อันดับ1 ของโลก
📌📌📌📌📌
อ้างอิงจากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติ และ CS Global wealth report #ความเหลื่อมล้ำของสังคม ในประเทศไทยอยู่ในระดับต้นๆและของอันดับหนึ่งของโลกมาหลายปี ไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา การเข้าถึงระบบสาธารณสุข หรือแม้แต่การเหลื่อมล้ำของรายได้ของประชาชนระหว่างคนรวยและคนจน
คนรวยรวยเพิ่มมากขึ้น และคนจนก็จนลงอย่างน่าใจหาย
คนร่ำรวยในประเทศไทยคิดเป็นเพียง 1% ของประชากร 70 ล้านคน
และทรัพย์สินของรวยที่มีเพียง 1% ในสังคมไทย รวมกันแล้วมีทรัพย์สินมากกว่าประชากร 70 ล้านคนรวมกัน
( #รวยกระจุก #จนกระจาย )
ซึ่งเกิดจากภาครัฐเพื่ออำนวยผลประโยชน์และสิทธิต่างๆให้คนรวยมากเกินไป คนจนที่มีรายได้น้อยไม่สามารถเข้าถึงระบบการศึกษาที่ดี การรักษาพยาบาลที่ดี หรือแม้กระทั่งโอกาสในการทำงานที่ดี เพราะภาครัฐเอื้ออำนวยให้บริษัทของคนรวยซึ่งภาครัฐมีประโยชน์ร่วมให้ได้รับโอกาสในการทำงานดีมากกว่าบริษัทของคนทั่วไป
ภาครัฐก็พยายามแก้ไขความเหลื่อมล้ำนี้โดยการแจกเงินให้ประชาชนซึ่งมันเป็นการแก้ไขที่ผิดวิธีมากๆค่ะ เพราะเงินที่ทางภาครัฐจ่ายมาจะกลับไปอุดหนุนบริษัทต่างๆของคนที่ร่ำรวยมากอยู่แล้วให้มีรายได้มากขึ้นอีกจึงทำให้ความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ
นี่ยังไม่พูดถึงคนพิการและบุคคลที่มีความแตกต่างหลากหลายทางเพศ หรือกลุ่ม #LGBTQ ที่ไม่ได้รับบริการให้เข้าถึงในระบบต่างๆของรัฐบาลอย่างเท่าเทียมนะคะ
มี่มี่คิดว่า
1. รัฐบาลไม่ควรเอื้ออำนวยประโยชน์และสิทธิพิเศษต่างๆแก่คนร่ำรวยมากเกินไป จึงทำให้คนจนและประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงโอกาสที่จะรับงานหรือโปรเจกต์งานที่ดี เพราะรัฐบาลจะเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทของคนรวยมากอยู่แล้ว หรือบริษัทที่รัฐบาลมีส่วนร่วมอยู่ 
2. ลูกหลานคนยากจนและประชาชนทั่วไปควรเข้าถึงระบบการศึกษาที่ดีเทียบเท่ากับลูกคนรวย เพราะถ้าพวกเขาได้รับการศึกษาที่ดีจะส่งผลต่ออาชีพการงานที่ดีในอนาคต และอาชีพการงานที่ดีจะช่วยลดปัญหาความยากจนต่อไปในอนาคต
3.ให้คนยากจนและประชาชนทั่วไปเข้าถึงระบบสาธารณสุขที่ดี ไม่ใช่ว่าเจ็บป่วยหนึ่งทีก็เอาเงินที่มีอยู่อย่างน้อยนิดมารักษาพยาบาลบางคนถึงกับขายบ้าน ขายที่ดินผืนสุดท้าย มารักษาชีวิตตัวเองซึ่งทำให้ปัญหาความยากจนเพิ่มมากขึ้น
มี่มี่คิดว่าถ้าเราแก้ไขปัญหาหลักๆ 3 ข้อนี้ได้ก็จะทำให้ความเหลื่อมล้ำลดน้อยลง และยังจะทำให้คุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนเพิ่มมากขึ้นในอนาคตอย่างยังยืน
💜💙💚💛🧡💖❤️🤎🖤
สำหรับกลุ่มความหลากหลายทางเพศหรือ LGBTQ ได้รับผลกระทบต่อปัญหาการถูกเลือกปฏิบัติ ความเหลื่อมล้ำของสังคมมาโดยตลอดตั้งอดีตจนถึงปัจจุบัน
1. ไม่ว่าจะเป็นการถูกเลือกปฏิบัติในที่ทำงาน หรือถูกปฏิเสธในการจ้างงานเพราะเพศสภาพ
2. ในสถานศึกษา ในบางวิชาบางคณะไม่รับนักเรียนที่เป็นสาวประเภทสองหรือ LGBTQ แต่ถ้ารับก็จะถูกบังคับให้ตัดผมหรือแต่งตัวตามเพศกำเนิดของตัวเอง ซึ่งทำให้พวกเขาเหล่านั้นมีความกดดันมากกว่าปกติ กดดันจากการเรียนก็มากพอแล้ว แถมยังจะมาเครียดเรื่องไม่ถูกยอมรับและไม่เป็นตัวของตัวเองอีก
3. การเข้าถึงระบบสาธารณสุขต่างๆ ยกตัวอย่างเช่นเหตุการณ์หนึ่ง มีมี่เคยเจอกับตัวเอง คือการไปบริจาคเลือดและเจ้าหน้าที่ทำปฏิกิริยา อย่างเด่นชัดว่าไม่ต้องการ เลือดของสาวประเภทสองหรือกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ ฯลฯ
และปัญหาเรื่องอื่นๆอีกหลายอย่างที่กล่าวถึงไม่หมด บางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆแต่เรื่องแบบส่งผลกระทบต่อจิตใจและสิทธิความเป็นมนุษย์ คนที่ไม่เคยโดนกับตัวเองจะไม่มีทางเข้าใจค่ะ
มีมี่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อที่จะเป็นกระบอกเสียงในการลดความเหลื่อมล้ำเหล่านี้ ไม่ใช่เฉพาะกลุ่ม lgbtq อย่างเดียว แต่เพื่อทุกคนในสังคมไทย. และมีมี่คนเดียวก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงและแก้ไขปัญหานี้ได้ถ้าทุกคนไม่ร่วมมือกันอย่างจริงจัง
(Together we can change the world).
#มีมี่เทา #ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม #ความเสมอภาค #สิทธิมนุษยชน
#MimiTao #ReducedInequalities #Equalities #HumanRights
TOGETHERBAND #Goal10
Cr.ขอบคุณภาพประกอบจากช่องวันค่ะ
รวยกระจุก 在 Put Dejudom Facebook 的最佳貼文
กราบประเทศไทย
#เหลื่อมล้ำกันทั่วหน้า #คนชั้นกลางคิดว่าไม่เเฟรเลย
ไทยขึ้นเบอร์ 1 ประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก รวยกระจุก จนกระจาย
= = = = = = = = =
นายบรรยง พงษ์พานิช อดีตคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Banyong Pongpanich เปิดเผยข้อมูล เรื่องความเหลื่อมล้ำ ปรากฎว่าประเทศไทยถูกจัดอันดับ 1 ในประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก ระบุว่า
"ว่าด้วยความเหลื่อมล้ำ… 5 ธ.ค.61
ประเทศไทย กลายเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในโลกไปแล้ว …ตามข้อมูลของ CS Global Wealth Report 2018 ที่ออกมาเมื่อเดือนตุลาคม มีข้อมูลที่น่าเป็นห่วงมากว่า ถ้านับในด้านความมั่งคั่ง(Wealth)แล้ว ไทยแลนด์แดนสารขัณฑ์ที่ได้อันดับ 3 ในการสำรวจเมื่อสองปีที่แล้ว สามารถแซงทั้งรัสเซีย ทั้งอินเดีย ฉลุยขึ้นป้ายอันดับ 1 ได้อย่างค่อนข้างห่างด้วยซ้ำ
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว (2016) คนไทย 1% มีทรัพย์สินรวม 58.0% ของทรัพย์สินรวมทั้งประเทศ มาปีนี้(2018) 1% มีเพิ่มเป็น 66.9% รวยขึ้นอื้อเลยครับ …แซงรัสเซียที่ลดจาก 78% เหลือแค่ 57.1% ตกไปเป็นที่2 ขณะที่ตุรกีมาแรงทั้งๆที่เศรษฐกิจห่วยแตกแต่คนรวยกลับเพิ่มสัดส่วนขึ้นได้เป็น54.1% แซงอินเดียที่ตกไปเป็นที่4 จาก 58.4% เหลือแค่เพียง 51.5%
แล้วนอกจาก 4 ประเทศนี้ ก็ไม่มีประเทศไหนในโลกอีกแล้วที่คนรวย 1% มีเกินครึ่ง โดยประเทศที่ดีที่สุดคือเบลเยี่ยมที่ 1% มีแค่ 20.1% ตามด้วยออสเตรเลีย 22.4%
พอไปดูรายละเอียดของตาราง(table6.5) ยิ่งอยากเอาเท้าก่ายหน้าผากเข้าไปใหญ่ …เพราะคนไทยที่จนสุด 10% มีทรัพย์สิน0% (จริงๆถ้ารวมหนี้น่าจะติดลบนะครับ) …ขณะที่ถ้านับ 50% (25ล้านคน)ก็ยังมีแค่ 1.7% …และถ้าเอา70% (35ล้านคน) ก็เพิ่มไปเป็นแค่ 5%
…ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจหรอกครับเพราะว่าไอ้ 1% มันเอาไปหมด …แต่ที่น่ากังวลก็คือมันสะท้อนว่า คนครึ่งประเทศ เป็นพวก”หาเช้ากินค่ำ”หรือไม่ก็”เดือนชนเดือน” ไม่มีเหลือเก็บเหลือออม แล้วแถมกำลังจะแก่ก่อนมีเงินออมซะอีกด้วย
ถ้าไปดูตัวเลขค่าสัมประสิทธิ์GINIด้านความมั่งคั่ง (มาตรวัดการกระจาย ที่ค่าสูงสุด100 หมายถึงคนเดียวเอาไปหมด ถ้า0 แปลว่าทุกคนเท่ากันหมด) ตามtable6.6 ก็ยืนยันว่าประเทศไทยนั้นเหลื่อมล้ำมากที่สุดในโลก เพราะGINI เราสูงถึง90.2 ซึ่งผมว่าน่าจะเป็นสถิติโลกที่คงหาคนทำลายได้ยาก
อย่างไรก็ตาม รายงานนี้ยืนยันว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำเป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เราอาจจะมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ทางการเงิน ทางการเมืองได้ดี แต่ถ้าไม่แก้เรื่องนี้ให้ได้ก็สุ่มเสี่ยงมากครับว่า เสถียรภาพทางสังคมจะมีปัญหา
ที่ยากจะกระจาย ก็เพราะว่ามันกระจุกแบบสุดๆนี่แหละครับ ใครคิดว่า”รัฐสวัสดิการ”จะช่วยได้ ก็ต้องระวังแหล่งที่มาของเงินที่จะเอามากระจายด้วยนะครับ เพราะคนส่วนใหญ่(80%)เขาก็หาได้แทบไม่พออยู่แล้ว
ครั้นจะเอาจากพวก1% ก็ต้องฝ่ากระบวนการล็อบบี้อันทรงอิทธิพลของเหล่าเจ้าสัวให้ได้ และต้องระวังเขาหอบทรัพย์หนีออกนอกประเทศกันหมดด้วย
รวยกระจุก 在 นายอาร์ม Facebook 的最佳貼文
หันไปทางไหนก็มีแต่คนส่ายหน้า บอกค้าขายไม่ดี แล้วที่บอกเศรษฐกิจดีขึ้นนี่ เงินมันไปกองอยู่ที่ตรงไหนกันหมด!!
#รวยกระจุก #จนกระจาย #ใครๆก็ขายของไม่ได้ #แต่รัฐบาลบอกเศรษฐกิจดี #ผมก็ไม่รู้ว่าเงินมันหายไปไหนหมด #เจ็บปวดมั้ยล่ะ #echo #fookingecho
ขอบคุณ ศูนย์วิจัยความเหลื่อมล้ำและนโยบายสังคม คณะเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์
รวยกระจุก 在 The Reporters - KNOWLEDGE เปิดตัวเลข รวยกระจุก จนกระจาย... 的必吃
KNOWLEDGE เปิดตัวเลข รวยกระจุก จนกระจาย ชี้ คนรวยมีไม่ถึง 1% แต่มีเงินฝากเกือบ 70% ของประเทศ คนรากหญ้า 60 ล้านคน มีเงินฝากเพียง 3.1% ของประเทศ ลอย... ... <看更多>