บอสฉันขยันเชือด (พ.ศ. 2564) เข้าฉาย 1 เมษายนนี้
เป็นหนังประเภทมีศักยภาพจะไปได้ไกลกว่านี้แต่ไปไม่ถึง หนังล้มเหลวในการขายขำ นักแสดงสายคอเมดี้ที่ขนมากับแก๊กชงตบในหนังไม่สามารถเรียกเสียงหัวเราะได้เลย แต่ก็ไม่ถึงขั้นเป็นข้อด้อย (ไม่แน่ใจว่าเจตนาเอา เผือก กับโอ๊ต ปราโมทย์ มาเล่นบทจริงจังคือกะขายขำจากการขัดลุคด้วยไหม) ส่วนไอเดียในการสืบหาหลักฐานมัดตัวฆาตกรต่อเนื่องก็น่าสนใจดี เสียแค่ว่าเล่าจืดมาก หนังใช้เวลาหลายส่วนในการเล่าความสัมพันธ์ระหว่างมุกดากับไอซ์ ปรีชญา ซึ่งถ้าว่าตามจริงความขัดแย้งแทบไม่มีน้ำหนักต่อเรื่องราว แถมจังหวะมาเคลียร์ใจกันคือผิดเวล่ำเวลาเหลือเกิน มาบวกกับฉากจบที่ยาวแบบจังหวะไม่ค่อยตื่นเต้น ไอเดียน่าสนุกคือแค่การเล่นกับสิ่งของในออฟฟิศที่พอจะหยิบจับมาเป็นอาวุธได้ แต่หนังดึงเวลาจนไม่รู้สึกลุ้นระทึกเลย
.
เขียนเยอะก็กลัวสปอยล์ แต่เอาจริง ๆ คิดว่าคนน่าจะเดาไม่ยากเพราะหนังมันไม่ควรจะเป็นเลเยอร์เดียวขนาดนั้น ชอบการสร้างตัวละครอย่างหนึ่งคือ บทมุกดา ดูเป็นตัวแทนคนวัยทำงานสมัยนี้ได้เป็นอย่างดี ในงานที่ต้องหาเลี้ยงชีพเป็นประจำมันไม่มีความสนุก ไม่มีความกระตือรือร้นแต่จำเป็นต้องทำเพื่อเงิน แต่พอเป็นงานที่ตัวเองสนใจหรือหลงใหลเท่านั้นแหละ จัดเต็มปลุกไฟในตัวขึ้นมาสวมบทนักสืบ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่เธอทำรายการท้าพิสูจน์มาตั้งแต่ม.ปลาย แต่ต้องเหินห่างกับเพื่อนรักในเวลาต่อมา
.
พูดถึงฉากออฟฟิศตอนสุดท้ายนิดนึง หนังมันดูมาทางจะทำให้ออกมาสมจริงเท่าที่ทำได้ แล้วก็พยายามให้มีอารมณ์ขันด้วย เลยจะได้เห็นจังหวะเล่นมุกโทรหาตำรวจแต่สายไม่ว่าง หรือการแซวอาวุธที่เลือกจับ แต่พอหนังเล่าฉากนี้ยาว แต่เป็นการยาวเพราะหนังดึงจังหวะตัวเองให้ช้าด้วย แล้วจุดพีคของฉากมันไม่เยอะเท่าไรเลยคิดว่าไคลแม็กซ์มันเดือดไม่ถึงใจเลย ดีระดับไม่ว้าวแค่ตรงเล่นกับความเป็นพื้นที่ออฟฟิศแคบ ๆ และสรรหาของในออฟฟิศมาเป็นลูกเล่นเท่านั้นแหละ
ป.ล. จริง ๆ มุกดาคือตัวนำเรื่องเลยนะ แต่ทำไมเครดิตในหนังดันขึ้นชื่อไอซ์ ปรีชญา ก่อนเหมือนเป็นนักแสดงนำ
ผู้กำกับ: ภูวนิตย์ ผลดี, ศรณ์พัฒน์ ปราการะนันท์
ประเภทหนัง: คอเมดี้, ทริลเลอร์
6.5/10
ผลดี 在 ชั่งน้ำหนัก AI ความเฉลียวฉลาดจะให้ผลดีหรือผลร้ายต่อมนุษยชาติ? 的必吃
AI ที่เคยถูกมองว่าเป็นโลกเหนือจินตนาการที่มีอยู่แค่ในนิยายไซไฟหรือภาพยนตร์ฮอลลีวูด ในปี 2022 AI กลับกลายเป็นความจริงที่ใครๆ ... ... <看更多>