ถ้าจะหาหนังแนวโรแมนติก-ไซไฟ ที่เรารักที่สุดตลอดกาล เกรด A++++++ ชื่อแรกที่จะนึกถึงคือ San Junipero หนึ่งใน EP. ของซีรีส์ Black Mirror ที่หากคุณยังไม่เคยดู เราขอเชียร์ให้ดูก่อนนอนคืนนี้
.
ตอนดูรอบแรกยังลังเลคะแนน เหมือนยังไม่ค่อยเก็ตเท่าไร แต่พอดูรอบสองปุ๊บ แน่นอนละว่าควรให้ A+ ดีงามที่สุดในสามโลก พอรู้เฉลยจากการดูรอบแรก แล้วกลับไปย้อนดูใหม่เลยได้สังเกตรายละเอียดอีกเพียบ แถมอินกับทุกคำพูดของนางเอกด้วย ใครจะดูตอนนี้แนะนำว่าไม่ต้องไปหาอ่านเรื่องย่อมากมาย รู้แค่ว่าเป็นเรื่องของ 'ยอร์กี้' (Mackenzie Davis) หญิงสาวขี้อายในเมืองริมทะเลปี 1987 ได้เจอกับ 'เคลลี่' สาวปาร์ตี้เท่านั้นพอ ส่วนต่อจากนั้นไปดูกันเอง ขอบอกแค่ว่ามันคือตอนที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ Black Mirror ดึงเสน่ห์เทคโนโลยีล้ำ ๆ กลับมาเพื่อจะพูดถึงความเป็นมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้งกลมกล่อมลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ จะมองว่าเป็นหนังหญิงรักหญิงที่ใช้ความเป็นไซไฟมาขยายความรู้สึกให้อินสุด ๆ ก็ยังได้ การันตีความยอดเยี่ยมจากการดูซ้ำของเราเลยละกัน (รอบแรกทึ่งตอนเฉลยที่เปลี่ยนมุมมองของเราไปเลย ส่วนรอบสองเข้าไปเก็บรายละเอียดใหม่ด้วยความรู้สึกอีกแบบ)
.
**** สปอยล์ ****
สำหรับเราแล้ว San Junipero มันคือความสุขบนความเศร้าของมนุษย์ที่ไม่สามารถทำอะไรตามใจตัวเองตอนยังมีชีวิตอยู่จึงต้องมาใช้ชีวิตในซานจูนิเปโร เมืองหลังความตาย เราเข้าใจการตัดสินใจของทั้งสองคนว่าทำไมซานจูนิเปโรถึงสำคัญสำหรับทั้งคู่ ในกรณีของยอร์กี้นั้นเห็นได้ชัดอยู่แล้วว่าเธอไม่เคยได้ใช้ชีวิตเลย เป็นเลสเบี้ยนในครอบครัวหัวโบราณ แถมซ้ำร้ายยังเป็นอัมพาตตั้งแต่อายุ 20 ปี เธอไม่เคยได้เริ่มต้นความรักกับใครจนกระทั่งการมาของเทคโนโลยีล้ำ ๆ แบบซานจูนิเปโรที่ทำให้เธอได้หวนคืนวัยสาวอีกครั้งแม้จะเป็นเพียงสัปดาห์ละ 5 ชั่วโมงในโลกจำลองก็ตามที แต่สำหรับยอร์กี้แล้วมันคือของจริงที่เธอสัมผัสถึงทุกอย่าง ๆ ที่โหยหามาตลอด เราจึงไม่แปลกใจว่าทำไมเธอถึงอยากทิ้งชีวิตอัมพาตเพื่อมาอยู่ถาวรในโลกหลังความตายที่นี่
.
ส่วนเคลลี่นั้นจะว่าไปก็เป็นสาวปาร์ตี้ one night stand รักสนุกแต่ไม่คิดผูกพันกับใคร โดยมูลเหตุที่ทำให้เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าสามีที่รักยิ่งของเธอจากไปแล้วไม่ยอมมาอยู่ถาวรในซานจูนิเปโร ในโลกจริงเธอเป็นเพียงหญิงชราใกล้ตายที่เข้ามาโลกจำลองเพื่อบำบัดสภาพจิตใจ เธอจึงใช้ชีวิตในนี้แค่สนุกไปวัน ๆ ในแต่ละครั้งที่เข้ามาโดยไม่คิดจะผูกพันกับใครเพราะเธอกลัวความสัมพันธ์นั้นจะผูกมัดให้เธอต้องมาอยู่ถาวรที่นี่ แต่อย่าลืมว่าซานจูนิเปโรคือดินแดนที่เติมเต็มบางอย่างที่ขาดหายไปสำหรับเคลลี่เช่นกัน นั่นก็คือการที่เธอเป็นไบเซ็กชวล ชอบทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่เธอยังไม่เคยได้เริ่มต้นคบผู้หญิงสักครั้ง ทำได้เพียงแอบชอบอย่างเดียวในโลกจริงเพราะกรอบสังคมในยุคนั้นยังรับไม่ได้กับการคบเพศเดียวกันจึงทำให้เธอต้องปกปิดและเลือกใช้ชีวิตกับผู้ชายมาโดยตลอด ซึ่งซานจูนิเปโรไม่มีกรอบแบบนั้นจึงทำให้เธอเป็นอิสระ สามารถทำตามที่ใจตัวเองปรารถนา ดังนั้นการตัดสินใจสุดท้ายของเคลลี่จึงไม่ใช่แค่การจบเรื่องให้เป็น happy ending แต่มันคือความเศร้าอีกรูปแบบหนึ่งที่คนสองคนไม่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการจึงต้องมาเติมเต็มสิ่งดังกล่าวที่ขาดหายไปในซานจูนิเปโรแห่งนี้
.
ชอบลำดับการเล่าเรื่องของ San Junipero มากเลย มันมีความเป็น mystery มาตั้งแต่ต้นให้คนดูสงสัยว่ากำลังอยู่ในเทคโนโลยีอะไร ทำไมต้องจบเรื่องตอนเที่ยงคืน, ทำไมถึงต้องแบ่งเรื่องเป็นหนึ่งสัปดาห์ พอเฉลยนี่กรี๊ดลั่นเลย ว้าวมากที่คลี่คลายทุกอย่างด้วยเทคโนโลยีเอาจิตใจเข้าไปในโลกจำลอง (ตอนแรกนึกว่าเป็นหนังท่องเวลามาตลอด เห็นวาร์ปข้ามเวลากันได้ ฮ่าๆ) แถมรายละเอียดต่าง ๆ ยังค่อย ๆ เปิดเผยอย่างมีชั้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคู่หมั้นที่ชื่อเกร็ก ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นพยาบาลเพศชายที่สงสารยอร์กี้ที่ถูกครอบครัวเคร่งศาสนาปฏิเสธการมาอยู่ในซานจูนิเปโร เขาจึงตัดสินใจแต่งงานกับเธอเพื่อเซ็นยินยอมให้เธอได้มาอยู่ในโลกจำลองตามต้องการ แล้วเรื่องแต่งงานยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกนิดที่ทำให้เราอินมากขึ้นคือตอนเคลลี่ขอแต่งงานนั่นเธอทำเพื่อช่วยจิตใจของยอร์กี้ชัด ๆ เพราะจริง ๆ แล้วยอร์กี้จะแต่งกับใครก็ให้ผลลัพธ์เหมือนกันคือเธอทำเพื่อมาอยู่ในซานจูนิเปโร แต่ไหน ๆ จะแต่งงานทั้งที 'ทำไมไม่แต่งกับคนที่เธอผูกพันด้วยล่ะ'
.
ขออวย San Junipero สุด ๆ ว่าไม่ควรพลาดกันจริง ๆ เป็นสุดยอดหนังโรแมนติกไซไฟขึ้นหิ้งเป็น the best ของ Black Mirror เลย หรือจะยกขึ้นเป็น the best ของซีรีส์ตอนเดียวจบก็ยังได้ มันดีงามที่สุดสามโลกจนต้องมาอวยให้ดูกันเนี่ย
ทางไปดูแบบซับไทย >> https://www.netflix.com/watch/80104625?trackId=200257859
หรือเสิชหา Black Mirror ซีซั่น 3 ครับ
mackenzie davis 在 Mackenzie Davis - Home | Facebook 的必吃
Her other credits include the films That Awkward Moment,[3] Smashed, Breathe In[4] and We Gotta Get Out of This Place,[3] and the television series Halt and ... ... <看更多>