เศรษฐกิจไทย จะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิม ถ้าการท่องเที่ยวไม่ฟื้น /โดย ลงทุนแมน
เป็นเวลาเกือบ 2 ปีแล้ว ที่โควิด 19 สร้างปัญหาให้กับเศรษฐกิจโลก
หลายอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบอย่างหนัก
โดยเฉพาะอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่มาจนถึงวันนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับไปเหมือนเดิมได้ง่าย ๆ
สำหรับภาคการท่องเที่ยวของไทยนั้น
แม้ว่าหลายฝ่ายจะพยายามกระตุ้นให้ผู้คนกลับมาท่องเที่ยว แต่คงยังไม่มีใครสามารถบอกได้ชัดว่า สถานการณ์จะกลับไปในระดับเดิม ก่อนวิกฤติครั้งนี้ ได้เมื่อไร
คำถามก็คือ แล้วมีแนวทางอะไรบ้าง ที่จะทำให้การท่องเที่ยวของไทย กลับมาเหมือนเดิม
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เพื่อให้เห็นภาพรวมกันชัด ๆ เราลองมาดูภาพรวมการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
ผ่านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะเกิดการระบาดของโควิด 19
ปี 2009 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 14 ล้านคน
รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 0.5 ล้านล้านบาท
ปี 2019 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน
รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท
เราจะเห็นว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปี 2019 คิดเป็นเกือบ 3 เท่า ของปี 2009 ขณะที่รายได้ก็คิดเป็นเกือบ 4 เท่า
ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนได้ว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทยช่วงที่ผ่านมา มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้นมาเรื่อย ๆ
และถ้าลองมาดูสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เทียบ GDP ของไทย
- ปี 2009 สัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ คิดเป็นประมาณ 6% ของ GDP ไทย
- ปี 2019 สัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ คิดเป็นประมาณ 11% ของ GDP ไทย
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เติบโต ยังทำให้มีการจ้างงานในภาคนี้รวมกันกว่า 7.5 ล้านคน หรือประมาณ 20% ของแรงงานในระบบ
ซึ่งแรงงานดังกล่าวเกี่ยวข้องกับธุรกิจจำนวนมาก เช่น โรงแรม, ร้านอาหาร, ร้านขายของที่ระลึก, ร้านสปาและนวด, การขนส่ง
โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในช่วงที่ผ่านมาเติบโตได้ดี ก็มีหลายปัจจัย เช่น
- รายได้ที่เพิ่มขึ้นของชนชั้นกลางในจีนและอินเดีย และความนิยมเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งมีไทยเป็นหนึ่งในจุดหมาย
- สถานที่ท่องเที่ยวของไทยที่มีชื่อเสียงในสายตาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
อย่างไรก็ตาม แม้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จนกลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย แต่อีกมุมหนึ่งก็ยังมีความท้าทายบางอย่างซ่อนอยู่ เช่น
- ไทยพึ่งพานักท่องเที่ยวหลักไม่กี่สัญชาติ
ในปี 2019 ประมาณ 28% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดเป็นชาวจีน ซึ่งการพึ่งพานักท่องเที่ยวชาติใดชาติหนึ่งมากเกินไป ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้นได้
โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่มากระทบกับนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว เช่น อุบัติเหตุเรือล่ม และการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงในช่วงเวลานั้น และกระทบกับรายได้การท่องเที่ยวของไทยไม่น้อย
- แหล่งท่องเที่ยวกระจุกตัวอยู่ไม่กี่แห่ง ไม่กี่จังหวัด
ในปี 2018 กรุงเทพมหานคร ชลบุรี และภูเก็ต 3 จังหวัดนี้มีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมกัน คิดเป็น 65% ของรายได้จากภาคการท่องเที่ยวทั้งประเทศ สะท้อนได้ว่า รายได้จากการท่องเที่ยวของไทย ยังกระจุกตัวอยู่ในบางพื้นที่เท่านั้น
- การเติบโตของรายได้จากภาคการท่องเที่ยว มีน้ำหนักไปที่จำนวนนักท่องเที่ยว มากกว่าด้านราคา
มากกว่า 85% ของนักท่องเที่ยวเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวรายได้ปานกลางถึงต่ำ และเพียง 15% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวรายได้สูง หรือพูดง่าย ๆ ว่า การเติบโตของรายได้ภาคการท่องเที่ยวของไทยนั้น “เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ”
- ขีดจำกัดทางด้านโครงสร้างพื้นฐานและแหล่งท่องเที่ยว
อ้างอิงสถิติจากธนาคารแห่งประเทศไทย แม้ว่าประเทศไทยจะมีการลงทุนปรับปรุงสถานที่ท่องเที่ยวและระบบการคมนาคม เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวกว่า 13% ของรายได้จากการท่องเที่ยว
แต่ตัวเลขนี้ก็ยังถือว่าน้อยกว่า ฟิลิปปินส์และมาเลเซียที่มีสัดส่วนที่ 21% และ 27% ตามลำดับ
แม้หลายคนจะรับรู้ปัญหาที่ว่ามานี้ แต่เนื่องจากรายได้จากการท่องเที่ยวในภาพรวมยังเติบโต ทำให้หลายคนอาจมองข้ามปัญหาเหล่านี้ไป
จนกระทั่งการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเกือบทั้งหมด ไม่สามารถเดินทางมาไทยได้
ในปี 2020 นักท่องเที่ยวต่างชาติลดลงเหลือเพียง 6.7 ล้านคน
ขณะที่ 7 เดือนแรกของปี 2021 ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติอยู่ที่ประมาณ 58,000 คน ซึ่งถือว่าน้อยมาก
คำถามคือ จากปัญหาเหล่านี้ที่เราเห็น ถ้าอยากให้อนาคตการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวกลับมา และเติบโตได้อย่างยั่งยืนมากขึ้น จะมีแนวทางไหนบ้าง ?
แนวทางเบื้องต้นที่น่าจะช่วยได้ก็อย่างเช่น
- เน้นดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวรายได้สูงให้มากขึ้น
อ้างอิงจากผลสำรวจของธนาคารแห่งประเทศไทยร่วมกับ Visa ปี 2019 ค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวที่มาประเทศไทยอยู่ที่เฉลี่ยคนละ 48,000 บาท
ซึ่งถ้าเรามองว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจะยังไม่กลับมาในระดับเดิม เช่น จากที่เคยมากถึง 40 ล้านคน อาจเหลือเพียง 24 ล้านคน ในช่วงหนึ่งถึงสองปีข้างหน้า
หากลองสมมติว่า ประเทศไทยยังต้องการรายได้จากการท่องเที่ยวเท่าเดิมที่ 1.9 ล้านล้านบาท สิ่งที่ต้องทำก็คือ ต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวให้อยู่ที่เฉลี่ยคนละ 80,000 บาท
โดยวิธีที่จะเพิ่มรายได้ต่อหัวของนักท่องเที่ยวได้ ก็อย่างเช่น
อาจต้องหันมาเน้นกลุ่มนักท่องเที่ยวรายได้สูง เช่น กลุ่ม Medical & Wellness Tourism ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีค่าใช้จ่ายต่อทริปสูงถึงประมาณเฉลี่ย 80,000-120,000 บาทต่อคน
รวมไปถึงต้องพยายามดึงดูดกลุ่มนักลงทุน และพนักงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในเมืองไทย ซึ่งนับเป็นอีกกลุ่มศักยภาพที่ใช้จ่ายสูง
- ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเมืองรอง และกระตุ้นให้มีการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
ประเทศไทยควรลงทุนในระบบสาธารณูปโภค โครงสร้างพื้นฐาน สำหรับเชื่อมระหว่างเมืองหลักและเมืองรอง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว ให้สามารถเดินทางไปแหล่งท่องเที่ยวให้มากกว่าเดิม
และพยายามกระตุ้นการท่องเที่ยวให้ไม่จำกัดเพียงแค่ช่วงฤดูท่องเที่ยว ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยกระจายรายได้ไปยังจังหวัดอื่น ๆ แต่ยังช่วยลดความแออัดของนักท่องเที่ยวในเมืองหลักในยามที่นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา
แน่นอนว่ายังมีสิ่งอื่น ๆ อีกมากที่จำเป็นต้องเร่งพัฒนา และยกระดับเพื่อให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาแรงงานที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ให้มีทักษะการสื่อสาร การใช้เทคโนโลยี ที่สามารถอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติมากขึ้น
รวมไปถึงการที่ภาครัฐต้องสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย
สร้างจิตสำนึกไม่ให้เอาเปรียบนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมทั้งจัดการผู้ที่ทำผิดและฝ่าฝืนกฎระเบียบจนสร้างความเสียหายให้แก่ภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยในสายตาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
อีกเรื่องที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ ก็คงไม่พ้น
การสร้างภูมิคุ้มกันโดยการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรมากที่สุด
และต้องประเมินการเปิดประเทศและกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้ดี
เพราะสุดท้ายแล้ว คงต้องยอมรับว่า เศรษฐกิจไทยจะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมได้ ถ้าการท่องเที่ยว ไม่ฟื้นตัวกลับมา..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.mots.go.th/more_news_new.php?cid=411
-https://www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublications/articles/Pages/Article_29Oct2019.aspx
-https://data.worldbank.org/indicator/NY.GDP.MKTP.CD?locations=TH
-https://www.bot.or.th/Thai/MonetaryPolicy/EconomicConditions/AAA/27062021_RevitalisingThailandTourism.pdf
-https://en.wikipedia.org/wiki/Tourism_in_Thailand
-https://www.bot.or.th/Thai/ResearchAndPublications/articles/Pages/Article_18Aug2021.aspx
同時也有82部Youtube影片,追蹤數超過11萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Youtube影片中提到,ภาวะที่เรียกว่า “Stagflation” หรือ ภาวะที่เศรษฐกิจถดถอย แต่ราคาสินค้ากลับแพงขึ้น กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยหรือไม่? ความเป็นไปได้ของเรื่องนี้ มีมากขนาดไ...
「เศรษฐกิจไทย」的推薦目錄:
- 關於เศรษฐกิจไทย 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於เศรษฐกิจไทย 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於เศรษฐกิจไทย 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於เศรษฐกิจไทย 在 ลงทุนแมน Youtube 的精選貼文
- 關於เศรษฐกิจไทย 在 ลงทุนแมน Youtube 的精選貼文
- 關於เศรษฐกิจไทย 在 LDA World Youtube 的精選貼文
- 關於เศรษฐกิจไทย 在 รัฐบาลใหม่ต้องมีกึ๋นเข้าใจโลก แก้เกมเศรษฐกิจไทยถูกเพื่อนบ้านแซง 的評價
- 關於เศรษฐกิจไทย 在 ทิศทางเศรษฐกิจโลก - โอกาสเศรษฐกิจไทย ปี 2023 | เศรษฐกิจติดบ้าน 的評價
- 關於เศรษฐกิจไทย 在 Thai PBS world วิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในศักราชใหม่ 的評價
- 關於เศรษฐกิจไทย 在 Thailand Trade and Economic Office - TTEO | Taipei - Facebook 的評價
- 關於เศรษฐกิจไทย 在 สัมมนา "ทิศทางเศรษฐกิจไทยในปีเลือกตั้ง 2562" โดยสมาคมนิสิตเก่า ... 的評價
เศรษฐกิจไทย 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
สรุปประเด็นสำคัญจากงาน Thailand Focus 2021 /โดย ลงทุนแมน
ผู้นำภาครัฐและเอกชน มองและปรับตัวอย่างไร ในยุคหลังโควิด
วันนี้ทาง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้จัดงาน Thailand Focus 2021 ที่จะมาพูดคุยกันในเรื่อง “Thriving in the Next Normal” ที่จะครอบคลุมตั้งแต่ประเด็นเกี่ยวกับ การรับมือกับสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา, การปรับตัวในช่วงหลังโควิด ไปจนถึงความสำคัญของการทำธุรกิจแบบยั่งยืน
โดยมีแขกรับเชิญ จากทางฝั่งภาครัฐ และนักธุรกิจแนวหน้าของเมืองไทย ที่จะมาแบ่งปันมุมมอง, ประสบการณ์ และการปรับตัว เพื่อรองรับ Next Normal ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งจะแบ่งหัวข้อย่อย ออกเป็น 6 หัวข้อด้วยกัน
แล้วมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง ? ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง..
1. หัวข้อ Shaping Thailand’s Readiness for Post COVID-19 Economic Opportunities
โดย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
โดยกล่าวถึงการสร้างความพร้อมประเทศไทย สู่โอกาสทางเศรษฐกิจหลังโควิด 19
สำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทางรัฐบาลมีแผนที่จะสนับสนุนการเปิดเศรษฐกิจหลายด้าน เช่น
- เดินหน้าลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ ถนน, ทางรถไฟ, การบิน และพลังงานสะอาด
- ลดก๊าซเรือนกระจก สนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และออกพันธบัตรที่สนับสนุนการเติบโตแบบยั่งยืน
- สนับสนุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น ศูนย์ข้อมูลและดิจิทัล, สมาร์ทอิเล็กทรอนิกส์ และชีวเคมี
- สถานที่สำหรับการระดมทุน ที่โปร่งใส เท่าเทียม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
ซึ่ง LiVE Platformคือหนึ่งในโปรเจกต์ที่ประสบความสำเร็จมาก ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเป็นตัวกลางที่จะช่วยให้ SME และ Startup เข้าถึงแหล่งเงินทุน
2. หัวข้อ From Resiliency to Recovery and Beyond : Central Bank Policies for an Uncertain World
โดย ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ให้มุมมองที่น่าสนใจไว้ 3 ประเด็น
1) ภาพรวมเศรษฐกิจไทย
เศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวจากพิษโควิดได้ช้า และไม่สม่ำเสมอ เพราะว่าภาคการท่องเที่ยว ที่คิดเป็น 11% ของ GDP มีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าภาคเศรษฐกิจอื่น รวมถึงภาคการบริการอื่น ๆ ที่ยังฟื้นตัวได้ไม่เต็มที่
อีกทั้งการระบาดของโควิดระลอก 3 และการกระจายวัคซีนที่ช้ากว่าประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังคงมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เนื่องจากมีทุนสำรองระหว่างประเทศ อยู่ในกลุ่มที่สูงที่สุดในโลก ในขณะที่หนี้ต่างประเทศ ยังอยู่ในระดับต่ำ
2) สิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการเพื่อตอบสนองต่อวิกฤติ
ซึ่งเน้นใช้วิธีที่ยืดหยุ่นและปฏิบัติได้จริง เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น
3) สิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทย จะดำเนินการต่อไปในอนาคต
ในระยะสั้น ทาง ธปท. ต้องการผลักดันให้ธนาคาร หันมาใช้มาตรการปรับโครงสร้างหนี้กันมากขึ้น โดย ได้อำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ เพื่อจูงใจให้ธนาคารหันมาใช้มาตรการนี้
ส่วนในระยะยาว ทาง ธปท. อยากให้โลกหลังโควิด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งประเทศไทย ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวให้เห็นกันบ้างแล้ว เรื่องของความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม
ทาง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เริ่มมีการจัดอันดับบริษัทที่ทำธุรกิจอย่างยั่งยืน หรือ ESG Index
3. หัวข้อ Living in Next Normal : COVID-19 Lessons Learned and Future Directions
ตอนนี้การระบาดในประเทศไทยได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว การติดเชื้อของผู้คนชะลอตัวลง และอัตราการเสียชีวิต ก็เริ่มเห็นสัญญาณการลดตัวลงอย่างเห็นได้ชัด จากการกระจายวัคซีน
ตอนนี้ประมาณ 30% ของคนไทยได้รับวัคซีนเข็มแรก และประมาณ 10% ได้รับเข็มสองไปเป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งคาดว่า ภูมิคุ้มกันหมู่ จะสามารถเกิดขึ้นได้ภายใน 4 เดือนข้างหน้า
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจไทยปีที่แล้วนั้น อยู่ในจุดที่ต่ำแล้ว
ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยได้รับแรงหนุนจากการส่งออกสินค้าที่แข็งแกร่ง
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทำได้ดีกว่าคาด ใน 1-2 ไตรมาสแรกของปีนี้ การส่งออกเป็นตัวช่วยในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจของประเทศไทย ทำให้สามารถเติบโตได้ 7.5% ในช่วงครึ่งปีแรก มากกว่าที่ตลาดวิเคราะห์ไว้ที่ 6.4%
โมเมนตัมการเติบโตน่าจะแข็งแกร่งในปีหน้า ด้วยโครงการ การกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
นักลงทุนควรมองข้ามสถานการณ์โควิด ซึ่งรัฐบาลคาดว่า เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเต็มที่ภายในปีหน้า
และอีกปัจจัยหลักในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย คือ การที่คนทั่วโลกได้รับวัคซีนเร็วที่สุด ไทยจึงสามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวได้เหมือนเคย
4. หัวข้อ How Thai Business Adapt to Current Crisis
ระบบธนาคารต้องปรับตัวอย่างมาก โดยให้ความสำคัญด้านสุขภาพและความปลอดภัยต่อบุคลากรและลูกค้า ซึ่งธนาคารบางสาขาถูกปิดทำการชั่วคราว และให้บุคลากร Work From Home (WFH)
จึงใช้ช่องทางออนไลน์เป็นหลักในการทำงาน และได้เพิ่มทางเลือกการทำธุรกรรมใหม่ เช่น Website, E-Marketplace และ Social Media เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน
รวมถึงการให้กู้ยืมเงินทุนหมุนเวียน ให้ทุกธุรกิจก้าวข้ามผ่านปัญหาเศรษฐกิจครั้งนี้
สำหรับ SCG ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งทางบริษัทก็ได้มีการปรับตัวมาโดยตลอด เริ่มตั้งแต่การปรับให้พนักงานมาทำงานแบบ WFH หรือการแบ่งพนักงานโรงงาน ออกเป็นสองกลุ่ม เพื่อลดความเสี่ยงการระบาด
การปรับผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น โดยการสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภค อย่างเช่น การ WFH ทำให้คนหันมาปรับปรุงบ้านมากขึ้น ก็ได้มีการบริการด้านการปรับปรุงตกแต่งบ้านเพิ่มเข้าไปด้วย
ส่วนในอนาคต ทาง SCG ก็พยายามเน้นในเรื่องของนวัตกรรมให้มากขึ้น และจะหันไปพัฒนาด้านอีคอมเมิร์ซสำหรับธุรกิจก่อสร้าง โดยจะยังคงให้ความสำคัญในเรื่องของความยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ส่วนกลุ่มธุรกิจในเครือ CRC นั้นได้รับผลกระทบหลายภาคส่วน ตั้งแต่ภาคการโรงแรม, รีเทล และอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทก็ได้เริ่มปรับตัวมาตั้งแต่ช่วงปี 2017 ที่เริ่มให้ความสำคัญกับธุรกรรมออนไลน์มากขึ้น โดยมีการพัฒนาส่วนของ Omni Channel ที่เชื่อมประสบการณ์ช็อปปิงออฟไลน์และออนไลน์เข้าด้วยกัน
ทั้งนี้ การจะฝ่าวิกฤติไปได้ หลายฝ่ายต้องช่วยกัน ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ
อย่างตัวซัปพลายเออร์ของทางเซ็นทรัล รีเทลเอง ก็ต้องไปจับมือกับธนาคารเพื่อเข้าไปช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง
ซึ่งเชื่อว่าหลังโควิด ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับ 3 สิ่งมากขึ้น คือ สุขภาพ, ประสบการณ์ และความยั่งยืน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเริ่มมีการรีเซตกลยุทธ์ทางธุรกิจใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เข้ากับธีมเหล่านี้มากขึ้น
5. หัวข้อ Thailand Innovative Business
- aCommerce นั้นอยากที่จะเป็นผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งในอาเซียน
โดยบริษัทเป็นผู้ให้บริการ ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน ตั้งแต่การจัดการ การตลาด ไปถึงโลจิสติกส์ แก่ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซ เช่น ร้านค้า
ซึ่งการที่เราจะประสบความสำเร็จในธุรกิจได้ เราต้องมีวิสัยทัศน์ที่ไกล และมีทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่ง
บริษัทควรสร้างผลิตภัณฑ์ที่สามารถเติบโต และเป็นที่ต้องการของประชากรในประเทศนั้น
รวมถึงต้องมีการตัดสินใจให้ทันกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อย่างเด็ดขาด
ที่สำคัญในประเทศไทย มีบริษัทชั้นนำที่เกี่ยวข้องกับอีคอมเมิร์ซ เข้ามาลงทุนเยอะมาก เช่น JD, Lazada
ทำให้บริษัทสามารถสร้างพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจกับบริษัทเหล่านี้ได้
- NR Instant Produce คือบริษัทอาหาร ที่ผลิตอาหารและส่วนผสม ที่มีโปรตีนเป็นส่วนประกอบ
การผลิตอาหารของบริษัทนั้น ได้ลดการปล่อยคาร์บอนฯ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ซึ่งบริษัทเน้นย้ำในแนวคิด ESG ที่ส่งผลเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม, สังคม และธรรมาภิบาลที่ดี
บริษัทประสบความสำเร็จในการดำเนินการได้ เพราะมีทีมผู้บริหารที่แข็งแกร่ง
มีผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจน และเรามีนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อทำให้สินค้าของเราแตกต่างจากคู่แข่ง
- Pomelo Fashion เป็นแพลตฟอร์มแฟชั่นดิจิทัล ชั้นนำในอาเซียน
บริษัทให้บริการด้าน Omni Channel สำหรับลูกค้า และมีสินค้าให้เลือกมากกว่า 37,000 รายการ
กุญแจสำคัญที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ คือ เรารู้ว่าทุกภาคส่วน จะต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัล ซึ่งแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ก็คือหนึ่งในอุตสาหกรรมที่จะเติบโตได้อีกมาก
โดยการประสบความสำเร็จในธุรกิจได้ เราต้องเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในด้านนี้มาก่อน
ถ้าเราเรียนรู้ข้อผิดพลาดของเขาได้ เราจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ซึ่งเมืองไทยมีพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่สำคัญเยอะมาก เช่น บริษัทเซ็นทรัล ที่มาเป็นพาร์ตเนอร์กับทางบริษัท
การมีพาร์ตเนอร์ดี ๆ จะทำให้เราเรียนรู้ระบบจากเขาได้
ทั้งนี้ ประเทศไทยควรเน้นเรื่องการวิจัยและพัฒนา โดยสอนเด็กรุ่นใหม่ เรื่องการเปลี่ยนแปลงทางด้านดิจิทัล เพราะเมืองไทยยังขาดคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอที ซึ่งส่วนนี้อาจทำให้เราสู้ประเทศคู่แข่งไม่ได้
- YGGDrazil Group เป็นผู้ให้บริการเอฟเฟกต์ภาพเสมือนจริงแก่ผู้ให้บริการเกมออนไลน์
และบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับ Virtual Production หรือการผสมกันระหว่าง Live Footage และภาพ Digital เพื่อสร้างคอนเทนต์แบบเรียลไทม์
สำหรับองค์ประกอบสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรม คือ การมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และมีพันธกิจที่แข็งแกร่ง
การสื่อสารระหว่างผู้บริหารและผู้ร่วมทุน เป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดำเนินงานให้ประสบความสำเร็จ
ซึ่งบริษัทควรสร้างวัฒนธรรมของคนในองค์กร ที่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ หากต้องการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมภายในประเทศ
ภาครัฐ ควรเพิ่มมาตรการช่วยเหลือเหล่า SME และ Startup ให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
และอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจในด้านต่าง ๆ
6. หัวข้อ Accelerating Sustainable Investing in Thai Capital Market
ในมุมมองของนักลงทุนสถาบัน อย่าง กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.)
ESG นั้นถือเป็นปัจจัยสำคัญในการคัดเลือกการลงทุน แต่ก็ต้องคำนึงถึงทั้งด้านความเสี่ยงและผลตอบแทน
บางครั้งบริษัทที่มีคะแนน ESG ดี ก็ไม่ได้หมายความว่า จะสร้างผลตอบแทนได้ดี
ดังนั้น เราต้องเน้นในเรื่องการเข้าไปทำ Due Diligence อย่างละเอียด และคอยติดตามว่าบริษัทนั้น ได้ทำ ESG อย่างจริงจังแค่ไหน
ส่วนในมุมของธุรกิจและองค์กรเอง ในเวลานี้ก็ได้มีการปรับตัวเข้าหา ESG กันมากขึ้น
อย่าง PTTGC ที่เป็นบริษัทด้านเคมีภัณฑ์ ที่ได้ปรับมาใช้แนวทาง ESG และกำลัง Perform ได้ดี
ก็ได้ตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยคาร์บอนฯ ให้เหลือ 0% ภายในปี 2050 โดยเน้นที่การปรับกลยุทธ์ทั้งระบบ รวมไปถึงการกระจายการลงทุน ไปยังผลิตภัณฑ์ที่ผลิตคาร์บอนฯ ในปริมาณต่ำ
สำหรับธุรกิจธนาคาร ESG นั้นก็หมายถึง จรรยาบรรณในการประกอบธุรกิจด้วย
แน่นอนว่าการทำธุรกิจต้องคำนึงถึงทั้งสองฝ่าย คือผู้ถือหุ้น และลูกค้า
ซึ่งทาง TTB ก็ได้เน้นในเรื่อง Financial Well Being หรือ การสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีให้กับลูกค้า โดยให้ความสำคัญในการพัฒนาชีวิตด้านการเงินของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น
สุดท้ายนี้ การทำ ESG Report เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะไม่ใช่แค่เรื่องของความโปร่งใส หรือการบอกให้คนรู้
แต่การแบ่งปันข้อมูลจะช่วยให้บริษัทอื่น ๆ ได้เรียนรู้และพัฒนาไปพร้อม ๆ กันด้วย
ซึ่งเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่ใหม่ และหลายฝ่ายยังต้องปรับปรุงไปพร้อม ๆ กัน
ส่วนอนาคตของ ESG ยังมีแนวโน้มไปในทางที่ดี และควรที่จะทำให้อยู่ในกระบวนการดำเนินงานของบริษัทจริง ๆ เพราะการทำ ESG ไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่ยังทำให้การทำงานมีความหมาย
สร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้น และยังทำให้โลกดีขึ้นด้วย
และนี่ก็คือการสรุปเนื้อหาจากงาน Thailand Focus 2021 ที่ได้พูดคุยกันในเรื่อง “Thriving in the Next Normal” ซึ่งเราก็น่าจะได้รับข้อมูล และมุมมองที่น่าสนใจจาก ผู้นำภาครัฐและเอกชน หลายองค์กร โดยเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการรับมือกับสถานการณ์โควิด เตรียมพร้อมปรับตัวในช่วงหลังโควิด และได้แนวคิดในการทำธุรกิจได้แบบยั่งยืน ในอนาคต..
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ดู Presentation และชม Clip ย้อนหลังได้ที่ www.set.or.th/thailandfocus
เศรษฐกิจไทย 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
วัคซีนกับโอกาสในการฟื้นตัวระบบเศรษฐกิจไทย
KRUNGSRI EXCLUSIVE X ลงทุนแมน
ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 ยังสูงต่อเนื่อง วัคซีนก็ยังกระจายไม่ทั่วถึง
ปัญหานี้ ได้สร้างหนึ่งคำถามที่หลายคนอยากรู้คำตอบ มากที่สุด
ก็คือเวลานี้ เศรษฐกิจไทย อยู่ในช่วงวิกฤติแล้วหรือยัง
ทิศทางต่อจากนี้ไป ระบบเศรษฐกิจไทย จะแก้เกมด้วยวิธีไหน
แล้วบริษัทขนาดใหญ่จนถึง SME จำเป็นต้องปรับตัวอย่างไร
เป็นเรื่องที่หลายคน น่าจะอยากรู้คำตอบ
ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ ลงทุนแมน จึงได้เข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ที่ชื่อ
“วัคซีนความหวังฟื้นเศรษฐกิจไทย” โดยงานนี้จัดขึ้นโดย KRUNGSRI EXCLUSIVE
ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการกลุ่ม Wealth Management ของธนาคารกรุงศรีฯ
ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งด้านไลฟ์สไตล์และที่ปรึกษาการลงทุน
โดยงานสัมมนานี้ก็จะจัดขึ้นตลอดทุกสัปดาห์ ภายใต้งาน KRUNGSRI EXCLUSIVE 2021 Mid-Year Outlook Series
สำหรับหัวข้อ “วัคซีนความหวังฟื้นเศรษฐกิจไทย” ที่ ลงทุนแมน เข้าร่วมฟังนั้น
มีวิทยากรทรงคุณวุฒิอย่างคุณวิน พรหมแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัย นโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการพัฒนา และผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก
สถาบันวิจัย TDRI
แล้วการวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของเศรษฐกิจไทยต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร
ลงทุนแมน จะสรุปให้ฟัง อย่างเข้าใจง่าย ๆ
หากเปรียบประเทศไทยเป็นบ้านหลังนี้
ก็ต้องบอกว่า เวลานี้ลูกบ้านกำลังเผชิญปัญหาด้านสุขภาพกับการระบาดของโควิด 19
เมื่อวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกือบ 1 หมื่นคนต่อวัน
ขณะเดียวกันก็ต้องเจอปัญหากับไวรัสกลายพันธุ์อย่างสายพันธุ์เดลตา
ในขณะที่ตอนนี้ประเทศไทยมีอัตราการฉีดวัคซีนอยู่ราว ๆ 2.5 แสนโดสต่อวัน
จนถึงล่าสุด รัฐบาลได้มีมาตรการล็อกดาวน์
ซึ่งหากสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อเกินความคาดหมาย
ก็มีความเป็นไปได้สูง ที่ธุรกิจภาคการท่องเที่ยวและบริการจะค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมา
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ หากสมมติประเทศไทยฉีดวัคซีนได้เกิน 50% จากจำนวนประชากรทั้งหมด
หรือมากกว่านั้นเหมือนอย่าง สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ ในยุโรป
เชื่อหรือไม่ โควิด 19 ก็ยังอาจจะยังอยู่กับคนไทยต่อไป
แต่จะอยู่กันในรูปแบบไหน เป็นคำถามที่น่าสนใจเลยทีเดียว
คุณวิน พรหมแพทย์ ผู้บริหารของ กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ
ให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ
ประเทศในฝั่งยุโรป และ สหรัฐอเมริกา ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนคุณภาพเกินครึ่งของจำนวนประชากร
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะไม่ได้ลดลงมากนัก
แต่จำนวนคนเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตจากโควิด 19
ลดลงจากเดิมอย่างมากหากเทียบกับก่อนการฉีดวัคซีน
พอเป็นแบบนี้ ก็ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของคนในประเทศเกือบจะปรกติเหมือนเดิม
ภาคธุรกิจต่าง ๆ กลับมาเปิดให้บริการกันอีกครั้ง
ผลก็คือทำให้อัตราการเดินทางออกนอกบ้านของคนในประเทศเพิ่มสูงมากขึ้น
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนเกิดการระบาดของโควิด 19
เยอรมัน อัตราการเดินทางของคนติดลบ 10%
สหรัฐอเมริกา อัตราการเดินทางของคนติดลบ 20%
สเปน อัตราการเดินทางของคนติดลบ 15%
ส่วนประเทศไทยอยู่ที่ติดลบ 25%
โดย คุณวิน พรหมแพทย์ ก็เชื่อว่าช่วงปลายปีนี้หากการฉีดวัคซีนมีอัตราครอบคลุมจำนวนประชากร
ประเทศไทยก็อาจจะเหมือนประเทศเหล่านี้
คือแม้จำนวนผู้ติดเชื้ออาจจะยังสูง
แต่จำนวนคนเข้าโรงพยาบาลและอัตราการเสียชีวิตจะน้อยลงอย่างมาก
เพียงแต่ภาพนี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่นั้น
ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพวัคซีนในเมืองไทยว่าจะดีมากแค่ไหน ?
อย่างไรก็ตาม การระบาดที่รุนแรงในตอนนี้
ก็สร้างปัญหาการจับจ่ายใช้สอยในประเทศอย่างรุนแรง
โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้ปานกลางจนถึงล่าง ซึ่งคิดเป็นราว ๆ 70% ของระบบเศรษฐกิจไทย
ที่กำลังเผชิญปัญหากำลังซื้อที่อ่อนแอลง ทำให้ระบบเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจขาดสภาพคล่อง
ความน่าสนใจของประเด็นนี้ก็คือ ในสภาวะที่ภายในบ้านหลังใหญ่กำลังเผชิญกับวิกฤติ
แต่ภายนอกบ้านนั้น กลับมีแสงสว่าง เมื่อหลาย ๆ ประเทศกลับมาฟื้นตัว
ไม่ว่าจะเป็น จีน และสหรัฐอเมริกา 2 มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
รวมถึงหลาย ๆ ประเทศในแถบยุโรป
ที่ได้เร่งฉีดวัคซีนให้ประชากรในประเทศ จนทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อและอัตราการเสียชีวิตอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ผลลัพธ์ก็คือ เศรษฐกิจในประเทศเหล่านี้กำลังฟื้นตัวกลับมา
โดยภาคธุรกิจส่งออกของประเทศไทยก็ฉกฉวยแสงสว่างแห่งโอกาสนี้ได้ดีเลยทีเดียว
เพราะรู้หรือไม่ว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ภาคธุรกิจส่งออกเติบโตถึง 11%
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว
และเมื่อแนวโน้มดูสดใส เลยทำให้มีการคาดการณ์ว่าเมื่อถึงสิ้นปี พ.ศ. 2564
ภาคธุรกิจส่งออกน่าจะเติบโตกว่า 10%
ขณะเดียวกันเมื่อหลาย ๆ ประเทศฟื้นตัวกลับมา
นักลงทุนต่างชาติก็เริ่มกลับมามีแผนการลงทุนในประเทศไทย
อย่างเช่น ธุรกิจอะไหล่รถยนต์, สินค้า IT และชิ้นส่วนต่าง ๆ
ซึ่งในอนาคตก็น่าจะทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้นกว่าในเวลานี้
สรุปก็คือ แม้ประเทศไทยจะต้องเผชิญปัญหาด้านการจับจ่ายในประเทศอยู่ในขั้นต่ำ
แต่อีกมุมหนึ่งก็ยังมีโอกาสจากภาคการส่งออกและการลงทุน จากการฟื้นตัวของหลาย ๆ ประเทศ
หลายคนน่าจะเกิดคำถาม
สุดท้ายบทลงเอย เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเป็นอย่างไร
หากยังจำกันได้ในช่วงต้นปีก่อนเกิดการระบาดของโควิด 19 รอบ 3
หลายองค์กรคาดว่า GDP ของประเทศน่าจะเติบโต 3-4%
แต่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ตอนนี้ ทำให้ทางทีมวิจัย Krungsri Research
ประเมินว่า GDP ของประเทศไทยปีนี้เติบโตได้ดีที่สุดอยู่ที่ 1.20%
ถึงตรงนี้ สิ่งที่นักลงทุนหลายคนอยากรู้ก็คือ ในช่วงครึ่งปีหลัง
เราควรจะลงทุนอะไรดี
เรื่องนี้ คุณวิน พรหมแพทย์ ก็มีมุมมองที่น่าสนใจ
เวลานี้หากสังเกตจะพบว่า Bond Yield หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ซึ่งดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคาร อยู่พอสมควร
อีกทั้งความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ จึงนับเป็นการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยอายุพันธบัตรที่น่าลงทุนอยู่ในช่วง 3-5 ปี
นอกจากนี้ การลงทุนในหุ้นกู้เอกชน โดยเฉพาะในกลุ่มเรตติ้ง A นอกจากความเสี่ยงต่ำแล้วนั้น
รู้หรือไม่ ณ วันนี้ หุ้นกู้เรตติ้ง A ให้ผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
หากเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด 19
ดังนั้น จึงแนะนำให้พิจารณาเพิ่มการลงทุนใน “กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น-กลาง” ซึ่งมีความมั่นคงสูง
และคาดว่าให้ผลตอบแทนใกล้เคียงหรือดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร
สำหรับใครที่สนใจเข้าร่วมฟังสัมมนาออนไลน์ ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจและการลงทุน
ช่วงครึ่งปีหลังทาง KRUNGSRI EXCLUSIVE ได้เชิญวิทยากรชั้นนำมาให้ติดตามข้อมูลเชิงวิเคราะห์อย่างเข้มข้นตลอดเดือน ก.ค. นี้
โดยผู้สนใจสามารถเข้าร่วมรับชมสัมมนาพิเศษ ๆ แบบนี้
แค่ลงทะเบียนที่ https://bit.ly/3h8MKqq (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
20 ก.ค. 64
แนะทิศทางการจัดพอร์ตครึ่งปีหลัง ต้อนรับการเปิดประเทศ กับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการลงทุนระดับแนวหน้าจาก ธ.กรุงศรีฯ บล.กรุงศรี และบลจ.กรุงศรี
29 ก.ค. 64
อัปเดตแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน Environmental, Social, Governance หรือ ESG ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ถือเป็นเทรนด์ที่ร้อนแรงและน่าจับตาในมุมมองนักลงทุนและสถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลก โดยวิทยากรระดับแนวหน้าจาก ธ.กรุงศรีฯ และ BlackRock บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำของโลก
เศรษฐกิจไทย 在 ลงทุนแมน Youtube 的精選貼文
ภาวะที่เรียกว่า “Stagflation” หรือ ภาวะที่เศรษฐกิจถดถอย แต่ราคาสินค้ากลับแพงขึ้น กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยหรือไม่?
ความเป็นไปได้ของเรื่องนี้ มีมากขนาดไหน ?
แล้วถ้ามันเกิดขึ้นจริง เราจะต้องเผชิญกับอะไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ลงทุนแมน ลงทุนในความรู้
การลงทุนในความรู้ไม่มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรกด”Subscribe”ลงทุนแมนไว้ในทุกช่องทาง
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website -https://www.longtunman.com/
Blockdit - https://www.blockdit.com/longtunman
Facebook - http://facebook.com/longtunman
Twitter - http://twitter.com/longtunman
Instagram - http://instagram.com/longtunman
Line - http://page.line.me/longtunman
YouTube -https://www.youtube.com/longtunman
Spotify - https://open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Soundcloud - http://soundcloud.com/longtunman
Apple Podcasts - http://podcasts.apple.com/th/podcast/...
Clubhouse - @longtunman
#ลงทุนแมน #ห้องประชุมลงทุนแมน #ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง #BREAKTHROUGH #THEBRIEFCASE #longtunman #ลงทุนแมนORIGINALS #ลงทุนเกิร์ลTALK #ลงทุนเกิร์ล
เศรษฐกิจไทย 在 ลงทุนแมน Youtube 的精選貼文
มาตรการที่จะทำให้เศรษฐกิจไทย ไม่ต้องเข้า ICU
ลงทุนแมน สัมภาษณ์พิเศษ คุณสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย
ลงทุนแมน ลงทุนในความรู้
การลงทุนในความรู้ไม่มีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรกด”Subscribe”ลงทุนแมนไว้ในทุกช่องทาง
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website -https://www.longtunman.com/
Blockdit - https://www.blockdit.com/longtunman
Facebook - http://facebook.com/longtunman
Twitter - http://twitter.com/longtunman
Instagram - http://instagram.com/longtunman
Line - http://page.line.me/longtunman
YouTube -https://www.youtube.com/longtunman
Spotify - https://open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Soundcloud - http://soundcloud.com/longtunman
Apple Podcasts - http://podcasts.apple.com/th/podcast/...
Clubhouse - @longtunman
#ลงทุนแมน #ห้องประชุมลงทุนแมน #ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง #BREAKTHROUGH #THEBRIEFCASE #longtunman #ลงทุนแมนORIGINALS #ลงทุนเกิร์ลTALK #ลงทุนเกิร์ล
เศรษฐกิจไทย 在 LDA World Youtube 的精選貼文
อีกไม่นานโลกการเงินจะมีอิสระมากขึ้น ธุรกรรมหลายอย่างไม่ต้องขึ้นอยู่กับธนาคารหลักเพียงที่เดียว
.
บริษัทเอกชน, สิ่งที่เป็น Non-Bank จะทำให้ทุกคนมีบทบาทและเลือกวิธีทางการเงินของตัวเองได้อย่างอิสระ
คนทั่วไปสามารถเข้าถึงการเงิน กู้เงินได้ง่ายขึ้น สลิปเงินเดือนอาจะไม่ใช่ข้อมูลที่สำคัญเสมอไป
.
อนาคตเราอาจะเห็นเงินสดน้อยลง การธุรกรรมออนไลน์อาจมีบทบาทสำคัญมากขึ้น
และ Bank อาจกำลังจะโดน Disrupt ครั้งใหญ่
สำหรับ Episode นี้ เรามาอัปเดตกันว่าอนาคตโลกการเงินของเราจะเป็นอย่างไร?
-------------------------------------------------------------
ABOUT ME
Instagram: http://www.instagram.com/ldaworld
Facebook: http://www.facebook.com/LDAworld
Twitter: http://twitter.com/ldaworlds
Blog: http://www.ldaworld.com
PODCAST
Spotify : https://spoti.fi/2v8nNY9
Apple Podcast : https://apple.co/35NteJc
Podbean : https://ldapodcast.podbean.com
ติดต่องาน/ลงโฆษณา : contact@flourish.co.th
โทร : 086-363-6683
เศรษฐกิจไทย 在 ทิศทางเศรษฐกิจโลก - โอกาสเศรษฐกิจไทย ปี 2023 | เศรษฐกิจติดบ้าน 的必吃
ในปี 2023 หลายคนมองว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ค่อยน่าสนใจในหมู่นักลงทุนมากนัก แต่หลายคนกลับมองว่า เศรษฐกิจไทย ยังเติบโตไปได้ ... ... <看更多>
เศรษฐกิจไทย 在 Thai PBS world วิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในศักราชใหม่ 的必吃
ติดตามชมใน "ข่าวเจาะย่อโลก" ในวันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2566 ในช่วงข่าวค่ำมิติใหม่ทั่ว ไทย ทาง ไทย พีบีเอส รับชมย้อนหลังได้ทาง ... ... <看更多>
เศรษฐกิจไทย 在 รัฐบาลใหม่ต้องมีกึ๋นเข้าใจโลก แก้เกมเศรษฐกิจไทยถูกเพื่อนบ้านแซง 的必吃
ตั้งโจทย์มือ เศรษฐกิจ รัฐบาลใหม่ ต้องเข้าใจสถานการณ์โลกรอบด้าน นำเทรนด์พัฒนาเกษตรกร-ผู้ประกอบการรายย่อย มากกว่านโยบายประชานิยมระยะสั้น ... ... <看更多>