🚨แจกอีกแค่ 50 คน สุดท้าย🚨
.
แจกจ้าแจก .... !!! ใครอยากได้ ชีทสรุป Grammar ภาษาอังกฤษ ที่ใช้สอบ GAT ENG โหลดได้เลย
.
เปลี่ยนวิธีโหลดแล้วจ้าา !!
1.ทัก Inbox เพจ OpenDurian TCAS
2.พิมพ์รหัส QA1
3.ระบบจะส่งลิงค์ให้ กดโหลดได้ทันที
(ไม่ต้องทำแบบสอบถามแล้วน้าาได้คนครบแล้วจ้า ใครอยากได้ทำตามนี้เลย)
.
OpenDurian TCAS : คลังความรู้ที่ใช้อสอบติดมหาลัย
同時也有121部Youtube影片,追蹤數超過4萬的網紅ZeemUzma,也在其Youtube影片中提到,วันนี้ไม่ได้มาสอนภาษาแต่มาแชร์บทเรียนที่ได้จากวิกฤติโควิด ที่ซีมเชื่อว่าส่งผลกระทบกับชีวิตของทุกๆ คนอย่างแน่นอน! :D บทเรียนชีวิต 5 ข้อของซีมมีดังนี้ ...
「คน ภาษาอังกฤษ」的推薦目錄:
คน ภาษาอังกฤษ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
สิงคโปร์ ประเทศแห่ง ความเท่าเทียม ทางเชื้อชาติ / โดย ลงทุนแมน
สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความหลากหลายด้านเชื้อชาติมากที่สุดแห่งหนึ่ง
โดยจำนวนประชากรกว่า 5.6 ล้านคน แบ่งเป็น
เชื้อสายจีน สัดส่วน 75.9%
เชื้อสายมาเลย์ สัดส่วน 15%
เชื้อสายอินเดีย สัดส่วน 7.5%
และอื่น ๆ สัดส่วน 1.6%
ถึงแม้สิงคโปร์จะเป็นประเทศเดียวในอาเซียน ที่ชาวจีนเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ
แต่ครั้งหนึ่งในอดีต สิงคโปร์ก็เคยมีปัญหาทางด้านเชื้อชาติ
จนทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างชาวจีนและมาเลย์
แต่ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวได้ถูกแก้ไขจนทำให้ทุกเชื้อชาติในประเทศมีความกลมกลืนกัน
เรื่องราวนี้มีที่มาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เดิมทีดินแดนแห่งนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ “เทมาเส็ก” ซึ่งมีความหมายว่าเมืองแห่งทะเล
ต่อมาในช่วงปลายศตวรรษที่ 13 เจ้าชายจากอาณาจักรศรีวิชัย
ได้เดินทางมาล่าสัตว์ แล้วพบเห็นสัตว์ชนิดหนึ่ง เกิดเข้าใจผิดว่าเป็นสิงโต
จึงตั้งชื่อเกาะแห่งนี้ว่า “สิงหปุระ” ซึ่งมีความหมายในภาษาสันสกฤตว่า เมืองแห่งสิงโต
ด้วยความที่เป็นเมืองที่มีทำเลดี เป็นทางผ่านของเส้นทางเดินเรือที่สำคัญ
เกาะสิงหปุระ จึงเป็นที่หมายตาของหลายอาณาจักร มีการเปลี่ยนมือของผู้ปกครองดินแดนเรื่อยมา
ทั้งอาณาจักรศรีวิชัย อาณาจักรมะละกา มาถึงยุคล่าอาณานิคมของชาติตะวันตก
ก็มีทั้งโปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ และจักรวรรดิอังกฤษ
ที่ได้เข้ามาเป็นเจ้าอาณานิคมในดินแดนแห่งนี้
ท้ายที่สุดจักรวรรดิอังกฤษก็ได้มีการเจรจากับเนเธอร์แลนด์เพื่อที่จะตกลงเขตการปกครองในภูมิภาคนี้ และได้ครอบครองอาณานิคมช่องแคบ ซึ่งประกอบไปด้วย สิงคโปร์ รัฐปีนัง และรัฐมะละกา
โดยสิงคโปร์ได้รับเลือกให้เป็นเมืองหลวงของอาณานิคมแห่งนี้ จึงมีการวางรากฐานทั้งการเมือง การศึกษา และเศรษฐกิจจากอังกฤษ ด้วยทำเลที่ดี สิงคโปร์ก็ได้เติบโตจนกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญของภูมิภาค ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการอพยพของชาวจีนจากแผ่นดินใหญ่จำนวนมากมายังเมืองท่าแห่งนี้
หลังจากที่สิงคโปร์ได้รับเอกราชจากอังกฤษ สิงคโปร์มีนายกรัฐมนตรีคนแรกชื่อว่าคุณ Lee Kuan Yew
เป็นผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าพรรคการเมือง People's Action Party หรือ PAP
ซึ่งได้มีการเจรจากับทางการสหพันธรัฐมาลายา (มาเลเซียในปัจจุบัน) เพื่อที่จะนำสิงคโปร์เข้าไปรวมกับสหพันธรัฐมาลายา ในปี 1963
เหตุผลที่สิงคโปร์ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย ก็เพราะว่าสิงคโปร์เป็นเกาะขนาดเล็ก
ที่ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ จึงต้องพึ่งพาทรัพยากรแทบทั้งหมดจากมาเลเซีย
อีกเหตุผลหนึ่งคือเพื่อที่จะขยายตลาดอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ไปยังมาเลเซียด้วย
แต่ด้วยความที่ประชากรส่วนใหญ่ของสิงคโปร์เป็นชาวจีน
ทำให้สิงคโปร์กับรัฐอื่น ๆ ในมาเลเซียที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลย์มีความแตกต่างทางด้านเชื้อชาติอย่างชัดเจน
ในขณะนั้นพรรคการเมือง United Malays National Organisation หรือ UMNO
ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ของมาเลเซีย ต้องการที่จะชิงที่นั่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรข้างมากในรัฐสิงคโปร์เพื่อที่จะควบคุมอำนาจในรัฐสิงคโปร์
แต่อุดมการณ์ทางการเมืองของพรรค UMNO ของมาเลเซีย กับพรรค PAP ของสิงคโปร์ มีความแตกต่างกัน
โดยพรรค UMNO มีจุดมุ่งหมายที่จะสนับสนุนความเป็นมาเลย์และศาสนาอิสลามในประเทศ
ส่วนพรรค PAP มีจุดมุ่งหมายที่จะเพิ่มความเท่าเทียมกันทางเชื้อชาติและศาสนา
จึงทำให้สองพรรคการเมืองเริ่มมีความขัดแย้งกัน
โดยพรรค UMNO ร่วมมือกับพรรคพันธมิตรในรัฐสิงคโปร์เพื่อที่จะโค่นพรรค PAP
แต่สำหรับในสิงคโปร์แล้ว พรรค PAP ที่นำโดยคุณ Lee Kuan Yew สามารถคว้าชัยชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น ในขณะที่พรรค UMNO และพันธมิตรคว้าที่นั่งได้เพียงหยิบมือ
ทั้งสองพรรคจึงกลายเป็นพรรคขั้วตรงข้ามกันอย่างชัดเจน มีการโจมตีกันไปมาอย่างกว้างขวาง โดยมีสื่อยักษ์ใหญ่ในมาเลเซียอย่าง Utusan Melayu
ที่ถูกควบคุมโดยพรรค UMNO ทำข่าวให้ร้ายพรรค PAP อย่างต่อเนื่อง
แต่นั่นกลับเป็นการสร้างความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติขึ้นมา
ในวันที่ 21 กรกฎาคม 1964 ซึ่งตรงกับวันสำคัญทางศาสนาอิสลาม ที่ทำให้ชาวมาเลย์กว่า 20,000 คน ออกมาแสดงจุดยืนทางการเมือง สุดท้ายเหตุการณ์ก็บานปลายไปถึงขั้นมีการปะทะกันระหว่างสองเชื้อชาติ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 23 คน บาดเจ็บกว่า 400 คน จนสุดท้ายทางการรัฐสิงคโปร์ต้องออกมาตรการเคอร์ฟิวเพื่อที่จะระงับสถานการณ์ดังกล่าว
สถานการณ์เหมือนจะสงบขึ้น แต่ก็มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน..
นั่นคือการเสียชีวิตของชาวมาเลย์อย่างเป็นปริศนา จนทำให้ชาวมาเลย์คิดว่าเป็นฝีมือของชาวจีน ความโกรธแค้นดังกล่าวทำให้มีการปะทะกันอีกครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน บาดเจ็บ 100 คน และมีคนถูกจับกุมกว่า 1,000 คน
ด้วยความขัดแย้งทางการเมืองและเชื้อชาติ ท้ายที่สุดสิงคโปร์ก็ได้ทำการแยกตัวออกจากมาเลเซีย ในวันที่ 9 สิงหาคม 1965
หลังจากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซียเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น
หลังจากนั้นสิงคโปร์ก็ได้ปกครองประเทศโดยอิสระ ซึ่งนำโดยคุณ Lee Kuan Yew ที่ได้วางรากฐานด้านต่าง ๆ ให้กับสิงคโปร์
ด้วยความทรงจำที่โหดร้ายในการปะทะกันระหว่างสองเชื้อชาติ ทำให้ทางการสิงคโปร์ได้ก่อตั้งวัน Racial Harmony Day หรือ วันแห่งการปรองดองทางเชื้อชาติ
เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายในปี 1964 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บมากมาย
โดยวันดังกล่าวจะตรงกับวันที่ 21 กรกฎาคม ของทุกปี ซึ่งตรงกับเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างเชื้อชาติครั้งแรก
ทางการสิงคโปร์เดินหน้าให้ความสำคัญกับทุกเชื้อชาติในสิงคโปร์อย่างต่อเนื่อง
ไม่ว่าจะเป็นทางด้านภาษา สิงคโปร์จะมีภาษาราชการมากถึง 4 ภาษา
ได้แก่ ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน, ภาษามาเลย์ และภาษาทมิฬ
ถึงแม้ว่าประชากรหลักจะเป็นชาวสิงคโปร์เชื้อสายจีน แต่ทางการสิงคโปร์ก็ยังคงให้ความสำคัญกับทุกภาษา ตามเอกสารราชการสิงคโปร์หรือป้ายเตือนต่าง ๆ ก็จะมีการใช้ทั้ง 4 ภาษา
ส่งผลให้ชาวสิงคโปร์เองที่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างดีอยู่แล้ว ยังคงใช้ภาษาแม่ของเชื้อชาติตัวเองได้อีกด้วย
นอกเหนือจากภาษาแล้ว ทางการสิงคโปร์ยังให้ความสำคัญกับวันสำคัญของเชื้อชาติต่าง ๆ
ไม่ว่าจะเป็น วันตรุษจีนของชาวจีน, วันฮารีรายอของชาวมุสลิม, วันวิสาขบูชาของชาวพุทธ,
วันทีปาวลีของชาวฮินดูและชาวซิกข์ และวันคริสต์มาสของคนที่นับถือศาสนาคริสต์
โดยที่ทุกวันจะถือเป็นวันหยุดราชการของสิงคโปร์
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความที่สิงคโปร์มีขนาดประเทศที่ค่อนข้างเล็ก จึงทำให้ที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ในประเทศเป็นตึกสูง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ภายใต้การดูแลของ Housing and Development Board หรือ HDB ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐของสิงคโปร์ที่ดูแลจัดการเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์
โดย HDB จะมีการจัดสรรการอยู่อาศัยของแต่ละตึก โดยจะกำหนดว่าในแต่ละตึกอยู่อาศัยหรือชุมชนจะต้องมีการคละเชื้อชาติกันเพื่อที่จะให้คนแต่ละเชื้อชาติสามารถอยู่ด้วยกันและเป็นเพื่อนกันได้
โดยจะไม่มีการแบ่งแยกว่าตึกนั้นจะเป็นที่อยู่อาศัยของชาวจีน หรืออีกตึกจะเป็นที่อยู่อาศัยของชาวมาเลย์
ซึ่งนี่ถือเป็นนโยบายที่คาดไม่ถึงเพื่อเพิ่มความสามัคคีภายในชาติ
นี่ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความเป็นชาติของสิงคโปร์สามารถหลอมรวมเป็นหนึ่งได้อย่างลงตัว
ถึงแม้สิงคโปร์จะเป็นประเทศที่รวมไปด้วยคนหลากหลายเชื้อชาติ ซึ่งยังไม่รวมถึงชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในสิงคโปร์
แต่ด้วยการเอาใจใส่ของทางการสิงคโปร์ ที่ให้ความสำคัญกับคนทุกเชื้อชาติ ไม่ได้มีการแบ่งแยกหรือแบ่งชนชั้นกัน จึงทำให้ทุก ๆ คนเท่าเทียมกัน ไม่มีใครที่เป็นแกะดำในประเทศ
นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สิงคโปร์สามารถสร้างความเจริญทางการเมืองและเศรษฐกิจได้
โดยที่มีคนเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ และไม่เกี่ยงว่าจะเป็นเชื้อชาติอะไร ทุกคนจะได้รับโอกาสเท่ากันหมด
ที่น่าสนใจก็คือตำแหน่งประธานาธิบดีของสิงคโปร์ล้วนเคยเป็นคนสิงคโปร์เชื้อสายจีน มาเลย์ และอินเดียกันมาแล้ว
สุดท้ายแล้วนี่จึงเปรียบเสมือนเป็นจิกซอว์หลากสี ที่ก่อนนำมาประกอบเข้าด้วยกันจะมีความแตกต่างกัน
แต่เมื่อนำมาต่อเรียงกัน จึงทำให้เกิดภาพที่สวยงามจากการต่อจิกซอว์ที่ถูกต้องของทางการสิงคโปร์
เพราะถึงแม้เชื้อชาติจะแตกต่าง แต่ก็ไม่แตกแยกกัน ทุกคนก็คือคนสิงคโปร์ด้วยกันทั้งสิ้น
นี่ถือเป็นกรณีที่น่าสนใจ จากประเทศที่เริ่มต้นจากความขัดแย้งทางด้านเชื้อชาติมากมาย
แต่สามารถสร้างความสามัคคีของคนในชาติได้
ถ้าเราสังเกตดูลึก ๆ แล้วจะพบว่า จริง ๆ แล้วทุกคนต่างต้องการเป็นคนที่สำคัญกันทั้งสิ้น ซึ่งถ้าเราได้รับความสำคัญจากใครคนไหน เราก็จะยินดีให้ความสำคัญกับเขาคนนั้นด้วยเช่นกัน
อย่างที่รัฐบาลสิงคโปร์ให้ความสำคัญกับคนทุกเชื้อชาติ สุดท้ายแล้วประเทศสิงคโปร์ก็จะได้รับความสำคัญกลับมาเช่นกัน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.singstat.gov.sg/modules/infographics/population
-https://www.population.gov.sg/files/media-centre/publications/pib-2020-final.pdf
-https://www.gov.sg/article/what-are-the-racial-proportions-among-singapore-citizens
-https://www.guidemesingapore.com/business-guides/immigration/get-to-know-singapore/a-brief-history-of-singapore
-https://www.ocsc.go.th/sites/default/files/document/singapore.pdf
-http://kruasean.kru.ac.th/ewtadmin/ewt/kru_asean/ewt_dl_link.php?nid=385&filename=index
-https://eresources.nlb.gov.sg/history/events/1dab53ea-788c-461c-acfb-ca625b974c9c#:~:text=Politically%2C%20the%20ruling%20People's%20Action,to%20secure%20its%20political%20legitimacy.&text=As%20the%20proposed%20Malaysia%20would,in%20Singapore%20would%20be%20neutralised.
-https://eresources.nlb.gov.sg/infopedia/articles/SIP_45_2005-01-06.html
-https://mothership.sg/2017/07/see-the-realities-of-spores-1964-racial-riots-from-these-stories-perspectives/
-https://core.ac.uk/download/pdf/48682558.pdf
คน ภาษาอังกฤษ 在 พี่ม้าพาเที่ยว ฮี่ฮี่เจแปน Facebook 的最佳解答
ขอบคุณญี่ปุ่น ต่อให้ต้องเลือกอีกกี่ครั้งก็ขอเลือกไปญี่ปุ่น😊😊😊
-
รีวิวการทำงานเป็นสถาปนิกที่ญี่ปุ่นและการลาออก
-
1. หางาน
ขอเริ่มที่การทำงานก่อนนะคะ เผื่อใครที่มีแพลน หรืออยากทำงานที่บริษัทญี่ปุ่น ม้าเรียนจบโท ถาปัตย์ ม.โตเกียว ปี 2016 ที่ญี่ปุ่นจะมีฤดูที่เรียกว่าหางาน จะเป็นช่วงต้นมค อันนี้แล้วแต่บริษัทเลยนะคะ บริษัทที่ม้าอยากจะเข้า เปิด1ครั้งต่อปี อันนี้ต้องดูดีๆและ ส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั้นค่ะ ฤดูหางานคือช่วงเดือน มกรา - มีนา แต่ต้องศึกษาดีๆ แต่ละบริษัทไม่เหมือนกันค่ะ (รายละเอียดการสมัคร จะอยู่ในโพสนะคะ )ตอนนั้นหวังแค่อย่างเดียว ว่าต้องเข้าบริษัทนี้ เค้าก็จะมีสอบ5ขั้นตอน รอบแรก ส่งapplication,สอบตรรกะ ,สอบ ภาษาอังกฤษ,แล้วอีกประมาณ 1 เดือน สอบข้อเขียน ถ้าข้อเขียนผ่าน ก็ได้ไปต่อสัมภาษณ์กรรมการ 5ต่อ 1 ประกาศผลภายในวันเดียวกัน แต่อันนี้แล้วแต่บริษัทเลยนะคะ
ถ้าใครไปญี่ปุ่นช่วง มค-มีนา จะเห็นเลย หน้าเอ๊าะๆ ใส่สูท นี่เดินกันว่อน
กระเป๋าเหมือนๆกัน
----------------------------
2.การทำงาน เหนื่อยแต่สนุก กลับดึกเรื่องปกติ ขอแอบสรุปแล้วกันค่า
- ผู้หญิงในทีมคนเดียว หลายคนอาจจะกลัว แต่ไม่ต้องไปคิดมาก ทำในส่วนของเรา ทำเท่าที่ทำได้ วันที่เครียดมีอยู่แล้ว และวันที่เจ้านายเครียดเพราะมีเราก็ต้องมีอยู่แล้วค่ะ ;D
- ได้เรียนรู้เยอะมาก แย่สุดคือเรื่องสภาพอากาศ เพราะม้าเป็นคนขี้หนาว เคยขึ้นไปดูsite ตอน หน้าหนาว อุณหภูมิติดลบ จำได้ หนาวไปถึงจักกะแร้ แค่ตื่นมาบางวัน ตอนที่โตเกียว หิมะตกหนัก อื้อหือออ เดินฝ่าหิมะอย่างเดียวก็เหนื่อยแล้ว ช่วงนั้นหนักสุดคือหาซื้อเสื้อทำงานแบบไม่ยับ เพราะจะใส่เสื้อทำงานนอน ตอนเช้าตื่นมาแล้วไปเลย (อากาศเป็นเรื่องนึงที่ม้าไม่ชอบ เพราะเป็นคนขี้หนาวมาก คือถ้าขับรถเมืองไทย ก็เป็นคนไม่เปิดแอร์ในรถ ชอบอยู่ร้อนๆ แบบวันไหน อยู่ในห้องแอร์ จะหงุดหงิดมาก )ตอนไปญี่ปุ่น แรกๆเลยคือ ใส่5 ชั้นได้ ถ้าใครทนสภาพอากาศหนาวได้ ชีวิต ชอบ 4 ฤดู ชีวิตไม่น่าเบื่อ ญี่ปุ่นนี่เหมาะมากค่ะ
- จันทร์-ศุกร์ทำงาน ถามว่าเลิกดึกไหม ก็ไม่มีไม่ดึก 9โมง- 3ทุ่ม คือปกติ กลับบ้านแล้วสลบ เสาร์อาทิตยนั่งทำคอนเทนต์ ระหว่างอยู่บนรถไฟนั่งเขียนรีวิว ชีวิตวนแบบนี้ไปตั้งแต่ ปี2014 สมัยก่อนทำงานเยอะกว่านี้ อันนี้บอกน้องรุ่นใหม่ๆเลยว่า ทำงานให้เยอะที่สุด แล้วเราจะหาตัวเองเจอ ให้ทำงานที่หลากหลายนะคะ ม้าไปตั้งแต่ปี2014 (ตอนนั้นอายุ23) ไปถึงวันที่2 ก็ไปสมัครเป็นครูภาษาไทย ให้คนญี่ปุ่น ฟังสัมภาษณ์ยังไม่รู้เรื่องเลย แน่นอนค่ะ ตกค่ะ จากนั้นก็ทำงานร้านอาหาร ทำเซเว่น ทำcall center ที่ดองกี้ 7.00-9.00 ทำเซเว่น ทำเสร็จไปเรียน เรียนเสร็จ กลับมาทำงานร้านอาหารต่อถึง 5ทุ่ม พอได้ภาษาแล้วก็ค่อยๆขยับ ไปทำล่าม แปลงานบ้าง งาน food expo แล้วก็ไป intern บริษัทถาปัตย์ 3บริษัท ระหว่างทำโท แต่เวลาทำงานต้องมีจุดมุ่งหมาย ของม้าตอนที่ไปทำเซเว่น หรือร้าน อาหาร ก็คือ อยู่แค่ที่ละ 3เดือนพอ อยู่จน อ๋อ มันเป็นแบบนี้ อย่าให้เงินเป็นปัจจัยหลัก เงินน้อย งานดี ทำให้ได้นานๆ เงินดี แต่งานไม่ได้รู้อะไร ต้องพิจารณาดีๆนะคะ
- ที่ทำงานที่ ญป ข้อดีเลย คือหัวหน้าก็ไม่มีห้อง ต้องระดับ CEO หรือสูงมากๆถึงจะมีห้อง เพราะฉะนั้น ม้านั่งขนาบ หัวหน้าโปรเจค กับ หัวหน้าแผนก จามทีคือได้ยินกันทั้งชั้น นั่งเรียงกันเป็นตับเลย ใกล้ชิดเหลือเกิน ข้อดีคือการทำงานเเบบส่งอีเมลล์ อย่างเดียว ไม่มีการใช้ไลน์ ชีวิตที่ทำงานกับ ชีวิตส่วนตัวแยกออกจากกันเลย
- เพื่อนที่ทำงานค่อนข้างดีมากจริงๆค่ะ รู้จักคนให้เยอะ หลากหลายอาชีพ ตัวเราอาจจะโชคดี ม้าเจอแต่เพื่อนดีๆ ถ้า100 คน จะมีเเบบ ที่ไม่ค่อยอยากเป็นเพื่อนด้วยสัก1 คน ส่วนมากจะสนิทกับเพื่อนต่างชาติแทน เข้าใจกันหัวอกเดียวกัน
- การทำงานกับคนญี่ปุ่น ที่แน่ๆ คือได้ความละเอียดขึ้น คติมีอยู่อย่าง ถ้าเวลาไม่ได้จำกัด ให้ทำงาน ไปเรื่อยๆ แล้วถามตัวเองว่า อันนี้ดีที่สุดหรือยัง ถ้ายังไม่ดี ดีกว่านี้ได้ไหม แต่ถ้าในเวลาที่จำกัด ทำงานให้ได้เร็วที่สุด บางครั้งการตัดสินใจช้า ทำให้เราพลาดไปไกล คิดเร็วทำให้เร็วกว่าพลาดแล้วเรียนรู้ วนเป็นลูปไป อย่างน้อยก็ต้องได้อะไร
-สมัยที่ทำงานแรกๆ ก็คืองง ม้าตัดโมเดลแล้วทำหลังคาผิดไป 2 องศา แล้วนายเดินมาบอก ว่าผิดไป ดูยังไงก็ผิด นายขยับๆ แป๊ปเดียว slope เป๊ะเลย คือเค้าละเอียดแบบที่ โอ้วมายกู้สเนส แรกๆจะแอบหงุดหงิด แต่พอย้อนเวลากลับไป ก็นึกขอบคุณทุกวัน
----------------------------
การลาออก
จริงๆเรื่องลาออกคิดทุกวัน ไม่มีวันไหนที่ไม่คิด แต่ตอนนั้นรู้สึกว่า อยู่ที่นี่ก็สบายดี เงินเดือนดี สวัสดิการดี ที่พักก็ฟรี เสาร์อาทิตย์ก็ไปเที่ยว อยากไปไหนก็ไป แต่เรารู้ตัวเองว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นสถาปนิกไปตลอดชีวิต คืออยากกลับไปทำอะไร แต่ก็ยังไม่รู้จะทำอะไร รู้แต่ว่าชอบเดินซื้อของ แต่ซื้อไปขายนะคะ เวลาม้าไปเดินห้าง จะไม่ซื้อของ แต่จะดูแล้วก็ดู ว่าเค้าทำอะไร อันนี้จะขายได้ไหม อันนี้ดีไซน์ดี แต่ไม่ได้ซื้อนะคะ แค่รู้สึกว่าอันนี้น่าเอาเข้าไทย แล้วก็ค่อยๆทำพรีออเดอร์ คู่กับงานประจำ ทำรีวิววันเสาร์-อาทิตย์
----------------------------
จุดพลิกก็คือ เริ่มรู้สึกว่า ไปทำงานทำไม เหมือนมันไม่มีใจอีกต่อไปแล้ว เราไม่ได้อยากออกแบบ สนามบินไปตลอดชีวิต ทีมที่ม้าทำคือ ทำ Airport เป็น specialist ด้านการออกแบบสนามบิน และถ้ากลับไทยไป จะไปทำงานอะไร แล้วเราก็ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่นี่จนตาย คืออยากกลับเมืองไทยมาตลอด แค่รู้สึกว่ายังไม่ถึงเวลา แต่พอชีวิตมันเริ่ม Routine ขึ้นก็เลยขอลอง take leave
----------------------------
ที่ญี่ปุ่น take leave ได้ 3-6 เดือน หรือ1 ปี (แล้วแต่บริษัทนะคะ) ม้าเลือกที่จะ take leave ก่อน และยังได้เงินเดือน 50% ตอนแรกบอกแม่ ขอtake leave สัก 6 เดือน แม่บอก take ขนาดนั้นไปลาออกเถอะ ก็เลยคุยกันได้ว่า งั้นขอ3เดือน กลับไทย กลับไปเครียล์ตัวเอง ว่าอยากทำอะไรต่อ หรือ จะกลับมาทำงานต่อที่ญี่ปุ่น สุดท้ายคำตอบก็คือ จะอยู่เมืองไทย พอผ่านไป 3 เดือน กลับไปญี่ปุ่น เพื่อกลับไปลาออกค่ะ ม้ายื่นซองขาว ตอนยื่นเสร็จ น้ำตาก็คลอๆ แต่ทุกคนในทีม ก็เข้ามาบอก ว่าสภาพเราดีมาก ดูแฮปปี้ มาก ดูมีความสุขกว่าตอนที่อยู่ที่นี่อีก ก่อนจะออกม้าก็ถามหัวหน้าว่า ไม่รู้เหมือนกัน ว่าการตัดสินใจของเรานั้นถูกไหม เค้าตอบม้าว่า ไม่มีใครรู้ แต่ถ้าเราเลือกแล้ว มันคือสิ่งที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น แล้วก็เลยกลับมาไทย ทำบริษัทอสังหาที่ไทยอีกปีนึงค่ะ และสุดท้ายก็คิดว่าน่าจะเป็นการลาออกครั้งสุดท้าย
----------------------------
ลาออกครั้งสุดท้าย
ม้าว่าทุกคนมีเส้นทางของตัวเอง When to Jump ของแต่ละคนไม่เท่ากัน และไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับคนอื่น วันที่เลิกเป็นสถาปนิกแล้วไปขายของออนไลน์ กลัวไหมกลัว อยากทำไหม อยากทำ แต่ที่แน่ๆมีความสุขเยอะขึ้นค่ะ เป็นสิ่งที่เราชอบ มาตั้งแต่เด็กๆ ตอนเด็กๆชอบอยู่2 อย่างคือ เล่นsims กับ ขายของ แต่ตอนนั้นที่บ้านบอกให้เลือกที่เป็นวิชาชีพ ก็เลยเลือกถาปัตย์ แต่ก็ยังชอบขายอยู่เรื่อยๆ
อย่าเพิ่งลาออก ถ้ายังคิดไม่ออก
ม้าว่าชีวิตคนเราควรมีหลายๆตัวเลือกนะคะ คนเราไม่จำเป็นต้องทำอย่างเดียว พูดได้คำเดียวว่าให้ขยัน และอดทน แต่อยากให้เริ่มเลย เริ่มกระเตาะกระแตะ อยากทำอะไรให้ทำ ดีกว่ามานั่งเสียใจทีหลัง
IG pmahpmahh มันชอบกินข้าว มันเกิดมาเพื่อกิน
IG pmahshop เผื่อวันไหนอยากช็อปปิ้ง คิดถึงม้าบ้างก็ดี
ด้วยรักค่ะ
คน ภาษาอังกฤษ 在 ZeemUzma Youtube 的最佳解答
วันนี้ไม่ได้มาสอนภาษาแต่มาแชร์บทเรียนที่ได้จากวิกฤติโควิด ที่ซีมเชื่อว่าส่งผลกระทบกับชีวิตของทุกๆ คนอย่างแน่นอน! :D บทเรียนชีวิต 5 ข้อของซีมมีดังนี้
1. เราต้องมีเงินออม!
2. การมีรายได้ทางเดียวมันไม่เพียงพอต่อไปแล้ว
3. เราจะต้องพัฒนาตัวเองจนไม่มีใครมาแทนที่เราได้
4. ดูแลสุขภาพกายแล้วอย่าลืมดูแลสุขภาพจิตของตัวเองด้วย
5. ตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า อะไรที่สำคัญกับเรากันแน่
ใครได้บทเรียนชีวิตอะไรบ้างก็มาแชร์กันนะคะ อยากฟังเรื่องราวของทุกๆ คน และเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ทุกคนน้า เราจะรอดไปด้วยกันนนนนนนน!!!
ถ้าดูแล้วชอบก็ อย่าลืมช่วยกัน Share, Like, Subscribe นะค้า ขอบคุณที่ติดตามเด็กไทยไกลบ้านค่ะ
Video edited by Pawarixorn
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
Hi! I am Zeem! :) Thanks for watching the video.
Don't forget to subscribe and FOLLOW ME! XD
Facebook : Dek Thai Klai Baan เด็กไทยไกลบ้าน
YouTube : https://www.youtube.com/user/dekthaiklaibaan
Instagram: dekthaiklaibaan
Twitter: dekthaiklaibaan
Blog : https://dekthaiklaibaan.wordpress.com/
Email: dekthaiklaibaan@gmail.com
Line: @dekthaiklaibaan
Editing Program: Filmora
Credit: Music from iMovie and Kevin MacLeod (Royalty-Free Music http://incompetech.com)

คน ภาษาอังกฤษ 在 ครัวอร่อยมาก Aroimaak Kitchen Youtube 的精選貼文
ไก่ผัดเม็ดมะม่วง สูตรนี้ห้ามพลาด ทำง่าย ไก่กรอบนอกนุ่มใน ผัดแบบแห้งๆ Stir fried chicken with cashew | ครัวอร่อยมาก
ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ สูตรนี้ไม่ใส่น้ำพริกเผา แต่จะเสริมกลิ่น ให้น่าทานมากขึ้นด้วย น้ำมันงา การันตีความอร่อย ทำกินได้ง่ายๆ ที่บ้าน
เมนูนี้ ไก่ผัดเม็ดมะม่วง ที่ใคร ๆ คิดว่ายาก ขั้นตอนของเมนูนี้อาจจะดูเยอะ แต่จริง ๆ แล้วเป็นขั้นตอนการทำง่ายๆ ด้วยรสชาติที่ครบรส เม็ดมะม่วงมัน ๆ จะกินเล่น ๆ หรือทานจริงจังก็ได้ กินได้ทั้งครอบครัว ส่วนวัตถุดิบก็ มีขายทั่วไปตามท้องตลาด หาได้ง่าย ๆ
ไก่ผัดเม็ดมะม่วงอาหารสไตล์จีน ๆ แบบภัตตาคาร รสเลิศ กินได้ทุกเพศทุกวัย เมนูในดวงใจของใครหลาย ๆ คน
หากมีคำแนะนำ ติชม คอมเม้นไว้ด้านล่างได้เลย
(คอมเม้นด้วยคำสุภาพนะครับ)
Facebook: https://www.facebook.com/bo.naphak
Facebookpage : https://www.facebook.com/aroimaakk
IG : https://www.instagram.com/aroimaakk
ติดต่องาน
email : [email protected]

คน ภาษาอังกฤษ 在 Ja is so fly Youtube 的精選貼文
ต่อจากคลิปที่แล้วที่จ๋าพาทุกคนไปเที่ยวคัปปาโดเคีย ประเทศตุรกี วันนี้เรายังคงเที่ยวกันต่อที่ตุรกี แต่เป็นเมือง'อิสตันบูล'ค่ะ โดยครั้งนี้ จ๋าจะพาทุกคนมาดูกันว่า ถ้ามีเวลาเที่ยวเพียงแค่ 3 วัน 2 คืน จะสามารถเที่ยวอิสตันบูล แบบที่เรียกว่า 'ได้เห็นอิสตันบูลจริงๆ' ยังไง ต้องไปดูกันค่ะ! ^^
