เมื่อไหร่ที่ #ไปไม่เป็น
ให้ถามคนที่ไปเป็น ในเรื่องนั้น
-วรัทภพ รชตนามวงษ์-
同時也有4部Youtube影片,追蹤數超過131萬的網紅ืNANAKE555,也在其Youtube影片中提到,มือใหม่หัดรัก ต้องดูคลิปนี้!!!...
ไปไม่เป็น 在 เกี้ยแซ่บบ Facebook 的最讚貼文
ช่วงนี้ได้รับ Inbox และ พูดคุยจากร้านอาหารเยอะมาก ทั้งร้านเล็กๆ ริมทาง ร้านอาหารห้องแถว และร้านใหญ่ๆ ที่อาหารมีราคาสูงหน่อย ตอนนี้ทุกร้านลำบากไม่ต่างกัน
.
ร้านเล็กลุ้นให้ขายได้ต่อวัน ให้คุ้มทุน ให้มีเงินไปต่อยอด ซื้อของมาขายวันถัดไป ขายไม่หมดต้องคอยเคลียร์ของทิ้ง หลายๆคนเอาเงินก้อนสุดท้ายมาขายของ เจอประกาศล็อคดาวน์หลังเปิดร้านขายได้ 2 อาทิตย์ เค้ายอมรับกันเลยว่าไปไม่ถูก ไปไม่เป็น ไม่รู้จะไปยังไงกับชีวิตต่อ วัคซีนก็รอคิว ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้ฉีด
.
ร้านใหญ่หลายร้าน แบกรับต้นทุนไม่ไหว หลายร้านจำต้องให้พนักงานออก เพราะจมทุน และเริ่มติดลบ ค่าเช่าที่ ค่าคนงาน ค่าน้ำค่าไฟ ที่ต้องเปิดร้าน แต่มีออเดอร์ ชั่วโมงละ 1 ห่อ และหลายร้านที่พี่เกี้ยเคยไปรีวิว ก็ปิดตัวลงไปแล้ว เพราะแบกรับค่าใช้จ่ายที่ติดลบต่อไปอีกไม่ได้แล้ว
.
เสาร์นี้ ถ้าไม่เกิดสถานการณ์ที่แย่ลง พี่เกี้ยจะพยายามออกไปถ่ายร้านต่างๆ ทั้งเล็ก และใหญ่ ตามกำลังที่พี่เกี้ยพอมี และสามารถช่วยได้ อาจจะไม่สามารถช่วยทุกคนได้ แต่มันก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ไม่อยากนั่งเฉยๆ หายใจไปวันๆ
.
และยิ่งพอได้รับรู้เรื่องราว จากการที่เราทำ Content มันทำให้รู้สึกว่า ประชาชนคนไทยตอนนี้ควรจะต้องช่วยกัน แต่อย่าฝืนจนตัวเองลำบาก ทำไหวเท่าที่ตัวเองจะทำได้ อุดหนุนผู้ประกอบการกัน เศรษฐกิจจะได้ยังพอหมุนไปได้บ้าง แม้เล็กน้อยก็ยังดี
.
เงินเยียวยา 2000-3000 มันเหมือนเป็นการช่วยเหลือนะ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ได้สวยหรูอย่างที่เราคิด ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเดินทาง ค่าผ่อนบ้าน ค่านั่นนี่จิปาถะ มันอยู่ไม่ได้หรอก แต่ถ้าเราเอาเงินส่วนนี้ไปซื้อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ และเรามั่นใจ ตามข้อมูลที่บุคลากรทางการแพทย์ได้บอก ถึงข้อเท็จจริงไว้
.
พี่เกี้ยเชื่อว่า ถึงมันจะไม่ได้ดีที่สุด 100% แต่มันก็ยังป้องกันการติดเชื้อได้ 60-80% แล้วคนจะกล้าออกมาใช้เงิน คนจะออกมาทำมาหากินได้อย่างมั่นใจ แล้วเศรษฐกิจ มันน่าจะค่อยๆเริ่มกลับมาดีขึ้นแน่นอน อยากให้คนที่ดูแลส่วนนี้ รีบเถอะฮะ กราบก็ได้ วิงวอนก็ได้ ขออย่าให้เกิดการสูญเสียไปมากกว่านี้เลย
.
อาจจะมีหลายๆคนไม่ถูกใจในความเห็น หรือความคิดบางอย่างของพี่เกี้ย แต่มันออกมาจากความรู้สึกของเพื่อนมนุษย์คนนึง ที่รับฟัง แะได้รับรู้เรื่องราวจากประสบการณ์ตรง มาจากคนที่ลำบากจริงจัง ในทุกภาคส่วน พี่เกี้ยอยากมาแชร์เล่าเรื่องราว และความเป็นจริงที่ได้รับรู้ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ขอเถอะฮะ ได้โปรดเห็นแก่ประชาชน เพราะหลายๆคนสูญเสียทั้งกำลังใจ ทรัพย์สิน และบุคคลอันเป็นที่รัก บางคนเสียกระทั่งลมหายใจของตัวเอง
.
ขอบคุณที่รับฟังนะฮะ และหากมีคอมเม้นต์ใดมีการขัดแย้งกันอย่างรุนแรง หรือใช้คำหยาบคาย พี่เกี้ยขอลบนะครับ ขออนุญาตเป็นความเห็นที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น ตอนนี้แค่อยากให้ช่วยกัน ไม่อยากให้ขัดแย้งกัน อยากให้ทุกอย่างดีขึ้น รวมถึงอนาคตของพวกเราคนไทยที่จะกลับไปปกติสุขเหมือนเดิมนะฮะ 🙏🙏
ไปไม่เป็น 在 Aten Arnon: เอเท็น อานนท์ Prince of Marketing Facebook 的最佳解答
“เปลี่ยนจากOfflineมาเป็นOnline
พอมาทำเพจแล้ว งงไปหมด
ไปไม่เป็น
ไม่รู้จะจับต้นชนปลายยังไง”
————
1ในปัญหายอดฮิตของคนทำธุรกิจ
ที่ขึ้นจากOffline มาเป็นonline
เรื่องนี้ผมเคยแชร์ออกไป
แล้วทำให้
เจ้าของธุรกิจoffline ที่มีหน้าร้านหลายคน
"ที่เคยตันเรื่องไม่รู้จะทำอะไร
หรือต่อยอดอะไรได้บนonline"
กลายเป็นมียอดช่องทางOnline
แซงช่องทางหน้าร้านเดิม
หลังผมแชร์เรื่องนี้
มีพี่น้องหลายคน
รวมถึงพี่น้องใน1YearClub
และพี่น้องชาวOnline Take Over
นำไปปรับเพจ
บางคนสร้างยอดหลัก100,000
ในเวลาไม่กี่สัปดาห์
และมีหลายคนเลยที่
พลิกเป็นยอดหลายล้านในเวลา
ไม่ถึง6เดือน
----
จนมีหลายคนบอกผมว่า
เสียดายที่ไปงมเองอยู่ตั้งนาน
น่าจะรู้จุดนี้
แล้วนำไปทำตั้งแรกๆ
----
พอผมได้ยินแบบนั้น
ผมก็เลยนำไปบอกพี่น้อง
อีกจำนวนนึง
ผลก็เช่นเดียวกันคือ
หลังเค้านำไปปรับเพจ
ยอดขายมาทันทีในเวลาไม่กี่สัปดาห์
-----
จนผมได้ข้อสรุปว่า
ปัญหาที่คนทำoffline
แล้วโตไม่ได้ในOnline
หรือทำOnline แล้วไม่ work
คือ....
"มองonline เป็นแบบOfflineมากไปหน่อย"
"ใช่ครับ! เรื่องนี้เรื่องเดียวเลย"
วันนี้ผมอาจจะไม่ได้ลงดีเทล
แบบในตอนที่ผมตอบเคส
Private ใน1yearClub
หรือตอบ Q&A
พี่น้องในคลาส Online Take over
เพราะ
แต่ละคนจะมีเคสที่ดีเทลต่างกัน
ที่ผมจี้ลงลึกในธุรกิจของเค้าแต่ละเคส
แต่จุดที่คล้ายๆกัน
และพี่น้องอ่านอยู่ในวันนี้
สามารถนำไปปรับได้เลย
คือ....
"แนวทางแบบใหม่"
"ที่นำไปปรับแล้วโตได้เลยตั้งแต่วันนี้"
ผมชัวร์ว่าถ้าทำถูกทาง
ธุรกิจจะดีขึ้นทันทีในเวลาไม่เกิน1เดือน
หลังปรับ
-------
คืองี้
คนที่ทำOnline แบบมีหน้าร้านมาก่อน
"มักจะชินกับการที่เป็นฝ่ายตั้งรับ"
คือลูกค้าเดินหามา
แล้วลูกค้าสงสัยอะไร
อยากถามอะไร
"ก็ถามมาแล้วเรารอตอบ"
แล้วลูกค้าก็จะได้คำตอบ
และเคลียสิ่งที่อยู่ในใจ
"แล้วเค้าก็ซื้อเรา"
แต่หารู้ไม่ว่า
ลูกค้าหลายคนก็ไม่รู้ว่า
เค้าไม่รู้อะไร?
นี่คือเรื่องจริง
บางครั้งลูกค้า
ก็ไม่รู้ว่าตัวเองเหมาะกับอะไร
หรือต้องซื้ออะไร
————
เหมือนผมไปซื้อสูท
หลายครั้งผมก็ไม่รู้ว่าผมต้องซื้อแบบไหน?
แล้วอะไรแบบไหนเหมาะกับผม?
เหมาะกับงานที่ผมจะไป?
เหมือนเพื่อนผมจะจัดงานแต่งงาน
หลายครั้งก็ไม่รู้ว่าต้องเตรียมอะไร
ทำยังไงบ้าง อะไรที่ต้องplan
อะไรเหมาะ?
และมันมี
หลายครั้งเลยที่ไม่รู้เลยว่า
ควรจะถามอะไร
พอนึกออกใช่ไหมครับ?
เรื่องที่เราไม่รู้
ไม่เคยทำ
บางครั้ง
ก็ไม่รู้จะเดินเข้าไปร้านแล้วถามอะไร
ถ้าแบบนี้คนขายที่ตั้งรับอย่างเดียว
รอให้ลูกค้าถามเอง
จะเสียยอดไปมหาศาล
————
ตรงข้าม
คนขายที่มีชุดคำถามที่ดี
ที่สามารถเจาะปัญหาลูกค้าได้
จะกลายเป็นคนที่ได้ยอดขาย
และไม่ใช่แค่ยอดขายอย่างเดียวที่ได้
แต่หลายครั้งกลายเป็นฮีโร่ของลูกค้า
จนลูกค้าประทับใจเป็นลูกประจำ
และแนะนำเพื่อนๆเค้า
มาให้เป็นลูกค้าเพิ่มอีก
——
พี่น้องที่เป็นนักธุรกิจ
รวมถึงเคสที่กำลังเริ่มสร้างธุรกิจ500กว่าคน
ที่ตระหนักและเข้ามาเรียนหลักสูตรการขาย
ในiClass22 sale for non sale
"การขายสำหรับคนที่ไม่ใช่นักขาย"
กับผมเมื่อปีก่อน
เค้ามาศึกษาเรื่องชุดคำถาม
ในการค้นหาสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ
ซึ่งเราเรียกกันย่อๆว่าFF
หรือ (Fact finding)
ซึ่งหลายคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจ
นำไปสอนลูกทีมหน้าร้าน
นำไปสอนลูกทีมในการตอบinbox
แทนที่การรอตั้งรับแบบเดิม
ปรากฏว่าเจ้าของธุรกิจหลายคน
จากเดิมที่มีเคสหลุด
ทักมาแล้วหาย
กลายเป็นสามารถที่จะขายได้มากขึ้น
และแทบมีน้อยมาก
ที่ลูกค้าออกไปโดยไม่ซื้อ
แต่เคสไหนที่ไม่ซื้อจริงๆ
จากชุดคำถามที่เรียนไป
ก็ทำให้รู้ว่าแท้จริงแล้วลูกค้าติดที่อะไร?
แล้วทำถึงไม่ซื้อ?
ก็นำไปเตรียมพร้อมในเคสครั้งหน้า
หรือสามารถ
ตามไปปิดเคสเดิมได้ในที่สุด
(ไม่ต้องไปนั่งมโนเองว่าติดที่ตรงไหน
หรือคอยได้ยินลูกน้องพูดว่า
"ลูกค้าไม่ได้สนใจจริง"
"แล้วปล่อยลูกค้าเคาเดินจากไปอยู่เรื่อยๆ"
————
Ok จริงๆวันนี้ไม่ได้พูดที่ประเด็นนี้
แต่ที่เล่าเคสขึ้นมา
ผมว่าพี่น้องที่ทำธุรกิจจริงๆ
มีประสบการณ์ตรงนี้
และคนที่อ่านอยู่คงเป็นคนที่ทำธุรกิจ
หรือต่อให้ยังไม่ทำ
ก็มาหาข้อมูลในการไปสร้างธุรกิจ
ก็เป็นคนที่ตั้งใจและหัวก้าวหน้าอยู่แล้ว
ก็จะเห็นภาพตรงนี้ชัดเจน
ว่ารายได้จะต่างกันมาก..
"ระหว่างร้านที่รอตั้งรับขายอย่างเดียว
ที่ขายได้แค่ลูกค้าที่พร้อมซื้ออยู่แล้ว"
"กับร้านที่มีชุดคำถามเจาะปัญลูกค้าได้
ที่สามารถขายได้ทั้งลูกค้าที่พร้อมซื้อ
และลูกค้าที่มีความต้องการ
แต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองไม่รู้อะไร"
ซึ่งผมเคยทำคลิปนึงไว้
ที่นำเอาสถิจาหนักการตลาด
ว่าจาก100%
ลูกค้าที่พร้อมซื้อจริงๆมีแค่3%
แต่ลูกค้าที่กำลังหาข้อมูล
อยู่ในProcess
มี97%
ถ้าคุณขายอย่างเดียว
คุณกำลังแย่งเค้ก3%
กับคนจำนวนมาก
และสำหรับพี่น้องที่ทำธุรกิจอ่านมาถึงตรงนี้
ก็คงจะสามารถที่จะมองออกว่า
หน้าร้านของเรา
เป็นแนวไหนอยู่?
ตั้งรับรออย่างเดียว?
หรือเป็นแบบเคสที่มีชุดคำถาม
ที่เจาะปัญหาลูกค้าได้?
———————
และเช่นกัน
เมื่อOnlineมันเข้ามา
เมื่อเจ้าของธุรกิจหลายคน
ขึ้นมาทำOnlineมาทำเพจ
ปัญหาของ
คนที่ทำ offline มาก่อนมักจะเป็น...
ไม่รู้จะpostอะไร?
เปิดเพจขาย
Postขายไปก็เงียบ
ไม่มีคนทัก
-----------
ซึ่งนี่คือปัญหาหลักที่ผมพูดไปข้างต้น
เพราะที่ผ่านมา
เราเป็นฝ่ายตั้งรับ
รอคำถามจากลูกค้า
พอมาทำเพจ
เพจที่ทำก็จะกลายเป็น
Postขายดื้อๆ
ให้ข้อมูลสินค้า
แล้วก็หวังว่าจะรอลูกค้าinboxมาถามเยอะๆ
เหมือนสมัยขายหน้าร้านOnline
ซึ่งมันไม่ค่อยจะเป็นยังงั้น
จนทำใหัหลายคน
เลิกทำ
แต่พอจะเลิกทำก็ทำไม่ได้
เพราะลูกค้าหน้าร้านก็เริ่มหายไปซื้อทางonline
พูดง่ายๆคือ
จะไม่ทำก็ไม่ได้
"แต่จะเดินต่อไปก็ไปไม่ถึงสิ่งที่คิด"
—————
ถ้าใครเป็นอยู่ไม่ต้องกังวลนะครับ
แทบทุกคนเป็นกัน!
แม้กระทั่งพี่น้องในOnline Take Over
หรือกระทั่งพี่น้องใน1YearCLUB
ที่สำเร็จกัน
ก่อนหน้านั้น
หลายคนก็เคยเป็นแบบนี้
หลายเคส
ผมถามเค้าว่า
ถ้าเห็นเพจแบบนี้
ที่ขายอย่างเดียว
เป็นเราๆซื้อไหม?
คำตอบจากเค้าคือ”ไม่”
ผมถามเค้าว่า
คุณตามเพจที่ขายอย่างเดียวเหรอ?
เค้าบอกไม่!
แล้วคุณตามหรือซื้อกับเพจแบบไหน?(ผมถาม)
คำตอบก็มักจะเป็นเพจที่
เค้าให้ความรู้
มีคอนเทนท์ที่ช่วยแก้ปัญหาเรา
ผมถามกลับว่า
อ่าวรู้แล้ว
แล้วทำไมยังทำ?
เค้าก็ตอบว่า
ไม่รู้จะทำยังไง
คิดคอนเทนท์ไม่ออก
บางทีนั่งคิดเป็นวันๆ
ก็ไม่รู้จะทำคอนเทนท์อะไร
หลายเคสที่ผมได้Consultให้
ช่วงแรกจริงๆมันเป็นแบบนี้
และเป็นเกือบทุกเคส
และทุกคนก็ชอบถามผมว่า
ผมคิดคอนเทนท์ยังไง
ทำมาร่วม7ปีไม่เคยตัน
————
ผมก็เลยให้ทริคนึงไปกับเค้า
ที่ทำให้ผมไม่เคยคอนเทนต์ตันเลย
ตลอด7ปี
คือ...
“เลิกคิดคอนไปเลย”
“ไม่ต้องคิดคอนเทนท์”
เพราะถ้าคุณคิดว่า
คุณจะทำContentอะไรดี?
คุณกำลังนึกถึงตัวคุณเป็นหลัก
พอทำออกมา
มันก็มาจากการคิดเองเออเอง
ตอบโจทย์ตัวเอง
แต่ไม่ได้ตอบโจทย์ลูกค้า
และสิ่งคุณต้องไปทำคือ
“ไปหามาว่า
ลูกค้าคุณมีปัญหาอะไร”
เคเาไม่รู้อะไร?
ไม่เข้าใจอะไร?
——
หลายคนตอบผมว่า
ไม่รู้ว่าจะไปรู้สิ่งนั้นได้ยังไง?
หลายคนเป็นเจ้าของกิจการ
มีลูกน้องยืนขายหน้าร้าน
มีลูกน้องตอบinboxแทน!
ผมเลยบอกเค้าว่า
1สัปดาห์หลังจากนี้
คุณไปเลย
คุณไปตอบinboxแทนลูกน้อง
"แล้วคุณจะรู้ว่าลูกค้าคุณไม่รู้อะไรบ้าง"
"มีปัญหาอะไรบ้าง"
แล้วจดเอาสิ่งนั้นมาทำContent
ตามหลักในคลาส
ผลปรากฏว่ามีหลายเคสเลย
ที่หายไปจากผม
จนผมต้องให้ทักไปถามว่าเป็นยังไง
"คำตอบของเค้าคือ
ที่หายไปคือ
กำลังสนุกกับยอดขายที่เข้ามา"
———
ผมถามเค้าว่า...
แล้วเรื่องคอนเทนท์ล่ะ?
เป็นไงบ้าง?
เค้าบอกว่าตั้งแต่ได้เข้าใจเรื่องนี้ไป
ไปทดลองตอบinboxแทนลูกน้อง1week
ก็พบว่า...
โอ้โห..
ปัญหามันมีเยอะมาก
"เค้าขายเสื้อผ้าจากเดิมที่ลงรูปลงราคาขาย"
พอเค้าได้ปัญหาจากลูกค้า
เช่นขนาดไซส์วัดยังไง
ตัวผอมตัวอ้วนใส่แล้วเป็นยังไง
บางคนก็กังวลเรื่องสีผิวกับสีเสื้อ
บางคนก็ไม่รู้ว่าชุดที่เค้าชอบ
ไม่เหมาะกับงานที่เค้าจะไป
และอีกเป็น10ปัญหา
ที่ทำคอนเทนท์ได้เป็นเดือนๆ
พอเค้าทำปุ๊บลูกค้าที่ทักเข้ามา
พร้อมซื้อเยอะกว่าเดิมมาก
และก็มีที่มาถามบ้างนิดหน่อย
ก็ตอบไปก็ขายได้
และก็เอาปัญหานั้น
มาทำเป็นคลิปแก้ให้เคสใหม่ๆอีก
ยอดขึ้นมาเยอะมากๆ
———
และพอเอามาทำตามสูตร 80-15-5
80 คอนเทนท์ความรู้
15 + 5 เทสติโมเนียลและPostขาย
จากในคลาสOnline Take Over
ยอดก็มาหลายแสนใน2week
ที่ผ่านมาหลังปรับ
และก็มีหลายเคสที่
เป็นเจ้าของธุรกิจที่อยู่ในiClass22
sale for non sale
"การขายสำหรับคนที่ไม่ใช่นักขาย"
ที่ได้เรียนชุดคำถามFF
ในการนำไปเจาะปัญหาลูกค้าในinboxด้วย
ผลปรากฏคือ
ได้เข้าใจปัญหาจริงๆที่ลูกค้าเป็น
และเมื่อเข้าใจรู้ปัญหาลูกค้าลึกขึ้น
ก็ได้Keyสำคัญมาทำคอนเทนท์ที่ลึกมากขึ้น
ผลคือ
เมื่อคอนเทนท์โดนใจลูกค้ามากขึ้น
ลูกค้าก็ทักมาเยอะขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
และแต่ละเคส
ลูกค้าก็ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
"และทักเข้ามาซื้อเลยเยอะขึ้น"
ก็กลายเป็นเสียเวลา
ตอบคำถามน้อยลงเยอะ
"ส่งผลให้ใช้เวลาในการขายน้อยลง
แต่ได้รายได้มากขึ้น"
พี่น้องหลายคน
ทำยอดไปหลักหลายล้านใน6เดือน
หลังจากทำสูตรนี้
————
สรุป...
1.ธุรกิจOffline ที่ มีชุดคำถามที่ดี
จะสามารถขายได้มากกว่า
คนขายที่รอตั้งรับอย่างเดียว
2.คนที่ทำOffline แล้วมาทำOnline
ที่ติดปัญหาเรื่องไม่โต
ส่วนใหญ่เพราะ
"ขึ้นมาทำเพจแบบขายตรงๆ"
ซึ่งนั้นเป็นเรื่องปกติ
เพราะส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะ
เคยชินกับการทำแบบข้อ1คือ
"เมื่อก่อนเคยเน้นตั้งรับ
รอการถามจากลูกค้า"
3.แต่ถ้าอยากโตในOnline
ต้องคิดกลับด้านคือ
คนส่วนใหญ่
จะไม่ชอบซื้อกับคนที่ขายอย่างเดียว
เพราะ social
อย่างFacebook
คนมาเล่น
ไม่ได้คิดจะมาซื้อเป็นหลัก
เหมือนเดินเข้าไปร้านเรา
และถ้าเค้าอยากได้มากๆ
เค้าก็ไปซื้อนานแล้ว
ไม่มาชอบอยู่ในFacebookหรอก
เพราะฉะนั้นลูกค้าส่วนใหญ่
ก็จะอยู่process กำลังตัดสินใจ
หรือมีโน้มว่าอยากได้
อยากจะซื้อ
"มากกว่าเดือนร้อนที่จะต้องได้ตอนนี้เดี๋ยวนี่"
น่าจะพอเห็นภาพกัน
เพราะฉะนั้นเพจขายอย่างเดียวโต้ง
มันเลยไม่work
เท่ากับเพจที่อำนวยคำสะดวก
มีคอนเทนท์ดีๆที่แก้ปัญหาให้ลูกค้าในเพจ
ถ้าเค้าจะเลือกทักinboxถาม
เค้าจะเลือกถามเพจคนที่เค้าคิดว่า
จะแก้ปัญหาให้เค้าได้
มากกว่าเพจ
ที่มีแต่ขายดื้อๆ
4.เมื่อพี่น้องส่วนใหญ่รู้แล้วว่าเพจขายอย่างเดียว
ไม่ค่อยได้ผล
ต้องให้ความรู้
ปัญหาต่อมาคือ
ก็ไม่รู้ว่าจะทำContentยังไง?
คิดContentไม่ออก?
5.Keyคือ
อย่างที่ผมเน้น
ต้องเลิกคิดคอนเทนท์
วิธีที่ง่ายที่สุดคือ...
“เอาเวลาไปหาปัญหา”
ว่าลูกค้าอยากรู้อะไร
เพราะเราไม่ได้ทำคอนเทนท์
เพื่อตอบโจทย์ตัวเอง
มันตั้งต้นจากตัวเราไม่ได้
เราต้องตอบโจทย์ปัญหาลูกค้า
เพราะฉะนั้น
"มันต้องตั้งต้นจากปัญหาของลูกค้าเรา"
ปัญหา=ขุมทรัพย์
6.และขุมทรัพย์อยู่ใกล้ตัวเรา
นั่นคือหน้าร้าน
หรือinbox
"เอาปัญหาที่ลูกค้าคุณถาม
นำมันมาเป็น Content
แก้ปัญหาให้ลูกค้าคนต่อไป"
หวังว่าบทความนี้
จะมีประโยชน์
และช่วยพี่น้อง
ที่มาจากOffline
ให้ขึ้นมาขายดีทางOnline
เหมือนกับพี่ๆน้อง
หลายๆเคสที่รู้เรื่องนี้ไปก่อนหน้า
ก็ถ้าชอบก็อย่าลืมกดLike
หรือ Commentบอกกัน
แล้วก็ถ้ารักใคร
มีเพื่อนที่กำลังทำธุรกิจอยู่
ก็อย่าลืมแชร์ให้กับเค้า
เพื่อทุ่นเวลาซึ่งกันและกัน
เพื่อเติบโตไปพร้อมๆกัน
ลุยครับ
A10(เอเท็น)
ไปไม่เป็น 在 ืNANAKE555 Youtube 的最佳解答
มือใหม่หัดรัก ต้องดูคลิปนี้!!!
ไปไม่เป็น 在 ืNANAKE555 Youtube 的精選貼文
ปัญหาระดับชาติ หัวไม่ปอก
บางทีปอกได้เองแค่กลั้นใจ
แต่บางทีอาจจะถึงขั้นต้องพบหมอ
ไปไม่เป็น 在 Pu Pongsit Official Youtube 的精選貼文
#รู้อยู่ #พงษ์สิทธิ์ #คำภีร์ บทเพลงที่บรรยายความรู้สึกเจ็บปวดของคนอกหักได้อย่างรวดร้าว จากอัลบั้ม สุดใจฝัน ของปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ เจ้าพ่อเพลงรักเพื่อชีวิต
Remastered by Woody Pornpitaksuk @Westside Mastering
เนื้อเพลง
ฉันรู้อยู่ ฉันเห็นอยู่
ได้ยินอยู่ ได้ฟังอยู่ ฉันเข้าใจ
ไม่ร่ำไร เรียกร้องใด
ต้องการใด แค่ทำใจ เท่านั้น
เนิ่นนานพอรู้อยู่ ดูเธอจากอาการ
เริ่มระราน ไม่สนความรู้สึกของกัน
มีคำตอบ ไม่ยื้อหรอก
ไม่แกล้งหรอก จะหันออก อย่างชอกช้ำ
ทุกน้ำคำ วจีกรรม
ฉันยังจำ จะเก็บงำแต่สิ่งงาม
สะท้านใจคน มึนงง ซมซาน
เก็บอาการ ยิ้มชื่นบาน สุขนอกช้ำใน
ไปไม่เป็น โคลงเคลงตั้งนาน
เลขที่บ้านก็ลืม เดินล้มๆ ลื่นๆ
เบลอเงอะๆ งะๆ วูบวาบอยากตาย
ขนาดว่ารู้ดี เตรียมตัวทีเป็นเดือน
ยังฝืดเฝื่อน ยังจืดเจื่อน ตอนเธอบอกลา
ไปไม่เป็น โคลงเคลงตั้งนาน
เลขที่บ้านก็ลืม เดินล้มๆ ลื่นๆ
เบลอเงอะๆ งะๆ วูบวาบอยากตาย
ขนาดว่ารู้ดี เตรียมตัวทีเป็นเดือน
ยังฝืดเฝื่อน ยังจืดเจื่อน ตอนเธอบอกลา
ฉันรู้อยู่ ฉันเห็นอยู่
ได้ยินอยู่ ได้ฟังอยู่ ฉันเข้าใจ
ไม่ร่ำไร เรียกร้องใด
ต้องการใด แค่ทำใจเท่านั้น
http://www.facebook.com/pupongsitofficial
http://www.facebook.com/warnermusicthailand