สรุปเรื่อง “Govcoins” คริปโทแห่งรัฐ เมื่อทุกคนฝากเงินตรง เข้าแบงก์ชาติ /โดย ลงทุนแมน
คริปโทเคอร์เรนซีกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการการเงินมากขึ้น
ทั้งจากการเป็นสินทรัพย์ทางเลือกและการเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยลดทั้งต้นทุนและเวลาสำหรับการทำธุรกรรม
ปัจจุบัน คริปโทเคอร์เรนซีที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกก็คือ บิตคอยน์ มีมูลค่า
มากถึง 34 ล้านล้านบาท ซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเป็นอันดับที่ 8 ของโลก
เมื่อไม่นานมานี้ นิตยสาร The Economist ได้ตีพิมพ์บทความ Govcoins: The digital currencies that will transform finance หรือ Govcoins สกุลเงินดิจิทัลที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมการเงิน
ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่เป็นแนวคิดเกี่ยวกับสกุลเงินที่ออกโดยรัฐบาล
เพื่อที่นำมาคานอำนาจของตนให้คงอยู่
แล้ว Govcoins คืออะไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Govcoins ย่อมาจาก Government หรือรัฐบาล
รวมกับ Coins หรือเหรียญ รวมกันเป็นคริปโทแห่งรัฐ
ซึ่งมีผู้ออกและกำกับดูแลโดยรัฐบาลหรือธนาคารกลางของแต่ละประเทศ
ที่ผ่านมา เราจะได้เห็นการเติบโตของ “Decentralised Finance” หรือ “DeFi”
นวัตกรรมทางการเงินแบบไร้ศูนย์ที่ถูกขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีบล็อกเชน
รวมถึงแพลตฟอร์มทางการเงินทั้งกระเป๋าเงินดิจิทัลและแอปพลิเคชัน
สำหรับรับชำระบนโลกนี้ เช่น PayPal, Ant Group, Grab และ Visa
มีฐานผู้ใช้งานรวมกันกว่า 3 พันล้านคน
คิดเป็นเกินกว่า 1 ใน 3 ของประชากรทั้งโลก
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ได้เข้ามาลดทอนอำนาจในการควบคุมเสถียรภาพ
ทางการเงินของขั้วอำนาจเดิม คือธนาคารกลางไปอย่างสิ้นเชิง
นั่นจึงเป็นที่มาของแนวคิดของ “Govcoins”
Govcoins จะเข้ามาเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใช้แทนเหรียญและธนบัตรในแต่ละประเทศ
ซึ่งเราก็สามารถนำไปใช้จ่ายในการซื้อของได้ตามปกติ
แต่กลไกที่ต่างกันระหว่าง Govcoins กับระบบเงินตราในปัจจุบัน
ก็คือ แทนที่เราจะต้องมีบัญชีเงินฝากกับธนาคารพาณิชย์
Govcoins จะเป็นบัญชีเงินฝากของเรา ที่ทำกับ “ธนาคารกลาง”
โดยธนาคารกลางจะเป็นผู้เข้ามามีบทบาท
ในการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับรับชำระเงินรวมถึงรับฝากเงิน
ไม่ต่างอะไรไปจากแอปพลิเคชันการเงินที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน
เช่น แอปธนาคารหรือแอปกระเป๋าเงินดิจิทัล
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
คอนเซปต์ของ Govcoins เริ่มมีความเป็นไปได้มากขึ้น
เมื่อรัฐบาลและธนาคารกลางแต่ละประเทศต่างตื่นตัว
เพราะตนเองมีแนวโน้มจะเสียอำนาจควบคุมระบบเงินตราในประเทศ
เพราะตั้งแต่ในอดีต ธนาคารกลางจะคอยควบคุมเศรษฐกิจ
โดยการปรับใช้นโยบายการเงิน ผ่านเหล่าสถาบันการเงิน
เช่น การเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยหรือการกำหนดอัตราเงินสด
ที่ต้องสำรองไว้สำหรับธนาคารพาณิชย์
ดังนั้นหากผู้คนย้ายการชำระ การฝากเงิน หรือการกู้ยืมเงินจากธนาคาร
ไปสู่โลกดิจิทัลที่ถูกดำเนินและควบคุมโดยเอกชนหลายราย
มันก็จะทำให้ธนาคารกลางจัดการกับวัฏจักรเศรษฐกิจได้ยากขึ้น
และโลกดิจิทัลที่ไม่มีการควบคุม ก็อาจเป็นช่องว่าง
ให้เกิดการฉ้อโกงรวมถึงการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
อีกเหตุผลหนึ่งที่จะสนับสนุนให้ Govcoins มีความเป็นไปได้มากขึ้น
ก็คือ การรักษาเสถียรภาพในระบบการเงิน
แม้ว่าเงินจะถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่กักเก็บความมั่งคั่งของเราเอาไว้ได้ดีที่สุด และยังเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน
แต่เมื่อผู้ที่ถือกุมบัญชีของคนทั้งประเทศอยู่ยังคงเป็นธนาคารพาณิชย์ ที่ส่วนใหญ่เป็นบริษัทเอกชน
เวลาบริษัทเหล่านี้ประสบปัญหา เงินที่ควรจะกักเก็บความมั่งคั่งของประชาชนเอาไว้
อาจจะหายไปทั้งหมด เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับ Lehman Brothers ที่ได้ล้มละลาย
ในช่วงวิกฤติซับไพรม์ในอดีต
ในขณะเดียวกัน ค่าธุรกรรมทางการเงินภายใต้ Govcoins มีแนวโน้มที่จะถูกลง
เพราะธนาคารกลางไม่จำเป็นต้องสร้างกำไรเหมือนกับเหล่าสถาบันการเงินเอกชน
อีกหนึ่งความได้เปรียบก็คือธนาคารกลางและรัฐบาลร่วมมือกันได้ง่าย
สามารถร่วมมือกับรัฐบาลในการอัดฉีดเงินไปสู่ประชาชนได้ทันที
ซึ่งหาก Govcoins สำเร็จ มีการคาดการณ์กันว่า
จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรมการเงินเฉลี่ย 11,000 บาทต่อคนต่อปี
และทำให้ผู้คนที่ยังไม่มีบัญชีเงินฝาก สามารถเข้าถึงได้อีกด้วยประมาณ 1.7 พันล้านคน
จากประโยชน์เหล่านี้ จึงทำให้ธนาคารกลางจาก 50 กว่าประเทศทั่วโลก
กำลังพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลเป็นของตัวเอง เช่น ประเทศจีนเปิดตัว e-yuan
โดยมีผู้ทดลองใช้แล้ว 500,000 คน
แม้แต่สหรัฐอเมริกาที่กำลังสร้าง e-dollar
หรืออังกฤษเองก็เปิดองค์กรสำหรับศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้ ทำให้เราสรุปได้ว่าแนวคิดของ Govcoins
เป็นหนึ่งในไอเดียที่มีความเป็นไปได้และสามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้ทันที
เพราะนับเป็นการนำความเชื่อมั่นของทั้งประเทศไปผูกเอาไว้กับสกุลเงิน
ทั้งนี้ Govcoins ก็อาจจะถูกนำไปใช้ในเรื่องของการควบคุมความประพฤติ
ของพลเมืองในประเทศในรูปแบบของค่าปรับอิเล็กทรอนิกส์ ได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อแนวคิดนี้ได้ลดทอนความสำคัญของ “ธนาคารพาณิชย์” ลง
มันก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาบางอย่างตามมาได้ในอนาคต เช่นกัน
เพราะหากว่าเรามีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมย้ายเงินฝากจากธนาคารพาณิชย์ไปยังธนาคารกลางมากขึ้น นั่นหมายความว่าแหล่งของเงินทุนที่ธนาคารเหล่านี้จะนำไปปล่อยกู้ก็จะมีปริมาณที่ลดลง เช่นกัน
และเมื่อการปล่อยเงินกู้สู่ระบบเศรษฐกิจลดลง
การเติบโตของเศรษฐกิจทั้งระบบก็อาจจะได้รับผลกระทบไปด้วย
เท่ากับว่าธนาคารพาณิชย์อาจจะต้องหาแหล่งเงินทุนใหม่เพื่อนำมาปล่อยกู้ให้ได้ตามเดิม
ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า แหล่งเงินทุนของธนาคารพาณิชย์ จะเปลี่ยนจากเงินฝากของลูกค้า ไปเป็น การกู้เงินจากธนาคารกลางเป็นหลัก
ก็น่าติดตามกันต่อไปว่าแนวคิดของ Govcoins จะเป็นอย่างไร
ธนาคารกลางจะช่วยรักษาขั้วอำนาจเดิมได้หรือไม่ แล้วธนาคารพาณิชย์จะได้รับผลกระทบขนาดไหน อีกไม่นาน เราก็น่าจะได้รู้ไปพร้อม ๆ กัน
ทั้งหมดนี้เป็นแนวคิดที่ นิตยสาร The Economist บอกถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตกับหลายประเทศ แต่จริง ๆ แล้ว ในตอนนี้ กระเป๋ารับฝากเงินของรัฐ ได้เกิดในประเทศไทยแบบเนียน ๆ ไปเรียบร้อยแล้วแบบที่เราไม่รู้ตัว ลองหยิบสมาร์ตโฟน แล้วกดแอปนั้นขึ้นมา แอปนั้นมีชื่อว่า เป๋าตัง นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.economist.com/finance-and-economics/2021/05/06/will-going-digital-transform-the-yuans-status-at-home-and-abroad
-https://www.economist.com/special-report/2021/05/08/a-future-with-fewer-banks
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過1,160的網紅通勤十分鐘 On The Way To Work,也在其Youtube影片中提到,💬合作邀約: [email protected] 💬IG: @onthe_waytowork 歡迎大家來跟我們聊聊天https://www.instagram.com/onthe_waytowork/ Hello Fresh目前是美國最大的ready meal-kit供應商...
「special report podcast」的推薦目錄:
- 關於special report podcast 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於special report podcast 在 通勤十分鐘 On The Way To Work Facebook 的精選貼文
- 關於special report podcast 在 氣象達人彭啟明 Facebook 的最佳貼文
- 關於special report podcast 在 通勤十分鐘 On The Way To Work Youtube 的最佳貼文
- 關於special report podcast 在 Governor Hutchinson on FOX News Special Report with Bret ... 的評價
special report podcast 在 通勤十分鐘 On The Way To Work Facebook 的精選貼文
今天跟大家分享兩個不一樣的頻道,對極簡主義有興趣且追求心靈平靜的通勤族趕快右下角收藏起來吧!
Hello Fresh目前是美國最大的ready meal-kit供應商,也是歐洲最大的生鮮電商之一,,在2011年成立於德國柏林,並且在加拿大,西歐(包括盧森堡,德國,比利時,法國和荷蘭),紐西蘭和澳大利亞都有營運。在疫情期間因為lockdown很多餐廳關門或者只能外帶,在餐廳關門期間,許多人轉向家庭烹飪,而顧客則尋求舒適和便利讓這些提供meal kit服務的公司。從Hello Fresh的Half Year Report中可以看到上半年的營收是1671.2 million歐元,對比去年同期的856.7 million,上漲了95% 。
不過他的Contribution Margin從去年上半年的29%下降到了27.3%,Ebitda 則是從去年上半年的-18.6 成長到202.7。
在北美時間9/3禮拜四的時候,電池製造新創 QuantumScape宣布要透過SPAC(Special Purpose Acquisition Company)的方式來跟Kessington進行反向合併而公開上市。預計將會在今年度第四季完成,屆時QuantumScape的估值會來到330億美元。
頻道分享:The Minimalist Podcast,跟兩位主持人一起探討極簡生活,主張極簡的重點不在於減少,而是減少不必要的東西才能挪出空間及時間給自己真正有熱忱的事物。
The Ground Up show,每一集節目邀請到不同來賓探討生活健康快樂等主題,這個頻道目前已經沒有更新了,不過主持人 Matt D’Avella目前在Youtube每週都有更新,他是奉行極簡主義的電影導演,影片聊到很多怎麼樣有效時間管理、怎麼擁有更好的睡眠品質等等的有趣內容。
如果喜歡的話
歡迎幫我們分享和按讚🙂
圖片來源 Apple podcast/ food navigator/ market realist
special report podcast 在 氣象達人彭啟明 Facebook 的最佳貼文
Climate Change Emergency
每年我參加氣候會議時,只要時間可以,都會參加一場由各個宗教團體在氣候會議會場聯合在一起的祈福許願或遊行活動,不同宗教會用不同方式來祈禱,希望能影響更多人,雖然我不是天主教徒或是基督徒,但幾次的活動中,可以感受到不同宗教界的平和與憂心,都會透過各種方法來提醒世人。
一早收到世界基督教協會,看到這個 Climate Change Emergency 氣候變遷緊急的宣言,Emergency 在我們風險管理中很重要,也有應急管理 Emergency Management ,不只是救護車上的 Emergency 而已,我們真的要非常體認重視這問題了。
幾年前我曾訪問過吳偉立神父,大家可以從 Podcast 聽這段聲音
https://open.spotify.com/show/1ryyVpjRt6faqRT1YfsWif…
彭啟明
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-
Statement on the Climate Change Emergency
25 November 2019
World Council of Churches
EXECUTIVE COMMITTEE
Bossey, Switzerland
20-26 November 2019
Doc. No. 04.3 rev
Statement on the Climate Change Emergency
But the earth will be desolate because of its inhabitants, for the fruit of their doings.
Micah 7:13
Recent extreme weather events of increasing strength and frequency around the world together with further studies conducted by the Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) have jolted many into belated recognition that the climate crisis is not a distant prospect, but is upon us today.
From Hurricane Maria, Tropical Cyclone Idai, Hurricane Dorian and Typhoon Hagibis which caused loss of lives and left widespread devastation in Puerto Rico, in Mozambique, Zimbabwe and Malawi, in the Bahamas and in Japan respectively, to ongoing bushfires in Australia and California, to unprecedented flooding in Bangladesh and in Venice, and to the very recent landslide following exceptionally heavy rains in Kenya, the impacts on our communities - especially the poorest and most vulnerable among us – and on the bountiful Creation that God has entrusted to human beings as stewards – are now all too tragically real.
The latest IPCC special reports on climate change, land, oceans and cryosphere confirm that climate change has become a top driver of hunger all over the world, and project rising sea levels of up to 1 metre by 2100 due to melting glaciers, water scarcity affecting nearly 2 billion people and more intense sea-level events such as storms and flooding, if warming is not kept at the safer limit of 1.5°C above pre-industrial levels.
Moreover, exceptionally destructive fires and the encroachment of industrial agriculture and mining, have greatly increased concern about runaway deforestation in the largest remaining rainforest ecosystems – the earth’s lungs, the home and heritage of many Indigenous Peoples, and a critical resource in confronting the threat of climate change. Especially in the Amazon, in the Congo Basin, and in West Papua and elsewhere in Indonesia, this resource is, often deliberately, being squandered at a perilous rate.
Children, young people and ordinary citizens have made public demonstration of their outrage at the lack of any adequate response by governments to the gravity of this global crisis, and against the backsliding by some governments. Children have been obliged to mobilize and to raise their voices to demand what adults have failed or refused to deliver – fundamental changes to our economic and social systems in order to preserve God’s Creation and their future.
Indeed, a recent research report shows that governments are currently projected to produce 120% more fossil fuels by 2030 than can be burned if the world is to limit warming to an increase of 1.5°C
In particular, the United States’ formal notification of its intention to withdraw from the Paris Agreement – despite the increasingly disastrous impact of extreme weather events in the US itself – seriously undermines the best hope the international community had secured for a multilateral global response to the climate crisis. This is an abject failure and abdication of global leadership, at precisely the historical moment when such leadership is most needed. It will embolden other backsliding states. It impoverishes and imperils all of us.
The protests against widening inequality in Chile, triggering the move of the 25th Conference of Parties (COP 25) of the UN Framework Convention on Climate Change (UNFCCC) from Santiago to Madrid, underscore the importance of holding together the goals of sustainability and equity, and ensuring that the costs of transitioning to a carbon neutral economy are not borne by those who already have few resources. In other words, there can be no real transition without socio-economic justice.
The time for debate and disputation of established scientific facts is long over. The time for action is swiftly passing. We will all be held to account for our inaction and our disastrous stewardship of this precious and unique planet. The climate emergency is the result of our ecological sins. It is time for metanoia for all. We must now search our hearts and our most fundamental faith principles for a new ecological transformation, and for divine guidance for our next steps to build resilience in the face of this unprecedented millennial challenge.
The executive committee of the World Council of Churches, meeting in Bossey, Switzerland, on 20-26 November 2019, therefore:
Joins other faith leaders, communities and civil society organizations in declaring a climate emergency, which demands an urgent and unprecedented response by everyone everywhere – locally, nationally and internationally.
Expresses its bitter disappointment at the inadequate and even regressive actions by governments that should be leaders in the response to this emergency, especially inaction to stop fires and deforestation, the destruction of Indigenous Peoples’ ancestral lands and livelihoods, and attacks on ecological defenders; the weak commitments made under the Paris Agreement; and measures that place additional financial burdens on poor communities.
Calls on COP 25, taking place in Madrid on 2 to 13 December 2019, to:
- set the groundwork for committing to more ambitious cuts in greenhouse gas emissions as part of Nationally Determined Contributions with a view to attaining carbon neutrality by 2050 and limiting warming to not more than 1.5°C;
- ramp up commitments by wealthy nations to provide sufficient, predictable and transparent climate finance to low-income nations for adaptation and resilience-building;
- strengthen the Warsaw International Mechanism for Loss and Damage to include finance to support people and communities affected by the impacts of the climate emergency; and
- promote actions to engage and learn from Indigenous Peoples in and beyond the UNFCCC process, protect biodiversity, combat deforestation, encourage agro-ecology and construct circular and redistributive economies.
Invites UN system partners, consistent with the critical research and policy advice emanating from UN sources, to examine and divest from fossil fuel investments in their own banking systems and pension funds.
Calls on member churches, ecumenical partners, other faith communities and all people of good will and moral conscience to find the means whereby we can make a meaningful contribution in our own contexts to averting the most catastrophic consequences of further inaction and negative actions by governments – and may join in confronting this global crisis through concerted advocacy for climate change mitigation and adaptation, zero fossil fuel use and a “just transition”, as well as through local action, everywhere – in our fellowship, our churches, our communities, our families, and as individuals.
special report podcast 在 通勤十分鐘 On The Way To Work Youtube 的最佳貼文
💬合作邀約: onthewaytowork2020@gmail.com
💬IG: @onthe_waytowork
歡迎大家來跟我們聊聊天https://www.instagram.com/onthe_waytowork/
Hello Fresh目前是美國最大的ready meal-kit供應商,也是歐洲最大的生鮮電商之一,,在2011年成立於德國柏林,並且在加拿大,西歐(包括盧森堡,德國,比利時,法國和荷蘭),紐西蘭和澳大利亞都有營運。在疫情期間因為lockdown很多餐廳關門或者只能外帶,在餐廳關門期間,許多人轉向家庭烹飪,而顧客則尋求舒適和便利讓這些提供meal kit服務的公司。從Hello Fresh的Half Year Report中可以看到上半年的營收是1671.2 million歐元,對比去年同期的856.7 million,上漲了95% 。
不過他的Contribution Margin從去年上半年的29%下降到了27.3%,Ebitda 則是從去年上半年的-18.6 成長到202.7。
在北美時間9/3禮拜四的時候,電池製造新創 QuantumScape宣布要透過SPAC(Special Purpose Acquisition Company)的方式來跟Kessington進行反向合併而公開上市。預計將會在今年度第四季完成,屆時QuantumScape的估值會來到33億美元。
頻道分享:The Minimalist Podcast,跟兩位主持人一起探討極簡生活,主張極簡的重點不在於減少,而是減少不必要的東西才能挪出空間及時間給自己真正有熱忱的事物。
The Ground Up show,每一集節目邀請到不同來賓探討生活健康快樂等主題,這個頻道目前已經沒有更新了,不過主持人 Matt D’Avella目前在Youtube每週都有更新,他是奉行極簡主義的電影導演,影片聊到很多怎麼樣有效時間管理、怎麼擁有更好的睡眠品質等等的有趣內容。
如果喜歡的話
歡迎幫我們分享和訂閱🙂
special report podcast 在 Governor Hutchinson on FOX News Special Report with Bret ... 的必吃
Governor Asa Hutchinson appear on FOX News Special Report with Bret Baier on Tuesday, May 3rd, to talk about the President's plan for ... ... <看更多>