#อะไรคือสิ่งสำคัญ_นอกเหนือจากความรักที่พ่อแม่มีให้ลูก
หมอประทับใจตัวละคร ‘ลุงตั้ม’ ในซีรีส์ One Year 365 วัน บ้านฉันบ้านเธอ จากหลายๆฉากในเรื่องที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าลุงตั้มเป็นตัวอย่างของพ่อแม่ที่มีความละเอียดอ่อนและเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของลูกๆ
ขอเท้าความสำหรับคนที่ไม่ได้ดู ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับ ครอบครัว 2 ครอบครัว ที่พ่อและแม่ของแต่ละครอบครัวกำลังวางแผนจะแต่งงานกัน คือครอบครัวของ ‘ลุงตั้ม’ กับ ’แม่มุก’ ซึ่งแต่ละคนก็มีลูกๆของตัวเองอยู่แล้ว
วันหนึ่งแม่มุกบอกลูกๆว่า ลุงตั้มและครอบครัวจะย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านของแม่มุกและลูก เพราะอีกหน่อยก็จะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่แล้ว การตัดสินใจของแม่มุก ทำให้ลูกบางคนไม่พอใจนัก
โดยเฉพาะ ‘ไพลิน’ ลูกสาวคนที่ 3 นักศึกษาแพทย์ปีที่สอง
.
(บทความต่อไปนี้เปิดเผยเรื่องราวจากซีรีส์)
ที่ผ่านมา ไพลินมีความปรารถนาลึกๆ มาตลอดว่าอยากให้พ่อกับแม่มาคืนดีกัน เมื่อแม่จะแต่งงานใหม่ไพลินจึงรู้สึกผิดหวังพอสมควร ช่วงเวลาที่ลุงตั้มย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้าน ไพลินเป็นคนหนึ่งที่แสดงออกชัดเจนว่าไม่ชอบหน้าลุงตั้มอย่างมาก
แต่ลุงตั้มไม่ได้โกรธหรือถือสากับการแสดงออกของไพลินที่แอนตี้ ไม่ชอบหน้าตัวเอง ลุงตั้มเข้าใจปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น และคอยสังเกตไพลินด้วยความเป็นห่วงเสมอ (เพราะไพลินกำลังดร็อปการเรียนแพทย์อยู่ เธอไม่แน่ใจว่าเธออยากเป็นหมอจริงหรือไม่)
สิ่งที่ลุงตั้มทำไม่เคยขาด คือการทำอาหารอร่อยๆ ให้ไพลินรวมถึงลูกๆทุกคน ทั้งลูกตัวเองและลูกของแม่มุกทานเสมอๆ (ลุงตั้มมีอาชีพเป็นพ่อครัวที่ทำอาหารส่งตามออเดอร์ จึงทำอาหารอร่อยมาก)
เพราะความไม่พอใจและรำคาญลุงตั้ม ไพลินเลยไปนอนค้างที่คอนโดของพ่อ
มีฉากหนึ่งที่ไพลินทำแซนวิชให้พ่อทานเป็นอาหารเช้า แต่พ่อบอกเธอว่าไม่มีเวลาทาน ต้องรีบไปตีกอล์ฟ ขอเอาไปทานที่ตีกอล์ฟแทน แต่ด้วยความรีบร้อนและอาจจะไม่ได้ใส่ใจเพียงพอ พ่อก็ลืมแซนวิชไว้ตรงชั้นรองเท้า จริงๆ ไพลินก็ควรจะชินเสียแล้ว เพราะพ่อเป็นแบบนี้เสมอ แต่ก็อดน้อยใจไม่ได้
เหตุการณ์หลายๆอย่างต่อมาที่พ่อแสดงออกว่าไม่ได้ใส่ใจไพลินนัก ในที่สุดไพลินก็คิดว่าเธอน่าจะกลับบ้านแม่มุกดีกว่า
.
เมื่อเวลาผ่านไป เธอเริ่มมองเห็นการกระทำของลุงตั้มมากขึ้น คนที่เธอไม่เคยยิ้มให้ พูดจาแรงๆใส่ แต่ก็คอยทำอาหารให้เธอทุกมื้อ สิ่งที่ลุงตั้มทำให้ แสดงถึงความเอาใจใส่ ละเอียดอ่อน ที่ไพลินไม่เคยได้รับจากพ่อแท้ๆ ที่สำคัญลุงตั้มสังเกตเห็นรายละเอียดหลายอย่างที่ไพลินรู้สึกและเป็นอยู่
ลุงตั้มดูรู้ด้วยว่าไพลินกำลังชอบพออยู่กับเพื่อนผู้หญิงที่ชื่อ ‘ทราย’ ลุงตั้มเป็นคนที่คุยกับแม่มุกให้เข้าใจไพลินในเรื่องนี้ จนไพลินไม่ต้องปิดบังครอบครัวเรื่องเป็นแฟนกันกับทรายอีกต่อไป ไพลินสบายใจขึ้นมาก
ขนาดแม่มุกที่อยู่กับไพลินมาตลอด แต่กลับไม่ได้มีความละเอียดอ่อนเท่าลุงตั้ม
หลายๆสิ่งที่แสดงออกมา ทำให้ไพลินเปิดใจกับลุงตั้มมากขึ้นเรื่อยๆ
.
หมอเชื่อว่าพ่อแม่ก็รักไพลินมาก แต่นอกจากความรักที่มีให้สิ่งที่พ่อแม่ยังขาดอยู่คือ ความละเอียดอ่อนและความเข้าใจอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นในความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ใดๆก็ตาม
แต่ที่อยากจะเน้นคือ ความสัมพันธ์แรกเริ่มที่เด็กมีตั้งแต่กำเนิด คือ ความสัมพันธ์ครอบครัว ในฐานะพ่อแม่กับลูก ตรงนั้นจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาความเป็นตัวตน
หากเด็กรู้สึกได้ว่าตัวเองเป็นที่รัก บวกกับความเอาใจใส่ใกล้ชิด พ่อแม่มีความละเอียดอ่อนมองเห็นอารมณ์ความรู้สึกของเด็ก แสดงออกว่าเข้าใจและยอมรับในตัวตนที่เด็กเป็น ส่วนในวันที่เด็กทำผิด ก็ไม่ใช้อารมณ์และให้โอกาสในการปรับปรุงตัวอย่างเหมาะสม ตรงนั้นจะนำมาซึ่งความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าพอที่จะได้รับความรักและเอาใจใส่จากผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิด ทำให้เด็กเติบโตไปมีแนวโน้มจะมีสุขภาพจิตที่ดีด้วย
ความสัมพันธ์ที่ไม่ละเอียดอ่อน ไม่เอาใจใส่ในความรู้สึกของอีกฝ่าย แม้จะมีความรักให้กันแค่ไหน มักทำให้เกิดความไม่พอใจ ขัดแย้ง ความรู้สึกไม่ดีต่อกันได้มาก ถึงจะไม่ตั้งใจก็ตาม
นอกจากความรักที่พ่อแม่มีให้ลูก อย่าลืมที่จะมีความละเอียดอ่อน เข้าใจในอารมณ์ความรู้สึก มีเมตตากรุณาและเห็นอกเห็นใจ
ถ้าให้เห็นภาพมากขึ้น ลองคิดถึงตัวเราในวัยเด็กว่าเราอยากให้พ่อแม่ของเราเป็นแบบไหน ลูกๆก็คงไม่แตกต่างนักค่ะ
#หมอมินบานเย็น
#อะไรคือสิ่งสำคัญ_นอกเหนือจากความรักที่พ่อแม่มีให้ลูก
The doctor impressed the character of 'Uncle Tum' in the One Year 365-day series. Her home from many scenes in the past shows Uncle Tum is an example of parents who are delicate and understand the emotion of their feelings. My kids.
A footprint for those who didn't watch this series is about the 2 families that each family and parents are planning to marry. The family of ' Uncle Tum ' and ' Mother Mook ', each of them are all. Already have my own kids
One day Mom Pearl told me that Uncle Tum and family will move together at mother's house, mother's and child's house because later they will become family. Mother Mook's decision makes some kids unhappy.
Especially 'Sapphire' 3nd daughter, second year medical student.
.
(The following article reveals stories from the series)
Sapphire has a deep desire for mom and dad to be reunited. Sapphire was disappointed when she was going to be remarried. Sapphire was somewhat disappointed when Uncle Tum moved into Sapphire's house. It was one that clearly expressed that she did n' My uncle Tum's face is so big.
But Uncle Tum doesn't get angry or considered by Sapphire's expression that Anti doesn't like her face. Uncle Tum understands the reactions and always observes Sapphire with concern. (Because Sapphire is dropping medical studies, she's not sure. That she really wants to be a doctor or not)
What Uncle Tum never lacks is making delicious food for Sapphire, including all children, both their children and mother's children. Always eating (Uncle Tum has a career as a chef who cooks the order, so cooking. Very delicious)
Because of frustration and annoyance, Uncle Tum Pelin went to sleepover at father's condominium.
There was a scene in which Sapphire made a sandwich for breakfast. But dad told her that she didn't have time to eat. She wanted to go golfing. She wanted to take it to golf, but was in a hurry and didn't care enough. She forgot the sandwich. It's really on the shoe layer. Sapphire should get used to it because father is always like this but I can't help but
Many events later that father expressed that he didn't care about Sapphire. Sapphire finally thinks she'd better go home to Mae Jo
.
As time goes on, she sees more of Uncle Tum's actions, who she never smiles to speak hard, but keeps cooking for her every meal. What Uncle Tum does to show the delicate care that Sapphire never gets from the important father. Uncle Tum has noticed many details of how Sapphire feels and is.
Uncle Tum also knows that Sapphire is in love with a friend of a woman named ' Sai '. Uncle Tum is the one who talks to mother Muk to understand Sapphire in this story so that Sapphire doesn't have to cover the family about being a lover. Sand anymore. Sapphire is much more relieved.
Even Mae Mook who has been with Sapphire all the time, but it's not as delicate as Uncle Tum.
Many things that appear to make Sapphire open up to Uncle Tum more and more.
.
Doctors believe that parents love Sapphire so much, but besides the love they give, what parents lack is the subtlety and understanding of emotion that is necessary in any relationship.
But I want to focus on the first relationship that kids have from birth is family relationship. Parents and kids. That's the foundation for developing identity.
If a child feels loved, positively, attentive, intimate parents are delicate. Visualize the child's emotion, understand and accept the child's identity. On the day when the child is wrong, they don't use the emotion and give an opportunity to improve the speculation. That's what they feel like. Pride of yourself. Feel yourself worthy enough to be loved and cared for by close adults. Growing up kids to have good mental health.
Unsensitive relationships, not caring for the feelings of the other. Despite how much love you give to each other, it often causes dissatisfaction and unintentional feelings.
Apart from the love that parents have for children, don't forget to be delicate, understand the emotion, be kind, kind, and compassionate
If you see more pictures, think about yourself in childhood, how we want our parents to be, they wouldn't be different.
#หมอมินบานเย็นTranslated
「หมอมินบานเย็นtranslated」的推薦目錄:
- 關於หมอมินบานเย็นtranslated 在 Cherprang BNK48 Facebook 的最佳解答
- 關於หมอมินบานเย็นtranslated 在 Apasiri Club Facebook 的最佳貼文
- 關於หมอมินบานเย็นtranslated 在 Drama-addict Facebook 的最讚貼文
- 關於หมอมินบานเย็นtranslated 在 #หมอมินบานเย็น - Explore | Facebook 的評價
- 關於หมอมินบานเย็นtranslated 在 หมอมินบานเย็น的推薦與評價,YOUTUBE和網紅們 ... - 信用卡消費資訊站 的評價
- 關於หมอมินบานเย็นtranslated 在 'เข็นเด็กขึ้นภูเขา' : หมอมิน-พญ.เบญจพร ตันตสูติ - YouTube 的評價
หมอมินบานเย็นtranslated 在 Apasiri Club Facebook 的最佳貼文
#เข้าใจจีนผ่านประสบการณ์วัยเด็กของจีน
‘ฮาวทูทิ้ง’ เป็นหนังที่มีคนถกเถียงกันมากจริงๆ ในโลกออนไลน์ หลายคนชอบ หลายคนไม่ชอบ ส่วนตัวสำหรับหมอ ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ทำให้เก็บไปคิดต่อหลายวันเลย หมอชอบทีเดียว
(โดยเฉพาะเพลง ปลูกกุหลาบแดง 9,999 ดอก คือ มันสะท้อนในหัว inception มาก55)
หลายคนไม่ชอบจีน ด่าเลยด้วยซ้ำ ในทวิตเตอร์ความเห็นแรงมาก ทำให้หมอได้แรงบันดาลใจในการเขียนบทความนี้
(กำลังจะสปอยล์เต็มที่แล้วนะ)
.
หมอรู้สึกเข้าใจจีน เพราะจีนคล้ายๆ คนที่มีปัญหาสุขภาพจิตหลายคนที่เคยคุยด้วย คือ จีนมี Defense mechanism แบบ Immature (หมายถึงกลไกป้องกันทางจิตใจที่ไม่ค่อยดีนัก)
ตรงนี้เป็นเพราะประสบการณ์ตอนเด็กๆด้วย
อันหนึ่ง คือ Identification with the aggressor
จีนทำกับพี่เอ็ม แบบพ่อตัวเองทำเลย ที่ทิ้งจีนกับครอบครัวไปตอนเด็กๆ แบบไร้ความรับผิดชอบ ทิ้งให้ครอบครัวต้องทนทุกข์ทรมานต่อเนื่อง แม่ก็ดูไม่โอเคอย่างแรง ร้องเพลงซ้ำไปซ้ำมา ไม่ยอมไปนอนเตียง ทิ้งเปียโนของพ่อไม่ได้
เธอทำเป็นไม่แคร์ไม่สนใจพ่อ แต่มันไม่ใช่หรอก เธอแคร์พ่อมาก เจ็บปวดไม่ต่างจากแม่ แต่เธอใช้กลไกป้องกันทางจิต ปฏิเสธ ไม่ยอมรับความรู้สึกที่เกิด เพราะมันอาจจะเจ็บเกินทน และโดยไม่รู้ตัวเธอส่งผ่านความเจ็บปวดที่มีให้กับแฟนอย่างพี่เอ็ม ทิ้งเขาไปแบบทิ้งขยะ ไม่สนใจ ไม่ติดต่อ ไม่บอกด้วยว่าทำไมถึงทำแบบนั้น
.
หลายคนบอกว่าจีนเห็นแก่ตัวจัง ไม่แคร์ใคร จริงๆแล้วเธอก็แคร์อยู่ อย่างฉากที่ตามคืนของเพื่อนๆ หรือตอนที่หารูปในฮาร์ดดิสก์ให้ หรือตอนที่พูดขอโทษเพื่อนสนิท
แม้ว่าไม่ถนัดนัก จริงๆเธอก็แคร์อยู่นะ แต่หลายครั้งชอบปฏิเสธความรู้สึกตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องพ่อนี่แหละ
.
จีนเริ่มรู้สึกเจ็บปวดจริงๆ ร้องไห้ เข้าใจความรู้สึกตัวเอง หลังจากที่เธอโทรศัพท์หาพ่อ ถามพ่อเรื่องเปียโนเก่า ว่าจะทิ้งไปได้มั้ย (ซึ่งหมอชอบฉากนี้มาก ไม่ได้ยินเสียงพ่อ แต่รู้ว่าที่พ่อพูดแต่ละอย่าง คงไม่แคร์อะไรใดๆ ทำให้คนดูรู้สึกเจ็บไปกับจีนด้วย)
จริงๆ แล้วเธอก็รู้สึกแย่กับการที่พ่อทิ้งไป แต่ที่ผ่านมาเธอปฏิเสธความรู้สึก ไม่ยอมรับมาตลอด
อย่างน้อยๆ จีนก็คงโล่งไปมาก หลังคุยกับพ่อ เพราะเธอน่าจะเริ่มเข้าใจตัวเอง และคนอื่น ยอมรับความเจ็บปวดได้มากขึ้น
น้ำตาของจีนตอนจบ คงอยากจะบอกคนดูว่า จีนรู้แล้วว่า ตัวจีนรู้สึกอย่างไร และรู้แล้วว่าพี่เอ็มเจ็บปวดแค่ไหน
.
ถ้ายอมรับ เข้าใจมันได้ ก็จะก้าวต่อ Move on ต่อไปได้
จะทิ้งก็ทิ้งได้ แต่ต้องทิ้งอย่างมีสติ อย่าทิ้งแบบไม่รับผิดชอบ และต้องทิ้งแบบ Healthy ด้วย อย่าทิ้งด้วย Immature Defense และการใช้กลไกทางจิตที่ไม่เหมาะสมบ่อยๆ ส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตได้
#หมอมินบานเย็น
#เข้าใจจีนผ่านประสบการณ์วัยเด็กของจีน
' How to throw away ' is a really controversial movie in the online world. Many people like many people don't like personal people. For doctors, I have to tell that this movie makes me keep thinking for days. Doctors love it.
(Especially the song to plant 9,999 red roses. It reflects in the head inception. 55)
Many people don't even like Chinese scolding on Twitter. The comments are so powerful. Doctors inspired to write this article.
(I'm about to be spoiled to the fullest)
.
Doctors feel that they understand China because China is similar to people with mental health problems. Many people talked about, Chinese has an Immature Defense mechanism (meaning mental defense mechanism that is not quite good).
This is because of the childhood experience too.
One is Identification with the aggressor
Jean did it to M as his own father did it. She left China with the family as a kid. She left her family to suffer continuously. Mother doesn't look very okay. Singing over and over again. She didn't have to go to bed. She couldn't
You act like you don't care about your dad. But it's not. You care about your dad. Hurt no different than your mom. But you use mental defense mechanism. Refuse to not accept feelings because it may be hurt beyond patience and without knowing. You pass the pain you have for your boyfriend. Brother M left him like a garbage disposal. No contact. No contact. Tell me why he did that.
.
Many people say Jean is selfish. She doesn't care about anyone. She actually cares. She doesn't care about her friend's night scene or when she finds a photo in a hard disk or when she says sorry to her best friend.
Even though I'm not good at it, you care about it. Many times, I reject your feelings. Especially with my father.
.
Jean started to feel really hurt. Crying to understand her feelings after she called her dad asking dad about the old piano if she could leave it. (The doctor likes this scene. She didn't hear the father's voice but knew that the father said each other. She did n' Any one hurts the audience for China too)
In fact, she feels bad about her dad leaving, but she has been denied her feeling.
At least Jean will be relieved after talking to her dad because she should start to understand herself and others more pain.
Chinese tears. At the end, I would like to tell people that China knows how China feels and knows how Brother M is hurt.
.
If you can accept it, you can move on to Move on.
You can leave it. But you have to leave it consciously. Don't leave it irresponsible and Healthy. Don't leave it with Immature Defense and often use of mental mechanisms. It can result in mental health problems.
#หมอมินบานเย็นTranslated
หมอมินบานเย็นtranslated 在 Drama-addict Facebook 的最讚貼文
อ่านโพสนี้พร้อมอ่านหนังสือ เลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นฆาตกร ของสรจักร จะได้อรรถรสมาก
#เลี้ยงลูกไม่ให้โตขึ้นไปฆ่าใคร
ข่าวแย่ๆที่เกิดขึ้นเมื่อวันก่อน กรณีของ นายสมคิด เดอะริปเปอร์ ฆาตกรต่อเนื่อง ถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญและสะเทือนความรู้สึกของคนที่รับรู้
เรื่องของการทำร้ายคนที่อ่อนแอหรือไม่มีทางสู้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย
ไม่ว่าจะเป็นการข่มขืน การฆ่าแกงกัน
ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญและมีส่วนหล่อหลอมเด็กที่เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ในสังคม คือ การเลี้ยงดูของครอบครัว (แต่ไม่ได้หมายความว่า คนที่ไปฆ่าใคร เป็นเพราะครอบครัวเลี้ยงดูไม่เหมาะสมอย่างเดียว มันมีหลายสาเหตุ อาจเป็นเพราะตัวเอง หรือสิ่งแวดล้อมอื่นๆ)
ถ้าครอบครัวจะช่วยให้เด็กคนหนึ่งโตมาเป็นคนที่ไม่ไปทำร้ายหรือฆ่าใคร ทำได้อย่างไรบ้าง ขอเขียนเป็นข้อๆ ดังนี้ค่ะ
.
1. เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น
ความเสี่ยงหนึ่งของเด็กที่กลายเป็นอาชญากร ก็คือ พ่อแม่ทำในเรื่องผิดๆให้ลูกเห็นบ่อยๆ หรือเด็กเห็นตัวอย่าง อยุ่ในสภาพแวดล้อมที่มีอาชญากรรม หมอเคยดูคนไข้ที่มาด้วยเรื่องขโมยของเพื่อน เมื่อซักประวัติไป ก็พบว่าพ่อของเด็กก็เป็นคนที่ชอบคดโกง เอาของคนอื่นมาเป็นของตัวเอง เมื่อเด็กเห็นสิ่งไม่ดีมาตั้งแต่เด็ก ก็มีแนวโน้มที่จะมองว่าเรื่องไม่ดีเป็นเรื่องปกติที่คนทำกัน
2. พ่อแม่ต้องมีความใกล้ชิดผูกพัน ให้ความอบอุ่น
เด็กจะรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย ไว้วางใจพ่อแม่ เป็นพื้นฐานจิตใจที่จะนำไปสู่ความเห็นอกเห็นใจคนอื่น ไม่ทำอะไรให้คนอื่นเสียใจ เริ่มที่เห็นใจพ่อแม่ เพราะไม่อยากให้พ่อแม่เป็นทุกข์หรือเสียใจ และตรงนี้จะกลายเป็นพื้นฐานที่จะนำไปสู่การเห็นอกเห็นใจคนอื่นๆต่อไป
3. รักลูกให้ถูกทาง
พ่อแม่ทุกคนรักลูก แต่ความรักแบบมีสติเป็นเรื่องจำเป็น บางคนรักลูกมาก ตามใจทุกอย่าง อยากให้อะไรก็ให้ ลูกก็จะกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจ ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่สนใจถ้าทำในเรื่องที่คนอื่นเดือดร้อน
4. สอนให้ลูกมีความรับผิดชอบและควบคุมตัวเอง
เด็กๆจะเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดี ต้องรู้จักที่จะควบคุมตัวเองได้ รู้ว่าอะไรควรไม่ควรทำ มีวินัย รับผิดชอบ ถ้าพ่อแม่ไม่สอน เด็กๆก็จะไม่รู้
5. ให้รู้จักว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ
พ่อแม่ควรจะใจดี ใจเย็น แต่ไม่ควรใจอ่อนเกินไป เวลาที่บอกเด็กว่าอะไรที่ต้องทำ หรือห้ามทำอะไร ก็ต้องเป็นไปตามนั้น อย่างไรก็ตามก็ต้องเข้าใจความต้องการ ความรู้สึกว่าเด็กคงไม่ชอบที่พ่อแม่ขัดใจ แต่ก็ต้องยืนยันไปตามที่ตกลงกัน เขาจะรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรทำ
6. จับที่ถูกและชมเชย
เมื่อเห็นว่าเด็กทำอะไรที่ดี ก็ต้องรีบชมเชย เป็นกำลังใจและสร้างแรงจูงใจที่ให้เขาทำดีต่อไป
7. เอาใจลูกมาใส่ใจเรา
เด็กจะรู้สึกดีถ้าพ่อแม่เห็นอกเห็นใจ รับรู้อารมณ์ความรู้สึกของเขา ในสถานการณ์ความขัดแย้งกัน การแสดงออกว่าพ่อแม่เข้าใจว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร จะทำให้คุยกันเข้าใจขึ้น และเมื่อลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ก็เข้าใจและเห็นใจเขา เขาก็จะมีความเข้าใจและเห็นใจคนรอบข้างต่อไป
8. สอนให้ลูกรู้จักจัดการกับความโกรธ
อารมณ์โกรธเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่ที่สำคัญกว่าคือ การจัดการความโกรธนั้นของตัวเอง เช่น โกรธได้เป็นเรื่องธรรมชาติ แต่การจัดการความโกรธอย่างเหมาะสมสำคัญกว่า ไม่ใช่ว่าโกรธแล้วจะต้องทำร้ายทำลายคนอื่น พ่อแม่ก็ต้องทำเป็นตัวอย่าง ว่าโกรธได้ แต่สามารถจัดการได้ เช่น โกรธก็ไปหาอะไรทำ ปรึกษาคนที่ไว้ใจ ไปออกกำลังกาย เป็นต้น
9.สอนให้ลูกคิดอะไรไกลๆ มีเป้าหมายในชีวิต
หลายๆครั้งเด็กที่ทำผิดรุนแรง เป็นเพราะตามเพื่อน หรือ คิดอะไรง่ายๆ สั้นๆ ถ้าเด็กมีเป้าหมายว่าอนาคตอยากทำอะไร เป็นอะไร เด็กก็จะมีแนวโน้มดูแลตัวเองเพื่อไปสู้เป้าหมายนั้นได้ ลองพูดคุยถึงความฝันความหวังของเด็กเมื่อมีโอกาส
10. ปลูกฝังทักษะการกล้าที่จะปฏิเสธในเรื่องไม่ถูกต้อง
เด็กๆส่วนหนึ่งที่ทำผิด เกิดเพราะการกดดันจากกลุ่มเพื่อน ว่าถ้ารักเพื่อนต้องทำตามๆกัน ต้องช่วยกัน แม้ว่าบางครั้งจะเป็นเรื่องที่ผิด เช่นไปเสพยาเสพติด ไปล้างแค้นฝ่ายตรงข้าม ควรปลูกฝังเรื่องความหนักแน่น กล้าที่จะปฏิเสธในเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
11. รู้จักเพื่อนของลูก
ลองชวนเพื่อนลูกมาเที่ยวบ้าน ทำอาหารให้กิน พูดคุยกัน พ่อแม่จะได้รู้เขารู้เรา ว่าเพื่อนๆที่ลูกคบอยู่เป็นคนแบบไหนยังไงบ้าง
12. อย่าทำโทษลูกด้วยวิธีรุนแรง
เวลาลูกทำผิด บอกเขาว่าอะไรที่ไม่ควรทำ และเพราะอะไร หลีกเลี่ยงการทำโทษรุนแรง เช่น การใช้คำพูดรุนแรง การตีรุนแรง หรือการทำร้ายร่างกาย การถูกกระทำรุนแรงบ่อยๆโดยเฉพาะจากพ่อแม่ จะทำให้ลูกเกิดบาดแผลทางใจ และซึมซับพฤติกรรมรุนแรง และอาจจะกลายเป็นคนรุนแรงที่ไม่เห็นอกเห็นใจใคร
.
ถ้าใครคิดว่ายาวเกินไป ขอบอกว่าข้อ 1 ถึงข้อ 3 เป็นพื้นฐานที่สำคัญมาก อย่างน้อยขอให้ทำให้ได้ และต้องทำตั้งแต่เด็กยังเล็ก จะมาเริ่มตอนโตบางครั้งก็ไม่ทันเสียแล้วค่ะ
.
บางคอมเมนท์บอกว่า คนที่อ่านบทความของหมอเค้าคงไม่เลี้ยงลูกให้ไปฆ่าใครหรอก
ดังนั้นหมอรบกวนให้ผู้อ่านเพจของหมอช่วยกดไลค์ คอมเมนท์ กดแชร์ ทำให้คนอื่นๆ ได้อ่านเพจมากขึ้น
.
หมายเหตุ: โพสต์นี้หมอนำมีรีรันใหม่ เคยเขียนเมื่อนานมาแล้วนะคะ
#หมอมินบานเย็น
#เลี้ยงลูกไม่ให้โตขึ้นไปฆ่าใคร
Bad news that happened the other day. The case of Mr. Somkhit, the Ripper, a serial killer, is shaken and shaken the feeling of a perceived person.
The story of hurting people who are weak or can't fight. It's not new things that happen in Thai
Whether it's rape, killing, curry.
One of the important factors that have grown up to be mature in society are family adoption. (It doesn't mean that people kill people because family is inappropriate. There are many causes. Maybe because of themselves or other environment)
If a family of cuddle will help a child grow up to be a person who doesn't hurt or kill anyone, how can I do this? Let's write the following questions.
.
1. is a good example for kids to see.
One risk of a child becoming a criminal is that parents do wrong things for their child to see them often. Or the child sees example in a criminal environment. The doctor has seen patients who come with a friend's thief. When they wash their history, they found out that the father of the child is also. I'm a person who likes to cheat. Take other people's own. When kids see bad things since they were young, they tend to think that bad things are normal for people to do.
2. parents must have intimacy, bonding, warmth.
Children will feel stable, safe, trust parents. It's the basic mind that leads to compassion for others. Don't do anything to others. Start sympathy for parents because they don't want to suffer or regret. And this will become the basis of compassion
3. Love kids the right way
Every parent loves their child, but conscious love is necessary. Some people love their child so much. Whatever they want, they will become spoilt child. Take yourself centered. Don't care if others are in trouble.
4. Teach kids to be responsible and to control themselves.
Children will grow up to be great adults. They must know how to control themselves. Know what to do. Discipline. Responsible.  If parents don't teach, kids will n'
5. Let's know. cuddle more than what to do. Should not do.
Parents should be kind, cool, but shouldn't be too weak. When they tell kids what they need to do or don't do anything, they must understand the need. The feeling that kids don't like parents interrupted. But they have to confirm that they agreed. Know what should or shouldn't do
6. arrests that are cheap and complimented.
When you see that a child does something good, you must be quick to compliment. Encourage and motivate him to keep doing good.
7. Please take care of my child.
A child will feel good if the parent empathy perceives his feelings in a situation of conflict. The parent understands how he is feeling will make you understand and when the child feels that the parent understands and sympathy for him, he will have understanding and understanding. I feel sorry for those around you.
8. teach kids how to deal with anger.
Anger is natural, but more importantly, it's natural to manage your own anger. Anger is natural. But handling anger properly is more important. It's not that angry and harmful to destroy others. Parents have to act like angry, but it can be handled like angry. Let's find something to do. Consult someone who trusts to exercise etc.
9. Teach kids to think differently and have goals in life.
Many times, children who do violently wrong are because of following friends or thinking about something simple. If children have a goal of what they want to do in the future, they will be more likely to take care of themselves to fight that goal. Let's talk about their dreams
10. Cultivate the courage to deny the wrong thing.
A part of kids who do wrong is because of pressure from friends. If they love friends, we need to do it together. Even if it's sometimes wrong, like taking drugs to revenge. Opponents should cultivate the firmness. Dare to deny the wrong things.
11. know my kid's friend
Try to invite friends and kids to come to the house, cook for me to eat, talk to each other. Parents will know what kind of people we are with.
12. Don't blame the child in a serious way.
When the child does wrong, tell him what not to do and why to avoid violent penalties such as harsh words, aggressive attacks or assaults. Being treated often, especially from parents will cause mental trauma and absorb severe behaviors and may become. Be a radical person who doesn't empath
.
If anyone thinks that it's too long, let me tell you that number 1 to number 3 is a very important basis. At least I wish that I could do it and I have to do it since I was young. I will start when I
.
Some comments say that the person who reads the doctor's article won't raise the child to kill anyone.
So the doctor disturbed the doctor's page readers to like, comment, share, so others can read the page more.
.
Note: This post, Doctor Nam has a new rerun. It has been written a long time ago.
#หมอมินบานเย็นTranslated
หมอมินบานเย็นtranslated 在 'เข็นเด็กขึ้นภูเขา' : หมอมิน-พญ.เบญจพร ตันตสูติ - YouTube 的必吃
เลี้ยงลูกอย่างไรดี ในยุคนี้??? สัมภาษณ์พิเศษ...คุณ หมอ เจ้าของเพจ “เข็นเด็กขึ้นภูเขา” หมอมิน -พญ. ... <看更多>
หมอมินบานเย็นtranslated 在 #หมอมินบานเย็น - Explore | Facebook 的必吃
'แองเจล่า ลี ดัคเวิร์ด' นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน เธอได้ศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่อง GRIT ซึ่งหมายถึง บุคลิกภาพอย่างหนึ่งที่มีลักษณะสำคัญคือ ความพากเพียร พยายามและ ... ... <看更多>
相關內容