อะไรดี-ไม่ดี อยู่ที่คุยกับใคร
ถามมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กว่า ทำไมแต่งตัวเหมือนเดิมทุกวัน เราจะได้คำตอบเท่ๆ ว่า "ผมไม่เสียเวลามานั่งคิดทุกเช้าหรอกว่าวันนี้จะใส่อะไรดี" เผินๆ ชวนเคลิ้มว่า เออว่ะ การมานั่งคิดเรื่องแต่งตัวนี่มันเสียเวลา ไร้สาระจริงด้วย เอาเวลาไปทำอะไรประเทืองปัญญาดีกว่า
แต่ความดีงามนั้นหลากหลาย
เคยสัมภาษณ์คุณโชค บุลกุล เขาบอกว่า "ผมให้ความสำคัญกับเรื่องการแต่งตัวมาก มันเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จทางธุรกิจ" ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เขาสร้างแบรนด์ฟาร์มโชคชัยผ่านเครื่องแบบคาวบอยของเขา และสวมหมวกคาวบอยออกสื่อตลอดเวลาจนเป็นที่จดจำ
เคยสัมภาษณ์พี่จิตสิงห์ สมบุญ ดีไซเนอร์เกรย์ฮาวนด์ ผู้ชอบเล่นสนุกกับการทดลองแต่งตัว บางช่วงอยากใส่ชุดขาวก็จะแต่งตัวแบบนั้นอยู่เป็นเดือน บางช่วงก็ใส่ชุดวอร์มเป็นเดือน ลองไปเรื่อย ถามแกว่า ทำไปทำไม แกบอกว่า "คุณเขียนหนังสือ คุณลงทุนกับหนังสือที่ซื้อมาอ่าน ผมออกแบบเสื้อผ้า การแต่งตัวของผมคือการลงทุน การเรียนรู้ การทดลอง นี่ผมสเก็ตช์แบบลงบนตัวเองเลย"
สำหรับเขาแล้ว เพียงแต่งตัวให้เหมาะสมกับบุคลิกของเราก็จะทำให้เราดูดี มีเสน่ห์ น่าพูดจาด้วยขึ้นอีกเยอะ
ไม่ต้องนับถึงเจ้านายเก่าอย่างพี่บา ภาณุ อิงคะวัต ที่ให้ความสำคัญกับการแต่งตัวในวันที่จะไปพรีเซนต์งานกับลูกค้ามาก อันที่จริง สีของแบรนด์ สไตล์ ล้วนสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้ทั้งนั้น
การแต่งตัวไม่ใช่เอาเปลือกมาห่อตัวเรา แต่เป็นการขับเน้นบุคลิกบางด้านของเราให้โดดเด่นออกมาในบางโอกาส นอกจากนั้นแล้วมันยังแสดงออกถึงการคิดถึงและให้เกียรติผู้ที่เราปฏิสัมพันธ์ด้วย และสำหรับบางคน มันเป็นสีสันของชีวิต มันคือสนามเด็กเล่นบนเรือนร่าง
ถามว่าพี่มาร์ค ซัคฯ แกเจ๋งมั้ย ก็เจ๋ง แต่มันไม่ใช่คำตอบเดียว และสำหรับบางคน...คิดเรื่องแต่งตัวอีกสักนิดก็น่าจะดีไม่ใช่หรือ...เช่นตัวไอ้คนเขียนสเตตัสนี้เป็นต้น
Search