามา ได้เห็นตัวแปรที่แตกต่าง จนนำมาสู่ทางแยกสำคัญที่ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างอำนาจเผด็จการกับความเป็นเสรี เซ็ตติ้งที่วางไว้ทั้งหมดสามารถทำให้ตอนจบกลายเป็นทางเลือกที่ยากลำบากของตัวละคร ซึ่งพอซีรีส์เลือกแบบนี้ก็ตื่นเต้นเลยที่จะได้เห็นการเล่า phase 4 ของจักรวาลมาร์เวล
Creator: Michael Waldron (เขียนบท Doctor Strange in the Multiverse of Madness)
6 Episodes (เฉลี่ยตอนละ 45 นาที)
B+
#หนังโปรดxDisneyplusHotstar
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「the adjustment bureau」的推薦目錄:
- 關於the adjustment bureau 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最讚貼文
- 關於the adjustment bureau 在 Moviematic 電影對白圖 Facebook 的最讚貼文
- 關於the adjustment bureau 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的精選貼文
- 關於the adjustment bureau 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最讚貼文
- 關於the adjustment bureau 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
- 關於the adjustment bureau 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
- 關於the adjustment bureau 在 The Adjustment Bureau - Home | Facebook 的評價
the adjustment bureau 在 Moviematic 電影對白圖 Facebook 的最讚貼文
生命中不乏跌倒的機會
跌倒是為了讓我們學習重新站起來
如果一路上只追求所謂「成功」的人生
是永遠不會學會得到想要的成果
總是害怕失敗的人,內心真正的恐懼是讓別人失望
因而想要達成一切完美,更會陷入「我永遠不夠好」的想法中
錯誤和挫折,重要的是我們把焦點放在哪兒
每個人都會有失足的時候,只要重新調整好就能重新出發
.
天網逆緣 The Adjustment Bureau (2011)
主演:Matt Damon,Emily Blunt
#天網逆緣 #命運規劃局 #電影對白圖 #moviematic #電影台詞 #電影對白 #對白 #電影語錄 #mm天網逆緣
the adjustment bureau 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的精選貼文
Dark ซีซั่น 1 (สามารถดูได้ใน Netflix)
• จุดที่ทำให้ตัดสินใจดูต่อคือมันน่าจะใช้ทฤษฎีข้ามเวลาแบบ Fixed Timeline เหมือน 12 Monkeys และ Harry Potter ภาค 3 คือส่วนตัวเป็นคนไม่ว้าวกับ Back to the Future และซีรีส์แบบ Signal ที่ใช้ทฤษฎี Dynamic หรือ Multiverse เพราะการเขียนบทมันดิ้นได้เยอะจนไม่ว้าวเท่าการ Fixed ตายตัว
• รู้สึกว่าคนบิ๊วกันเรื่องตัวละครเยอะต้องจำนู่นนี่จนคนกำลังจะดูเกิดกลัวเกินจริงไปหน่อย ถามว่าเยอะไหมก็เยอะเพราะมันมีเรื่องไทม์ไลน์และตัวละครลับ(ที่จะมาบอกชื่อทีหลัง) แต่ถ้างงมากจริง ๆ เดี๋ยวนี้มี Family Tree ในเน็ตให้เซฟเยอะมากจนเข้าใจง่ายเลย
• ชอบความเป็นไซไฟของธีมเรื่อง ในทางหนึ่งมันก็พูดเรื่องวิทยาศาสตร์จ๋า ๆ แบบรูหนอนและการข้ามเวลาเมื่อบิดเกลียวมาบรรจบ แต่อีกทางมันก็ตั้งคำถามว่ามนุษย์มี Free Will จริงหรือไม่ ในเมื่อทุกสิ่งถูกกำหนดไว้แล้ว(โดยไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่เราทำนั้นคือถูกกำหนด) ซึ่งมันก็ดูท้าทายต่อความเชื่อเรื่องพระเจ้าดี
• บางทีเลยรู้สึกเหมือนกำลังดูการไขปริศนาทฤษฎีสมคบคิดแบบนิยายของแดน บราวน์ เพราะมันเน้นที่การสืบสวนไปเลย
• ซึ่งดีนะที่ซีรีส์วางตัวเป็น mystery sci-fi แบบไม่ค่อยจงใจแตะเส้นเรื่องดราม่าของตัวละครมากนัก คือตัวละครทั้งหมดก็มีเส้นเรื่อง มีความสัมพันธ์ระหว่างกันแต่ถูกเขียนมาเพื่อให้เห็นว่าเป็นส่วนหนึ่งของพล็อตไซไฟใหญ่ที่ต้องการจะเล่า
• ส่วนตัวแหม่ง ๆ บางฉากนิดหน่อย คือรายละเอียดเล็กน้อยแบบอยู่ดี ๆ มีเด็กแต่งชุดแฟนซีมาเคาะประตูบ้านถามหาชื่อตัวเองเป็นพ่อ มันประหลาดจนไม่น่าจะลืมได้ง่าย ๆ, หรือถ้ำตอนกลางคืนที่มืดสนิทแต่คนธรรมดาดันเดินเข้าไปหาของแบบไม่มีไฟได้โดยข้างในก็ดูสว่างกว่าตอนอีกคนส่องไฟเสียอีก, หมวกตกริมทางข้างป่าแต่คุณแม่ขับรถตาดี๊ดีมองเห็นได้อีกอะไรงี้
• มาดู Dark หลังเคว้ง เลยเพิ่งรู้ว่าฉากจบซีซั่นของทั้งสองเรื่องคือเหมือนกันเกินจนน่าเกลียดเลย คงเดาไม่ยากว่าเรื่องไหนสร้างทีหลัง ฮ่าๆ
• 9 ตอนแรกค่อนข้างกลาง ๆ อารมณ์แบบก็โอเคแต่ไม่ดึงดูดใจ พอมาถึง e.p.10 นี่ว้าวจนขยับเกรดขึ้นเลย
-------------------------------------
เกือบจะตัดสินใจไม่ดูต่อละ อย่างน้อยก็ไม่ดูซีซั่น 2 (ตอนนี้คือดู) คือมันก็โอเค ธีมเรื่องรูหนอนกับทฤษฎีข้ามเวลาแบบ fixed timeline ดูน่าสนใจดี แต่พอผ่านตาอะไรทำนองนี้มาแล้วเลยไม่มีอะไรชวนตื่นเต้นหรือว้าวสักเท่าไร จนกระทั่งถึง e.p.10 ก็รู้สึกว่าการข้ามเวลาไปมาเกี่ยวโยงกันซับซ้อนมากขึ้นจนน่าติดตามว่าซีรีส์จะสรรหาลูกเล่นหรือทฤษฎีอะไรมาอธิบาย รวมถึงอยากเห็นการแบ่งฝ่ายความเชื่อมาต่อสู้กันว่าสุดท้ายมนุษย์เรามี free will (เจตจำนงเสรี หรือการตัดสินใจโดยอิสระ) จริง ๆ หรือไม่ ดูแล้วนึกถึงพวก The Adjustment Bureau ซึ่งจะลงเอยทางไหนก็โอเคเพราะซีรีส์วางบทไว้ค่อนข้างเปิดกว้างให้มันดิ้นไปได้ทั้ง 2 ทาง
.
ถ้าเอาแบบย่อ ๆ ซีรีส์มันเริ่มต้นจากมีเด็กหายตัวไป 2 คน ตำรวจกับพ่อเด็กเลยเริ่มต้นสืบสวนโดยพยายามขอหมายค้นโรงงานนิวเคลียร์ที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ จุดหายตัวไป ก่อนที่ซีรีส์จะพาไปพบความลับของถ้ำ ซึ่งข้อดีของ Dark คือมันเล่าแบบใจเย็นเป็นมิตรกับคนดู ด้วย timeline อย่างต่ำ 3 ยุคสมัย (ห่างกัน 33 ปี) เกี่ยวพันกับอย่างน้อย 4 ตระกูลที่อยู่ในทุกยุคสมัย คนนี้เป็นพ่อคนนี้ คนนั้นเป็นปู่คนนี้ ไอ้นี่เป็นลูกคนนู้น อะไรประมาณนั้น การที่ซีรีส์ค่อย ๆ หยอดข้อมูลทีละนิดจึงอาจจะเป็นความใจเย็นที่ไม่น่าดึงดูด แต่ถ้ามองตามจริงแล้วการเล่าแบบค่อยเป็นค่อยไปเนี่ยแหละที่ทำให้เราปะติดปะต่อตัวละครได้แบบไม่หลุดความสนใจไปเสียก่อน และถ้าลืมชื่อลืมหน้าคนไหนก็แวะเปิด family tree ดูระหว่างทางก็ได้จะได้สนุกกับซีรีส์
.
พูดถึงทฤษฎีข้ามเวลาแบบ Fixed Timeline คือจุดสำคัญที่ทำให้เราไม่เท Dark กลางทาง ส่วนตัวชอบทฤษฎีนี้ที่สุดเวลาหยิบมาทำหนังหรือซีรีส์ เพราะมันต้องมีชั้นเชิงในการเขียนบทเล่าเรื่องที่แม่นยำและเป๊ะมาก ต่างกับพวกย้อนเวลาสร้างจักรวาลคู่ขนานที่ดิ้นไปพร้อมข้ออ้างไม่มีที่สิ้นสุด สำหรับ Fixed Timeline คือการที่ทุกสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้เลย แม้ตัวเราย้อนเวลากลับไปก็เป็นเพียงแค่การย้อนไปเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของอดีต เช่นเดียวกับอนาคตก็เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดไว้เรียบร้อย ซึ่งหนังที่ใช้ทฤษฎีนี้มาเล่าได้สนุกก็เช่น Predestination, 12 Monkeys, Harry Potter and the Prisoner of Azkaban, The Terminator เฉพาะภาคแรกก่อนทำเงินจนมีภาคต่อแล้วเปลี่ยนทฤษฎี, The Time Traveler's Wife, Dirk Gently's Holistic Detective Agency ซีซั่น 1 ก็น่าจะใช่ แล้วก็จับ Dark ไปอยู่กลุ่มหนัง/ซีรีส์โปรดของเราได้เลย
.
รอดูซีซั่น 2 ต่อ เตรียมพร้อมก่อนซีซั่น 3 จะมาวันเสาร์นี้
Creators: Baran bo Odar, Jantje Friese
10 Episodes (เฉลี่ยตอนละ 50 นาที)
A
#หนังโปรดxซีรีส์Netflix
the adjustment bureau 在 The Adjustment Bureau - Home | Facebook 的必吃
STILLWATER Exclusive Featurette (2021) Matt DamonPLOT: A dramatic thriller directed by Academy Award® winner Tom McCarthy and starring Matt Damon, Stillwater... ... <看更多>