關於 super hotel japan ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

อยากไปญี่ปุ่น ต้องมีเงินเท่าไหร่ ?

เป็นคำถามที่มีหลายๆคนถามบีมเข้ามาเยอะมากเลย ซึ่งบอกตรงๆบีมก็ตอบไม่ได้ว่าต้องใช้เท่าไหร่
เพราะการไปเที่ยวขึ้นอยู่กับรสนิยม นิสัยการใช้เงินของแต่ละคน

เพราะปัจจัยหลักๆที่ใช้ในการคำนวนของแต่ละคนไม่เท่ากัน ตัวอย่างเช่น

1.สายการบินที่ขึ้น
- คุณจะไปแบบคลาสไหน เฟิร์ส บิสิเนส ธรรมดา หรือ จะใช้สายการบินโลว์คอส
2.โรงแรมที่นอน
- คุณจะนอนโรงแรมสไตล์ไหน เกสเฮ้าส์ แคปซูล บิซิเนสโฮเทล หรู
3.สถานที่ๆจะไป
- คุณจะไปที่ไหนบ้าง แต่ละที่เสียค่าเข้าเท่าไหร่ การเดินทางไปยังไง ค่ารถไฟเท่าไหร่ มีบัตรพิเศษลดมั้ย
4.อาหารที่กิน
- คุณต้องการกินอาหารมื้อละเท่าไหร่ จะบ้านๆ หรือจะหรูๆ
5.ของที่จะซื้อ
- ความต้องการในการซื้อของฝากของแต่ละคน
6.อื่นๆ
- ชุดกันหนาวมียัง ของที่จะเอาไป อินเตอร์เนทต้องใช้มั้ย

วันนี้บีมจะมาแนะนำเทคนิคการคำนวนง่ายๆ ส่วนตัวตามประสบการณ์ของบีม
สำหรับใครที่อยากรู้ว่าถ้าตัวเองไปญี่ปุ่น ควรมีเงินไปอย่างน้อยเท่าไหร่ดี
และใครมีอะไรจะเสริม สามารถช่วยกันเสริมในคอมเม้นต์ได้เลยนะคะ

ข้อมูลราคาเป็นข้อมูลคร่าวๆนะคะ อยากเทียบให้แน่ชัด ค้นกันต่อเองจ้า

---------------------------------------------

【1. สายการบินที่จะขึ้น】
สายการบินบินตรง
สายการบินทั่วไปที่มักใช้ TG / ANA / JAL
สายการบิน LCC (โลว์คอส) Air Asia / NokScoot Airlines / Thai Lion Air / Scoot / Peach
สายการบินอื่นๆ

สายการบินต่อเครื่อง
เช่น Cathay Pacific / Hong Kong Airlines

อธิบายสำหรับมือใหม่ สายการบินพวก การบินไทย(TG) แจแปนแอร์ไลน์(JAL) ออลนิปปอน (ANA) เรียกว่าเป็นสายการบินแบบ Full service คือ ค่าตั๋วซื้อไปก็จะได้น้ำหนักกระเป๋าเลย มีบริการอาหาร ผ้าห่มบนเครื่อง มีทีวีให้ดู ส่วน LCC หรือสายการบินโลว์คอส(ต้นทุนต่ำ) น้ำหนักกระเป๋าต้องซื้อต่างหาก อาหารไม่มีแจก ไม่มีผ้าห่มให้ อะไรแบบนี้ค่ะ ก็ลองดูว่าเราถนัดแบบไหน งบประมาณเราเท่าไหร่

เดี๋ยวนี้หาดูราคาเทียบง่ายๆค่ะจากในเน็ท

ทั้งนี้บีมแนะนำแบบบินตรงมากกว่า นอกเสียจากว่าเราอยากไปเที่ยวสองประเทศอะไรแบบนี้ แต่มันก็จะเหนื่อย บินไปญี่ปุ่น 5-7 ชั่วโมงเท่านั้นเอง อีกอย่างสายการบินโลว์คอสก็มีบินตรงแล้วด้วย

ในส่วนของราคานั้น ถ้าเราจองก่อนล่วงหน้านาน ก็มีโอกาสที่จะได้ราคาถูกกว่าค่อนข้างเยอะกว่าการจองแบบกระชั้นชิด หรือคอยดูในช่วงโปรโมชั่นต่างๆก็ช่วยได้ค่ะ

ส่วนของสายการบินทั่วไป จะอยู่ที่ 14000 - 30000 ในส่วนของที่นั่งชั้นประหยัด
สายการบิน LCC จะอยู่ที่ 8000-10000 นิดๆค่ะ

*ราคาเหวี่ยงขึ้นลงกับฤดูกาลที่คนเที่ยว ช่วงเวลาที่เราจอง และช่วงโปรโมชั่นค่ะ

ส่วนตัวบีมจองเองหลายๆครั้ง โดยปกติบีมจะใช้วนอยู่กับ TG / JAL / ANA ค่ะ เคยเจอถูกสุดก็ 12000 แต่ปกติจะพยายามจองในช่วงราคาที่ไม่เกิน 20000 บาทค่ะ

---------------------------------------------

【2.โรงแรมที่นอน】
ดูด้วยว่าไปกี่คน ถ้าเราพักโรงแรมทั่วไป ราคาพักคนเดียวจะค่อนข้างสูงเกือบเท่าพักสองคนค่ะ สำหรับที่ญี่ปุ่น โรงแรมราคาเหวี่ยงมากตามแต่ละท้องที่ บอกไม่ได้จริงๆว่าเท่าไหร่
ขอแนะนำตามสไตล์ดังนี้นะคะ ซึ่งบีมก็พักมาทุกแบบแล้วแหละ

-โรงแรมแบบโฮสเทล สไตล์จะแบบบ้านๆ เหมือนหอพัก อาจจะมีห้องเดี่ยว ห้องที่นอนรวมๆกัน ถ้านอนรวมกันราคาก็จะถูกลงมา มีตั้งแต่หลักร้อย ถึงหลักพัน ห้องอาบน้ำโดยปกติจะต้องไปอาบในที่ๆเขาจัดไว้ให้ อาจจะเป็นฝักบัวแยกห้อง คือไม่ได้อยู่ในห้องพัก

-โรงแรมแบบแคปซูล มีหลายแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นแบบ ญ ล้วน หรือแบบ สห. แต่แบบสหก็จะแยกชั้นชายหญิงเพื่อความปลอดภัย มีพื้นที่ส่วนตัวนิดๆหน่อยๆ บางที่ก็เหมือนนอนในรู บางที่เหมือนนอนในกล่อง ราคาอยู่อยู่ที่ หลักเกือบๆพันไปจนถึงประมาณ 2000 บาท อาบน้ำรวม

-โรงแรมแบบบิสิเนส อ่านชื่ออาจะนึกว่าแพง แต่จริงๆหมายถึงโรงแรมทั่วไป ที่ไม่เน้นบริการอะไรเลิศเลอ เรียกได้ว่า กลับมานอน ตอนเช้าไปเที่ยว เหมาะสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ต้องการบริการอะไรไฮโซพิเศษ นักธุรกิจที่ไปทำธุระต่างจังหวัดแล้วต้องค้างคืน (ปกติบีมจะพักโรงแรมแบบนี้มากที่สุด) เช่น Super Hotel / Toyoko inn ราคาอยู่ที่ 5000-20000 เยน

- โรงแรมหรู ดูไฮโซขึ้นมาหน่อยจากโรงแรมด้านบน ราคาก็อัพขึ้นไป เช่น 15000 - 60000 เยน ++++

- โรงแรมแบบเรียวคัง โรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นที่มักอยู่ในย่านที่มีออนเซ็น หรือ ออกห่างจากในตัวเมือง ราคาปกติอยู่ที่ 12000 เยน ต่อคนต่อคืน +++ และที่พักแบบนี้มักจะ + ค่าอาหารเย็นและเช้าเข้าไปด้วย เนื่องจากรอบที่พักมักไม่มีอะไร

- Air BNB ทุกคนน่าจะรู้จักดี จริงๆ Air BNB ไม่ได้ถูกกว่าโรงแรมเลย ราคาพอๆกัน เดินทางเข้าใจยากกว่านิดนึง บางที่อาจจะแพงกว่าด้วยซ้ำ แต่ก็จะได้ประสบการณ์การพักแบบสไตล์บ้านญี่ปุ่น

แนะนำวิธีการจองโรงแรม
ปกติบีมจะจองแบบคนญี่ปุ่นผ่านเว็บ Rakuten เพราะบีมเคยอาศัยอยู่ที่นั่นมาก่อน
แต่สำหรับใครจะจองผ่านตัวแทนภาษาอังกฤษก็มีหลายเว็บให้เลือก เช่น booking.com เป็นต้น

สิ่งที่ควรดูเวลาจองโรงแรมคือ
- เราจะไปเที่ยวที่ไหน
- ระยะห่างระหว่างโรงแรมถึงสถานีไกลไหม ลำบากหรือเปล่า
- มีบริการอะไรบ้าง มีห้องอาบน้ำในตัวมั้ย (เรียวคังบางที่ไม่มีนะ ต้องอาบรวมอย่างเดียว)
- ถ้ายกเลิกจะโดนปรับมั้ย เท่าไหร่อะไรยังไง

---------------------------------------------

【3.สถานที่ที่จะไป】
- คุณจะไปที่ไหนบ้าง แต่ละที่เสียค่าเข้าเท่าไหร่ การเดินทางไปยังไง ค่ารถไฟเท่าไหร่ มีบัตรพิเศษลดมั้ย
อันนี้ต้องวางแพลนเองเลยจ้า ศึกษาข้อมูลเยอะๆว่าเราอยากไปที่ไหน บัตรรถไฟที่ใช้ได้มีอะไรเช่น Japan Rail Pass / พวก 1 Day pass ต่างๆ เพราะค่าคมนาคมที่ญี่ปุ่นค่อนข้างแพง นั่งรถไฟชิงคันเซ็นจากโตเกียวไปโอซาก้าขาเดียว ก็ประมาณ 4000 กว่าบาทแล้วจ้า

---------------------------------------------

【4.อาหารที่กิน】
ร้านอาหารที่ญี่ปุ่นมีหลายแบบ หลายราคาค่ะ ตั้งแต่ถูกไปถึงแพง
แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าอะไรถูกอะไรแพง เราก็จะไม่รู้ว่าเราจะกินอันนี้ดีมั้ยนะ
ก่อนอื่นเรามาศึกษาราคาอาหารทั่วไปกันก่อนค่ะ

ราคาถูกสำหรับบีมคืออยู่ที่ 100 – 700 เยน ต่อ 1 มื้อ (ประมาณ 30-200บาท)
(เช่น ข้าวร้านสะดวกซื้อ,ข้าวหน้าเนื้อ,ราเมงอุด้งแฟรนไชส์,ราเมงทั่วไปบางเมนู,Family Restaurant,ร้านอาหารจีน+ร้านข้าวทั่วไปแบบ Local, ซูชิจานเวียน, ของลดราคาในซุปเปอร์ ETC…)

ราคากลางๆสำหรับบีมคือ 800-1200 เยน ต่อ 1 มื้อ (ประมาณ 230- 350 บาท)
(ร้านราเมงทั่วไป, ร้านอาหารตามห้าง, ร้านข้าวทั่วไป,ETC…)

ราคาเริ่มแพงสำหรับบีมคือ 1200 เยนขึ้นไป ต่อ 1 มื้อ (ประมาณ 350 บาทขึ้นไป)
(ร้านอาหารตามห้าง,ETC…)

หรือจะไปกินแบบบุฟเฟ่ต์หรือแบบคอร์ส ก็จะอยู่ที่ 1500 - 7000 เยน ค่ะ

ใครที่อยากทานอาหารไม่แพง ดูในนี้ได้นะคะ
https://bit.ly/2HNziqo

---------------------------------------------

【5.ของที่จะซื้อ】
ขึ้นอยู่กับคุณเลยจ้า

---------------------------------------------

【6.อื่นๆ】
- ชุดกันหนาวมียัง สำหรับใครที่จะไปหน้าหนาว ของที่จะเอาไปต้องไปซื้อเพิ่มมั้ย อินเตอร์เนทต้องใช้มั้ย
ถ้าจะใช้เน็ทก็แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน ไปหลายๆคนก็แนะนำให้ใช้ Wifi จ้า แนะนำ 4Wifi อิอิ เพราะบีมใช้ตลอด หรือถ้าไม่สะดวกพวกบางคนอาจจะซื้อเป็นซิมก็ได้ แต่ระวังปัญหาต่อไม่ได้ เพราะหลายคนทำไม่เป็น (´;ω;｀)

เป็นยังไงกันบ้างคะ พิมพ์เป็นชั่วโมงเลย
แชร์ให้เพื่อนๆอ่านกันด้วยนะ
หรือใครมีอะไรจะเสริม สามารถเสริมได้เลยค่ะ

ทั้งนี้ อย่าลืมทำประกันการเดินทางกันไว้ด้วยนะคะ ^^

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกคนเก่งจัง

BeamSensei

Been to so many hotel in Japan but non of it steal my heart away like this. Thanks to one of my sweetie who told me there are even a steam eye masks prepared for all their guest just to improve all of our sleep quality. This is so unique and one of the highlight point for this @anacrowneplaza_chitose 4 Stars Hotel.

If you have more budget and wish to makes your trip to the fullest, please I really recommend this #ChanwonDieDieMust try hotel in Chitose Hokkaido.

First, the location is so freaking awesome. 8 mins walk away from JR Chitose Station, one huge Family Mart just right below the hotel. We are staying the new one and 5 min walk you can shop til drop at AEON nearby.

Not just that, all their bathroom essentials are really good. I tried this brand in Sephora before and really worth every single cents of your money.

About the room, it’s spacious, clean and so so so in love with the ambiance. I feel so peace here and just can’t leave my bed at all. The toilet as well, it’s super big with a big bath tub and there are bath salt prepared for you to improve the quality of your sleep and relax your mind. I really can’t find any other with steam eye masks and good night tea in the room. In future I will be back and try ANA Crowne Plaza Hotel in other prefecture as well.

Moreover, the restaurant located beside the lobby is freaking awesome. Showcasing all the locals Hokkaido food that you can’t find at any other prefecture and a plus point the chef is so #養眼 😂
.
Lastly there are entertainment area for everyone who stays here as well. You can play dart 🎯 and snooker as well 😱 Overall I’m really satisfied and I really love how they emphasize the sleeping experience at their hotel. Please bookmark and save this up ⭐️⭐️⭐️⭐️ #ChanwoninJapan #CCgoHOKKAIDO @ ANA Crowne Plaza Chitose

Isaac, Joy and Papa Go Japan: Day 5 and 6, Asahidake and Mombetsu

On Day 5, we woke up at Hotel Bearmonte and when we looked out the window of our “Western Room with Loft” we saw the surroundings covered in a blanket of white.

“It snowed last night!” the kids exclaimed.

Yes, winter comes earlier to Hokkaido than the rest of Japan and we witnessed the arrival of the first post-autumn snow. It was a pretty sight.

After consuming an obscene amount of food at the breakfast buffet, we packed up our things and loaded up the car to head to Asahidake Ropeway.

To be fair, it was only a short walk from Hotel Bearmonte to the ropeway but the ground was covered in snow and only Joy had her mother’s waterproof snow boots on. Isaac was wearing his Nike track shoes and I was wearing my Allbirds sneakers. Not the best choice for traipsing in snow.

So we drove that short distance and parked the car as near to the entrance of the ropeway as possible, then took the scenic ride up Hokkaido’s highest mountain (2,291m).

We had a lovely hike at the Sugatami Station (altitude 1,600m), wearing borrowed rubber boots. We would have finished the full one-hour hike but snow starting falling heavily. Weather in the mountains must be respected and it can turn bad very quickly. So one must always know one’s limits.

Then it was lunch at the ropeway restaurant, and a drive back to Higashikawa.

The next day, I decided that we would drive out to Mombetsu. Actually it was not so organized. We were just looking for breakfast and we just drove further and further away from our home base until we found ourselves back in Kamikawa, but this time we found another ramen place there. Parking our car in the snow-covered car park, we walked over to Asahi Shokudo, and we were their first customers of the day.

Their ramen was worth driving from Higashikawa to Kamikawa for. Try their Maboroshi ramen made from natural Okhotsk sea salt. Limited to 20 bowls a day. I had Bowl One of Twenty.

Also great, their miso ramen. Some of the best ramen I’ve ever tasted. The owner, a handsome elderly gentleman whose face was on many of the photos on the wall, posing with celebrities, asked me where we were heading.

“Mombetsu,” I blurted out, even though it was just a random thought in my mind. I didn’t even know what was there. Just that I haven’t been there before, and I’ve covered A LOT of Hokkaido in prior trips.

“Ah,” he said, “about 95km from here. Maybe three hours in this weather. Drive carefully, ok? Big snow.”

I thanked him for the advice and my teens and I drove off towards Monbetsu. Along the way, I asked Isaac to look the town up and read me some facts.

Turns out Mombetsu is famous for crabs and for the port, the sea ice, and icebreaker ships. Well, it wasn’t quite sea ice season but we were already on our way there, so what the heck. Let’s go.

The snow got heavier and heavier as I drove on the highway. I was super-cautious because we Singaporeans don’t drive in snow very often.

As my children fell asleep one by one, my iPhone started playing Angels We Have Heard on High, by Sixpence None the Richer, though the car stereo.

On my windscreen, I saw snow gently falling. In the car, I heard:

“Angels we have heard on high,
Singing sweetly through the night,
And the mountains in reply
Echoing their brave delight.”

It was like a scene out of a winter movie. Except I was also a hyper-alert father driving as carefully as I can, mindful of the sleeping young charges in my care.

When we got to Mombetsu, there was no snow. Just windy cold coastal weather. I drove the kids to the Okhotsk Tower where you can normally see the sea ice in the Sea of Okhotsk and take icebreaker cruises. We settled for visiting the underwater observatory that is 8m below sea level.

And oh, we also made sure we visited the giant Crab Claw Statue that is the pride of Monbetsu town. Not visiting the Crab Claw in Mombetsu is like not visiting the Merlion in Singapore, ok? Must go one.

Wish I tasted some of that Monbetsu crab though. But it was a long drive back to Monbetsu, and at 4pm, it would soon be nightfall and I still had that snowy part of the highway to drive through. And miles to go before I eat.

Dinner.

#travel
#mrbrowntravels
#mrbrowninJapan
#IsaacJoyAndPapaGoJapan

日本藥妝直送這邊買
https://easyfun.biz/2n7-P

全日本很常見到的super hotel。

但是他的每間店卻都不太一樣。
這次是住在日本橋三越前的分館。

他不但有免費的健康早餐，還有免費的飲料咖啡喝到飽。
小朋友入住還有專用的小物。

跟其他的商務旅館不太一樣！
我覺得很棒！！

題外話，
毛爸訂房時訂錯天，
到前一天才發現，趕快改時間！
好險還有空房。
而且還誤打誤撞反而變便宜。

原本房價是7100日圓，沒想到前一天改時間房間變成4000日圓！
超便宜，ＣＰ值高！



更多日本日常生活vloghttps://pse.is/QFRA8
大阪腔學日文 https://pse.is/P6XA2

ig：https://www.instagram.com/mao.family
facebook : https://reurl.cc/pdbG4e
小毛亞馬遜：https://www.amazon.jp/hz/wishlist/ls/2U1IM4BTRRI4I?ref_=wl_share

謝謝您點我們的影片。

如果覺得不錯的話請不要吝嗇給我們一個讚吧～！


大感謝：Ｄ

聯絡mail :chenya0407@gmail.com
楽曲提供：Production Music by
https://www.epidemicsound.com/referral/bbwnvx/

★★★ 請 訂 閱 我 們 的 頻 道↓　★★★

https://www.youtube.com/channel/UCuI0Wj4J2WiBRkP2PUSzuvQ

★★★　Please　Subscribe　↑　　★★★

＃日本日常生活vlog ＃東京飯店 ＃日本橋

I tried $6 standard Bak Chor Mee and compared it with $31 SUPER premium Fullerton Hotel Bak Chor Mee. Which one is more worth it? Let's find out.

?Watch - Fullerton Hotel SUITE ROOM Review：https://youtu.be/_HEjN8GMVSc
?Subscribe： http://urx3.nu/HTUJ

Disclosure: Maybe it wasn't a fair comparison, as the Fullerton Hotel Bak Chor Mee has all the service fee included in the price. If you want to see more of these videos, please click the like button. Thank you!

?Merch Links:
SE Asia | https://ghib-ojisan.secure-decoration.com/shop/category/T-Shirt?c=2731898
USA & EU | https://teespring.com/stores/ghib-ojisan
Japan | https://suzuri.jp/ghib-ojisan

Follow me on social medias!
?Instagram https://www.instagram.com/ghibli_ojisan/
?Twitter https://twitter.com/ghibli_ojisan

Business Enquiries
✉️[email protected]
You are welcome to send fan mails but I may not be able to respond to all of them. But I immensely appreciate your support. Thank you!

#Singapore #BakChorMee #FullertonHotel

Please Follow Our SNS
MANA：https://www.instagram.com/manahello/
123JAPAN Facebook：https://reurl.cc/3D60mj
Mr.3：https://www.instagram.com/sanyuan_japan/

Collaboration or Business Collaboration Please Contact Us Through Mail
Email：123japan@capsuleinc.cc

Please Check Our Other Channel
三原JAPAN（Mandarin）：https://www.youtube.com/channel/UCCBq7s8VOCyek275uvq5lYQ
サンエンTAIWAN（Japanese）：https://www.youtube.com/channel/UCQimp8PIBqQSDHXtPg7_g9Q
team sanyuan sub channel：https://www.youtube.com/channel/UC9L2RW00CgoDA9uhjtWRrSA
#5stars #Philippines #Cebu