在越南時間4/22晚上21點19分26秒
我的紛絲專頁#李鼎的也不賴
突然出現了這張黑色的截圖
截圖來自我最新的作品「我在台61」電影版的最後一張劇情
那是整部片到最後所有主創人員名單出來前的最後一個畫面
應該所有作品最後一個畫面
都是極為重要的
而「我在台61」卻是選了三個字最為結束
叫做「路上見」
並用了三位主角:李亦捷、楊鎮、福地祐介的聲音詮釋
而這個來自越南的讀者的截圖留話
竟是把這句話的翻譯
圈了起來
給了一的大問號
並寫了「MEET」
這樣的截圖
好像看到小學作業老師對於你的作業不滿意
而做的舉動
面對電影最後一個畫面被人截圖
然後用了小學老師批改作業的方式
留在你公開的粉絲專頁
換成是你
你會怎麼想?
我有點高興
因為
我一直知道自己跟自己創作的團隊在做什麼
所以有一種
拍片拍了這麼久
終於有人
會對我們英文翻譯的團隊
提出想法了
而且來自越南
(原來現在連越南都看得到這部電影了)
於是我立刻去電美國給我們這部電影的翻譯
他當然也第一時間看了這位來自越南女士的臉書帳號
確定不是傳說中的「網軍」
於是
翻譯朱倩儀小姐
就用中英文
一起回應了這位來自越南的阮女士
關於「ME」與「meet」
在這部作品裡的概念
分享朱倩儀小姐的留言
也很樂見
最後這位阮女士
在留言板上的回應
==========================
親愛的阮女士,
謝謝您的指教!我萬分感謝您觀賞這部電影,而且給予我們您寶貴的意見。
您建議在劇終「我們 路上見」(Let’s Me Again, on the road.) 應該是(Let’s Meet again, on the road)。您的建議在標準文法完全是正確的。但可以容許我為您解釋一下最終導演仍採用了我們使用「me」的想法嗎?
語言本就是一多層次的表達工具。中文尤其美麗,尤其一個簡單的用字可以有好多不同的心思。
在接到這份翻譯的殊榮時,我是既興奮又緊張的。李鼎導演的詩意作家特質,及對角色,故事的詮釋,描寫及張力,絶對不是平舖直敘就能感受到他的初衷,他的溫度。所以,明知冒險,我還是選擇做了大膽的嘗試。我和團隊(二位ABC) 經由彼此對各自語言及文化的了解,試著把李亦捷,Ray (楊鎮)及福地佑介的個性,藉由使用語言的個性,帶入他們的對話裏。
因著「台61」而讓他們三位相遇,也延伸了之後的故事。在從最初Ray 安靜的推著重機不願打擾到海鳥的開始,第一個「me」就出現了,然後是亦捷⋯所以。
在最後,當三個人,開心但不捨地以咖啡乾杯後的分道揚鑣, 許下再見面的心願時,這是李鼎導演在影片中第二次使用「路上見」(第一次在福地祐介留給李亦捷的紙條中)(第一次我們翻譯使用的是:See you on the Road),而當第二次再度使用「路上見」並用在片尾,使用三位角色的聲音,我們覺得意義非凡,不再來自於See you on the Road的想像,決定讓中文中的詩意,翻成Let’s Me again, on the road.這讓三個角色心中無論是吶喊,低訴或是緯緯道來,我想,都是由她/他的心「me!」「 Let’s Me...」讓我,在路上再次遇見你。
很感謝李鼎導演給了我和團隊這樣美好第一次翻譯的經驗,我仍有許多需要進步的空間,也期望因著這部「我在台61」, 我們都因此有共享的公路,感動及連結。
再次謝謝你也觀賞「我在台61」,所以我們相遇,聽到彼此的聲音。
Dear Ms. Nguyễn
Thank you so much for the comments. I am so grateful that you watched the movie and given valuable comments. Please allow me to explain the usage of “me” here ( I am responsible to translate the scripts.)
Yes, you are absolutely right on the “ Let’s MEET” again!” in most of the circumstances. But I am humbling to say that my purpose of translating the word “meet” to “me” is trying to emphasis on the willingness of “coming back on the road again” from three individual main characters. They are all cheering up for their fate to be together because of Highway 61. So I thought they would shout out loud from their hearts to say “let’s me again, on the road!” to echo the director Lee’s poetic style.
Like every language, it’s never easy to complete portrait the whole story from one to another. A simple word could have few different meaning in the culture. It’s truly my pleasure had the opportunity to translate the Chinese( or Taiwanese) story to English. There are so many beautiful words and touching moments that just can’t change words to words. And each characters has her/his personality and tones. Therefore, I try to adopt the heart of story with the understanding of English that I think it would sound most authentic for each characters. This has been an amazing experience to me, walking along with director Lee to see my country and helping to deliver the landscape, the sea breeze, the birds, the temple...and the Highway 61 to you in different language.
Thank you again for the heart of going through the Highway 61 journey with us, and share your thoughts!
Btw, it’s very nice meeting you here. Could I assume you may from Vietnam? My husband is also from Vietnam and we live in Colorado now.
Regards,
Chien Yi 朱倩儀 (Chienyi Luu)
#我在台61
#發現動人的翻譯故事
#很喜歡這樣的創作互動
#也為這部作品的每一個人感到驕傲與開心
#語言很奇妙
#中文尤為奇妙
#這部片的日文也是一種很神奇的遭遇
「我在台61」中英文電影版傳送門
https://youtu.be/uhPTvLBNRo0
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過7萬的網紅渡辺レベッカ ☆ Rebecca Butler Watanabe,也在其Youtube影片中提到,今日は、『君の名は。』英訳シリーズの最後の曲となる、「夢灯籠」をお届けします♪ いつも私の動画をご視聴いただき、又チャンネル登録・好評・シェア等をしていただき、ありがとうございます(^◇^) 多くの方が私の訳詞カバーを気に入ってくださってとても嬉しいです♪ これからもたくさんの動画をアップしますの...
「nice to meet you all meaning」的推薦目錄:
- 關於nice to meet you all meaning 在 李鼎的也不賴Leading Lee Facebook 的精選貼文
- 關於nice to meet you all meaning 在 Roundfinger Facebook 的精選貼文
- 關於nice to meet you all meaning 在 Roundfinger Facebook 的最讚貼文
- 關於nice to meet you all meaning 在 渡辺レベッカ ☆ Rebecca Butler Watanabe Youtube 的最讚貼文
- 關於nice to meet you all meaning 在 DON'T SAY Nice to Meet You! Learn Native ... - YouTube 的評價
- 關於nice to meet you all meaning 在 Difference between "Nice to meet you" and "Nice to see you ... 的評價
- 關於nice to meet you all meaning 在 Nice to meet you! You too or Me too?? - YouTube 的評價
- 關於nice to meet you all meaning 在 Grammarly - Tired of saying "Nice to e-meet you"? Try... 的評價
nice to meet you all meaning 在 Roundfinger Facebook 的精選貼文
สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านเมื่อเช้าครับ :)
น้อง-พี่-ที่รัก:
รักกันไม่ได้แปลว่าจะต้องชอบกันทั้งหมด
(เขียนถึงเนื้อหาบางส่วนในภาพยนตร์)
---
1
ครั้งหนึ่งที่ป๊ากับพี่สาว (ซึ่งผมเรียกว่า แจ้) มีปากเสียงกัน ผมพยายามพูดอะไรบางอย่างให้สองฝ่ายคืนดี หายโกรธ ยกเหตุผลต่างๆ นานา สิ่งที่พี่สาวผมบอกกลับมาก็คือ "แกไม่ต้องยุ่งหรอกน่า เค้าอยู่กันมาเป็นสิบๆ ปีแล้ว เดี๋ยวมันจางลงก็กลับมาคุยกันดีๆ เหมือนเดิม แค่ยังไม่ใช่ตอนนี้" และคำที่ผมจำได้แม่น "ไม่ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ คนในบ้านทะเลาะกันมันเป็นเรื่องปกติ"
...
2
เมื่อวานได้ดู "น้อง-พี่-ที่รัก" โดยมิได้คาดหวังว่าหนังจะเน้นความสัมพันธ์ของพี่ชาย-น้องสาวขนาดนี้ แต่ยิ่งนั่งดูไปมากเท่าไรก็ยิ่งคิดถึงตัวเองและพี่สาวมากขึ้นเท่านั้น
ถามว่าหนังสนุกไหม ตอบว่า-มาก มีมุกให้หัวเราะเกลื่อนกลาดไปทั้งเรื่อง มุกส่วนใหญ่น่ารัก โดน และไม่กริบ น่าจะเพราะการแสดงที่แสนจะพลิ้วของซันนี่และญาญ่า โดยเฉพาะซันนี่ที่เล่นแบบลืมไปเลยว่าตัวเองหล่อ จากสเต็ปของฮิวจ์ แกรนท์ เรื่องนี้เขาได้ข้ามไปสู่สเต็ปของจิม แคร์รีย์เป็นที่เรียบร้อย แต่นั่นแหละ-หนังเรื่องนี้มีมากกว่าความสนุก และอยากชวนไปดูกันเยอะๆ ครับ
ที่คิดถึงตัวเองกับพี่สาวเพราะหนังแสดงให้เห็นถึง "ความต่าง" ระหว่างสองคนนี้แบบสุดขั้ว พี่ชายก็ไม่เอาไหนได้แบบสุดๆ ไร้ระเบียบ เละเทะ เรื่อยเจื้อย เอาตัวรอดด้วยความกะล่อนไปวันๆ ตรงข้ามกับน้องสาวที่เป๊ะ เรียนเก่ง การงานดี กีฬาเลิศ ชีวิตสองคนนี้เหมือนฟ้ากับเหว
ผมกับพี่สาวไม่ได้ต่างกันขนาดนี้ แต่ก็มีส่วนคล้าย ผมค่อนไปทางไร้ระเบียบ รักอิสระ ขณะที่พี่สาวเรียนเก่ง มีระเบียบกับชีวิต ซึ่งผมคิดว่าพี่น้องส่วนใหญ่มักจะมี "ความต่าง" ในแบบของตน
...
3
มีคำพูดว่า "เพื่อนคือญาติที่เราเลือกได้เอง" กลับกันคือ "พี่น้องคือเพื่อนที่เราไม่ได้เลือก และเลือกไม่ได้" เกิดมาก็มีไอ้คนคนนี้อยู่ร่วมบ้านกับเราแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยังไงเราก็ต้องใช้ชีวิตกับมันไปอีกหลายปี เผลอๆ ก็อาจจะทั้งชีวิต
เปลี่ยนคนก็ไม่ได้ เลิกคบหากันก็ไม่ได้
เชื่อเหลือเกินว่าบ่อยครั้งที่พี่หรือน้องจะคิดในใจว่า "ถ้ากูเปลี่ยนพี่น้องเป็นคนนั้นคนนี้ได้คงดี" แต่ประเด็นคือ-มึงเปลี่ยนไม่ได้ไงล่ะ
"พี่-น้อง" จึงเป็นความสัมพันธ์ประหลาด ไม่ได้เลือกคบกัน แต่ต้องทนกันไป ไม่ได้ชอบกันแต่ต้องอยู่กันไปแบบทู่ซี้ แล้วไอ้ความอยู่ด้วยกันนานนี่เองแหละที่สร้าง "ความผูกพัน" ขึ้นมา กระทั่งกลายเป็นความสัมพันธ์รสปะแล้ม คือ "ไม่ได้ชอบมึง แต่รักมึงนะ"
...
4
ในครอบครัวที่พี่หรือน้องคนใดคนหนึ่งมีบุคลิกที่ชัดเจน สุดโต่งไปทางใดทางหนึ่ง อีกคนจะกลายเป็นด้านตรงข้ามกับคนนั้นไปเลย
พี่-น้องคือกระจกกลับด้านของกันและกัน (ส่วนหนึ่งเป็นเช่นนั้น)
ความที่อยู่ด้วยกันมานาน พี่น้องเป็นความสัมพันธ์ที่ "เปรียบเทียบ" กันโดยไม่ตั้งใจ แม้ปฏิเสธแต่ก็อดไม่ได้หรอกที่จะเปรียบเทียบ บางทีการเปรียบเทียบนี้อยู่ลึกจนเราไม่รู้ตัว แต่มันมีอิทธิพลต่อ "ความเป็นเรา" มหาศาล
หากพี่เป็นเด็กเรียน ตอนแรกน้องจะพยายามฮึดสู้ แต่ถ้าทำได้ไม่ดี น้องจะเฉไปเอาดีทางอื่นทันที เช่น กลายเป็นคนบ้ากีฬา บ้าศิลปะ เล่นเกม หรืออะไรสักอย่างที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนในใบเกรด
หากพี่เจ้าระเบียบมากๆ น้องจะดื้อด้าน แหกกฎ หากน้องขยัน พี่อาจทำตัวกลับกันคือนั่งๆ นอนๆ สบายๆ หากน้องไปทางบุคลิกดี สำรวมเรียบร้อย พี่อาจหนีไปทางตลกโปกฮา และอื่นๆ อีกมากมาย ลองมองพี่น้องรอบตัวก็จะเห็น "กระจกกลับด้าน" เช่นนี้จำนวนไม่น้อย
เราต่างมีอิทธิพลต่อกันและกัน
พูดอีกอย่างคือ "เราต่างสร้างตัวตนของอีกคนขึ้นมา"
ซึ่งบ่อยครั้งไม่ได้สร้างให้อีกคนเหมือนเรา แต่กลับสร้างให้อีกคนแตกต่างจากเรา เพราะเขาต้องการ "หนี" ไปอีกทาง ไม่ให้ซ้ำทางพี่ ไม่ให้ทับทางน้อง
พี่-น้องจึงเป็นโจทย์แรกๆ ของชีวิตที่เราต้องเจอ โจทย์ที่ว่าเราจะ "เอาดี" แบบไหนบนเส้นทางตัวเอง หากสู้กับอีกคนหนึ่งบนทางเส้นนั้นไม่ได้ ยังเหลือทางไหนให้ไปอีก แล้วการหาทางออกเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่านี่เองที่หล่อหลอม "ตัวตน" ของเราขึ้นมาให้เป็นแบบที่เราเป็นตอนโตขึ้น
และการกลับด้านเช่นนี้เองที่ค่อยๆ สร้างความเป็น "คู่ตรงข้าม" ขึ้นมาในตัวเราสองคน ค่อยๆ ถ่างเราห่างจากกัน ค่อยๆ ทำให้เรามีโลกคนละใบ และเป็นไปได้ว่า--ค่อยๆ ทำให้เราเข้าใจกันและกันน้อยลงเรื่อยๆ
...
5
มองไปที่พี่ เราจึงเห็นว่าเขาอยู่บนโลกอีกใบหนึ่ง เราเป็นมนุษย์คนละดาวที่ถูกเสก (หรือสาบ) ให้มาอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน
โจทย์ที่สองที่คนมีพี่น้องค่อยๆ เรียนรู้ตั้งแต่ตอนเป็นวัยรุ่นไปจนถึงเป็นผู้ใหญ่ก็คือ แล้วเราจะอยู่ร่วมกับ "มนุษย์คนละดาว" อย่างไรให้มีความสุข การจะได้มาซึ่งคำตอบของโจทย์นี้ บางคนใช้เวลาทั้งชีวิต
ราวกับว่าเรามีพี่มีน้องที่ต่างกันก็เพื่อให้เราได้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนที่แตกต่าง (มากน้อยก็ว่ากันไป) หนีไปไหนไม่ได้ ตัวอาจแยกจากกันบางเวลา แต่หัวใจมันผูกกันไปแล้ว
ไม่ชอบมัน แต่รักมัน
นี่คือแบบฝึกหัดความสัมพันธ์ในแบบที่ "คู่รัก" มอบให้ไม่ได้ เพราะความสัมพันธ์แบบคู่รักนั้นพร้อมจะ "บอกเลิก" กันได้เมื่อถึงจุดที่ทนไม่ไหว แต่พี่น้องจะไม่ยอมให้ความสัมพันธ์ไปถึงจุดนั้น เพราะเราต่างรู้กันว่าเราไม่มีวันเลิกเป็นพี่เป็นน้องกัน หรือหากต้องเลิกเป็นจริงๆ มันคงเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิต เป็นแผลเป็นที่เหลือบไปเห็นทีไรก็เจ็บแปลบขึ้นมาทุกครั้ง
เราจึงประคับประคอง "ความต่าง" ด้วยทุกวิถีทางที่คิดออก
...
6
เช่นนี้แล้ว การเป็นพี่น้องจึงไม่ใช่ความสนุกสวยงามแบบภาพฝัน ซึ่งหนังเรื่องนี้ก็ดีเหลือเกินที่ไม่ตอกย้ำภาพฝันนั้น หากมันคือการ "ทำงาน" แบบหนึ่ง เป็นการทำงานทางด้านจิตใจที่จะยอมรับและยอมรักคนที่แตกต่างจากเราได้ด้วยหัวใจ มิใช่ด้วยการตัดสินพิพากษาเขาด้วยมาตรฐานส่วนตัว
เราจะรักพี่หรือน้องเราได้ก็ต่อเมื่อเราไป "ยืนในรองเท้าของเขา" สวมรองเท้าเขา มองชีวิตจากมุมของเขา เงื่อนไขของเขา ประสบการณ์ที่หล่อหลอมมาของเขา แล้วจึงจะเข้าใจว่าทำไมเขาเป็นแบบนั้น ทำไมเขาคิดเช่นนั้น แล้วเราอาจต้องประหลาดใจด้วยซ้ำว่า ที่เขาเป็นแบบนั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะเราเป็นแบบนี้
ความเข้าใจจะเกิดขึ้นเมื่อหมั่นสลับรองเท้ากันใส่ หมั่นแลกจุดยืนของกันและกัน แล้วเราจะไม่ตัดสินการกระทำของพี่หรือน้องด้วยจุดยืนของเราฝ่ายเดียว (เหมือนที่ "พี่ชัช" ในเรื่องตัดสินการช่วยเหลือของน้องสาวด้วยมุมมองของตัวเองในวันแต่งงาน)
พี่น้องเปิดโอกาสให้เรา "แลกรองเท้า" กันบ่อยกว่าความสัมพันธ์แบบอื่น ที่พร้อมจะให้อภัยน้อยกว่า
หลายครั้งผมคิดว่า ของขวัญมีค่าที่สุดที่พี่น้องจะมอบให้แก่กันไม่ใช่ข้าวของเลอเลิศอันใดเลย หากคือการให้อภัยกันด้วยหัวใจที่ไม่ติดค้าง อ้าแขนออกแล้วบอกว่า "ฉันโอเคกับความเป็นแก" แม้ในใจเราอาจอยากให้เขาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เราคิดว่าน่าจะดีกว่าที่เป็นอยู่ แต่นั่นอาจเป็นเพียงการตัดสินจากมาตรฐานส่วนตัวก็เป็นได้ การโอบกอดในสิ่งที่เขาเป็นนั้นอาจมีค่ามากกว่าการพยายามหยิบยื่นสิ่งที่ (เราคิดว่า) ดีให้แก่เขาด้วยซ้ำไป
...
7
ผมชอบที่หนังไม่ได้จบที่การเปลี่ยนแปลง "ตัวตน" ของพี่หรือน้อง ทั้งสองยังเป็นแบบที่ตัวเองเป็น คนเราไม่ได้เปลี่ยนกันง่ายๆ
พี่น้องในเรื่องไม่ได้เปลี่ยน "ตัวตน" หากเข้าใจมากขึ้นว่าเราควรเป็นพี่น้องกันด้วยความรู้สึกแบบไหน
เปลี่ยนจากการแบกรับน้ำหนักของการเปรียบเทียบ จับจ้องแต่ความต่าง ก่นด่าในสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น ให้กลายเป็นความปรารถนาดีต่อกัน
ใช่, ปรารถนาดีต่อกัน--เราอาจมีกันและกันเพื่อเรียนรู้สิ่งนี้
เราสามารถปรารถนาดีต่อกันได้โดยไม่ต้องถูกใจอีกฝ่ายไปเสียทุกเรื่อง และถ้าเราปรารถนาดีต่อเขา อยากเห็นเขามีความสุข เราอาจต้องยอมบางอย่าง เราอาจไม่จำเป็นต้องพยายามเปลี่ยนแปลงเขา เราเพียงดำเนินชีวิตข้างกันด้วยหัวใจที่เปี่ยมความคาดหวังให้อีกคนหนึ่งมีความสุขที่สุด
นี่คือบทเรียนเรื่อง "ความปรารถนาดีอย่างถูกวิธี" ที่พี่น้องสอนเรา
สิ่งที่พี่ชัชพูดกับหลาน (ลูกชายของน้องสาว) ในตอนท้ายเรื่องว่า "เป็นพี่แล้วนะ รักน้องให้มากๆ นะ" นั้นมีความหมายลึกซึ้งเมื่อตัวเขาเองได้ผ่านรอยปริแยกแห่งความสัมพันธ์ของพี่น้องมาแล้ว
"รักน้อง" นั้นแน่นอนอยู่แล้ว แต่ "รักยังไง" ต่างหากที่เราต้องใช้เวลาเนิ่นนานกว่าจะเรียนรู้
...
8
หลังจากนั้นไม่กี่วัน พี่สาวก็ซื้อกับข้าวอร่อยๆ มาฝากป๊า แล้วทั้งครอบครัวก็นั่งล้อมวงกินข้าวพูดคุยกันตามปกติ
บ้านเรากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่จะว่าไปก็น่าถามถึงความหมายของคำว่า "ปกติ" มันอาจเป็นแบบที่พี่สาวหรือแจ้ของผมบอกไว้ก็เป็นได้ว่า การทะเลาะกันก็เป็นเรื่องปกติอย่างหนึ่งของคนในบ้าน
เราอาจทะเลาะกันเพื่อเรียนรู้วิธีที่จะอยู่ด้วยกัน ให้เราค่อยๆ สอบผ่านวิชา "ความปรารถนาดีอย่างถูกวิธี" ไปทีละขั้น เหมือนกันกับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพี่สาว ทุกวันนี้เราก็ยังเป็นมนุษย์คนละดาวซึ่งถูกเสก/สาบให้มาอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ไม่ได้ลงรอยไปเสียทั้งหมด แต่ยืนยันได้ว่าเรารักกันเสมอ
นี่คือสิ่งที่พี่สาวคนละดาวสอนผมโดยที่เธอไม่ได้พูด แต่ความสัมพันธ์บนความต่างอันยาวนานบอกใบ้ความลับของชีวิตบางอย่างกับผมว่า "การที่เราจะรักใครสักคน เราไม่จำเป็นต้องชอบทั้งหมดที่เขาเป็น"
ซึ่งความลับนี้อาจไม่ได้ใช้ได้เฉพาะกับ "พี่-น้อง" เท่านั้น
...
9
ผมกับพี่เคยมีช่วงเวลาที่เราห่างจากกันและหยุดพูดคุยกันไป แต่แล้ววันหนึ่งเราก็กลับมาคุยกันอีกครั้ง
ความสัมพันธ์ของพี่น้องบางคู่ไม่หวานหอมหรอกครับ ใครที่มีความสัมพันธ์ราบเรียบกับพี่น้องก็นับว่าโชคดี แต่ผมเองก็คิดว่าตัวเองโชคดีอีกแบบหนึ่ง
ผมได้รู้จักความรักที่มีรสขม และผมก็เชื่อว่าพี่สาวของผมก็ได้ลิ้มรสนั้นจากความรักระหว่างเราเช่นกัน
ถ้าต่างกันขนาดนี้แล้วเรายังรักกันได้ ถึงวันหนึ่งบทเรียนนี้น่าจะแผ่ขยายพื้นที่หัวใจให้เรารักคนที่แตกต่างที่ต้องพบเจอในชีวิตได้อีกมากมายนัก
นี่อาจเป็นเหตุผลที่เราถูกเสกให้อยู่ในบ้านหลังเดียวกันมาตั้งแต่เด็ก
ผมรู้ดีว่าพี่รักผม และผมก็รักพี่ เราไม่ได้ชอบทั้งหมดที่อีกคนเป็น แต่เราค่อยๆ เรียนรู้ที่จะยอมรับในสิ่งที่เราไม่ชอบนั้น
ผมอยากชวนพี่ไปดูหนังเรื่องนี้ แต่ก็รู้ดีว่ามันคงจะดูแปลกๆ ยังไงก็เถอะ ผมเชื่อว่าถ้าพี่ได้ดูเค้าจะคิดถึงผม ฉากที่พี่น้องกอดกันตอนท้ายเรื่องคงแทนความรู้สึกระหว่างเราได้ดี
ระยะห่างระหว่างเรานั้นห่างกันมาก ขณะเดียวกันก็ใกล้ชิดกันมาก
จะมีความสัมพันธ์แบบไหนสอนเราได้เช่นนี้อีก
อย่าเชื่อว่าความรักจะมีแต่รสหวาน และอย่าเชื่อว่าความรักที่ไม่หวานนั้นไม่สวยงาม
มันสวยงามอีกแบบหนึ่ง
ก็เหมือนพี่หรือน้องของเรานั่นแหละ-เขาสวยงามในแบบเขา
และสิ่งที่เราควรทำที่สุดคือโอบกอดความสวยงามนั้น
#น้องพี่ที่รัก
#BrotherOfTheYear
Sister-Brother-Baby:
Love each other doesn't mean we have to like each other all.
(write to some content in the film)
---
1
One time dad and sister (which I call jae) got into an argument. I tried to say something to two sides. Good night. I'm angry. All the reason. What my sister said back is " you don't have to mess with me. They live together. For decades, it will fade. We will come back to talk well as usual. Just not now " and the words I remember " no need to make a big deal. People in the house fight is normal "
...
2
Yesterday, I watched "Brother-Brother-darling" without expecting the movie to focus on brother-sister relationship like this. But the more I sit and watch, the more I think about myself and my sister.
If you ask if the movie is fun. I say - there are jokes to laugh at. Most of them are cute and not grip. It should be because of sunny and yaya, especially sunny playing forgetful. Let's say he's handsome from this hugh grant step. He has already crossed to Jim Carrie's steps, but that's it - this movie is more than fun and I want to invite you to watch a lot.
I miss myself and my sister because the movie shows the difference " between these two extreme. My brother can't want to go anywhere. No mess. Keep going to survive with the day. The perfect sister. Good at studying, good job. Great Sports. These two lives are like sky and abyss.
Me and my sister are not this different, but there is a similar part of me. I am quite unorganized, free love while my sister is good at studying, organized with life, which I think most brothers always have "different" in their own way
...
3
There is a word that "friends are relatives that we can choose they are" brothers are friends that we didn't choose and can't choose I was born, there is this person in our house with us. No matter what, we have to live with it. Many more years, maybe my whole life.
I can't change people. I can't stop being in relationship.
I believe that I often think in my heart, "if I could change this person, it would be good" but the point is - you can't change.
" Brother-sister " is a strange relationship. We don't choose to be together, but we have to endure each other. We don't like each other, but we have to live together for a long time that created " Bond " until it becomes a relationship. And it's " I don't like you but I love you
...
4
In a family where one brother or brother has a super clear personality. The other will become the opposite side of that person.
Brother-sister is a mirror back to each other's side (part of them)
Being together for a long time. Brothers is a relationship that " Compare " unintentionally. Even in denial, we can't help but compare. Sometimes this comparison is so deep that we don't realize, but it influences " US "
If you were a student, at first, you would try to fight. But if you didn't do well, you would go to get good things right away, such as becoming crazy, Sports, crazy, art, game or something that is not about studying in grade card.
If your brother is very organized, you will be stubborn and break the rules. If you are diligent, you may act back. Sit and sleep comfortably. If you go to a good personality, you may run away from the funny way. Funny way, and more. Let's see brothers around. I will see a few "mirrors" like this.
We all influence each other.
Another saying is " we all create one another's identity
I often don't create another person like us, but it makes another person different from us because he wants to "run away" the other way, not to repeat the way. I won't let you over the way.
Brother-sister is the first problem of our life that we have to find. What kind of "we will" do on our path. If we can't fight with another person on the road, there is still any way to go. Finding a solution like this over and over again. The handsome one who we are " to be the way we were when we were growing up.
And this kind of turning back that slowly creates the "opposite couple" in the two of us slowly spread us apart. Slowly makes us a different world and it's possible that -- slowly makes us understand each other less.
...
5
Look at my brother, I see that he is on another planet. We are human beings who are made (or) to be in the same house.
The second problem that people have siblings slowly learn from teenagers to mature. How can we live with "different stars" to be happy to get the answer to this problem. Some people spend their whole life.
As if we have different brothers, so that we can learn to live with different people (no matter how much we say). We can't go anywhere. We may be separated for some time, but our hearts are tied.
Don't like it but love it
This is the kind of relationship training that " couples " can't give because couples are ready to " break up " when it comes to the point where they can't stand it, but brothers won't let the relationship reach that point because we both know that we will never stop being brother. Sister or if you have to stop being, it would be the saddest thing in life. It's a scar that I see it, it hurts every time.
So we support "the difference" in every way we can figure out.
...
6
Like this, being a sibling is not a fun, beautiful dream. This movie is so good not to remind that dream. If it is to "work" a mental work to accept and love someone who is different from us with the heart. Not by judgement, judge him by personal standards.
We can only love my brother or brother when we go to "Stand in his shoes" wearing shoes. He looks at life from his angle. His condition. His handsome experience, then you will understand why he is like that. Why he thinks so. We may even be surprised that he is because we are.
Understanding will happen when switching shoes to exchange each other's stand and we will not judge the actions of brother or brother by one side. (like "brother chor cuddle hours" in judging sister's help with their own perspective in Wedding day)
Brothers open the opportunity for us to "exchange shoes" more often than other relationships that are less ready to forgive.
Many times, I think that the most valuable gift that brothers will give to each other, not a great thing. If it is to forgive each other with a heart that doesn't owe each other with open arms and say "I'm okay with you" even in our hearts, we may want him to change. In a way we think it's better than we are, but that may be just judging by personal standards. Embracing who he is is more valuable than trying to give him what (we think) is good.
...
7
I like that the movie doesn't end at changing "who" of both of you or sisters. It's still the way they are. People don't change easily.
Brothers and sisters don't change "who they are" if you understand what kind of feelings we should be brothers.
Change from carrying the weight of comparison, but the difference, cursing what the other is to be best wishes for each other.
Yes, wish for each other -- we may have each other to learn this
We can wish to be good to each other without liking the other. and if we wish to be good for him happy, we may have to give up something. We may not have to try to change him. We just live beside each other with a heart. Expectation for one another to be the happiest
This is the lesson about "best wishes" that brothers teach us.
What brother chor cuddle said to the grandchild (sister's son) at the end, "I am a brother now. I love you very much" is a deep meaning when he has passed the cremation of brothers relationship.
" love you " is for sure, but " how to love " is what we take a long time to learn.
...
8
After a few days, my sister bought some delicious rice for dad. Then the whole family sat around the band, eating and talking as usual.
Our house is back to normal again, but it's nice to ask about the meaning of " normal it may be the way my sister or jae said. Fighting is normal for people in the house.
We may fight to learn how to be together. Let us gradually pass the "best wishes" class. Same step by step with the relationship between me and my sister. Nowadays we are still human beings who are made / scalmed / scalmed in the same house. Not all the marks, but I can confirm that we always love each other.
This is what a different star sister taught me without saying, but a long relationship. Hints some secrets of life to me, "to love someone, we don't have to like all that they are"
This secret may not only be used with "Brother-sister"
...
9
My brother and I used to have a time when we were apart and stopped talking to each other. But then one day we came back to talk again.
Some brothers relationship is not sweet and fragrant. Anyone who has a smooth relationship with brothers is lucky. But I think I am lucky.
I have known bitter love, and I believe my sister also tasted it from our love.
If it's this different, we can still love each other until one day. This lesson should spread our heart space to love many different people who have to meet in life.
Maybe this is why we were conjured in the same house since we were young.
I know that you love me, and I love you. I don't like all that the other person is, but we slowly learn to accept what we don't like.
I want to invite you to watch this movie, but I know that it will look strange. I believe that if you watch it, they will miss me. The scene where brothers hug each other at the end, the story will replace our feelings.
The distance between us is so far apart, meanwhile, very close.
What kind of relationship can teach us like this?
Don't believe that love is only sweet and don't believe that love is not sweet.
It's beautiful in another way.
Just like our brother or brother - he is beautiful in his way.
And all we should do is embrace that beauty
#น้องพี่ที่รัก
#BrotherOfTheYearTranslated
nice to meet you all meaning 在 Roundfinger Facebook 的最讚貼文
น้อง-พี่-ที่รัก:
รักกันไม่ได้แปลว่าจะต้องชอบกันทั้งหมด
(เขียนถึงเนื้อหาบางส่วนในภาพยนตร์)
---
1...
Continue ReadingSister-Brother-Baby:
Love each other doesn't mean we have to like each other all.
(write to some content in the film)
---
1
One time dad and sister (which I call jae) got into an argument. I tried to say something to two sides. Good night. I'm angry. All the reason. What my sister said back is " you don't have to mess with me. They live together. For decades, it will fade. We will come back to talk well as usual. Just not now " and the words I remember " no need to make a big deal. People in the house fight is normal "
...
2
Yesterday, I watched "Brother-Brother-darling" without expecting the movie to focus on brother-sister relationship like this. But the more I sit and watch, the more I think about myself and my sister.
If you ask if the movie is fun. I say - there are jokes to laugh at. Most of them are cute and not grip. It should be because of sunny and yaya, especially sunny playing forgetful. Let's say he's handsome from this hugh grant step. He has already crossed to Jim Carrie's steps, but that's it - this movie is more than fun and I want to invite you to watch a lot.
I miss myself and my sister because the movie shows the difference " between these two extreme. My brother can't want to go anywhere. No mess. Keep going to survive with the day. The perfect sister. Good at studying, good job. Great Sports. These two lives are like sky and abyss.
Me and my sister are not this different, but there is a similar part of me. I am quite unorganized, free love while my sister is good at studying, organized with life, which I think most brothers always have "different" in their own way
...
3
There is a word that "friends are relatives that we can choose they are" brothers are friends that we didn't choose and can't choose I was born, there is this person in our house with us. No matter what, we have to live with it. Many more years, maybe my whole life.
I can't change people. I can't stop being in relationship.
I believe that I often think in my heart, "if I could change this person, it would be good" but the point is - you can't change.
" Brother-sister " is a strange relationship. We don't choose to be together, but we have to endure each other. We don't like each other, but we have to live together for a long time that created " Bond " until it becomes a relationship. And it's " I don't like you but I love you
...
4
In a family where one brother or brother has a super clear personality. The other will become the opposite side of that person.
Brother-sister is a mirror back to each other's side (part of them)
Being together for a long time. Brothers is a relationship that " Compare " unintentionally. Even in denial, we can't help but compare. Sometimes this comparison is so deep that we don't realize, but it influences " US "
If you were a student, at first, you would try to fight. But if you didn't do well, you would go to get good things right away, such as becoming crazy, Sports, crazy, art, game or something that is not about studying in grade card.
If your brother is very organized, you will be stubborn and break the rules. If you are diligent, you may act back. Sit and sleep comfortably. If you go to a good personality, you may run away from the funny way. Funny way, and more. Let's see brothers around. I will see a few "mirrors" like this.
We all influence each other.
Another saying is " we all create one another's identity
I often don't create another person like us, but it makes another person different from us because he wants to "run away" the other way, not to repeat the way. I won't let you over the way.
Brother-sister is the first problem of our life that we have to find. What kind of "we will" do on our path. If we can't fight with another person on the road, there is still any way to go. Finding a solution like this over and over again. The handsome one who we are " to be the way we were when we were growing up.
And this kind of turning back that slowly creates the "opposite couple" in the two of us slowly spread us apart. Slowly makes us a different world and it's possible that -- slowly makes us understand each other less.
...
5
Look at my brother, I see that he is on another planet. We are human beings who are made (or) to be in the same house.
The second problem that people have siblings slowly learn from teenagers to mature. How can we live with "different stars" to be happy to get the answer to this problem. Some people spend their whole life.
As if we have different brothers, so that we can learn to live with different people (no matter how much we say). We can't go anywhere. We may be separated for some time, but our hearts are tied.
Don't like it but love it
This is the kind of relationship training that " couples " can't give because couples are ready to " break up " when it comes to the point where they can't stand it, but brothers won't let the relationship reach that point because we both know that we will never stop being brother. Sister or if you have to stop being, it would be the saddest thing in life. It's a scar that I see it, it hurts every time.
So we support "the difference" in every way we can figure out.
...
6
Like this, being a sibling is not a fun, beautiful dream. This movie is so good not to remind that dream. If it is to "work" a mental work to accept and love someone who is different from us with the heart. Not by judgement, judge him by personal standards.
We can only love my brother or brother when we go to "Stand in his shoes" wearing shoes. He looks at life from his angle. His condition. His handsome experience, then you will understand why he is like that. Why he thinks so. We may even be surprised that he is because we are.
Understanding will happen when switching shoes to exchange each other's stand and we will not judge the actions of brother or brother by one side. (like "brother chor cuddle hours" in judging sister's help with their own perspective in Wedding day)
Brothers open the opportunity for us to "exchange shoes" more often than other relationships that are less ready to forgive.
Many times, I think that the most valuable gift that brothers will give to each other, not a great thing. If it is to forgive each other with a heart that doesn't owe each other with open arms and say "I'm okay with you" even in our hearts, we may want him to change. In a way we think it's better than we are, but that may be just judging by personal standards. Embracing who he is is more valuable than trying to give him what (we think) is good.
...
7
I like that the movie doesn't end at changing "who" of both of you or sisters. It's still the way they are. People don't change easily.
Brothers and sisters don't change "who they are" if you understand what kind of feelings we should be brothers.
Change from carrying the weight of comparison, but the difference, cursing what the other is to be best wishes for each other.
Yes, wish for each other -- we may have each other to learn this
We can wish to be good to each other without liking the other. and if we wish to be good for him happy, we may have to give up something. We may not have to try to change him. We just live beside each other with a heart. Expectation for one another to be the happiest
This is the lesson about "best wishes" that brothers teach us.
What brother chor cuddle said to the grandchild (sister's son) at the end, "I am a brother now. I love you very much" is a deep meaning when he has passed the cremation of brothers relationship.
" love you " is for sure, but " how to love " is what we take a long time to learn.
...
8
After a few days, my sister bought some delicious rice for dad. Then the whole family sat around the band, eating and talking as usual.
Our house is back to normal again, but it's nice to ask about the meaning of " normal it may be the way my sister or jae said. Fighting is normal for people in the house.
We may fight to learn how to be together. Let us gradually pass the "best wishes" class. Same step by step with the relationship between me and my sister. Nowadays we are still human beings who are made / scalmed / scalmed in the same house. Not all the marks, but I can confirm that we always love each other.
This is what a different star sister taught me without saying, but a long relationship. Hints some secrets of life to me, "to love someone, we don't have to like all that they are"
This secret may not only be used with "Brother-sister"
...
9
My brother and I used to have a time when we were apart and stopped talking to each other. But then one day we came back to talk again.
Some brothers relationship is not sweet and fragrant. Anyone who has a smooth relationship with brothers is lucky. But I think I am lucky.
I have known bitter love, and I believe my sister also tasted it from our love.
If it's this different, we can still love each other until one day. This lesson should spread our heart space to love many different people who have to meet in life.
Maybe this is why we were conjured in the same house since we were young.
I know that you love me, and I love you. I don't like all that the other person is, but we slowly learn to accept what we don't like.
I want to invite you to watch this movie, but I know that it will look strange. I believe that if you watch it, they will miss me. The scene where brothers hug each other at the end, the story will replace our feelings.
The distance between us is so far apart, meanwhile, very close.
What kind of relationship can teach us like this?
Don't believe that love is only sweet and don't believe that love is not sweet.
It's beautiful in another way.
Just like our brother or brother - he is beautiful in his way.
And all we should do is embrace that beauty
#น้องพี่ที่รัก
#BrotherOfTheYearTranslated
nice to meet you all meaning 在 渡辺レベッカ ☆ Rebecca Butler Watanabe Youtube 的最讚貼文
今日は、『君の名は。』英訳シリーズの最後の曲となる、「夢灯籠」をお届けします♪
いつも私の動画をご視聴いただき、又チャンネル登録・好評・シェア等をしていただき、ありがとうございます(^◇^) 多くの方が私の訳詞カバーを気に入ってくださってとても嬉しいです♪ これからもたくさんの動画をアップしますので、今後とも宜しくお願いします!
Here is my English cover of "Yume Tourou," the last song in my "Your Name" series! Thanks so much to everyone that has watched my videos, subscribed, given thumbs up, and shared! I'm so glad that you all like what I'm doing, and I hope you'll continue to check out my future videos :)
*Meaning of the song's title:
Yume = "dream"
Tourou = "lantern"
There is a tradition called "tourou nagashi" where a paper lantern is set afloat during the last day of the O-bon festival. The lantern lights the way for the souls of the departed to cross back into the afterlife after they visit at O-bon (hopefully I'm correct in the details). So I think this title is meant to give the image of a lantern lighting the way into or out of a dream. I think this song really only makes sense in the context of the movie :)
~♪~♪~♪~♪~♪~
曲情報 / SONG INFO
~♪~♪~♪~♪~♪~
RADWIMPS/夢灯籠
アルバム:『君の名は。』サウンドトラック
作詞曲:野田洋次郎
英語詞:渡辺レベッカ
RADWIMPS / Yume Tourou
Album: "Your Name" Soundtrack (2016)
Music/Lyrics: Yojiro Noda
English Lyrics: Rebecca Butler Watanabe
■サムネイルのバックグラウンド / Thumbnail background:
dacosta / 123RF
~♪~♪~♪~♪~♪~
リンク / LINKS
~♪~♪~♪~♪~♪~
■HP⇒ http://BlueEyedUtaUtai.jimdo.com
■Facebook⇒ http://facebook.com/blueeyedutautai
■Twitter⇒ @BlueEyedUtaUtai
~♪~♪~♪~♪~♪~
歌詞 / LYRICS
~♪~♪~♪~♪~♪~
Ah, if only our voices that speak in the night
Instead of fading into the edges of light at far ends of Earth
Could find their way through all of space, all of time
Oh, and if they could, what would we say?
What will the words be that we first exchange?
Let’s make a promise, one that will never fade
On my count of three, say it with me, yeah
Ah, I’m told that some part of every wish will be heard
But lately I lost sight of the truth in those words
I can’t even remember when I gave up believing
What could have been the reasoning?
Ah, you told me in the very moment that the rain subsides
And everywhere a rainbow is born or dies
And where the end of this life lies
You always would insist there was something that begins nearby
One day we’ll go, unearth emotions we’d buried all our lives
We’ll high-five love we’ve yet to discover and give a kiss to time
The five dimensions may laugh right in my face
But I will keep on looking at you, babe
Let’s decide on a sign for when we say “nice to meet you” again
I’m on my way to you, chasing after your name
いつか行こう 全生命も未到 未開拓
itsuka ikou zen-seimei mo mitou mikaitaku
の感情にハイタッチして 時間にキスを
no kanjou ni hai-tacchi shite jikan ni kisu wo
5次元にからかわれて それでも君をみるよ
go-jigen ni karaka-warete sore demo kimi wo miru yo
また「はじめまして」の合図を決めよう
mata "hajimemashite" no aizu wo kimeyou
君の名を 今追いかけるよ
kimi no na wo ima oi-kakeru yo
nice to meet you all meaning 在 Difference between "Nice to meet you" and "Nice to see you ... 的必吃
... <看更多>
nice to meet you all meaning 在 DON'T SAY Nice to Meet You! Learn Native ... - YouTube 的必吃
... <看更多>