2020 ปีที่มีคนบ่นว่าหนักหนา
2021 ปีที่มีคนบ่นว่าหนักกว่าเดิมแน่...
สำหรับผมอย่าสนอดีตเพราะเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้ว อย่าห่วงอนาคตเพราะเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง คิดถึงแต่ปัจจุบันครับว่าตอนนี้เราเป็นอย่างไร
สิ่งที่ผมอยากสรุปสำหรับปี 2020
1. ทำงานให้เต็มที่ครับ อย่างปีที่ผ่านมาผมงานแทบไม่มีเลยครับ รู้สึกเลยว่าสิ่งที่ยังทำให้เราอยู่ได้โดยไม่ต้องกังวลเพราะเราทำงานมาเต็มที่ตลอด 20 กว่าปี ตลอดช่วงอายุผม หรือพ่อแม่เรียกว่าไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไรที่ทุกอย่างต้องหยุดชะงักขนาดนี้เลยก็ว่าได้
2. รักษาสุขภาพให้ดี ไม่ได้บอกให้ออกกำลังกาย ไม่ได้บอกให้นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ได้บอกให้ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ครับ ร่างกายเราจริงๆ ก็บอกเราได้นะครับว่าเราไหวไหม ต้องการอะไร แค่อย่าฝืน ทำไปตาที่ร่างกายเราบอก ผมก็มีบ้างเจ็บนั่นนี่ เห้ยมันไม่โอเคเลยนะครับผม ยิ่งล่าสุดนั่งขับรถผิดท่าเจ็บเข่าระดับเดินเกือบไม่ได้ คือ โห้มาแล้วจ้าปัญหาคลาสสิคแห่งวัย ใช้ชีวิตลำบากมาก คือบ้านหลายชั้นเตรียมตัดออกจากตัวเลือกเลย
3. เลิกนับอายุ แต่ก่อนผมนี่ โถก็แก่นะซิเลยเลิกนับ เอาจริงพออายุเยอะขึ้นเริ่มเข้าใจ เราจะนับทำไมครับ คนป่วย คนเจ็บ คนตาย มันไม่มีอายุมาระบุว่าคุณจะเป็นอะไรตอนไหน ไม่มีอะไรแน่นอนครับ ตาม 2 ข้อแรกเลย
4. ไม่วางแผนระยะยาว โลกปัจจุบันหมุนไวมาก หมุนแล้วไม่หมุนกลับ ทุกอย่างไวขึ้นเรื่อยๆ ข่าวดัง คนดัง อาจดังชั่วข้ามคืน แล้วหายไปเพียงชั่วข้ามวัน ใครจะไปเชื่อว่าตอนนี้เราบินไปต่างประเทศยากมาก ยังไม่รวมการประกาศปิด lock down ที่เคยเกิดขึ้นแผนทุกอย่างที่มักวางไว้ระยะยาวต้องหยุดพังลง การฝึกปรับตัว แก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วเลยสำคัญมากในการดำรงชีวิตในยุคนี้ครับ
5. รักตัวเองให้มากขึ้น คนเรามักแคร์ เป็นห่วงคนรอบตัวมากจนลืมตัวเอง จนลืมไปว่าหากตัวเราไม่รักตัวเองตัวเราไม่พร้อม ตัวเราก็จะไม่พร้อมรัก พร้อมห่วง พร้อมช่วยใครเช่นกัน
6. คุยกับตัวเองให้มากขึ้น หลายครั้งเราฟังเสียงของคนอื่นมากไป จนลืมฟังเสียงของตัวเอง ฟังความต้องการของตัวเอง คุยหาเวลาคุยกับตัวเองครับ บางทีคุณอาจตกใจว่าสิ่งที่เราเป็นไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องการ อย่าอ้างว่าเพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวนะครับ ฟังตัวเองก่อน แล้วฟังคนอื่น แล้วค่อยมาชั่งน้ำหนักอีกครั้ง แต่ให้รู้เสมอว่าเรารู้สึก เราต้องการอะไร
7. ลดเวลาการเดินทาง หรือหาทางเพิ่มเวลาให้ตัวเอง ประเด็นนี้ต้องคิดแล้วละครับ ว่าจะย้ายที่ทำงาน หรือย้ายบ้าน ไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งคู่ แต่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ในกรณีผมที่ทำงานผมค่อยข้างหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่อยู่กลางเมือง และตัวออฟฟิสก็อยู่ไม่ห่างจากกลางเมืองมากนัก ผมเลือกย้ายที่อยู่ครับ ผมเป็นคนย้ายที่อยู่ค่อนข้างบ่อยมาก พักหลังๆ ปีละครั้ง การย้ายที่อยู่ ทำให้การเดินทางไปทำงานผมเหลือแค่ 5 นาที ผมได้เวลาพักผ่อนมากขึ้น ค่าใช้จ่ายการเดินทางลดลงเป็น 10 เท่า นอกจากนั้น สังคม คนรอบตัว สิ่งแวดล้อมก็เปลี่ยนไป ว่ากันว่าที่อยู่นี่คือสิ่งที่มีอิทธิพลกับชีวิตเรามากสุดอันดับแรกๆ เลยนะครับ
8. ไม่ต้องกลัวดูจน จำได้เลยว่าการอยู่คอนโดแบรนด์ทั่วไปทำให้คนในงาน event อสังหา มองผม แล้วเบะปากใส่ จำได้ว่าการอยู่คอนโดทำให้มีคนพูดว่าห้องเธอเล็กนิ บ้านฉันใหญ่ ผมไม่ได้ใส่นาฬิกา patek ผมขายรถ porsche มาขับรถคันเล็กๆ ผมถือกระเป๋าผ้า แต่ผมมีความสุขดี การทำตัวดูรวยไม่ยากครับแค่มีเงิน แต่การทำตัวให้มีความสุข มีอิสระในการชีวิตยากกว่ามากครับ ผมได้ยินคำนึงจากเจ้าของร้านชานมว่าคุณฟลุคนี้ดูมีชีวิตที่อิสระนะครับ
9. ลองใช้ชีวิตให้เต็มที่ ใช้อย่างมีสติ ลองครับ ลองใช้ชีวิตแบบที่คนเขาบอกว่าดี ลองมีในสิ่งที่คนเขาบอกว่าดี ลองทานในสิ่งที่เขาว่าสุดยอด หลายคนอาจรู้ว่าผมเคยขี่มอเตอร์ไซค์ Big Bike หรือผมสูบบุหรี่ ลองมี ลองทำ แล้วเราจะรู้ครับว่าอะไรเหมาะกับเรา ชีวิตเราไม่ได้เป็นนิรันดร์ครับ เราจะตายวันไหนก็ไม่รู้ ใช้ชีวิตแบบของเราครับ ชีวิตไม่มีอะไรเป็นสูตรสำเร็จ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่เดือดร้อนตัวเรา และคนอื่นนะครับ
10. Social ไม่มีคำว่าส่วนตัวครับ Social ไม่ใช่ Diary แต่คือพื้นที่สื่อของเรา มันมีมูลค่า และมันสามารถวัดค่าตัวเราได้ครับ
ขอให้ทุกคนมีความสุข และมีอิสระในการใช้ชีวิตครับ
ฟลุค alwaysfluke
