5️⃣ เหตุผล ที่จะอธิบายได้ว่า ทำไมผู้หญิงอายุเกิน 40 ปี ถึงลดน้ำหนักได้ยาก⁉️
.
1️⃣ระบบการเผาผลาญลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น
ผู้หญิงอายุตั้งแต่ 25 ปีเป็นต้นไป ระบบเผาผลาญพื้นฐานของร่างกายจะค่อยๆ ลดลง
ดังนั้น หากเราไม่ออกกำลังกายเลย หรือยังทานเหมือนตอนอายุ 20 - 30 ปี ก็จะเกิดไขมันสะสมได้ง่าย
.
2️⃣ฮอร์โมนเพศหญิงแปรปรวน
ฮอร์โมนเพศหญิงแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนโพนเจสเทอโรน พอเข้าอายุ 40 ปี ฮอร์โมนทั้งสองนี้จะเสียสมดุลส่งผลต่อการมีลูก หรือถ้ามีฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไปก็จะส่งผลในการใช้ชีวิต นอกจากนี้การเสียสมดุลของฮอร์โมนทั้งสองนี้ทำให้ผู้หญิงเข้าสู่วัยทองอีกด้วย
.
3️⃣การสะสมเซลลูไลท์
การมีสารพิษตกค้างในร่างกายที่เกิดจากมวลกล้ามเนื้อลดลง ประกอบกับอายุที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดเป็นเซลลูไลท์ได้ง่าย โดยเฉพาะรอบเอว สะโพก และต้นขา เซลลูไลท์จะส่งผลทำให้ร่างกายเย็นและการไหลเวียนของเลือดไม่ดี ทำให้อ้วนง่ายนั่นเอง
.
4️⃣ความเครียดต่างๆ
อายุช่วง 40 ปีจะค่อนข้างมีความเครียดเรื่องงานและครอบครัวมากที่สุด พอเครียดมากๆ หลายคนมักจะทานแบบบ้าคลั่งเพื่อบำบัดความเครียด ทำให้เกิดไขมันสะสมตามร่างกาย และอ้วนขึ้นตามมาได้
.
5️⃣พฤติกรรมการใช้ชีวิตแย่ลงเพราะเรื่องเวลา
ผู้หญิงวัยนี้ต้องทำงานและยังต้องเลี้ยงลูก ส่วนใหญ่มักไม่มีเวลาดูแลตัวเองมากนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทาน หรือแม้กระทั่งออกกำลังกาย ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต แถมยังชะลอวัยได้อีกด้วย
.
💁🏻♀️อายุเป็นเพียงตัวเลขค่ะ หันมาคุมอาหารและออกกำลังกายช่วยชะลอวัยได้
เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ จำกัดอาหารที่มีน้ำตาลสูง
และหันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีกันนะคะ❤️
.
💁🏻♀️ หากใครอยากมีผู้ช่วย คอยให้คำปรึกษาเวลาออกกำลังกาย
ตอนนี้ดาวมีโปรโมชั่น FAT BURN x ฟู้ดโค้ชชิ่งด้วยนะคะ คอยให้คำปรึกาาด้านอาหารและการออกกำลังกาย
หากสนใจ สามารถสอบถามได้เลยนะคะ 👉🏻 https://m.me/fitkabdao?ref=w15232395
「ฮอร์โมนเอสโตรเจน คือ」的推薦目錄:
ฮอร์โมนเอสโตรเจน คือ 在 Coach Honda Facebook 的最佳貼文
โกรทฮอร์โมน (HGH/Human growth hormone) คือ
มาทำความรู้จักโกรทฮอร์โมน HGH/Human growth hormone
โกรทฮอร์โมน หรือ HGH (Human Growth hormones) ฮอร์โมนแห่งการเจริญวัย
โกรทฮอร์โมน หรือ HGH เป็นฮอร์โมนที่หลังมาจากต่อมไร้ท่อ สร้างจากต่อมพิทูอิทารีภายใต้สมองของเรา เป็นฮอร์โมนแห่งการเจริญวัย ได้รับฉายาว่า “น้ำพุแห่งความหนุ่มสาว” HGH มีโปรตีนที่มีกรดอะมิโนอยู่มากมายถึง 191 โมเลกุล ฮอร์โมนนี้จะหลั่งได้ตลอดชีวิตของเรา แต่ในแต่ละช่วงอายุก็จะหลั่งได้ไม่เท่ากัน โดยระดับการหลั่งจะหลั่งออกมามากเป็นพิเศษในช่วงวัยเจริญเติบโตหรือวัยเจริญพันธุ์และเริ่มน้อยลงเมื่อเข้าสู่วัยชรา และจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆในการดำเนินชีวิต (เช่น โภชนาการอาหาร ความเครียด การนอนหลับ การออกกำลังกาย น้ำหนัก) ก็ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับโกรทฮอร์โมนในร่างกายของเรา
จากการวิจัยพบว่า มีการหลั่งฮอร์โมน HGH ลดลงถึง 14% ในทุกๆ 10 ปีเลยทีเดียว ฮอร์โมนนี้แตกต่างจากฮอร์โมนชนิดอื่น เนื่องจากสามารถกระตุ้นทุกระบบในร่างกายให้เกิดการเปลี่ยนแปลง มีการเผาผลาญกิจกรรมของสมองและระบบการย่อยสลาย ฮอร์โมนนี้จึงมีผลต่อความอ่อนเยาว์ ความกระฉับกระเฉงของร่างกายเรานั่นเอง
HGH มีความสำคัญมากต่อการเจริญเติบโตของร่างกายเรา โดยเฉพาะวัยเด็กที่ต้องการการเจริญเติบโตมากเป็นพิเศษ ฮอร์โมนนี้ช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของกระดูกให้แข็งแรงจนกระทั่งถึงช่วงอายุ 25 ปี เลยทีเดียว เพราะฉะนั้น หากร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนนี้มาก จะทำให้เด็กเติบโตสูงสมวัย ไม่แคระแกร็น ช่วยเนื้อเยื่อต่างๆในร่างกายแข็งแรง กล้ามเนื้อแน่น เสริมสร้างภูมิต้านทาน การพัฒนาการด้านสมอง คงความหนุ่มสาวและยังช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศได้อีกด้วย
นอกจาก HGH แล้ว ในต่อมไร้ท่อยังผลิตฮอร์โมนตัวอื่นๆอีกมากมาย ดังนี้
1.ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone Hormone) เป็นฮอร์โมนเพศชายที่ผลิตจากต่อมไฮโปทาลามัส ที่ไปกระตุ้นการสร้างฮอร์โมน จีเอ็น อาร์ เอช เพื่อไปกระตุ้นต่อมลูกหมากให้สร้างฮอร์โมนนี้ขึ้นมา ฮอร์โมนนี้จะมีการหลั่งมากสุดในช่วงเช้า ตี5 ถึง 7โมงเช้า ในเพศชายจะมีการลดลงเมื่อเข้าสู่อายุในช่วง 40-47 ปี จะลดลง 1% ในทุกๆปี ช่วงอายุนี้นั้นเองคือการเข้าสู่วัยทองในเพศชาย ประโยชน์ของฮอร์โมนนี้คือ ช่วยกระตุ้นความต้องการทางเพศ ควบคุมการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อ ผิวหนัง กระดูก เม็ดเลือดและอวัยวะเพศ แม้กระทั่งการเจริญเติบโตของหนวดเครา เส้นผม เสริมการทำงานของสมอง ด้านสติปัญญา ความสามารถในการเข้าใจและการเรียนรู้ HGHมีความเกี่ยวข้องกับการควบคุมฮอร์โมนนี้ จะสังเกตได้ว่า หากเราแก่ลง เมื่อผลิต HGH ได้น้อยลง ทำให้ร่างกายเรื่องเสื่อมสมรรถภาพ ผู้ชายจะเริ่มขาดฮอร์โมนนี้ และอาจพบปัญหาต่อมลูกหมากโตตามมาได้
2. ฮอร์โมนเอสโตรเจน ( Estrogen หรือ Oestrogen) เป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญที่สุดของเพศหญิง ผลิตจากรังไข่ ในเพศชายสามารถผลิตได้จากต่อมลูกหมากเช่นกัน แต่มีปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น ฮอร์โมนเอสโตรเจนนี้มีหน้าที่ทำให้ผู้หญิงเป็นผู้หญิง มีเต้านม มีผิวพรรณนุ่มนวล เตรียมพร้อมสำหรับความเป็นเพศแม่ ฮอร์โมนตัวนี้มีผลกับทุกระบบในร่างกาย ช่วยเรื่องการควบคุมสมอง ในผู้หญิงวัยทองหรือสตรีที่มีการหมดประจำเดือนเป็นเวลานานกว่า 1 ปี หรือช่วงอายุ 40-50 ปีขึ้นไป ซึ่งมักจะขาดฮอร์โมนตัวนี้ ทำให้มีอาการร้อนๆ หนาวๆ วูบวาบ ไม่สบายตัว หงุดหงิดง่าย อารมณ์แปรปรวน ดังนั้นเมื่อไปพบแพทย์จึงมักให้รับประทานฮอร์โมนตัวนี้เสริมเพื่อรักษาอาการวัยทอง นอกจากนี้ฮอร์โมนเอสโตรเจนยังช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกายให้สมบูรณ์ สร้างความชุ่มชื่นให้แก่ช่องคลอดรวมทั้งบำรุงเส้นผมและผิวพรรณ อีกทั้งยังลดปัญหากระดูกพรุนได้อีกด้วย ฮอร์โมนตัวนี้ก็เกี่ยวเนื่องกับระดับ HGH เช่นเดียวกัน หาก HGH ลดต่ำ ก็จะทำให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนไม่สมดุล ส่งผลให้เข้าสู่วัยทองอย่างรวดเร็ว และทำให้เกิดปัญหาวัยทองหลายๆด้าน
3. ฮอร์โมนคอร์ปัส ลูเทียม (Corpus Luteum Hormone) เป็นฮอร์โมนของเพศหญิงที่สำคัญตัวหนึ่ง เนื่องจากฮอร์โมนตัวนี้ช่วยกระตุ้นการเจริญของเยื่อบุชั้นในของมดลูก เมื่อระหว่างที่มีประจำเดือน จะช่วยให้ผนังมดลูกหนาขึ้น ช่วยให้มดลูกเตรียมพร้อมที่จะให้ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วฝังตัว พร้อมสำหรับตั้งครรภ์ มดลูกมีการขยายตัวหรือเมื่อตั้งครรภ์แล้วจะกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณหน้าอกขยายใหญ่ขึ้น กระตุ้นให้ต่อมน้ำนมน้ำนมเจริญมากขึ้น จะรู้สึกคัดที่บริเวณเต้านม เต้านมขยายใหญ่ขึ้น ฮอร์โมนตัวนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมในผู้หญิงวัยทองได้อีกด้วย
4. ฮอร์โมนไทรอยด์ (Thyroid Gland Hormone) ฮอร์โมนไทรอยด์จากต่อมไร้ท่อตัวนี้ หลายคนอาจจะคุ้นชื่ออยู่บ้างกับชื่อโรคไทรอยด์ ต่อมนี้จะอยู่บริเวณหน้ากระดูกคอ อยู่ด้านหน้าของกล่องเสียงติดกับบริเวณคอหอย เป็นต่อมไร้ท่อที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีลักษณะเป็น 2 พูเชื่อมด้วยคอคอดหรืออิสมัส (isthmus) ที่ตรงกลาง ฮอร์โมนตัวนี้สามารถดึงไอโอดีนจากกระแสเลือดให้เจ้าสู่เซลล์ได้ ในเด็กทารกช่วยควบคุมการเจริญเติบโตและการทำงานของสมอง ช่วยควบคุมอวัยวะต่างๆและเนื้อเยื่อเจริญเติบโตและกลไกการเผาผลาญพลังงานของเซลล์ให้เป็นปกติ หากขาดฮอร์โมนชนิดนี้จะทำให้มีพัฒนาการช้าลง ร่างกายขาดสมดุล อาจอ้วนขึ้น ผิวพรรณและเส้นผมแห้ง ไม่แข็งแรงหรือมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมากขึ้น
5. เมลาโทนิน (Melatonin) เป็นฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่งที่ผลิตมาจากสารเซโรโทนิน (Serotonin) ที่เซลล์ไพเนียล (Pinealocytes) หลั่งมาจากต่อมไพเนียล (Pineal Gland) เป็นส่วนหนึ่งของสมองส่วนกลาง ฮอร์โมนตัวนี้ทำหน้าที่คล้ายยานอนหลับ ทำหน้าที่ช่วยประสานงานกันระบบนาฬิกาชีวภาพของร่างกายเรา ช่วยให้หลับสนิท คนที่ขาดการพักผ่อนมักจะขาดฮอร์โมนตัวนี้ เมื่อสมองได้รับการพักผ่อน จะมีประสิทธิภาพในการทำงาน ลดอาการอ่อนเพลีย อีกทั้งฮอร์โมนตัวนี้สามารถต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสื่อมในเซลล์และของเสียจากการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ในคนที่เดินทางบ่อยๆ ฮอร์โมนตัวนี้จะช่วยลดอาการอ่อนเพลียจากการข้ามช่วงเวลา หรืออาการ Jet lag ได้
6. อินซูลิน (Insulin) เป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งในร่างกาย ผลิตจากเซลล์ตับอ่อน ชนิด ไอซ์เลท ออฟ แลงเกอแฮน (Islets of Langerhans) หรือเบต้าเซลล์ ทำหน้าที่นำน้ำตาลกลูโคสจากในกระแสเลือดเข้าสู่เนื้อเยื่อต่างของร่างกาย เป็นฮอร์โมนที่สำคัญในการควบคุมการเผาผลาญพลังงานและควบคุมน้ำตาลส่วนเกินในตับไม่ให้เปลี่ยนเป็นไขมันและสะสมพลังงานในรูปของไกลโคเจน (Glycogen)ที่ตับ หากขาดฮอร์โมนตัวนี้จะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงเนื่องจากร่างกายขาดประสิทธิภาพในการนำน้ำตาลมาใช้ประโยชน์ได้ ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน และอาจมีการสลายสารอาหารโปรตีนและไขมันผิดปกติร่วมอีกด้วย ช่วยให้เซลล์ดูดซึมกลูโคสที่เกิดจากการเผาผลาญอาหาร
7. สเตรียรอยด์ (Dehydroepiandrosterone หรือ DHEA) เป็นฮอร์โมนที่มีมากที่สุดจากต่อมหมวกไต จัดเป็ฯกลุ่มฮอร์ดมนที่ช่วยชลอความแก่ได้เช่นกัน ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานร่างกายจากการติดเชื้อจากแบคทีเรีย ช่วยควบคุมการทำงานของตับและอวัยวะต่างๆ ปรับสมดุลความดันโลหิตและช่วยสร้างฮอร์โมนเพศ เช่น เอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรน ช่วยต้านการเกิดมะเร็งและลดความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานได้
ฮอร์โมนต่างๆจากต่อมไร้ท่อเหล่านี้ช่วยทำให้ร่างกายเราแข็งแรง ปรับความสมดุล และอีกคุณสมบัติที่ขาดไม่ได้คือ ช่วยในเรื่องการชลอความแก่ได้ด้วย โดยเฉพาะฮอร์โมนที่เด่นในเรื่องนี้ที่สุดคือ HGH นั่นเอง จากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น การหลั่งโกรทฮอร์โมน HGH จะลดลง เช่น เมื่อ อายุ 21 ปี ระดับฮอร์โมน HGH จะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่องจนเมื่อย่างเข้าอายุ 40 ปี ระดับของฮอร์โมนนี้จะต่ำลงจนไม่สามารถมีบทบาทในการควบคุมการทำงานของเซลล์ในร่างกายส่วนต่างๆ เช่น ผิวหนัง เนื้อเยื่อสมองและอวัยวะสำคัญส่วนอื่นๆ เมื่ออายุ 70 ปี อวัยวะต่างๆในร่างกายจะมีการทำงานที่ลดลงไปอีก ถึง 30% เช่น สมอง ตับ หัวใจ เสื่อมสมรรถภาพไปตามกาลเวลา ทั้งความสามารถในการทำงาน ภูมิต้านทานในการป้องกันตนเองจากเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมภายนอกลดลง การผลิตฮอร์โมนต่างๆ โดยเฉพาะ HGH ลดลงอย่างมา จนเมื่ออายุเข้า 90 ปี อวัยวะบางส่วนเริ่มทำงานไม่ปกติหรือหยุดการทำงาน สมองฝ่อหดเล็กลงเหลือขนาดเท่าเด็กอายุ 3 ปี ระบบประสาทต่างๆเสื่อมลง
จากการวิจัยทดลองพบว่า หากได้รับสารอาหารที่บำรุงการให้สามารถหลั่ง HGH ได้สูงเป็นเวลาติดต่อกันนาน 6 เดือน จะทำให้ร่างกายเราได้รับฮอร์โมน HGH ที่เพียงพอและจะทำให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ต้านทานโรคต่างๆได้ดี คืนความเป็นหนุ่มสาวได้ถึงอย่างน้อย 10 ปีเลยทีเดียว
สัญญาณแห่งความชรา…หาก HGH เริ่มลดลง?
ร่างกายคนเราเริ่มผลิตโกรทฮอร์โมน HGH จากต่อมใต้สมอง ในช่วงอายุต่ำกว่า 20 ปี ได้สูงที่สุดเพื่อให้สัมพันธ์กับการเจริญเติบโตของร่างกาย เมื่ออยู่ในครรภ์มารดา ปริมาณ HGH จะสูงขึ้นมากที่สุด และจะเริ่มลดลงเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยเด็กตามลำดับ พอเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ฮอร์โมน HGH จะกลับมามากขึ้นอีกครั้ง ฮอร์โมนนี้จะหลั่งในขณะที่เรานอนหลับ ช่วยกระตุ้นการยืดตัวทำให้สูงขึ้น แต่วัยรุ่นส่วนใหญ่มักจะนอนดึกหรือทานอาหารที่มีประโยชน์น้อย ทำให้การหลั่งฮอร์โมนนี้ไม่ค่อยเพียงพอต่อความต้องการนัก เมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไป การหลั่งฮอร์โมน HGH จะลดลง 40 % ของฮอร์โมนที่หลั่งในคนอายุ 20 ปี ในบางรายอาจจะไม่มีการหลั่งฮอร์โมนออกมาเลยก็ได้ เมื่อร่างกายขาดฮอร์โมนนี้ ทำให้เสียความสมดุล การทำงานของอวัยวะต่างๆลดลง อ่อนแอ และทำให้เกิดโรคต่างๆได้ง่าย และที่สำคัญคือ ความชราจะเริ่มตามมานั่นเอง
ความแก่ชราเกิดจากอะไร….
ความชรานั้น นอกจากจะมาจากอายุที่เพิ่มขึ้นแล้ว อาจเกิดจากพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันที่เป็นตัวเร่งให้เกิดความชราขึ้นได้เร็วขึ้น ดังคำกล่าวที่ว่า ทำอะไรย่อมได้อย่างนั้น หรือ กินอะไรย่อมได้อย่างนั้น เป็นต้น จะเห็นได้ว่า สิ่งที่เราทำอยู่ในชีวิตประจำวัน ทั้งการทำงาน การรับประทานอาหาร แม้กระทั่งการนอน ล้วนเป็นสาเหตุของการเกิดความชราทั้งสิ้น บางคนชอบรับประทานแอลกอฮอล์มากเกินไปหรือติดสิ่งเสพติด เช่น การสูบบุหรี่ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ ช่วยเร่งให้ผิวหนังเหี่ยวย่น ดูแก่ก่อนวัยอันสมควรได้ หรือเกิดจากการที่ขาดการออกกำลังกาย ความเครียดจากการทำงาน การใช้ยาที่มากเกินขนาด แม้แต่ปัญหาครอบครัว ทำให้สุขภาพจิตเสีย สิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดความชราเร็วได้ทั้งสิ้น
จะรับมืออย่างไรกับความชราที่เกิดขึ้น..
ความชรานั้น เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่เราจะรับมือกับความชราได้อย่างไร คนเรามักมีความกลัวการที่ต้องเสียชีวิตจากความชราหรือการเป็นคนแก่ที่โดนทอดทิ้ง ต้องกลายเป็นคนไร้ค่า เมื่อคนเราเริ่มเข้าสู่วัยชรา สิ่งเหล่านี้มักมาพร้อมกับวัยชราเสมอ นั่นคือความเจ็บป่วย โรคต่างๆมักจะมารุมเร้ามากมาย เช่น โรคกระดูก โรคหัวใจ โรคตับ โรคไต เบาหวาน ความดันโลหิต มะเร็ง ความจำเสื่อม อัลไซเมอร์ เป็นต้น อีกทั้งสิ่งกระตุ้นจากการใช้ชีวิตประจำวันช่วยให้โรคเหล่านี้เกิดได้เร็วขึ้นอีกด้วย แต่สิ่งเหล่านี้เราสามารถป้องกันได้ด้วยการเข้าใจในความชราอย่างถูกต้อง ใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ ถูกสุขอนามัย ป้องกันตัวตั้งแต่ยังไม่เกิด จะทำให้มีอายุยืนยาวอีกหลายปี ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บใดๆ คนเรานั้นหลีกหนีความตายไม่ได้ แต่สามารถชะลอความชราและมีความสุขไปกับการชราอย่างมีคุณภาพได้แน่นอน
วิธีชะลอความชรา
ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้วิทยาการทางการแพทย์พัฒนามากขึ้น มีการค้นพบการรักษาโรคและตัวยาใหม่ๆเพื่อป้องกันและรักษาโรค รวมถึงการชะลอความแก่ชรา แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือการรักษาสุขอนามัยและการใช้ยาเพื่อช่วยบรรเทาและรักษาควบคู่ไปด้วย เชื่อกันว่า การที่บางคนดูแก่ก่อนวัยอันสมควรหรือดูเด็กกว่าวัยนั้น แสดงว่า บางครั้งหน้าตากับอายุอาจจะไม่ตรงกับความจริงได้ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์พบว่า การฟื้นฟูความเป็นหนุ่มเป็นสาวและความชรานั้นสามารถรักษาได้ง่ายกว่าโรคอื่นๆ มีการศึกษามากกว่า 28,000 ชิ้น ถึงผลของ Human Growth Hormone (HGH) หรือโกรทฮอร์โมนที่มีผลช่วยฟื้นฟูความหนุ่มสาวและชะลอความชรา ในการทดลองกับกลุ่มคน โดยให้ใช้ HGH ต่อเนื่องเป็นเวลา 6 เดือน มีการชะลอความชราได้ 10-20 ปีเลยทีเดียว โดยการสังเกตเซลล์เนื้อเยื่อที่มีการสร้างเพิ่มขึ้นใหม่และมีมวลไขมันลดลง จึงสรุปได้ว่า HGH นั้นสามารถช่วยชะลอความชราได้ และมีความปลอดภัยสูงเนื่องจากผ่านการทดสอบและวัดผลทางการแพทย์แล้ว
เมื่อร่างกายเรามีการหลั่ง HGH ลดลง ความชราก็จะเพิ่มมากขึ้น โดยสังเกตจากอาการเริ่มแรก คือ มีผมขาวหรือผมหงอกก่อนวัย พลังงานเริ่มลดน้อยลง สมรรถภาพในการทำงานถดถอย เหนื่อยง่าย ขยับร่างกายไม่กระฉับกระเฉงเหมือนแต่ก่อน มีความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ไขมันก่อตัวเพิ่มขึ้น กระดูกพรุน เริ่มตรวจพบโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือดต่างๆ เป็นต้น แต่อาการเหล่านี้อาจพบได้ในคนวัยหนุ่มสาวที่มีการขาดโกรทฮอร์โมนเช่นกัน เมื่อคนเราอายุมากขึ้น การผลิตโกรทฮอร์โมนหรือ HGH ลดลง ถึง 40% ของคนอายุ 20 ปี โกรทฮอร์โมนนั้นจะผลิตในขณะที่เรานอนหลับ มีการหลั่งในชั่วโมงแรกหลังจากที่หลับสนิท และจะถูกส่งไปยังตับเพื่อเปลี่ยนเป็นสารคล้ายอินซูลิน (Insulin like growth factor-1 หรือ IGH-1) หรือโซมาโตเมดิน (Somatomedin) นำไปใช้ในร่างกายเพื่อเสริมสร้างเนื้อเยื่อนั่นเอง จากการวิจัยจากวารสารทางการแพทย์นิวอิงแลนด์ (New England) พบว่า การทดลองให้คนอายุ 65 ปี แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือได้รับ HGH และไม่ได้รับ HGH ผลคือกลุ่มที่รับ HGH ทำให้ผมที่เคยหงอกลดลง เริ่มกลับมาดกดำขึ้น ในบางรายมีการลดลงของรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าและตามร่างกาย อีกทั้งมีสมรรถภาพทางเพศที่เพิ่มขึ้นด้วย ความเสื่อมจากความชราลดลง ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้รับ HGH จะมีความชราตามปกติโดยไม่มีการฟื้นฟูที่ดีขึ้น
มีรายงานจากโรงพยาบาล St.Thomas กรุงลอนดอน พบว่าการให้คนไข้ที่เป็นโรคคุชชิ่งซินโดรม (Cushing’s Syndrome) ที่มีอาการของโรคหัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure) ที่มีอาการทรุดลงจนต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจเนื่องจากไม่เคยได้รับการรักษาใดๆมาก่อน ได้รับ HGH ผลที่ได้คือหัวใจเริ่มกลับมาเต้นเป็นปกติและมีการไหลเวียนของระบบเลือดดีขึ้น อาการของผู้ป่วยดีขึ้นเรื่อยๆใน 3 เดือนและไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจอีก
การค้นพบเหล่านี้ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางการแพทย์อีกทางหนึ่ง เนื่องจากเกือบทุกรายที่รับการทดลองด้วยการรับ HGH เพิ่ม จะมีร่างกายที่ดีขึ้น มีพลังงานและกล้ามเนื้อที่แข็งแรง มีความกระฉับกระเฉง รู้สึกสดชื่นขึ้นในเพียงสัปดาห์แรกที่ได้รับ HGH และมีการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใน 6 เดือนต่อมา สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า HGH มีความสำคัญในการต้านความชราและโรคภัยไข้เจ็บได้ เนื่องจาก HGH เป็นสารที่ช่วยลดความเสื่อมในร่างกาย ช่วยต่อสู้ความชรา เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้น โปรตีนในเซลล์จะมีความเสื่อมเพิ่มมากขึ้น สารอนุมูลอิสระที่เกิดจากการทำงานของเซลล์ ช่วยปกป้องเซลล์โดยการกำจัดสารที่ทำลายโปรตีน จึงช่วยฟื้นฟูร่างกายให้เข้าสู่ภาวะปกติ มีพลังชีวิตและการทำงานของสมองที่เพิ่มขึ้น เร่งสร้างเนื้อเยื่อเพื่อให้คงความเป็นหนุ่มสาวและคงความมีอายุยืนนานไว้
นอกจากนี้ HGH ยังมีความพิเศษอีกมากมาย ดังนี้
HGH กับผลด้านจิตใจ
ฮอร์โมนนี้ช่วยปรับอารมณ์และเสริมความแข็งแกร่งด้านจิตใจ โกรทฮอร์โมนมีส่วนช่วยเพิ่มพลังงาน ทำให้เราหลับได้สนิท เมือตื่นนอนก็สดชื่น พร้อมทำงานในวันรุ่งขึ้น รู้สึกสงบเยือกเย็นลง จากรายงานของ Johannsson พบว่า โกรทฮอร์โมนมีผลต่อสารสื่อประสาท (Neuro-transmitter) เช่น B-Endorphin ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารระงับความปวดที่ดี ลดระดับของโดพามีน (Dopamine) ที่มีผลต่อความุรนแรงของอารมณ์
HGH มีผลคล้ายยาแก้ซึมเศร้า (Anti-depressant) และไม่มีผลข้างเคียง ช่วยลดความเครียด มีสมาธิมากขึ้น ฟื้นฟูความจำและเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ จากการศึกษาของนายแพทย์ Jan Berend Deijiem และกลุ่มวิจัยชาวดัทช์ พบว่าโกรทฮอร์โมนมีผลช่วยในเรื่องความจำ หากขาด HGH ไป จะทำให้มีการด้อยพัฒนาในส่วนของความจำระยะสั้นและระยะยาว ความสามารถของระบบประสาทตาและความสัมพันธ์การทำงานของมือจะแย่ลง ในผู้ป่วย ถ้ามี IGF-1 ลดน้อยลง จะทำให้มีผลต่อการรับรู้และสติปัญญาได้
HGH กับผลทางด้านกล้ามเนื้อ
HGH ช่วยเพิ่มความสามารถทางด้านกล้ามเนื้อ ช่วยเสริมกล้ามเนื้อและเพิ่มความคงทน ในการการออกกำลังกาย ความอึดของร่างกายมีมากขึ้น วารสารทางการแพทย์นิวอิงแลนด์ (New England) มีการศึกษาในคนอายุ 60-80 ปี พบว่า มีการเพิ่มของกล้ามเนื้อ ทั้งปริมาณและความหนาแน่น นายแพทย์ L. Cass Terry กล่าวว่า HGH สามารถลดไขมันได้ภายใน 2 เดือน 88% ของผู้ที่ได้รับ HGH พบว่าช่วยเพิ่มขนาดและความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ ทำให้ทนทำงานหนักและออกกำลังกายได้นานขึ้นและทนต่อแรงกดดันจากการทำงานได้ดี ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่มีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ก็มีอาการดีขึ้น จากที่ต้องนั่งรถเข็น หรืออยู่แต่ในบ้าน ก็สามารถออกมาข้างนอกได้มากขึ้น มีการเคลื่อนไหวของข้อต่อดี ป้องกันโรคข้อเสื่อมก่อนวัย ผู้สูงอายุสามารถยืนได้เอง
ในนักกีฬา HGH lมารถช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อจากการเล่นกีฬาได้ ทั้งยังเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ในผู้สูงอายุที่มีอาการของโรคความดันโลหิตสูงและกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ การได้รับโกรทฮอร์โมนเพิ่มนั้น ช่วยฟื้นฟูและป้องกันโรคต่างๆเหล่านี้ได้อีกด้วย
HGH กับผลด้านสมรรถภาพทางเพศ
ชายสูงอายุ 80 ปี จะประสบปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศ ถึง 85% โดยการศึกษาค้นคว้าของ L. Cass Terry และ Edmune Chein โดยศึกษาจากคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องสมรรถภาพทางเพศ 1,290 คน พบว่า 2 ใน 3 ของผู้รับการบำบัด เมื่อได้รับ HGH จะมีสมรรถภาพทางเพศเพิ่มขึ้น แสดงว่า HGH มีผลต่อสมรรถภาพทางเพศในทั้งหญิงและชาย
HGH กับผลด้านไขมันและมวลกล้ามเนื้อ
HGH มีผลในการช่วยลดไขมันและช่วยลดน้ำหนัก ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ในบางรายเมื่อได้รับ HGH จะน้ำหนักไม่ลดแต่ไขมันจะถูกขับออกและมีการสร้างมวลกล้ามเนื้อเข้าไปแทนที่ในปริมาณที่เท่ากัน ทำให้ร่างกายฟิตและเฟิร์มขึ้นกว่าแต่ก่อน HGH ช่วยกำจัดไขมันได้โดยไม่ต้องออกกำลังกาย ถ้ามีการเสริมอาหารที่มีเส้นใยในการควบคุมน้ำหนักเพิ่มด้วย จะช่วยเสริมให้ HGH มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างมาก
HGH กับผลด้านผิวพรรณและความเรียบเนียนของผิว
HGH ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นเหมือนดังผิวของคนหนุ่มสาว ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ลดรอยเหี่ยวย่นบนผิวหน้าและตามร่างกาย ลดรอยตีนกา ช่วยฟื้นฟูให้กลับมาหนุ่มสาวได้อีกครั้ง
HGH กับผลด้านกระดูก
HGH มีผลช่วยต้านภาวะกระดูกพรุน เนื่องจาก HGH ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ภาสวะกระดูกพรุนนั้น เราควรมีการป้องกันตั้งแน่เนิ่นๆ เพราะเมื่อเราเข้าสู่วัยชรา ภาวะนี้จะมาด้วยตามวัย นายแพทย์ Gudmundur Johansson มีการทดสอบในกลุ่มคนอายุระหว่าง 23-66 ปี พบว่า มีปัญหาขาด GH อย่างมาก แต่หลังจากได้รับ HGH เพิ่มเป็นเวลา 2 ปี พบว่ามีความหนาแน่นของมวลกระดูกที่เพิ่มขึ้น พบที่กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน มีแคลเซียมในกระดูกมากขึ้น ลดการแตกหักของกระดูกได้ดี GH จะไปกระตุ้นเซลล์กระดูก ชนิด Osteoblast เพื่อทำการสร้างเซลล์กระดูก อีกทั้งยังช่วยให้วิตามินบี 3 เข้าไปจับแคลเซียมเพื่อให้กระดูกแข็งแรงและป้องกันกระดูกแตกง่ายได้อีกด้วย ความหนาแน่นของมวลกระดูกจะเพิ่มขึ้นได้เหมือนเดิมภายใน 2 ปี และมีผลดีที่เกี่ยวพันกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (Connective tissue) ได้ภายใน 1 สัปดาห์
HGH กับผลด้านการป้องกันโรคหัวใจ
HGH ช่วยกระตุ้นการสูบฉีดเลือดของหัวใจ (Cardiac output) ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงขึ้น ออกกำลังกายได้มากขึ้น ลดภาวะความดันโลหิตสูง ปรับสมดุลของคอเลสเตอรอล ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจ ทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและโรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดได้ วารสารทางการแพทย์ นิวอิงแลนด์ (New England) พบว่ามีการเสียชีวิตจากการวูบหมดสติ (Stroke) ถึง 1.5 ล้านคน หากเราได้รับ HGH เพิ่มจะช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคนี้ได้มากขึ้น ช่วยลดภาวะความดันโลหิตช่วงล่าง (Diastolic Pressure) ได้ถึง 10% หลังจากได้รับเพียง 6 เดือน
ด้านการทดลองกับสัตว์ พบว่า HGH สามารถช่วยป้องกันอาการเซลล์ตายหลังจากเกิดการวูบหมดสติหรือหัวใจวาย (Stroke) ได้ เมื่อคนเรามีอายุที่มากขึ้น อวัยวะต่างๆในร่างกาย เช่น หัวใจ สมอง จะฝ่อเล็กลงได้ เพราะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นสามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมได้ เมื่อกล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง การสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ดี ได้รับพลังงานมากขึ้น มีประสิทธิภาพในการทำงาน ความดันเป็นปกติ เมื่อการเผาผลาญเป็นปกติ การสะสมไขมันในบริเวณหน้าท้องก็จะลดลง ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลต่ำ สุขภาพจะค่อยๆดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดใน 1 เดือนแรกและต่อเนื่องไปอีก 6 เดือน จนครบ 2 ปี
การได้รับ HGH นั้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของหัวใจ จึงลดเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ หลอดเลือดได้ ระดับโคเลสเตอรอลกลับมาเป็นปกติเพราะไปช่วยลดไขมันเลว (LDL) ลง ช่วยเพิ่มไขมันดี (HLD) ลดความดันช่วงล่าง (Diastolic pressure) ได้ถึง 10% ช่วยให้ความเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจวายเฉียบพลันน้อยลง จากการวิจัยในวารสารทางการแพทย์นิวอิงแลนด์ (New England) โดยการทดสอบกับผู้ป่วยโรคหัวใจ 7 ราย พบว่ามีการเพิ่มออกซิเจนให้กับหัวใจ ทำให้ผนังกล้ามเนื้อหนาขึ้นในหัวใจห้องด้านซ้าย (Left Ventricular Wall) สิ่งเหล่านี้ทำให้หัวใจสามารถสูบฉีดเลือดได้ดีขึ้น ผู้ป่วยมีการออกกำลังกายได้มากกว่าก่อนและมีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้นมาก
HGH กับผลด้านการทำงานของปอด
จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้น การได้รับ HGH เพิ่มทำให้มีประสิทธิภาพในด้านพลังงานของร่างกายมากขึ้น ทำงานได้มากขึ้น เนื่องจากปอดสามารถทำงานได้ดีขึ้นด้วยนั่นเอง HGH ช่วยเพิ่มอัตราการสูบฉีดเลือดของหัวใจ มีการวิจับจาก David Clemmons หัวหน้าแผนกต่อมไร้ท่อแห่งมหาวิทยาลัย แพทย์ North Carolina พบว่าการเพิ่ม HGH ให้กับผู้ป่วยที่มีปัญหาทางด้านการทำงานของปอด ภายใน 3 สัปดาห์ พบว่ามีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การหายใจดีขึ้น อาการเหนื่อยหอบลดลง ในการวิจัยกับผู้ป่วยที่เป็นโรคถุงลมโป่งพอง พบว่ามีผลที่ดีเช่นกัน
HGH กับผลด้านการเพิ่มพลังงาน
HGH ช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ดีกว่ายาแผนปัจจุบัน เพราะเมื่อสภาพอารมณ์ทางด้านจิตใจดีขึ้น พลังงานในการทำงานก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ผู้สูงอายุมักจะมี HGH ลดลง ทำให้ประสิทธิภาพของอวัยวะต่างๆในร่างกายเสื่อมถอย ส่งผลต่อการทำงาน เมื่อรับ HGH จะช่วยป้องกันเซลล์ที่ได้รับบาดเจ็บ ช่วยเพิ่มออกซิเจนให้แก่เซลล์ ฟื้นฟูอวัยวะที่เสื่อมถอยไปตามกาลเวลาและมีผลทางด้านจิตใจอีกด้วย Dr. Bengtsson ทดสอบกับผู้ป่วยหลังพบว่าได้ผลดี ลดอาการอ่อนเพลียจากใช้ HGH เพียงไม่กี่วันเท่านั้น และมีอาการดีขึ้นภายใน 6 เดือน
HGH กับผลด้านการฟื้นฟูระบบภูมิต้านทานร่างกาย
เมื่อระบบภูมิต้านทานในร่างกายดีขึ้น จะสามารถป้องกันโรคต่างๆที่จะเข้ามาในร่างกายได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 80 ปีขึ้นไป ที่ร่างกายสร้างภูมิต้านทานได้น้อยมากหรืออาจจะไม่มีภูมิต้านทานแล้วก็ตาม สามารถกลับมามีภูมิต้านทานเทียบกับคนอายุ 20 ปีได้ โดย HGH จะไปซ่อมแซมระบบภูมิต้านทาน ปรับสมดุล DHA ช่วยให้หลั่งสารอินซูลินที่มาจากต่อมไร้ท่อในร่างกายเพื่อกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆ ปรับสมดุลชีวเคมีในสมอง ช่วยป้องกันเชื้อโรค เชื้อฉวยโอกาสต่างๆ เพิ่มระดับของ IGF-1 ในร่างกาย ผู้ที่มี HGH ต่ำ มีผลกระทบต่อภูมิต้านทานในร่างกาย ทำให้ไม่สบาย ผิวหนังเหี่ยวย่นแก่ก่อนวัยอันสมควร เมื่อสุขภาพไม่ดีอายุก็จะไม่ยืนยาว การเพิ่มการหลั่ง HGH ให้สูงขึ้น ผิวพรรณจะกลับมาสดใสภายในไม่กี่สัปดาห์ ช่วยชะลอความชราได้ สุขภาพดีขึ้น มีพลังในการใช้ชีวิต เมื่อระบบภูมิต้านทานในร่างกายดีขึ้น การควบคุมการทำงานของอวัยวะภายในร่างกายจะกลับสู่ภาวะปกติ ทั้งสมอง ตับ หัวใจ กระดูก เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ช่วยทำให้มีอายุที่ยืนยาวได้อีกนาน
HGH กับผลด้านการมองเห็น
ผู้สูงอายุมักมีปัญหาทางด้านสายตาควบคู่กัน เพราะร่างกายเสื่อมสภาพลงรวมไปถึงเลนส์สายตา ที่ขาดความยืดหยุ่น ผู้สูงอายุ 80 ปี จะมีสายตาที่เสื่อมถอยลงกว่าคนอายุ 20 ปี ถึง 3 เท่า เมื่อร่างกายได้รับ HGH จะทำให้สายตาดีขึ้น มีการมองเห็นที่ชัดเจนขึ้นภายใน 1 เดือนและดีขึ้นเรื่อยใน 6 เดือนต่อมา
HGH กับผลด้านการนอนหลับ
ร่างกายจะสามารถหลั่งสารโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ได้เองในช่วงที่เรานอนหลับ แต่คนที่มีปัญหาทางด้านการนอนไม่หลับ เป็นโรคนอนไม่หลับหรือต้องอดนอนบ่อยๆ ร่างกายจะไม่สามารถผลิตฮอร์โมนนี้เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในช่วงเวลานั้นได้ เมื่อตื่นนอนก็ไม่สดชื่น กระทบต่อการทำงานในวันรุ่งขึ้น การได้รับ HGH เพิ่มเติมนั้น ช่วยให้หลับได้ง่ายขึ้น ร่างกายก็จะผลิตโกรทฮอร์โมนเพื่อทำให้ร่างกายแข็งแรงได้
HGH กับผลด้านการความจำ
ผู้สูงอายุจะมีปัญหาทางด้านความจำ หลงๆลืมๆ ความจำเสื่อมรวมไปถึงการเป็นอัลไซเมอร์ Dr. Jan Berend Deijen และคณะนักวิทยาศาสตร์ชาวดัทช์ พบว่าผู้ที่มี HGH ต่ำกว่าปกตินั้น จะสูญเสียความทรงจำในระยะสั้น ความสัมพันธ์ระหว่างตาและมือลดลง รวมไปถึงการมีผลต่อความจำระยะยาวอีกด้วย IQ ก็จะต่ำลง การเสริม HGH เข้าไปนั้น ทำให้ผู้ป่วยมีอาการตื่นตัวมากขึ้น กระตือรือร้น มีการจดจำที่ดี อาการหลงๆลืมๆน้อยลง มีสมาธิดีขึ้น สามารถโต้ตอบต่อสิ่งเร้าได้เร็วขึ้น ความทรงจำฟื้นกลับมาปกติ
ในการวิจัยที่มหาวิทยาลัย Aukland ประเทศนิวซีแลนด์ เรื่องการเสริมโกรทฮอร์โมนให้เด็ก พบว่าเด็กมีพัฒนาการดีขึ้น IQ สูงขึ้น การเรียนรู้ รัยรู้ได้ดี ผลการเรียนดีขึ้น และมีผลช่วยลดอาการเซลล์สมองตาย โดยเฉพาะสมองส่วนด้านความจำ ความคิดวิเคราะห์ได้ ในผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม เช่น พาร์กินสัน อัลไซเมอร์ กล้ามเนื้อสมองฝ่อลีบ ระบบประสาทมาเลี้ยงอวัยวะต่างๆได้ไม่ดี (Multiple sclerosis) เมื่อได้รับ HGH ช่วยให้ลดการสูญเสียของเซลล์ต่างๆในร่างกาย สมองทำงานได้ดีขึ้น กลับคืนสู่ความเป็นหนุ่มสาวได้อีกครั้ง
HGH กับผลด้านเร่งการหายของบาดแผล
Dr. Ronald Klatz ค้นพบว่า HGH ช่วยให้การหายของบาดแผลเร็วขึ้น เพราะไปช่วยกระตุ้นกระตุ้นให้มีการสังเคราะห์คอลลาเจน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยฟื้นฟูบาดแผล สร้างเนื้อเยื่อให้ประสานกัน เนื้อเยื่อจะแข็งแรงขึ้น ผิวหนังยืดหยุ่นได้ดีช่วยทำให้บาดแผลหายเร็วขึ้น อีกทั้งฟื้นฟูการยึดติดของกระดุกในผู้ป่วยกระดูกหัก ในผู้ป่วยบาดแผลจากไฟไหม้ขั้นรุนแรงและแผลจากการผ่าตัด ได้ผลดี แผลหายเร็วขึ้น ผู้ป่วยที่ได้รับการฟื้นฟูกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติเร็วขึ้น
HGH ทำให้อายุยืนยาว
เมื่อร่างกายมีระดับ HGH ที่สูงขึ้น จะช่วยยืดอายุให้ยืนยาวได้ จากการทดลองในสัตว์ นักวิทยาศาสตร์ Dr. Khanasri และ Gustad แห่งมหาวิทยาลัย North Dakota State พบว่าการได้รับ HGH เพิ่มช่วยป้องกันการเกิดเชื้อโรคแปลกปลอมทำให้ร่างกายไม่เสื่อมสภาพง่าย ระบบภูมิต้านทานดี มีอายุที่ยืนยาวขึ้น
HGH ทำงานอย่างไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
1.ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ช่วยเร่งสร้างเนื้อเยื่อเพื่อมาสมานแผล
2.ช่วยเพิ่มสารเคมีในต่อมน้ำเหลือง ปรับสมดุลให้ดีขึ้น
3. เพิ่มขีดความสามารถของต่อมไร้ท่อ กระตุ้นการล้างสารพิษในร่างกาย ต่อต้านเชื้อไวรัส ขจัดสารพิษในร่างกายได้
4. ควบคุมการทำงานของต่อมไร้ท่อต่างๆ ปรับสมดุลทางด้านอารมณ์ ช่วยให้กระตือรือร้น กระฉับกระเฉง
5. เพิ่มกล้ามเนื้อ ทำให้ร่างกายแข็งแรง เพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย ช่วยลดไขมัน เพิ่มไขมันดี ลดไขมันเลว ลดระดับโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์
6. เสริมสร้างการทำงานของหัวใจให้แข็งแรง กระตุ้นให้สร้างผนังหัวใจด้านซ้าย (Left Ventricular Wall) ให้หนาขึ้น กระสูบฉีดเลือดได้ดี
7. เสริมระบบภูมิต้านทานในร่างกาย ช่วยให้ T-Cell leucocyte และ interferon แข็งแรง ต่อต้านเชื้อไวรัสและเชื้อโรคต่างๆจากภายนอก ห่างไกลความเจ็บป่วย สุขภาพแข็งแรงขึ้น
8. เสริมการทำงานของตับและตับอ่อน ต่อต้านเชื้อไวรัสตับอักเสบบีได้
9. เพิ่มการทำงานของสมอง ทั้งด้านความจำ การเรียนรู้ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ลดอาการความจำเสื่อม
10. ช่วยเรื่องการนอนหลับ มีผลในการควบคุมประสาทส่วนกลาง ปรับสมดุลสมองเพื่อจัดลำดับเซลล์และสารเคมีในสมอง ลดความตึงเครียด ผ่อนคลายความกังวล ทำให้หลับได้สบายแล้วยาวนาน
11. ช่วยคืนความหนุ่มสาวให้แก่ผู้สูงวัย ลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าและตามร่างกาย ฟื้นฟูสภาพผิวหน้า กระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวหนัง การสร้างเซลล์ผิวใหม่ ปรับสมดุล เพิ่มน้ำและความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดรอยตีนกา ทำให้ผิวหนังไม่หย่อนยานหรือเกิดริ้วรอยน้อยลง
12. ช่วยเรื่องปัญหาหัวล้านหรือการเกิดผมผงอก เพราะจะไปช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเคมีจากต่อมใต้สมอง ช่วยเพิ่มเอนไซม์ที่กระตุ้นการสร้างเม็ดสีของเส้นผมและกระตุ้นรูขุมขนให้งอกผมใหม่ออกมา
13. ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ เสริมอารมณ์ ปรับการทำงานของต่อมต่างๆในร่างกาย ช่วยให้หลอดเลือดขยายตัวและเพิ่มฮอร์โมนเพศ อีกทั้งมีกำลังมากขึ้นด้วย
จะเห็นได้ว่าประโยชน์และผลของโกรทฮอร์โมน HGH (Human Growth hormones) หรือฮอร์โมนแห่งการเจริญวัยนั้นมากมาย หากมีการเพิ่มฮอร์โมนตัวนี้ลงไป จะทำให้ผู้สูงอายุกลับมาเป็นหนุ่มสาวได้อีกครั้ง ไม่เพียงแต่ผู้สูงอายุเท่านั้น ในทั้งเด็ก วัยรุ่นและผู้ใหญ่ ก็ควรได้รับฮอร์โมนตัวนี้เพิ่มเช่นกัน เพื่อพัฒนาและเสริมสร้างส่วนต่างๆ ปรับสมดุลระบบในร่างกายให้คงที่ รับมือกับการทำงานในชีวิตประจำวันได้ดี ช่วยให้มีสุขอนามัยที่สมบูรณ์ มีชีวิตทียืนยาวได้อีกนาน
Cr growth hormone plus.com