關於 everydaybearskin ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

มารู้จักโรค เซ็บเดิร์ม กัน !
เคยเป็นมั้ย ผื่นแดง คัน ลอกเป็นขุย แต่หน้าก็มันด้วย
สิวก็ไม่ใช่ บางทีก็มีรังแคที่หนังศรีษะ นั่นอาจจะเป็น 'เซ็บเดิร์ม'
(อ่านเพิ่มใต้รูปเลยย)
.
Seborrheic Dermatitis
หรือที่เรียกสั้นๆว่า #sebderm (เซ็บเดิร์ม)
เป็นโรคผื่นผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง
มักเกิดบริเวณผิวที่มีน้ำมันเยอะๆ เช่นใบหน้า หนังศรีษะ
สาเหตุของเซ็บเดิร์มยังไม่แน่ชัด คาดว่าเกิดจากภูมิคุ้มกัน
หรือยีสต์บนผิวหนังที่มีจำนวนมากกว่าคนทั่วไป
.
#อาการ
อาการของเซ็บเดิร์มคือ ที่ศรีษะจะเป็นสะเก็ดคล้ายรังแค
ที่ใบหน้าจะเป็นผื่นแดง คัน และมีผิวลอกเป็นขุยสีขาวอยู่ด้านบน
หรืออาจแตกเป็นสะเก็ดสีเหลือง มันเยิ้ม
.
#บริเวณที่เป็น
เซ็บเดิร์มพบได้บ่อยบริเวณที่มีน้ำมัน หรือบริเวณที่มีขน
เช่น T-zone ข้างจมูก ข้างแก้ม หว่างคิ้ว หลังใบหู หนวด และหนังศรีษะ
.
#สิ่งกระตุ้น
เซ็บเดิร์มจะเป็นๆหายๆ เรียกว่ามีช่วงที่โรค “กำเริบ” และ “สงบ”
โดยสิ่งที่กระตุ้นให้เซ็บเดิร์มกำเริบ คือ
- ความเครียด: ช่วงสอบ ทำงานหนัก ผื่นมาแน่ๆ
- นอนน้อย: รวมถึงการนอนดึก หลับไม่สนิท พักผ่อนไม่เพียงพอ
- แสงแดด: รังสี uv ในแสงแดด ทำร้ายเซลล์ผิวและกระตุ้นให้ผื่นขึ้นได้
- อากาศ: อากาศร้อนอบอ้าว ทำให้เหงื่ออก และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อ
ส่วนอากาศหนาว ความชื้นในอากาศต่ำ ทำให้ผิวแห้ง ผื่นจึงขึ้นได้ง่ายขึ้น
- สารเคมี: สารเคมีที่รุนแรง ทำให้ผิวแห้งหรือบางลง เช่น
sodium lauryl sulfate (SLS), กรด AHA, BHA, salicylic acid, vitamin C
- ฮอร์โมน: โดยเเฉพาะฮอร์โมนแอนโดรเจน(ฮอร์โมนเพศชาย)
และช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงของสาวๆ
เช่น ก่อนมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ ก็อาจทำให้ผื่นขึ้นได้
- อาหารหรือยาบางชนิด: อาหารบางชนิด เช่น นม ขนมปัง ชีส ไอศครีม เบียร์
จะเพิ่มการเจริญเติบโตของเชื้อยีสต์ และยา เช่น psolaren, interferon,
lithium ทำให้เกิดเซ็บเดิร์มได้
.
#การรักษา
ช่วงที่เซ็บเดิร์มสงบ:
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ #Moisturizer !
เลือกแบบที่ช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวและมีส่วนผสมที่ลดการอักเสบได้
เช่น ceramides, niacinamide, fatty-acid
ทาหลังล้างหน้าเช้า-เย็น ทุกวัน

ช่วงที่เซ็บเดิร์มกำเริบ:
- Moisturizer โบกไปเลยหนักๆ! เลือกแบบที่เนื้อครีมเข้มข้น และทาบ่อยๆ
- ถ้าผื่นแดงและคันมาก อาจใช้ยาทาสเตียรอยด์อ่อนๆ เช่น
Triamcinolone 0.02%, Mometasone 0.1%, Betamethasone Valerate 0.1%
ทาบางๆเพื่อลดการอักเสบ เมื่อหายแล้วให้หยุดใช้ ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานๆ
- ถ้าเซ็บเดิร์มเกิดจากมีเชื้อเยอะกว่าปกติ คุณหมออาจให้ยาต้านเชื้อราร่วมด้วย

ส่วนที่ศรีษะให้ใช้แชมพูยาสระอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง สลับกับยาสระผมปกติ
แชมพูยา เช่น Ketoconazole, selenium sulfide, zinc pyrithione
.
#LifeStyleModification
ปัจจัยหนึ่งที่ืทำให้เซ็บเดิร์มกำเริบหรือไม่
คือการปฏิบัติตัวในแต่ละวันของเรา คนที่เป็นเซ็บเดิร์มเราแนะนำให้
- อย่านอนดึก ควรนอนก่อน 5 ทุ่ม และพักผ่อนให้เพียงพอ 6-8 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงอาหารที่อาจทำให้แพ้ หรือกระตุ้นเซ็บเดิร์ม
เช่น แอลกอฮอล, ขนมปัง, เค้ก, ผลิตภัณฑ์จากนม
- ปกป้องผิวจากแสงแดด ฝุ่น ควัน อากาศแห้ง หรือสิ่งกระตุ้นอื่นๆ
- ใช้ skincare ที่อ่อนโยน หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่กัดผิว
เช่น salicylic acid, AHA, BHA
- ล้างหน้าให้สะอาด วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และไม่ใช้น้ำอุ่น เพราะจะทำให้ผิวแห้ง
- ทา moisturiser เพราะผิวชุ่มชื้นเป็นพิ้นฐานของผิวที่แข็งแรง
- ออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดีขึ้น
และถ้าเราออกอาทิตย์ละ มากกว่า 150 นาที
ยังช่วยลดโอกาสเกิดโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันและโรคหัวใจได้ด้วย
- พยายามไม่เครียด
- ข้อสุดท้ายสำคัญมาก ไม่ว่าจะคันแค่ไหน ห้ามแคะ แกะ เกา ที่ผื่นเด็ดขาด!
เพราะจะทำให้เชื้อโรคเข้าไปและผื่นยิ่งแย่ลง และอาจเป็นแผลเป็นด้วย
.
#FYI
- เซ็บเดิร์มไม่ใช่โรคติดต่อ เพราะงั้นไม่ต้องรังเกียจกันนะ
- เซ็บเดิร์มมักเป็นเรื้อรัง แต่ไม่อันตราย
- เซ็บเดิร์มจะมาเวลาที่ร่างกายอ่อนแอ บวกกับเจอสิ่งกระตุ้น
- สามารถควบคุมให้เกิดน้องลงได้ โดย lifestyle modification
และหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
- ล้างหน้าแค่วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็นก็พอ
การล้างหน้าบ่อยเกินไปจะยิ่งทำลายชั้นผิวและทำให้ผิวมันมากขึ้น
- ยาสเตียรอยด์เป็นการรักษาที่ปลายเหตุ ใช้เพี่อควบคุมอาการเท่านั้น
ห้ามใช้ต่อเนื่องกันนาน เพราะมีผลข้างเคียงมาก
.
#สุดท้าย
ขอให้กำลังใจทุกคนที่กำลังเป็นเซ็บเดิร์มอยู่
มันเป็นโรคที่น่ารำคาญมาก
แต่ถ้าเราดูแลตัวเองดีๆ มันจะต้องดีขึ้นแน่นอน :)

#everydaybearskin