(บางส่วนของบทความ) จากรายการ หนุ่ยทอล์ก ประจำวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา เรื่อง “ถอดกลยุทธ์ จีนปราบโควิด ช่วยชีวิตคนอย่างไร?”
รองศาสตราจารย์ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เห็นด้วยกับรองศาสตราจารย์ ดร.ปิติ ศรีแสงนาม เรื่องความสำคัญของผู้นำ
“ทั้งนี้ไม่จำเป็นจะต้องดึงคนให้ลงจากตำแหน่ง แต่ต้องเปลี่ยนคนที่ออกไปสื่อสารกับสังคมได้แล้ว ภาษาทางการเมืองเขาเรียกว่า เอาคนที่ ‘หน้ายังไม่ช้ำ’ ออกไปสื่อสารให้คนเข้าใจมากขึ้น ปัญหาอีกอย่างนึงคือประชาชนไม่ได้อยากฟังแค่เรื่องสาธารณสุข พวกเขาฟังมาปีกว่าแล้ว แต่พวกเขาอยากฟังมุมมองทางเศรษฐกิจ รัฐศาสตร์ อุตสาหกรรมหรือภาคท่องเที่ยวว่ามีแผนทางออกอะไรบ้าง มากกว่าที่จะรอว่ารัฐสั่งให้ทำอะไร ผมว่าเราน่าจะแก้วิกฤตศรัทธาได้ดีขึ้นครับ”
รองศาสตราจารย์ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ยังเสริมอีกว่า “หลายคนคิดว่าอู่ฮั่นโมเดลคือความสำเร็จ แต่มุมของวิทยาศาสตร์และการแพทย์กลับมองว่าอู่ฮั่นคือความล้มเหลวและความผิดพลาดที่กลายเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ที่สุด ที่จีนเองภายหลังต้องออกมายอมรับและเอามาปรับใช้กับเมืองอื่น ๆ จนเกิดเป็น ‘กว่างโจวโมเดล’ รวมถึงแพตเทิร์นต่อไปที่จะเอามาสู้กับสายพันธุ์เดลตา”
“หนึ่งในความล้มเหลวของอู่ฮั่นโมเดลคือการปฏิเสธข่าวว่ามีการระบาดที่ตลาดปลาในเมืองอู่ฮั่น พอมีการระบาดเกิดขึ้นก็ไม่ยอมรับอีกว่าสามารถแพร่จากคนสู่คนได้ แต่กลับบอกว่าติดมาจากสัตว์ จนกลายเป็นการระบาดครั้งใหญ่ถึงจะออกมายอมรับ มีนายแพทย์ใหญ่คนหนึ่งออกมาพูดถึง ‘Golden Period’ หรือวินาทีทอง ที่ถ้าควบคุมตั้งแต่ตอนนั้นก็สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ แต่จีนเลยช่วงเวลาของ Golden Period นั้นมานานแล้ว ทำให้เกิดเป็นอู่ฮั่นโมเดลที่ล็อกดาวน์เมืองทั้งหมด 72 วันตามมา ซึ่งจีนมองว่าต้องไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก จะทำอะไรต้องเร็ว สิ่งที่จีนทำได้คือการตรวจเชื้อวันละ 1 ล้านคน”
ท้ายที่สุดรองศาสตราจารย์ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์มองว่า ถึงแม้อู่ฮั่นโมเดลคือโมเดลใช้งานได้สำเร็จ แต่ก็แลกมาด้วยวิกฤตและความเสียหาย เป็นตัวอย่างของบทเรียนที่ดีให้แก่การจัดการในเมืองอื่น ๆ อย่าง กว่างโจวโมเดลต่อมา แต่ก็ต้องถามว่าประเทศไทยทำอย่างเขาได้หรือเปล่า?
รองศาสตราจารย์ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ เสริมเรื่องการจัดการของผู้นำว่า “ต้องจัดการโครงสร้างใหม่ ดึงเอกชนเข้ามาร่วมเยอะ ๆ เลิกรวมศูนย์ ประเภทที่ตัวเลข ชุดตรวจหรือการรักษาต้องอยู่ในมือฉันเท่านั้นควรเปลี่ยนได้แล้ว เลิกคิดแต่ว่ารัฐคือผู้คุมทุกอย่างได้แล้ว ในสภาวะที่เราไม่สามารถเปลี่ยนผู้นำได้ สิ่งที่เราทำได้ในวันนี้คือเปลี่ยนกลไกในการตัดสินใจทั้งหมด”
ประเด็นสุดท้ายที่พูดคุยกันยังคงอยู่กับเรื่องวัคซีน mRNA ยังคงเป็นคำตอบของไทยในเวลานี้หรือไม่? รองศาสตราจารย์ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ กล่าวว่า
“mRNA หรือวัคซีนที่เป็นโปรตีนมีความจำเป็นตั้งแต่แรก จนถึงวันนี้ รวมถึงอนาคตด้วย อย่าลืมว่ากลไกของจีนไม่ได้พึ่งแค่วัคซีนอย่างเดียว แต่รวมถึงการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้น การระดมตรวจอย่างมหัศจรรย์ การเยียวยาที่สามารถแบ่งปันอาหารกันได้ ไปจนถึงเศรษฐกิจเขาใหญ่เพียงพอที่ไม่ต้องเดินทางไปไหนก็ยังประคองตัวกันได้
ดังนั้นการที่เขาใช้วัคซีนระดับกลางจึงเพียงพอสำหรับการระบาดของสายพันธุ์เดิมหรืออัลฟา แต่การมาถึงของสายพันธุ์เดลตาทำให้นักวิจัยของจีนเริ่มพัฒนาวัคซีนเจเนอเรชันที่ 2 สำหรับใช้ในปีหน้าแล้ว เพราะเขาต่างรู้ดีว่าวัคซีนตัวเดิมเริ่มประสิทธิภาพถดถอย ขณะเดียวเขาก็เห็นแล้วว่าประสิทธิภาพของ mRNA นั้นได้ผล จึงเริ่มมีการผลิตและคาดว่าจะนำมาฉีดให้กับประชาชนในฐานะวัคซีนบูสต์เข็มที่ 3 ไปจนถึงคนที่ยังไม่ได้ฉีดด้วยเช่นกัน แต่ปัญหาของประเทศเราไม่ใช่ว่าวัคซีนตัวไหน แต่จำนวนที่มันไม่พอสำหรับคนทั้งประเทศนี่แหละที่เป็นปัญหา ซึ่งเป็นปัญหามาตั้งแต่โครงสร้าง แต่การมาของเดลตามันเปลี่ยนวิธีคิดทุกอย่างไปโดยปริยาย สิ่งที่ผมกังวลคือในช่วงเวลา 1 เดือนที่ผ่านมาเราไม่ได้ยินคำตอบใหม่ ๆ จากรัฐบาลเลย”
“ผมมักโพสต์เสมอว่าขอวัคซีนเพิ่มได้ไหม วันนี้เราต้องการลดการตายก่อน การตายเป็นเรื่องใหญ่มากกว่าการติดเชื้อ ผู้สูงอายุในบ้านเราเพิ่งฉีดวัคซีนไปเพียง 10-20% ถ้าเป็นประเทศอังกฤษเขาเน้นฉีดที่ผู้สูงอายุก่อนแล้วค่อย ๆ ไล่อายุลงมาด้วยซ้ำ แต่บ้านเรากลับฉีดสะเปะสะปะมาก ผมว่าต้องเปลี่ยนแผนใหม่ ต้องระดมซื้อวัคซีนให้มากขึ้น รวมถึงฉีดให้กับผู้สูงอายุให้เร็วที่สุดภายในเวลากี่เดือนก็ว่าไป ทำแค่ 2 อย่างนี้ก็เพียงพอมากกว่าจะไปเรียกร้อง mRNA แล้วครับ แต่ผมกลับไม่เห็นอะไรเลย”
「หนุ่ยทอล์ก」的推薦目錄:
- 關於หนุ่ยทอล์ก 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳貼文
- 關於หนุ่ยทอล์ก 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的精選貼文
- 關於หนุ่ยทอล์ก 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
- 關於หนุ่ยทอล์ก 在 หนุ่ยทอล์ก #beartai - YouTube 的評價
- 關於หนุ่ยทอล์ก 在 STARK หลอกอะไรนักลงทุน? l #หนุ่ยทอล์ก - YouTube 的評價
- 關於หนุ่ยทอล์ก 在 #หนุ่ยทอล์ก ที่สุดแห่งปี 2022 - YouTube 的評價
- 關於หนุ่ยทอล์ก 在 ตัวจริง เล่าเอง! หมดตัวเพราะโดนดูดเงิน l #หนุ่ยทอล์ก - YouTube 的評價
- 關於หนุ่ยทอล์ก 在 beartai แบไต๋ - #หนุ่ยทอล์ก ชวนถกทุกประเด็นร้อน 'โควิด-19 ในไทย ... 的評價
- 關於หนุ่ยทอล์ก 在 beartai แบไต๋ - #หนุ่ยทอล์ก ชวนคุยประเด็นรัฐสั่งห้ามนั่ง ... - Facebook 的評價
- 關於หนุ่ยทอล์ก 在 FTX ล้ม เต็มคาราเบล l #หนุ่ยทอล์ก - By beartai แบไต๋ - Facebook 的評價
- 關於หนุ่ยทอล์ก 在 โดนัทยังมีรู แล้วเงินหนูยังอยู่ไหม? l #หนุ่ยทอล์ก | By beartai แบไต๋ 的評價
- 關於หนุ่ยทอล์ก 在 หนุ่ยทอล์ก l ถึงเวลาลงจากดอย? เมื่อ Bitcoin ทะลุ 2 ล้าน! - Pinterest 的評價
- 關於หนุ่ยทอล์ก 在 วิเคราะห์จุดเปลี่ยนจาก Facebook สู่ Meta l หนุ่ยทอล์ก - RusLar.Me 的評價
หนุ่ยทอล์ก 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的精選貼文
"ใช้ชุดตรวจ antigen rapid test ไม่จำเป็นต้องแยงถึงด้านหลังโพรงจมูกครับ"
ในช่วงที่กำลังจะเริ่มอนุญาตให้ประชาชนได้ใช้ชุดตรวจ antigen rapid test สำหรับตรวจการเป็นโรคโควิด-19 ได้ด้วยตนเองนั้น .. หลายคนมีข้อสงสัยตามมา เช่น
#จะซื้อชุดตรวจแบบไหนดี ?
ก็ขอเน้นว่า ให้ใช้ชุดตรวจแบบตรวจ แอนติเจน antigen เท่านั้นนะ ดูง่ายๆ ว่า มีอุปกรณ์ให้แยงจมูก swab เก็บตัวอย่างเอาไปผสมน้ำยาตรวจ (ในต่างประเทศเริ่มมีใช้แบบที่เก็บจากน้ำลาย หรือกระพุ้งแก้มด้วย)
ไม่แนะนำให้ใช้ชุดตรวจแอนติบอดี antibidy แบบที่เจาะเลือดไปตรวจ นะครับ
ควรรอเลือกซื้อยี่ห้อที่ อย. รับรองว่าผ่านมาตรฐานแล้ว และกำลังจะมีทำเป็นฉลากและคู่มือภาษาไทย ออกมาวางจำหน่ายด้วย อย่าเพิ่งซื้อตามออนไลน์ ที่ไม่รู้ว่าได้มาตรฐานแค่ไหน
#จะอ่านผลและเก็บรักษาอย่างไร?
ดูตามคู่มือเป็นหลักเลยครับ ถ้าเราเตรียมตัวอย่างใส่ในชุดตรวจได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ก็จะแสดงผลเป็นแค่ "ขีด" ที่บอกว่าเราติดเชื้อโรคโควิด อยู่หรือเปล่า คล้ายๆ ชุดตรวจการตั้งครรภ์นั่นแหละ
ส่วนการเก็บ ก็ตามคู่มือเช่นกัน คือ เก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องธรรมดาได้ โดยไม่ให้ถูกความร้อน ไม่ถูกแสงแดด แค่นั้นเอง
#จะแยงจมูกตรวจเองกันไหวเหรอ?
คือถ้าดูในคลิปวีดีโอด้านล่าง (คลิปสาธิตของ #หมอแล็บแพนด้า ) จะเห็นว่าวิธีการใช้ชุดตรวจแบบนี้ มันง่ายกว่าที่คิดมาก ในต่างประเทศ เขาก็ทำกันเองที่บ้าน แม้กระทั่งเด็ก พ่อแม่ยังช่วยตรวจกันในบ้าน ก่อนจะไปโรงเรียนเลย
แรกๆ ก็คงไม่ชิน แต่ทำบ่อยๆ ก็คงชำนาญกันขึ้นเองล่ะครับ .. หรือให้เฉพาะผู้ที่ผ่านการฝึกมาแล้ว เป็นคนทำก็ได้นะ เช่น อบรม อสม. หรือเจ้าหน้าที่พยาบาล ตามโรงงาน โรงเรียน หน่วยงาน ชุมชนต่างๆ เป็นคนทำ
#กลัวว่าถ้าแยงไม่ลึกถึงหลังโพรงจมูกแล้วผลออกมาจะผิดพลาด?
ตอนที่ผมไปร่วมรายการ #หนุ่ยทอล์ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อาจารย์ ดร.เอกวัฒน์ ผสมทรัพย์ หัวหน้าหน่วยไวรัสวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ให้ความรู้ไว้ว่า
การใช้ชุดตรวจประเภท antigen rapid test นี้ ไม่ได้มีไว้เพื่อรีบตรวจหาตั้งแต่ที่คนๆ นั้นเพิ่งติดเชื้อไวรัสเพียงเล็กน้อย เหมือนวิธี RT-PCR จึงทำให้ไม่จำเป็นที่เราจะต้องแยงเข้าไปลึกถึง "หลังโพรงจมูก" แบบที่เห็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทำ เพื่อเก็บตัวอย่างสำหรับไปตรวจ RT-PCR ซึ่งมีความไวสูงกว่ามาก
แต่เพียงแค่แยงไม้สว็อบ ไปให้ถึงระดับในโพรงจมูกก็พอเพียงแล้ว แค่ต้องระวังอย่าให้มีสิ่งปนเปื้อนที่หนืด เช่น ขี้มูก ติดมาด้วย จะทำให้การตีผลผิดพลาดได้ (ดูใน https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=540095663805445&id=135827909783631)
สอดคล้องกับที่อาจารย์หมอ พ.ญ. ดำรงรัตน์ เลิศรัตนานนท์ ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ให้ข้อมูลหลังไมค์กับผม ไว้ดังนี้ว่า
"ถ้าประชาชนทำเอง คิดว่าไม่ต้องแหย่ลึกถึงด้านหลังโพรงจมูก (nasopharyngeal swab) มีงานวิจัยว่า ทำแค่ด้านหน้าโพรงจมูก (anterior nasal swab) ก็ได้ผลดี ทั้งความไว (sensitivity) และความจำเพาะ (specificity) ไม่ต่างกันมากกับวิธีมาตรฐาน
ที่อังกฤษ ก็ให้ทำแค่ nasal swab โดยเขาจะใช้คำว่า แหย่เข้าไปจนรู้สึกถึงจุดที่มีแรงต้าน (resistance) (ลึกประมาณ 2.5 ซม) ก็พอ แล้วหมุน 10 รอบ ทำแค่รูจมูกข้างเดียว ..."
#ทิ้งท้ายว่า ทาง "สภาเทคนิคการแพทย์" เชิญชวนประชาชนทั่วไปที่มีข้อสงสัยเรื่อง "การตรวจการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19" สามารถแอดไลน์ MedTech Hotline สายด่วน (https://lin.ee/AA8BLxj) เพื่อถามปัญหากับนักเทคนิคการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสภาเทคนิคการแพทย์ ได้ฟรีทุกวันครับ
หนุ่ยทอล์ก 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳解答
"ใช้ชุดตรวจ antigen rapid test ไม่จำเป็นต้องแยงถึงด้านหลังโพรงจมูกครับ"
ในช่วงที่กำลังจะเริ่มอนุญาตให้ประชาชนได้ใช้ชุดตรวจ antigen rapid test สำหรับตรวจการเป็นโรคโควิด-19 ได้ด้วยตนเองนั้น .. หลายคนมีข้อสงสัยตามมา เช่น
#จะซื้อชุดตรวจแบบไหนดี ?
ก็ขอเน้นว่า ให้ใช้ชุดตรวจแบบตรวจ แอนติเจน antigen เท่านั้นนะ ดูง่ายๆ ว่า มีอุปกรณ์ให้แยงจมูก swab เก็บตัวอย่างเอาไปผสมน้ำยาตรวจ (ในต่างประเทศเริ่มมีใช้แบบที่เก็บจากน้ำลาย หรือกระพุ้งแก้มด้วย)
ไม่แนะนำให้ใช้ชุดตรวจแอนติบอดี antibidy แบบที่เจาะเลือดไปตรวจ นะครับ
ควรรอเลือกซื้อยี่ห้อที่ อย. รับรองว่าผ่านมาตรฐานแล้ว และกำลังจะมีทำเป็นฉลากและคู่มือภาษาไทย ออกมาวางจำหน่ายด้วย อย่าเพิ่งซื้อตามออนไลน์ ที่ไม่รู้ว่าได้มาตรฐานแค่ไหน
#จะอ่านผลและเก็บรักษาอย่างไร?
ดูตามคู่มือเป็นหลักเลยครับ ถ้าเราเตรียมตัวอย่างใส่ในชุดตรวจได้อย่างถูกต้องเหมาะสม ก็จะแสดงผลเป็นแค่ "ขีด" ที่บอกว่าเราติดเชื้อโรคโควิด อยู่หรือเปล่า คล้ายๆ ชุดตรวจการตั้งครรภ์นั่นแหละ
ส่วนการเก็บ ก็ตามคู่มือเช่นกัน คือ เก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องธรรมดาได้ โดยไม่ให้ถูกความร้อน ไม่ถูกแสงแดด แค่นั้นเอง
#จะแยงจมูกตรวจเองกันไหวเหรอ?
คือถ้าดูในคลิปวีดีโอด้านล่าง (ขอขอบคุณ Pulse Clinic สำหรับคลิปสาธิตครับ) จะเห็นว่าวิธีการใช้ชุดตรวจแบบนี้ มันง่ายกว่าที่คิดมาก ในต่างประเทศ เขาก็ทำกันเองที่บ้าน แม้กระทั่งเด็ก พ่อแม่ยังช่วยตรวจกันในบ้าน ก่อนจะไปโรงเรียนเลย
แรกๆ ก็คงไม่ชิน แต่ทำบ่อยๆ ก็คงชำนาญกันขึ้นเองล่ะครับ .. หรือให้เฉพาะผู้ที่ผ่านการฝึกมาแล้ว เป็นคนทำก็ได้นะ เช่น อบรม อสม. หรือเจ้าหน้าที่พยาบาล ตามโรงงาน โรงเรียน หน่วยงาน ชุมชนต่างๆ เป็นคนทำ
#กลัวว่าถ้าแยงไม่ลึกถึงหลังโพรงจมูกแล้วผลออกมาจะผิดพลาด?
ตอนที่ผมไปร่วมรายการ #หนุ่ยทอล์ก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา อาจารย์ ดร.เอกวัฒน์ ผสมทรัพย์ หัวหน้าหน่วยไวรัสวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ให้ความรู้ไว้ว่า
การใช้ชุดตรวจประเภท antigen rapid test นี้ ไม่ได้มีไว้เพื่อรีบตรวจหาตั้งแต่ที่คนๆ นั้นเพิ่งติดเชื้อไวรัสเพียงเล็กน้อย เหมือนวิธี RT-PCR จึงทำให้ไม่จำเป็นที่เราจะต้องแยงเข้าไปลึกถึง "หลังโพรงจมูก" แบบที่เห็นเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ทำ เพื่อเก็บตัวอย่างสำหรับไปตรวจ RT-PCR ซึ่งมีความไวสูงกว่ามาก
แต่เพียงแค่แยงไม้สว็อบ ไปให้ถึงระดับในโพรงจมูกก็พอเพียงแล้ว แค่ต้องระวังอย่าให้มีสิ่งปนเปื้อนที่หนืด เช่น ขี้มูก ติดมาด้วย จะทำให้การตีผลผิดพลาดได้ (ดูใน https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=540095663805445&id=135827909783631)
สอดคล้องกับที่อาจารย์หมอ พ.ญ. ดำรงรัตน์ เลิศรัตนานนท์ ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ให้ข้อมูลหลังไมค์กับผม ไว้ดังนี้ว่า
"ถ้าประชาชนทำเอง คิดว่าไม่ต้องแหย่ลึกถึงด้านหลังโพรงจมูก (nasopharyngeal swab) มีงานวิจัยว่า ทำแค่ด้านหน้าโพรงจมูก (anterior nasal swab) ก็ได้ผลดี ทั้งความไว (sensitivity) และความจำเพาะ (specificity) ไม่ต่างกันมากกับวิธีมาตรฐาน
ที่อังกฤษ ก็ให้ทำแค่ nasal swab โดยเขาจะใช้คำว่า แหย่เข้าไปจนรู้สึกถึงจุดที่มีแรงต้าน (resistance) (ลึกประมาณ 2.5 ซม) ก็พอ แล้วหมุน 10 รอบ ทำแค่รูจมูกข้างเดียว ..."
#ทิ้งท้ายว่า ทาง "สภาเทคนิคการแพทย์" เชิญชวนประชาชนทั่วไปที่มีข้อสงสัยเรื่อง "การตรวจการติดเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19" สามารถแอดไลน์ MedTech Hotline สายด่วน (https://lin.ee/AA8BLxj) เพื่อถามปัญหากับนักเทคนิคการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสภาเทคนิคการแพทย์ ได้ฟรีทุกวันครับ
หนุ่ยทอล์ก 在 STARK หลอกอะไรนักลงทุน? l #หนุ่ยทอล์ก - YouTube 的必吃
หนุ่ยทอล์ก สรุปครบประเด็น STARK แบไต๋พาถอดบทเรียนพร้อมกันว่า STARK หลอกอะไรนักลงทุน? ร่วมพูดคุยกับประกิต สิริวัฒนเกตุ นักกลยุทธ์การลงทุน ... ... <看更多>
หนุ่ยทอล์ก 在 #หนุ่ยทอล์ก ที่สุดแห่งปี 2022 - YouTube 的必吃
หนุ่ยทอล์ก สวัสดีปี 2023! พบกับคลิปที่สุดแห่งปี 2022 จะมีเรื่องไหนโดนใจผู้ฟังกันบ้าง ไปชมกันเลย. ... <看更多>
หนุ่ยทอล์ก 在 หนุ่ยทอล์ก #beartai - YouTube 的必吃
Share your videos with friends, family, and the world. ... <看更多>