หมายเหตุ อันนี้โพสต์บ่น
วันนี้ผมจะมาอธิบายนะครับว่า
พวก "งานเลี้ยงสังสรรค์ของชนชั้นสูง"
...... ในสมัยก่อนนะ
มันมีความสำคัญต่อสังคมอย่างไร
และทำไม "งานเลี้ยงสังสรรค์" ของสมัยนี้
มันถึงได้ไม่มีอิทธิพลหรือความจำเป็นเท่าของในสมัยก่อนครับ
----------------------------------
เกริ่นก่อน
เวลาที่เราดูผลงานเกี่ยวกับชนชั้นสูงในสมัยก่อนแบบเผินๆ
เราอาจจะเห็นว่ามันเป็นอะไรที่หรูหราฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น
ซึ่งสาเหตุที่เรารู้สึกอย่างนั้น
เพราะค่านิยมสมัยใหม่จากยุคอุตสาหกรรมลงมา
ที่เราสามารถหาสิ่งที่ลงตัวในชีวิตได้
โดยไม่ต้องทุ่มทุนกันถึงขนาดนั้น
แต่ถ้าเราพูดกันถึงยุคก่อนหน้านั้น
"งานเลี้ยงสังสรรค์ของชนชั้นสูง" นะ
มันมีความจำเป็นต่อการพัฒนาสังคม
ทั้งในระดับประเทศและระดับประชาชนด้วยกัน
-------------------------------
สมมุติว่าคุณเป็นพ่อค้าที่มีโรงงานผลิตสินค้าเป็นของตัวเอง
แล้วคุณอยากจะเอาสินค้านี้ไปขายในเมืองอื่น
มันก็จะมีสิ่งกีดขวางการทำงานคุณมากมาย
คุณต้องเสี่ยงส่งสินค้าไปในที่ๆไม่รู้ว่าจะมีคนซื้อของๆคุณหรือเปล่า
คุณต้องติดต่อขอสิทธิการขายจากผู้มีอำนาจ
และคุณต้องชักชวนคนในท้องถิ่นนั้นๆให้มาซื้อของๆคุณ
แล้วสมมุติว่าของๆคุณเป็นของใหม่
ที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน
มันก็จะยิ่งเป็นเรื่องเสี่ยงมากขึ้น
คุณเป็นใครอะไรที่ไหนก็ไม่รู้
ซื้อไปแล้วจะดีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
คุณเชื่อถือได้หรือเปล่าก็ไม่รู้
และอื่นๆอีกมาก
-------------------------
แต่สมมุติว่าคนที่เป็นผู้ปกครองของคุณเขาจัดงานเลี้ยงขึ้นมา
เขาก็จะเชิญผู้มีอำนาจอิทธิพลต่างๆมางานเลี้ยงนั้น
และถ้าผู้ปกครองคุณเขารู้จักคุณและใช้ของคุณด้วย
เขาก็จะเชิญคุณมานำเสนอสินค้าของตัวเองให้เอามาโฆษณา
ซึ่งการที่คุณได้รับเชิญนั้น
มันเป็นหลักฐานพิสูจน์ว่าคุณมีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง
และเมื่อผู้ปกครองเขาบอกว่าสินค้าของคุณนั้นดียังไง
มันก็จะยิ่งทำให้ผู้มีอำนาจคนอื่นๆอยากลองใช้ของๆคุณขึ้นมา
ถ้าคนมีอำนาจเหล่านั้นสนใจสินค้าของคุณ
เขาก็จะสั่งซื้อมัน
หรือไม่ก็ให้พ่อค้าในสังกัดมาติดต่อซื้อขายกันอีกที
โดยไม่ต้องมาห่วงเรื่องการเกลี้ยกล่อมคนในพื้นที่เหล่านั้นด้วยตัวเอง
คุณไปงานนี้งานเดียว
คุณก็จะมีโอกาสพบผู้มีอำนาจจำนวนมาก
แทนที่คุณจะต้องมาเสี่ยงเดินทางไปทีละเมือง
ทำให้งานเลี้ยงสังสรรค์ของชนชั้นสูงนั้น
มีหน้าที่ในการเป็นจุดโฆษณาชั้นดีให้กับสินค้าของคุณ
---------------------------
ในกรณีที่คุณเป็นผู้ปกครองและคุณเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงนั้น
ยิ่งคุณเป็นเจ้าภาพที่ดี และจัดงานเลี้ยงได้หรูหราเท่าไหร่
นั่นก็หมายความว่า
ดินแดนในปกครองของคุณมีความมั่งคั่งมากเท่านั้นด้วย
อย่างสมมุติว่า
คุณเอาผลงานศิลปะล้ำค่ามันจัดแสดงในงาน
หรือเอาอาหารเลิศรสจากผลผลิตท้องถิ่นมาเสิร์ฟ
มันก็จะเป็นการแสดงถึงความล้ำหน้าทางวัฒนธรรมของดินแดนคุณ
ทำให้ผู้มีอำนาจอื่นๆ สนที่จะทำการค้าขายกับคุณ
และนำไปสู่ความมั่งคั่งที่เพิ่มพูน
เพราะสินค้าของแคว้นคุณจะขายได้
และคุณก็สามารถเก็บภาษีได้มากขึ้นด้วย
ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการจัดงานเลี้ยง
ก็จะลงไปเป็นทุนสู่ผู้ผลิตท้องถิ่น
ที่เป็นประชาชนในแคว้นของคุณเอง
-------------
แต่ในทางกลับกัน
ถ้าคุณจัดงานเลี้ยงแบบสมถะมีแต่ของธรรมดา
ผู้มีอำนาจอื่นๆก็จะดูแคลนคุณ
ว่าดินแดนของคุณนะเต็มที่ก็ได้เท่านี้
ไม่ได้มีอะไรให้มาสนใจ
ความหรูหราในการจัดงาน
จึงเป็นสิ่งที่ผู้มีอำนาจในสมัยนั้นจำเป็นต้องเอามาแข่งกัน
เพื่อผลประโยชน์ของดินแดนในปกครองของตัวเอง
----------------------
การจัดงานเลี้ยงเหล่านี้
จึงถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการเมืองในยุคก่อน
และเป็นสิ่งที่หลากหลายประเทศใช้แผ่อิทธิพลทางการเมือง
ไม่ว่าจะเป็นฝรั่งเศส หรือเหล่าแคว้นในอดีตของเยอรมัน
ที่ใช้แสดงตัวตนว่า
ตนนั้นมีความก้าวหน้าทางวัฒนธรรมและมีความมั่งคั่ง
ทำให้ประเทศระดับรองลงมา
ไม่กล้าที่จะมาตั้งตัวเป็นศัตรูด้วยโดยตรงครับ
------------------------------------------------
------------------------------------------------
แต่ถ้าเรามาเทียบกันกับสมัยนี้
...... ไอ้ความหรูหราพวกนั้นนะ
มันไม่ได้มีค่าทางสังคมเท่ากับในสมัยนั้น
อย่างสมมุติว่าคุณมีสินค้าจะขาย
คุณเอาไปลงโฆษณาโทรทัศน์
เอาไปเผยแพร่ตามงานแสดงสินค้าและ SNS
มันก็ยังจะทำได้เร็วกว่า
การจะไปเกลี้ยกล่อมผู้มีอำนาจให้มาลองใช้ของๆคุณ
------------
หรือในกรณีที่คุณจะจัดงานเลี้ยงชั้นหรู
แล้วคุณต้องเลือกเอาระหว่างเนื้อวากิวสั่งตรงจากญี่ปุ่น
กับปศุสัตว์ท้องถิ่น
ที่ขายเนื้อระดับเดียวกันกับตามตลาดหรือซูเปอร์ทั่วไป
หรือไม่ก็เนื้อวากิวไทยที่แม้แต่ผู้ผลิตเองก็ยอมรับว่าเกรดด้อยกว่า
ในแง่ของความหรู
........ เนื้อวากิวจากญี่ปุ่น
ย่อมจะสร้างความพึงพอใจให้ผู้มางานเลี้ยงได้มากกว่า
แต่ถ้าคุณเลือกจะสั่งเนื้อวากิวจากญี่ปุ่นมา
กิจการท้องถิ่นก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไร
และทุนในประเทศก็จะไหลออกข้างนอกด้วย
--------------------------
ด้วยเหตุนี้
การจะจัดงานเลี้ยงที่จะให้ผลประโยชน์ต่อประชาชนด้วยนั้น
จะต้องเป็นงานที่ทำให้ผู้มาเข้าร่วม
สนในวัฒนธรรมและสินค้าท้องถิ่นของเจ้าภาพด้วย
และการที่จะทำอย่างนั้นได้
คุณก็จะต้องมีการพัฒนาวัฒนธรรมและสินค้า
ที่มีความน่าสนใจ สามารถใช้แข่งขันกับผู้อื่นได้
ไม่อย่างนั้นแล้ว
มันก็จะเป็นเพียงการจัดงานเลี้ยงเพื่อความบันเทิง
ที่ทำเพื่อสนองตัณหาของตัวเอง
และเป็นการผลาญทุนทรัพย์
ที่ไม่ได้อะไรกลับมา
เป็นการสิ้นเปลืองสูญเปล่าอย่างไร้ประโยชน์ครับ
งานเลี้ยงสังสรรค์ 在 งานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ พีพีไพร์ม-ไทยลักซ์ ประจำปี 2566 - YouTube 的必吃
งานเลี้ยงสังสรรค์ ปีใหม่ #พีพีไพร์ม_ไทยลักซ์ ประจำปี 2566บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ... ... <看更多>