ตามที่หลายคนเรียกร้องกันมาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว ว่าอยากเรียนการทำธุรกิจออนไลน์กับสมองไหล เพราะเห็นหลักฐานเป็นรูปธรรมจากการลงมือทำจริงและประสบความสำเร็จของผมมานานแล้ว
.
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมที่ผ่านมาผมไม่ยอมเปิดสอนสักที ทำไมต้องรอให้ถึงปีนี้ ถามกี่ทีก็บอกว่ายังไม่เปิด
.
ผมขอสารภาพกับทุกคนตามตรงครับ ว่าที่ผมไม่ยอมสอนใครไม่ได้เป็นเพราะผมหวงวิชา แต่เป็นเพราะผมไม่อาจนำสิ่งที่ผมรู้ในตอนนั้นไปสอนคนทั่วไปได้ หากมันยังไม่ผ่านการ “ทดสอบ”
.
เพราะไม่มีอะไรการันตีว่า สิ่งที่ผมทำแล้วสำเร็จ มันจะสำเร็จกับคนอื่นด้วย
.
ผมจึงใช้เวลาตลอด 1 ปีเต็ม นำสิ่งที่ผมได้ตกผลึกจากการลงมือทำธุรกิจออนไลน์จริงๆ ไปทดสอบกับกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะกับมหาวิทยาลัย
.
ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ฯลฯ เพื่อทดสอบและวัดผลออกมาว่าสิ่งที่ผมสอนไปนั้น คนอื่นสามารถนำไปสร้างผลลัพธ์ได้จริงไหม
.
ผมยอมรับตามตรงว่า ตอนแรกมันไม่ใช่ทุกอย่างที่ได้ผล แต่มันก็เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะผมจะได้ตัดเนื้อหาที่ไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ออก และ คัดเฉพาะเนื้อหาที่ได้ผลจริงๆ มาสอนคุณ เท่านั้น
.
จากนั้นก็นำมาทดสอบกับคนทำธุรกิจ อีก 3 กลุ่ม ซึ่งเป็นคนที่ผมขอเข้าไปช่วยทำออนไลน์ และ ให้คำปรึกษา แบบฟรีๆ เพราะอยากจะ “ทดสอบ” อีกขั้นว่า ถ้าคนทำธุรกิจที่ไม่ใช่นักศึกษา จะนำไปใช้จริงได้ไหม
.
คนแรก คือ คุณกมลฉัตร เจ้าของเพจ Urban Jungle.Start ทำธุรกิจเกี่ยวกับต้นไม้ ซึ่งผมเข้าไปช่วยตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ๆ ที่เพจยังมีคนตามไม่ถึง 200 คน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
.
ผลลัพธ์ คือ ตอนนี้มีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นมากกว่า 37,000 คน คอนเทนต์มียอดแชร์ทะลุเกิน 60,000 ครั้ง และ สามารถทำรายได้จากธุรกิจต้นไม้ได้อย่างมหาศาล ที่สำคัญคือ ทุกอย่างทำแบบออแกนิก ไม่ได้ยิงแอดสักบาท
.
คนที่สอง คือ บริษัทประกันชีวิตค่ายหนึ่ง ซึ่งเดิมทีการขายประกันจะหาลูกค้าจากคนใกล้ตัว การแนะนำ และ การวอคอิน เป็นหลัก แน่นอนว่าสมัยก่อนวิธีสามารถทำได้ดี แต่สมัยนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว เพราะปัจจุบันพฤติกรรมของคนซื้อประกันเปลี่ยนไปแล้ว พวกเขาจะหาข้อมูลเปรียบเทียบบนออนไลน์ก่อนตัดสินใจเสมอ
.
ดังนั้น ใครที่ทำธุรกิจประกันแล้วไม่ได้เอาตัวเองขึ้นไปอยู่บนออนไลน์ คุณก็จะหายไปจากวงโคจรในชีวิตของลูกค้าทันที เพราะเมื่อลูกค้าเสิร์ชหาแล้วไม่เจอ เขาก็ไม่รู้ ไม่เห็น สุดท้ายเขาก็ไม่ซื้อกับคุณจริงไหม ซึ่งการที่ยอดขายประกันของบางคนหายไป ไม่ใช่เพราะคนซื้อประกันน้อยลงแต่อย่างใด เพียงแต่เขาไปซื้อกับคนอื่นต่างหาก ซึ่งนี่เป็นงานที่ท้าทายสำหรับผมมากๆ ผมตอบตกลงทำงานนี้โดยไม่รับค่าตอบแทนใดๆ ผมบอกกับทางบริษัทนี้ว่า ถ้าผมสร้างผลลัพธ์ให้ได้ ค่อยมาจ่ายให้ผม ซึ่งผลปรากฎว่า ประสบความสำเร็จ ตามแผนเป็นอย่างดี
.
คนที่สาม คือ พี่ก้อย ซึ่งเป็นพี่ที่ผมรู้จักคนหนึ่ง เขาเปิดร้านต่อขนตา แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคสำหรับเขา ก็คือ “ทำเล”
.
เพราะเมื่อโควิดระบาด ร้านเสริมสวยต้องปิดตัว พี่ก้อยจึงต้องกัดฟันปิดร้าน แล้วมาใช้บ้านของตัวเองเปิดร้านแทน แต่ปัญหา คือ บ้านของเขาอยู่ท้ายซอยหลังสุดท้าย ซึ่งเป็นซอยตัน แถมเส้นทางการเดินทางก็คดเคี้ยว นอกจากลูกค้าประจำจะหายไปเยอะแล้ว ลูกค้าใหม่ยังแทบหาไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้น คือ พี่ก้อยเครียดมาก เพราะค่าใช้จ่ายในบ้านก็เริ่มไม่พอ ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าเทอมลูก และ ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ อีก
.
อย่างไรก็ตาม Mindset ของพี่ก้อยก็เปลี่ยนไปทันที เมื่อผมพูดกับเขาว่า “พี่ฟังดีๆ นะ ทำเล ไม่ใช่อาคาร ไม่ใช่ตึก ไม่ใช่ร้านริมถนน แต่คำว่า ทำเล มันหมายถึง ที่ๆ มีลูกค้า”
.
พี่ลองคิดดูดีๆ ว่ายุคนี้ ที่ไหน คือ ที่ๆ มีลูกค้ามากที่สุด
.
ใช่ครับ !! บนออนไลน์ไง ออนไลน์ คือ “ทำเลทอง” ของยุคนี้ เพราะลูกค้าอยู่บนออนไลน์เยอะที่สุด ตลอด 24 ชั่วโมง
.
ซึ่งตอนแรกพี่เขาไม่เก็ท แถมยังเกือบจะด่าผมกลับว่า “กูต่อขนตา ไม่ได้ขายออนไลน์ มันส่งไปรษณีย์ไม่ได้โว้ยยย”
.
ผมเลยถามพี่เขากลับไปว่า “เวลาพี่ไปต่างจังหวัดพี่หาโรงแรม พี่ทำยังไง ? แล้วถ้าพี่หิวข้าวล่ะ อยากหาร้านอาหารอร่อยๆ สักร้าน พี่ทำยังไง ?
.
“ก็เสิร์ชหาในเฟซบุ๊ก กูเกิล หรือไม่ก็ แอพวงในไง” พี่ก้อยตอบ
.
แล้วพี่ไม่คิดบ้างหรอ ว่าคนที่อยากต่อขนตา เขาจะหาร้านพี่บนออนไลน์ ดูคอนเทนต์ ดูรีวิวก่อนว่าพี่สามารถทำให้เขาสวยได้ไหม แล้วถ้าเกิดเขาดูรีวิวแล้วชอบฝีมือการต่อขนตาของพี่ พี่ไม่คิดบ้างหรอ ว่าเขาก็จะขับรถตามมาทำกับพี่ถึงในซอยตันนี้
.
ตอนแรกเขาก็ไม่เชื่อ แต่ด้วยความที่มันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ถ้าไม่ทำก็เจ๊ง ก็เลยลองทำดู
.
ผลปรากฎว่าผ่านไป 1 เดือน ตอนนี้ร้านต่อขนตาแห่งนี้ ถ้าคุณจะทำแต่ละที บอกเลยว่าต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ที่สำคัญ ตั้งแต่เปิดร้านยันปิดร้าน ร้านของพี่ก้อยก็ไม่เคยว่างเว้นจากลูกค้าเลย เพราะเมื่อลูกค้าคนปัจจุบันทำเสร็จ ก็จะมีคิวต่อไปมานั่งรอทันที
.
หลังจากพี่ก้อยคิวเต็ม จนไม่ค่อยมีเวลาคุยกับผม ผมจึงแกล้งถามติดตลกว่า “พี่ยังอยากจะกลับไปจ่ายเงินเช่าร้านแพงๆ ทำเลดีๆ อีกไหม ?”
.
ซึ่ง คุณก็คงรู้ดี ว่าพี่เขาจะตอบผมอย่างไร
.
ผลการ “ทดสอบ” ทั้งหมดนี้ ทำให้ผมมั่นใจแล้วว่า วิชาความรู้จากประสบการณ์ของผม ทุกคนสามารถนำไปใช้ให้เกิดผลลัพธ์ได้จริง ผมจึงกลั่นออกมาเป็น 9 บทเรียน ที่คนอยากสำเร็จในธุรกิจออนไลน์ต้องใช้ และขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ ประกอบด้วย
.
1. เทคนิคปิดการขาย ให้ลูกค้าอยากซื้อ โดยที่คุณไม่ต้องง้อ
.
เพราะสิ่งแรกที่คนทำธุรกิจต้องมี คือ คุณต้องขายเป็น เพราะถ้าคุณขายไม่เป็น ก็อย่าหวังเลยครับว่าจะทำธุรกิจออนไลน์หรือเขียนคอนเทนต์ให้คนอยากซื้อได้ เพราะขนาดขายต่อหน้าที่ลูกค้ายังมีความเกรงใจยังทำไม่ได้ แล้วนับประสาอะไรกับการขายผ่านตัวอักษร
.
2. Content Marketing
.
ถ้าคุณขายเป็นแล้ว สิ่งนี้จะทำให้ยอดขายของคุณทวีคูณ เพราะมันเหมือนคุณเอาวิชาการขายไปสร้าง Content แล้วให้ Content ไปช่วยขายแทนคุณ ไม่ต่างกับการมีพนักงานขายนับพัน คุณคิดดูว่าถ้าคุณขายลูกค้า 1 คนได้ แล้ว Content ของคุณที่สามารถเข้าถึงคนเป็นล้าน จะช่วยทำเงินให้คุณได้มากขนาดไหน
.
3. การเขียนโพสต์ขายแบบป้ายยา แบบสมองไหล ที่ใครอ่านแล้วต้องรีบกดสั่งซื้อทันที
.
ถ้าคุณเป็นคนที่เคยอ่านโพสต์ขายของผม แล้วรู้สึกเคลิ้มเหมือนโดนป้ายยา รู้ตัวอีกที คือ โอนเงิน แล้ว วันนี้คุณจะเป็นคนที่ทำแบบนั้นได้ครับ เพราะผมจะเปิดเผยมันแบบหมดเปลือกซึ่งไม่ใช่แค่วิธีการ แต่จะสอนแบบขั้นลึกถึงกระบวนการเลย
.
4. การเขียน Copy Writing หรือ โพสต์ขายทองคำ ให้ใช้ทำยอดขายได้ยาว 5 ปี ในโพสต์เดียว (จากผู้เชี่ยวชาญ)
.
เท่านั้นยังไม่พอ ผมยังเชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเขียน Copy writing ตัวท็อปของประเทศ ที่สามารถเขียนโพสต์สร้างยอดขายหลักร้อยล้าน ด้วยโพสต์ขายเพียงโพสต์เดียว แถมยังใช้โพสต์เดิมทำเงินมามากกว่า 5 ปี บอกเลยว่าแค่คุณได้เรียนบทนี้ ก็คุ้มเกินคุ้มแล้ว
.
5. การทำรูปด้วย Canva จากมือถือเครื่องเดียว
.
ภาพที่สะดุดตา คือ ส่วนสำคัญของการทำธุรกิจออนไลน์ เพราะมัน คือ ตัวตัดสิน ว่าลูกค้าจะหยุดนิ้วดูคุณไหม แต่การจะทำภาพให้สวยแบบดีไซน์เนอร์ที่ใช้โปรแกรม Adobe ก็ดูจะไกลตัวใครหลายคน แต่ข่าวดีคือ ยุคนี้เรามีแอพพลิเคชั่น Canvas ซึ่งช่วยให้คุณสามารถทำรูปออกมาได้พรีเมี่ยมด้วยมือถือเครื่องเดียว ซึ่งผมได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้มาเช่นกัน รับรองเลยว่าเมื่อจบคอร์สแล้ว เพจของคุณจะยกระดับเป็นธุรกิจพรีเมี่ยมได้อย่างแน่นอน
.
6. การตลาด เพิ่มยอดขาย โดยไม่ต้องหาลูกค้าเพิ่ม
.
การตลาดที่ดีจะทำให้ธุรกิจดีๆ โตแบบก้าวกระโดด บทนี้จะทำให้คุณสามารถขายดีได้ตลอดทั้งปี ไม่มีตก อะไรที่คุณเคยพลาด เงินตราที่คุณเคยทำหล่นหาย บทนี้จะเก็บกลับมาให้หมด หรือ ถ้าคุณเคยขายของได้ 1 ชิ้นต่อลูกค้า 1 คน บทนี้จะช่วยให้ลูกค้าจ่ายเงินซื้อของจากคุณเพิ่มอีก 2 ชิ้น จนยอดขายของคุณเติบโตได้ 2-10 เท่า แบบไม่ต้องเหนื่อยหาลูกค้าใหม่เลย
.
7. Data driven การวิเคราะห์ดาต้าหาความต้องการของลูกค้าได้อย่าง เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างแม่นยำ เน้นยอดขาย
.
พูดถึง Data อย่าเพิ่งตกใจ ผมไม่ได้จะสอนคุณทำ Big data เพื่อไปทำ AI แต่อย่างใด แต่ผมกำลังช่วยให้การทำธุรกิจของคุณประหยัด แม่นยำ และ ได้ผลลัพธ์มากขึ้น
.
ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าวันนี้คุณขายรองเท้าผ้าใบ เพียงแค่คุณใช้ระบบ (ซึ่งผมจะสอน และ มันง่ายมาก) เก็บข้อมูลว่าลูกค้าคนนี้ ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ เพศอะไร ซื้อของวันไหน อยู่จังหวัดอะไร และ ใช้งานรองเท้าลักษณะใด
.
สมมติว่าลูกค้าคนนี้ เป็นคนทำงานอายุ 25-30 ปี ในกรุงเทพฯ มันเป็นไปได้ว่าเขาจะใช้วิ่งในลู่ที่ฟิตเนส นั่นหมายความว่าเมื่อเขาใช้รองเท้าไป 1 เดือน มันอาจจะเริ่มมีกลิ่น มันก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะต้องการมองหาสเปรย์ดับกลิ่น แล้วถ้าคุณยิงโฆษณาขายสเปรย์ดับกลิ่นตรงไปที่ลูกค้าคนนี้ มันก็มีโอกาสที่เขาจะซื้อของจากคุณเพิ่ม
.
แต่ถ้าเขาอยู่ต่างจังหวัด สมมติว่าเป็นภาคใต้ที่ฝนตก และ ส่วนใหญ่เขาใส่วิ่งในสวนสาธารณะ ซึ่งอาจจะมีน้ำขังตามพื้นถนน ถ้าคุณยิงโฆษณาสเปรย์กันน้ำไปหาเขาล่ะ คุณก็จะมีโอกาสได้เงินจากลูกค้าคนนี้เพิ่มจริงไหม ?
.
ทุกวันนี้มีแต่คนบ่นว่าค่าแอดแพง คุณลองคิดดูครับ ว่าถ้าคุณยิงแอดด้วย Data แบบนี้ แอดมันยังจะแพงอยู่ไหม เพราะสาเหตุที่แอดแพง เกิดจากการยิงแบบหว่านเงินทิ้งไปเรื่อยต่างหาก
.
8. การยิงโฆษณาขั้นสูง ให้ได้ผลมาก แต่ค่า Ad ถูก
.
หรือ พูดง่ายๆ คือ การยิงแอดนั่นแหละ แต่ในคลาสนี้ผมไม่ได้จะมาสอนยิงแอดแบบที่มีกันตามยูทูบทั่วไป แต่จะสอนการยิงเชิงกลยุทธ์ และเปิดเผยความลับ ของคนที่ “ยิงแอดร้อย ได้ล้าน” ว่าอันดับแรกคุณต้องยิงหาลูกค้าใหม่ยังไง แล้วเมื่อได้กลุ่มเป้าหมายแล้ว จะทำยังไงให้เขาอยากซื้อของจากเรา แล้วถ้าเขายังไม่ซื้อล่ะต้องทำยังไง หรือ แม้แต่การยิง Ads หาลูกค้าเก่าที่ห่างหายไปให้กลับมาซื้อของๆ เราต้องทำยังไง เทคนิคเหล่านี้จะช่วยคุณประหยัดทั้งค่าแอดและโปรโมชั่นได้เยอะมาก เพราะคุณจะยิงแอดนำส่งโปรโมชั่น ไปหาลูกค้าแค่บางกลุ่ม ไม่ได้ยิงไปหาทุกคน ซึ่งอาจจะเป็นลูกค้าที่ห่างหายไป หรือ ลูกค้ากลุ่มอื่นๆ ที่คุณต้องการ เท่านั้น ซึ่งทุกอย่างมีสูตรที่สามารถนำไปใช้ได้เลย
.
แล้วอย่างนี้ ค่าแอดจะยังแพงอยู่อีกไหม ?
.
9. กลยุทธ์สร้างความแตกต่างทางธุรกิจ โดยไม่ต้องแข่งราคา
.
สิ่งที่คนทำธุรกิจทุกคนต้องการมากที่สุด คือ “ความยั่งยืน” เพราะต่อให้คุณทำ 8 ข้อก่อนหน้านี้ดีแค่ไหน แต่สิ่งที่วัดว่าคุณจะยืนระยะได้นานเท่าไหร่ คือ โมเดลธุรกิจ
.
เพราะเราจะไม่ได้ทำธุรกิจแบบฉาบฉวยแค่วันนี้ พรุ่งนี้ แต่เราจะต้องทำให้มันยั่งยืนจนสามารถส่งต่อให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ และ แน่นอนถ้ามันจะต้องไปถึงรุ่นลูกหลาน มันต้องไม่แข่งราคา เพราะถ้าต้องแข่งราคาคุณจะไม่มีวันชนะ และ จะต้องล้มหายตายจากไปในที่สุด
.
ซึ่งนี่แหละ คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม
.
อย่างคำกล่าวที่ว่า...
.
✅ ถ้าคุณอยากเหนื่อยตลอดชีวิต ให้เน้นที่ การขาย
.
✅ ถ้าคุณอยากเหนื่อยน้อยหน่อย ให้เน้นที่ Marketing
.
✅ แต่ถ้าอยากยืนระยะยาวๆ และ ส่งต่อเป็นมรดกได้ จงสร้างแบรนด์
.
ซึ่งผมจะเป็นคนช่วยคุณตอกเสาเข็มต้นแรก ต้นที่สอง และ ต้นที่สาม นี้ ให้จนครบเอง
.
สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกทุกคนว่า นี่คือ ปีสุดท้ายแล้วที่คุณจะสามารถเข้ามาทำธุรกิจบนออนไลน์ได้แบบง่ายๆ (แม้ก่อนหน้านี้จะง่ายกว่า) เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าตอนนี้ Apple ออก IOS 14.6 ซึ่งปิดกั้นการเก็บข้อมูลพฤติกรรมส่วนตัว ทำให้การยิงแอดทำได้ยากขึ้น ซึ่งนี่เป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น แต่มันก็ส่งสัญญาณบางอย่างแล้วว่า เทรนต่อจากนี้บริษัทสมาร์ทโฟนจะให้ความสำคัญกับ “ความเป็นส่วนตัว” มากขึ้นเรื่อยๆ และ ถ้าการเปลี่ยนแปลงของ Apple ในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อยอดขายสมาร์ทโฟนของค่ายอื่น มันก็มีโอกาสสูงมากที่ค่ายอื่นจะทำตาม
.
นั่นหมายความว่าต่อจากนี้การทำออนไลน์แบบเดิมจะไม่ได้ผลแล้ว คนที่ทำออนไลน์อยู่แล้ว ถ้าวันนี้คุณหยุดยิงแอดแล้วยอดขายหายไป นั่นคือ สัญญาณว่าธุรกิจและแบรนด์ของคุณกำลังอ่อนแอลง สิ่งเดียวที่จะทำให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณยั่งยืน คือ การทำให้แบรนด์ของเราไปอยู่ในใจของลูกค้า ทำให้เขานึกถึงเราเมื่อนึกถึงเรื่องนั้น แล้วเมื่อเขาต้องการสิ่งนั้น เขาจะมาหาเราเองโดยไม่ต้องร้องขอในแบบที่สมองไหลทำอยู่ คือ ไม่ต้องยิงแอด แต่เมื่อไหร่ที่ลูกค้าต้องการหนังสือ เขาจะกดมาที่เพจสมองไหลเอง
.
แต่ถ้าวันนี้คุณยังไม่ได้ทำออนไลน์ นี่คือ จุดที่อันตรายอย่างยิ่ง เพราะพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปแล้ว และ จะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีก
.
ยกตัวอย่าง ถ้าวันนี้ผมอยากซื้อกระเป๋า ผมจะไม่เดินไปหาตามห้าง จะไม่เดินไปพันทิป จะไม่ขับรถวนหาร้านขายกระเป๋าอีกแล้ว
.
แต่ผมจะเสิร์ชหาข้อมูลบนออนไลน์ก่อน ว่าที่ไหนมีของที่ผมถูกใจบ้าง แล้ว “ตัดสินใจตั้งแต่ที่บ้าน” ว่าจะซื้อของชิ้นไหน ที่ร้านไหน แล้วถึงจะขับรถไปซื้อ
.
นั่นหมายความว่า ร้านที่ผมจะไม่เดินทางไปซื้อ มี 2 กรณี คือ
.
1. ผมไม่ได้ถูกใจ
2. ผมไม่เจอร้านนั้น ตั้งแต่ในออนไลน์ เมื่อผมไม่เจอ ร้านนั้นก็ไม่อยู่ในชีวิตของผม
.
จะเห็นว่าพฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนไปแล้ว ยิ่งโควิดเข้ามาเร่งการเปลี่ยนแปลงนั้นให้เร็วขึ้นไปอีก ที่สำคัญ การเปลี่ยนแปลง เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย และ จะไม่มีวันกลับมาเหมือนเดิมอีก
.
ถ้ายังทำธุรกิจแบบเดิม ลูกค้าจะหายไปจากชีวิต และ ไม่มีวันกลับมาอีก ต่อให้วันนี้คุณจะลดราคา หรือ ขายของราคาถูกแค่ไหน เขาก็ไม่ซื้อของคุณ เพราะเขาไม่เจอคุณบนออนไลน์ ตามพฤติกรรม การซื้อของเขา ซึ่งเมื่อเขาไม่เจอ เขาก็ไม่รู้ ไม่เห็น แล้วเขาจะไปซื้อได้ยังไงล่ะ จริงไหม ?
.
อย่างที่ บิล เกตส์ เคยกล่าวเอาไว้ว่า “ถ้าธุรกิจของคุณไม่ได้อยู่บนอินเทอร์เน็ต นั่นแสดงว่าธุรกิจของคุณกำลังจะเจ๊ง” นั่นแหละครับ
.
ดังนั้น ถ้าคุณอยากไปต่อ ต้องเปลี่ยนแปลงครับ ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรก็ตาม คุณจำเป็นต้องเข้ามาในออนไลน์โดยด่วน ก่อนจะหมดเวลา เพราะสิ่งนี้เเหละ จึงทำให้ผมโต 10 เท่า และ ลาออกจากงานประจำได้ แม้อยู่ในช่วงโควิดก็ตาม
.
ถ้าคุณอยากจะลุยต่อไปกับผม และ เพื่อนๆ ชาว Online Signature ก็เข้ามาลุยด้วยกันในคลาสได้เลยครับ
.
เพราะสิ่งที่คุณจะได้จากคลาสนี้ คือ แก่นทั้งหมด เมื่อขึ้นชื่อว่า “แก่น” นั่นหมายความว่า มันจะเปลี่ยนแปลงน้อยมาก และคุณจะใช้มันกับธุรกิจไปได้ตลอดอย่างน้อยที่สุดก็ 10 ปี
.
โดยคลาสนี้ ผมจะเริ่มเปิดรับสมัคร Pre-order ในวันที่ 3 มิถุนายน นี้
.
แต่ถ้าคุณ คือ คนที่อ่านมาถึงตรงนี้ขอแสดงความยินดีด้วยครับ เพราะคุณจะได้สิทธิ์รับ “ราคาพิเศษ” ไปทันที ซึ่งจะไม่มีใครได้ราคาที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว เพราะราคาจะถูกปรับขึ้นเรื่อยๆ
.
โดยคลาส Online Signature จะเรียนแบบสดผ่าน Live ในกลุ่มเฟซบุ๊ก ดูย้อนหลังได้ตลอดชีวิต พร้อม Section ถาม/ตอบ
.
- ราคาเต็มอยู่ที่ 46,000 บาท
- ช่วงโปรโมชั่น 24,000 บาท
.
แต่สำหรับคนที่ทักมา 20 คนแรก
.
✅ ราคาพิเศษเพียง 9,640 บาท เท่านั้น
.
และ รับฟรีอีก 2 โบนัส คลาส คือ
.
✅ Bonus class : วิธีทดลองตลาด หาสินค้ามาขาย สร้างธุรกิจได้ โดยไม่ต้องใช้เงินทุน
.
✅ Bonus class : เคล็ดลับทำให้คุณขายดีตลอดทั้งปี ไม่มีตก
.
สำหรับใครที่มีหนังสือ งานประจำสอนทำธุรกิจ พร้อมลายเซ็นของผม สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดได้อีก 500 บาท นะครับ
.
✅ **ย้ำอีกที ว่าถ้าทักมา เป็นคนที่ 21 จะไม่ใช่ราคานี้แล้วนะครับ
.
✅ รีบทักมาได้เลยครับที่ Line : @samounglai
.
เพราะถ้าช้าไปกว่านี้ ราคาจะปรับขึ้นเรื่อยๆ และ ปรับขึ้นจริงๆ เพราะถ้าคุณติดตามเพจสมองไหลมา คุณจะรู้ดีว่า ปกติผมจะไม่ลดราคานานๆ
.
** ทั้งหมดนี้จะเริ่มเปิดคลาสวันที่ 19 มิถุนายน 2564
และ จะเริ่มเรียนแบบเข้าเนื้อหาหลักกันวันที่ 26 มิถุนายน 2564 นี้
.
แล้วเจอกันในคลาสนะครับ ^^
「ทำเลทอง คือ」的推薦目錄:
ทำเลทอง คือ 在 ThinkofLiving.Com Facebook 的最讚貼文
[PR News] บริษัท พาร์ค ลักชัวรี่ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี่ (PARK LUXURY) ได้แก่แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) และ ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge) ภายใต้เครือ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (Origin Property) หรือ ORI ได้ออกมาตอกย้ำความสำเร็จในแบรนด์ KNIGHTSBRIDGE อีกครั้ง จัดแคมเปญใหญ่ ในชื่อว่า RARE Ultimate Deals “อยู่ฟรี 36 เดือน คอนโดพร้อมอยู่ ใจกลางเมือง ติดรถไฟฟ้า ทำเลทอง คัดยูนิตพิเศษ ห้องสวยหลุดโอน ตำแหน่งที่ดีที่สุด”
.
เจาะกลุ่มลูกค้านักลงทุนและกลุ่มลูกค้าอยู่เอง ใจกลางเมือง โดยคัดห้องพิเศษ!! ระดับ Rare items บนทำเล Prime Locations ที่ดีที่สุด 3 ทำเล ( สุขุมวิท | พหลโยธิน | รามคำแหง ) จากแบรนด์ KnightsBridge ทั้ง 6 โครงการที่เข้าร่วม* พร้อมโปรโมชั่น ดีลที่ให้มากที่สุด ให้คุณเลือกอีก 8 รายการ ดังนี้
.
ฟรี! ผ่อนให้ 36 เดือน*
ฟรี! ค่าส่วนกลาง*
ฟรี! BTS*
ฟรี! GRAB*
ฟรี! บัตรเติมน้ำมัน*
ฟรี! เฟอร์นิเจอร์*
ฟรี! เครื่องใช้ไฟฟ้า*
ฟรี! ทุกค่าใช้จ่ายวันโอน*
.
*หมายเหตุ เงื่อนไขแต่ละยูนิต RARE Ultimate Deal เป็นไปตามที่บริษัทกำหนด, เงื่อนไขการผ่อนเป็นไปตามแต่ละธนาคาร* ชี้ Key Success ของแคมเปญนี้ คือ การวิเคราะห์ตลาด Living Solution และ Reaching Solution ตอบโจทย์ความต้องการเรียลดีมานด์ที่อยากได้ของที่ดีที่สุด และสามารถสร้างมูลค่า Value ได้ในอนาคต ตลอดจนการเลือกทำเลและเซ็กเมนท์ที่มีศักยภาพ เพื่อมอบคอนโดคุณภาพ กับห้องที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าที่สนใจ ได้อย่างตรงจุดกลุ่มเป้าหมาย
.
ซึ่งหลักจากที่ได้ปล่อยแคมเปญนี้ออกไปเพียงไม่กี่วัน ได้มีลูกค้าสนใจจอง สอบถามข้อมูล และขอเข้าชมโครงการมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับใครที่สนใจ สามารถลงทะเบียนกับเราได้ที่ คลิก https://bit.ly/2XQyE3B
.
เลือกห้องสวย RARE Item พิเศษก่อนใคร !!
ชมรายละเอียดเพิ่มเติมคลิก https://wp.me/p1YZB1-2Ukn
#Parkluxury #Knightsbridge #RareCondo #RareItem #Hotdeal #หลุดโอน #คอนโดพร้อมอยู่ #คอนโดติดรถไฟฟ้า #Ultimate #Deal
ทำเลทอง คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
ทำไม ย่านบางนา-กรุงเทพฯ ตะวันออก ถึงกำลังเป็น ทำเลทอง?
เดอะ ฟอเรสเทียส์ x ลงทุนแมน
ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ถ้าพื้นที่ใด ถูกเรียกว่าเป็นพื้นที่ CBD (Central Business District) พื้นที่นั้นก็เปรียบเสมือนแหล่งความเจริญ หรือทำเลทอง ที่นักลงทุนอยากเข้าไปลงทุน และเป็นย่านที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและสาธารณูปโภคที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยและใช้ชีวิต
ทำเลทอง ที่ว่านี้ จะประกอบด้วย โครงการพัฒนาแนวตั้ง หรือ High-rise Building แหล่งรวมของตึกสำนักงานออฟฟิศ, สถานศึกษา, โรงพยาบาล, ห้างสรรพสินค้า
และยังมีโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อต่อการเติบโต เช่น ทางด่วน, รถไฟฟ้า MRT, BTS หรือ Airport Rail Link
โดยย่านที่เป็น CBD โดยแท้จริง คือ ย่านสุขุมวิท, สีลม และพญาไท แต่เมื่อเวลาผ่านไป พื้นที่ CBD เหล่านี้ได้ถูกจับจองจนเกิดความหนาแน่น และกลายเป็นข้อจำกัดที่ทำให้เกิดการขยายตัวไปยังพื้นที่บริเวณรอบข้าง
เมื่อในเมืองมีความหนาแน่นมาก ทำให้ใครหลายๆ คนมองหาบ้านหรือที่พักอาศัยที่อยู่ใกล้
ย่าน CBD มากที่สุด
ซึ่งหนึ่งโซนที่เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ นั่นก็คือโซน “บางนา”
ซึ่งถ้าลองวิเคราะห์จุดเด่นของย่าน บางนา-กรุงเทพฯ จะพบว่า ย่านนี้มีศักยภาพสูงที่จะเติบโตในอนาคตอันใกล้
1) ทำเลทองในอนาคต
เพราะเป็นย่านที่อยู่ติดกับย่านพระราม 9 ทำให้การขยายตัวกระจายออกไปทางฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออก และนอกจากนั้น บางนา ยังเป็นจุดเชื่อมต่อจากย่านสุขุมวิทตอนกลางอีกด้วย
โดยปัจจัยที่บ่งบอกถึงการเป็นทำเลทอง คือราคาที่ดินพุ่งสูงต่อเนื่อง โดยราคาประเมินที่ดินในย่านบางนาเฉลี่ยอยู่ที่ 130,000 บาท ต่อตารางวา ในช่วงปี 2551 - 2554 ก่อนจะปรับขึ้นเป็น 140,000 - 170,000 ต่อตารางวา ในช่วงปี 2558 - 2559
และล่าสุดได้ปรับขึ้นเป็น 140,000 - 190,000 ต่อตารางวาในช่วงปี 2559 - 2562 และยังมีแนวโน้มว่าอาจจะพุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดดได้ในอนาคตอันใกล้ สอดคล้องกับการเกิดขึ้นของโครงการด้านคมนาคมที่สำคัญต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในพื้นที่ย่านนี้
2) ศูนย์กลางการลงทุนและการอยู่อาศัยแห่งใหม่
พื้นที่ฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออก โดยเฉพาะย่านบางนา มีการเกิดขึ้นของโครงการต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น โครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัย โครงการค้าปลีก ไลฟ์สไตล์ต่างๆ รวมถึงโครงการโครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย
รวมถึงการขยายตัวของพื้นที่ CBD ที่มีการขยายอาคารสำนักงาน ได้แก่ อาคารกลุ่ม G Land, การขยายของไบเทค บางนา และ FICO ที่ลงทุนสร้างสำนักงานหรู อย่าง Metropolis ภายในตกแต่งเหมือนโรงแรม 5 ดาว
3) จุดเชื่อมต่อใจกลางเมือง
เดินทางได้สะดวก เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง ถนนสุขุมวิท ถนนเทพารักษ์ และทางด่วนมอเตอร์เวย์
อีกทั้งยังเพียบพร้อมไปด้วยการคมนาคมขนส่งมวลชนที่สำคัญๆ ไม่ว่าจะเป็น
- ถนนเข้า-ออกเมืองสายหลักสำคัญอย่าง ถนนบางนา-ตราด มอเตอร์เวย์
- การเกิดขึ้นของรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย (แบริ่ง-สมุทรปราการ)
- รถไฟฟ้าสายที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนา อย่างสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) และสายสีฟ้าอ่อน
(บางนา-สุวรรณภูมิ)
ตลอดจนโครงการคมนาคมขนส่ง ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต อย่าง รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน
(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ทำให้สามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่อื่นๆ ได้ เช่น โซนสุขุมวิท โซนลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ และพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกของไทย ได้อย่างสะดวกสบาย
ดังนั้นศักยภาพของ บางนา ฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันออก จึงเป็นเหมือนโอกาสการลงทุนในอนาคตที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ความน่าสนใจนี้ ทำให้โครงการ “เดอะ ฟอเรสเทียส์” เล็งเห็นถึงโอกาสของพื้นที่นี้ สร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ มูลค่ากว่า 125,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 398 ไร่ บริเวณบางนา-ตราด กม.7
โดยองค์ประกอบของโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ประกอบไปด้วย โครงการที่พักอาศัยทั้งบ้านและคอนโดมิเนียม มีพื้นที่สำหรับสำนักงาน สปอร์ตคอมเพล็กซ์ กิจกรรมไลฟ์สไตล์ ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม และพื้นที่สำหรับกิจกรรมสร้างสรรค์ของครอบครัวและชุมชน อีกทั้งยังมีศูนย์การแพทย์และสุขภาพขนาดใหญ่
ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 125,000 ล้านบาท ทำให้คาดการณ์ได้ว่า เมื่อโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ แล้วเสร็จ ศักยภาพของทำเลย่านบางนา ก็จะยิ่งมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นแง่มุมของเศรษฐกิจ การลงทุนของนักลงทุน และการเป็นย่าน CBD แห่งใหม่
ทั้งหมดนี้คือตัวแปรสำคัญ ที่จะขับเคลื่อนให้ย่านบางนาเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอนาคตอันใกล้นี้
ดังนั้นใครที่กำลังมองหาทำเลศักยภาพ
“บางนา กรุงเทพฯ ตะวันออก” ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย..
ทำเลทอง คือ 在 BLAP - การเลือกทำเลที่ตั้งของธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จ ด้วย 6 ... 的必吃
พลาดทำเลทอง ทางแก้ คือ คุณต้องพยายามทำป้ายร้าน ให้ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ และควรบอกให้ชัดเจนว่าธุรกิจของคุณเกี่ยวกับอะไร ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกค้าเดาเอาเอง ... <看更多>
ทำเลทอง คือ 在 มีที่ดินทำเลทอง เอาไปลงทุนอย่างไรไม่ให้เจ็บตัว - YouTube 的必吃
บางคนมีที่ดินที่เป็น ทำเลทอง อยากจะนำไปลงทุน เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ หรือการต่อยอดไม่ให้เป็นที่ดินเฉย ๆ แต่ก็ไม่อยากเสี่ยงเจ็บตัว ... ... <看更多>