โอลิมปิก 2016 มหกรรมคอร์รัปชันครั้งใหญ่ ในบราซิล /โดย ลงทุนแมน
คอร์รัปชัน เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับประเทศบราซิลมานาน ไม่เว้นแม้แต่การเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนในปี 2016 ที่ผ่านมา
ประเทศบราซิลใช้เงินเพื่อการเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกกว่า 4 แสนล้านบาท
ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในการจัดโอลิมปิกที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์
แต่เมื่อพิธีปิดสิ้นสุดลง เรื่องราวของ รีโอเกมส์ กลับโด่งดังไปมากกว่าเดิม
เพราะนักการเมืองและนักธุรกิจกว่าร้อยคน ถูกสอบสวนจากการทุจริต
มหกรรมการรับสินบนที่อยู่ภายใต้มหกรรมกีฬาระดับโลกที่บราซิลเป็นเจ้าภาพ มีเรื่องราวเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
รีโอเดจาเนโร หรือที่นิยมเรียกกันว่า “รีโอ” เป็นเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่ในประเทศบราซิล ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในโลก เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างชายหาด Copacabana และ Ipanema รวมไปถึงรูปปั้นพระเยซูขนาดใหญ่ที่ชื่อ Christ the Redeemer
รัฐบาลบราซิลจึงสนับสนุนให้เมืองรีโอ เป็นเจ้าภาพงานสำคัญระดับโลกมาหลายครั้ง ยกตัวอย่างเช่น
ปี 2007 เป็นเจ้าภาพ แพนอเมริกันเกมส์
ปี 2012 เป็นเจ้าภาพ การประชุม UN Earth Summit
ปี 2014 เป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก
ปี 2016 เป็นเจ้าภาพ โอลิมปิกเกมส์
อดีตประธานาธิบดี Lula da Silva คือผู้ที่ผลักดันให้เมืองรีโอเป็นเจ้าภาพการจัดกีฬาโอลิมปิก เพราะในการเตรียมตัว ก็จะนำไปสู่การปรับปรุงเมืองให้สวยงาม การลงทุนพัฒนาและก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีในการยกระดับคุณภาพชีวิตให้ชาวเมืองรีโอ
แต่เบื้องหลังภาพที่สวยงามเหล่านั้น กลับเต็มไปด้วยการคอร์รัปชัน
ไม่ว่าจะเป็นการติดสินบน การฟอกเงิน รวมไปถึงการใช้ความรุนแรงเพื่อขับไล่ผู้อยู่อาศัยในย่านสลัม
และรู้หรือไม่ว่าการคอร์รัปชันโอลิมปิกของบราซิลนั้น เริ่มตั้งแต่การที่เมืองรีโอได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพ
นาย Carlos Nuzman ประธานกรรมการโอลิมปิกของบราซิล และนาย Sérgio Cabral อดีตผู้ว่าการรัฐรีโอเดจาเนโร ถูกจับในข้อหาติดสินบนเป็นเงินราว 66 ล้านบาท เพื่อให้ได้รับการการันตีว่ารีโอจะถูกโหวตเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก
ซึ่งนาย Sérgio ยังพัวพันกับการติดสินบนในการก่อสร้างและปรับปรุงสถานที่ในเมืองรีโอ
ทั้งการก่อสร้างและปรับปรุงสนามกีฬาที่ชื่อว่า Maracanã ซึ่งเป็นที่จัดพิธีปิดโอลิมปิก
โดย Sérgio ได้ติดสินบนเจ้าหน้าที่กว่า 25 ล้านบาท เพื่อให้ได้รับอนุมัติปรับปรุงสนามกีฬาและใช้งบประมาณเกินกว่าที่เสนอไว้ไปกว่า 75% รวมถึงรถไฟใต้ดินสายใหม่ ที่การก่อสร้างใช้เงินกว่า 6 หมื่นล้านบาท เกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้เป็น 10 เท่า
สำหรับรถไฟใต้ดินสายใหม่นี้ สร้างมาเพื่อเชื่อมระหว่างตัวเมืองรีโอกับย่าน Barra ที่เป็นหนึ่งในศูนย์กลางของการจัดโอลิมปิก ที่มีทั้งหมู่บ้านนักกีฬา รวมถึงแลนด์มาร์กใหม่อย่างสวนโอลิมปิก
เหตุผลที่ Barra เป็นย่านที่ถูกพัฒนามากที่สุด ก็มาจากการคอร์รัปชันที่เชื่อมโยงระหว่าง
- นาย Eduardo Paes อดีตนายกเทศมนตรีเมืองรีโอ
- นาย Carlos Carvalho นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มหาเศรษฐีอันดับ 12 ของบราซิลในขณะนั้น
- บริษัท Odebrecht รัฐวิสาหกิจรับเหมาก่อสร้างที่ใหญ่สุดในประเทศ
ที่มาของเรื่องนี้ก็คือ เมืองรีโอมีประชากรราว 6.5 ล้านคน
แต่กว่า 14% ของประชากร อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด หรือที่เรียกว่าสลัม
นาย Eduardo ที่เป็นนายกเทศมนตรีเลยบอกว่า หนึ่งในการพัฒนาเมืองรีโอเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโอลิมปิก คือการปรับปรุงชุมชนสลัมที่มีอยู่ราว 1 พันแห่ง ด้วยการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและทำให้เข้าถึงบริการสาธารณะ
แต่กลายเป็นว่าเงินส่วนใหญ่กลับทุ่มไปกับ Barra ย่านหรูหราทันสมัย
ที่อยู่ติดทะเลทางตอนใต้ของเมืองรีโอ ซึ่งมีประชากรอยู่อาศัยเพียง 4%
โดยผู้อยู่อาศัยในย่านนี้ล้วนเป็นคนรวย ที่เริ่มย้ายมาอยู่กันตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1970s
เพราะย่านใกล้เคียงที่นิยมอยู่กันมาแต่เดิม เริ่มมีชุมชนสลัมมาตั้งรกรากตามเนินเขา
ซึ่งนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างนาย Carlos คือผู้ครอบครองที่ดินส่วนใหญ่ในย่าน Barra เป็นพื้นที่กว่า 64 ล้านตารางฟุต
แต่นอกจากเขาจะมีอิทธิพลจากการเป็นเจ้าของที่ดินแล้ว Carlos ยังมีอิทธิพลต่อนักการเมือง อย่างการเป็นผู้ให้เงินสนับสนุนหลักในแคมเปนหาเสียงเลือกตั้งแก่ Eduardo ให้ได้เป็นนายกเทศมนตรี จึงเป็นการตอบคำถามที่ว่าทำไมย่าน Barra ถึงถูกเลือก
และการพัฒนาที่ดินส่วนใหญ่ก็ก่อสร้างโดยบริษัท Odebrecht ซึ่งเหตุผลที่บริษัทนี้ถูกเลือก
ก็เพราะว่านายกเทศมนตรี Eduardo รับสินบนจากผู้บริหาร Odebrecht กว่า 95 ล้านบาท
โครงการขนาดใหญ่มีอยู่ 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กัน นั่นคือสวนโอลิมปิกและหมู่บ้านนักกีฬา ที่เป็นอาคาร 17 ชั้น ทั้งหมด 31 อาคาร ซึ่งในตอนส่งมอบเพื่อใช้เป็นที่พักนักกีฬา กลับพบว่าคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน มีปัญหาจุกจิกมากมาย
แต่เมื่อจบโอลิมปิกแล้ว หมู่บ้านนักกีฬาได้ถูกแปลงเป็นคอนโดมิเนียมหรู ที่มีสระว่ายน้ำ สวนขนาดใหญ่ และวิวทะเลสาบ ต่างจากหมู่บ้านนักกีฬาตอนที่ลอนดอนเป็นเจ้าภาพ ที่หลังจบงานถูกนำไปปรับปรุงเป็นที่อยู่อาศัยราคาย่อมเยา
หมู่บ้านนักกีฬาที่ถูกพัฒนาไปเป็นคอนโดมิเนียมหรู มีชื่อเรียกว่า Ilha Pura ที่แปลว่า Pure Island หรือเกาะบริสุทธิ์ ตามความตั้งใจของนาย Carlos ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ต้องการพัฒนา Barra ให้เป็นเมืองแห่ง Elite ที่ปราศจากคนจน
นั่นจึงทำให้พื้นที่ส่วนหนึ่งที่อยู่ระหว่างหมู่บ้านนักกีฬาและสวนโอลิมปิก คือสิ่งที่กวนใจเขามาตลอดหลายปี
เพราะพื้นที่ตรงนั้นคือที่ตั้งของชุมชนที่ชื่อว่า Vila Autódromo ซึ่งเป็นย่านสลัมที่มี 600 ครอบครัวอาศัยอยู่ ซึ่งพวกเขาครอบครองที่อยู่อาศัยตรงนี้แบบถูกกฎหมาย
แผนการรื้อถอนสลัมแห่งนี้จึงเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2010 โดยจะให้คนในชุมชนนี้
ย้ายไปอยู่ในโครงการที่อยู่อาศัยที่รัฐให้เป็นสวัสดิการในย่านที่ไกลออกไป
จากการขับไล่ของเจ้าหน้าที่รัฐโดยใช้กำลังและอาวุธ คนส่วนใหญ่จึงยอมรับเงินชดเชย และย้ายออก เหลืออยู่ราว 20 ครอบครัวที่ยังคงต่อสู้เพื่อปกป้องที่อยู่ของตัวเอง ซึ่งต้องแลกมากับการถูกเจ้าหน้าที่รัฐทำร้ายร่างกาย ทำลายที่อยู่อาศัย จนกลายเป็นซากปรักหักพัง
แต่สุดท้ายแล้ว การยืนหยัดประท้วงของ 20 ครอบครัวนี้ ได้ถูกนำเสนอโดยสำนักข่าวต่างประเทศ ซึ่งกลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้ภาครัฐต้องยอมให้ 20 ครอบครัวนี้อาศัยอยู่ต่อไปได้ แต่ก็เป็นกรณีที่เกิดขึ้นน้อยมาก เพราะในอีกหลายชุมชนจะถูกรัฐบาลฟ้องไล่ที่ต่อ
และเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว เพราะถ้านับตั้งแต่ปี 2009 มีกว่า 77,200 คน หรือกว่า 20,000 ครอบครัวในชุมชนแออัดที่ถูกไล่ที่ เพื่อการปรับปรุงเมืองให้พร้อมเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกและโอลิมปิก ทั้งที่พวกเขาไม่ได้ทำผิดกฎหมาย
ภาครัฐยังลงทุนเปลี่ยนเส้นทางรถบัสนักท่องเที่ยวอย่างน้อย 11 สาย เพื่อเลี่ยงเส้นทางที่ผ่านชุมชนแออัด รวมถึงลงทุนติดตั้งฉากทึบตลอดถนนเส้นทางที่ออกจากสนามบินนานาชาติเป็นระยะทางหนึ่ง เพื่อไม่ให้ผู้มาเยือนรีโอได้เห็นชุมชนแออัดในย่าน Maré
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงเรื่องราวหลัก ๆ ของวังวนการทุจริตที่เกิดจากการเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกของเมืองรีโอ ที่สุดแล้วเม็ดเงินมหาศาลกลับไหลเวียนอยู่แค่ในกลุ่มผู้มีอิทธิพล
และสิ่งที่สร้างความโกรธแค้นให้กับชาวเมืองรีโอมากกว่านั้นก็คือ เงินที่ถูกจัดสรรให้กลุ่มคนที่ขาดแคลน กลับไม่ได้ถูกใช้เพื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ได้ช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต หรือบรรเทาปัญหาความเหลื่อมล้ำ
แต่กลับถูกใช้ไปกับการสร้างสิ่งที่ใช้ปกปิดพวกเขาจากสายตาชาวต่างชาติแทน..
ปิดท้ายด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ
“Eduardo Paes” ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเมืองรีโอ 2 สมัยติดต่อกัน ตั้งแต่ปี 2009 ถึง 2016 แต่การพัวพันกับการคอร์รัปชันการจัดกีฬาโอลิมปิก ทำให้เขาแพ้การเลือกตั้งในสมัยต่อมาให้กับคู่แข่งอย่าง Marcelo Crivella
แต่ในปลายปี 2020 ที่ผ่านมา หรือเพียง 9 วันก่อนที่ Marcelo Crivella จะดำรงตำแหน่งจนครบวาระ เขาถูกจับกุมที่บ้านพักในข้อหาคอร์รัปชัน และผู้ที่ชนะการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองรีโอในสมัยต่อจากเขา ก็คือ Eduardo Paes คนเดิมนั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.theguardian.com/sport/2017/apr/23/brazil-olympic-world-cup-corruption-bribery
-https://www.reuters.com/article/us-brazil-corruption-idUSKBN16L1LQ
-https://www.bbc.com/news/world-latin-america-41678338
-https://www.vox.com/2016/6/27/12026098/rio-olympics-2016-removals-eviction
-https://www.theatlantic.com/international/archive/2016/08/building-barra-rio-olympics-brazil/493697/
-https://time.com/4271376/brazil-corruption-scandal-olympics/
-https://money.cnn.com/2017/04/05/news/economy/odebrecht-latin-america-corruption/index.html
同時也有72部Youtube影片,追蹤數超過6,590的網紅KAUAN OKAMOTO,也在其Youtube影片中提到,🎧https://linkco.re/1XVpcDnD?lang=ja Follow: KAUAN OKAMOTO Instagram: https://www.instagram.com/kauan_antime_/ Twitter: https://twitter.com/kauan_okamo...
「spotify brazil」的推薦目錄:
- 關於spotify brazil 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於spotify brazil 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於spotify brazil 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於spotify brazil 在 KAUAN OKAMOTO Youtube 的精選貼文
- 關於spotify brazil 在 Nini Music Youtube 的精選貼文
- 關於spotify brazil 在 BLV Anh Quân Youtube 的精選貼文
- 關於spotify brazil 在 Spotify Brasil - Escuta As Minas on Behance - Pinterest 的評價
- 關於spotify brazil 在 Spotify Brasil - YouTube 的評價
- 關於spotify brazil 在 Spotify - Home | Facebook 的評價
spotify brazil 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
บราซิล ประเทศที่เคยเติบโตสูง แต่ตอนนี้คนอยากย้ายออก /โดย ลงทุนแมน
หลายทศวรรษที่ผ่านมา บราซิล เคยได้รับการจับตามองว่า จะกลายเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงประเทศหนึ่งของโลก เพราะเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างโดดเด่น
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าในระยะเวลาไม่ถึง 10 ปีมานี้ ความหวังนั้นค่อย ๆ ริบหรี่ลงไปเรื่อย ๆ
เศรษฐกิจของบราซิลกลับเติบโตช้าลง จำนวนคนตกงานพุ่งสูงขึ้น
เรื่องนี้ทำให้ชาวบราซิลจำนวนมาก เริ่มสิ้นหวังและตัดสินใจอพยพออกนอกประเทศ จนเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “สมองไหล”
เรื่องนี้เป็นอย่างไร ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
รู้ไหมว่า ในช่วงระหว่างปี 2000-2011 บราซิลมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ เร็วที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยมีอัตราการเติบโตของ GDP เฉลี่ยต่อปีในช่วงเวลาดังกล่าว มากกว่า 5% ต่อปี
ข้อมูลจาก World Bank ระบุว่า ในปี 2012 GDP ของบราซิลสูงถึง 86.2 ล้านล้านบาท ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า GDP ของสหราชอาณาจักร
และเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 6 ของโลก ณ เวลานั้น
รายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนบราซิล เพิ่มขึ้นจากราว 123,600 บาท ในปี 2000 มาอยู่ที่ราว 426,700 บาท ในปี 2011
จุดเริ่มต้นของทศวรรษแห่งการเติบโตของบราซิลนั้นเกิดมา ตั้งแต่ในช่วงทศวรรษที่ 1990 บราซิลหันมาใช้นโยบายเปิดเศรษฐกิจ รับการค้า การลงทุนจากต่างประเทศ
ขณะที่ในปี 1995 บราซิลได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO)
ทั้ง 2 ปัจจัย ทำให้มีการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศของบราซิลนั้นเพิ่มสูงขึ้น มูลค่าการค้าของประเทศที่เพิ่มขึ้นทำให้มีการจ้างงานและการลงทุนต่าง ๆ ภายในประเทศเกิดขึ้นตามไปด้วย
การเปิดประเทศยังช่วยให้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพการผลิตในประเทศ
นอกจากนั้นแล้ว รัฐบาลบราซิลในตอนนั้น
ยังได้แสดงเจตจำนงในการชำระหนี้ที่กู้จากต่างประเทศ
ทำให้ภาระหนี้สินที่บราซิลกู้ยืมจากต่างประเทศ จากเดิมที่ประมาณ 59% ต่อ GDP ในปี 2003 ลดลงจนเหลือ 12% ต่อ GDP ในปี 2009
ภาระหนี้สินที่กู้จากต่างประเทศที่ลดลงจนเหลือสัดส่วนต่ำ ช่วยสร้างความเชื่อถือให้กับนักลงทุนมากยิ่งขึ้น และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของบราซิลให้โดดเด่นมากในเวลานั้น
จนบราซิลเคยถูกจับตามองว่า เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงทางด้านเศรษฐกิจ
บราซิล ถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีชื่อว่า “BRIC” ซึ่งประกอบไปด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน ก่อนที่จะเพิ่มประเทศแอฟริกาใต้เข้ามาอีกในปี 2010 และใช้ชื่อว่า “BRICS” ในปัจจุบัน
แต่ใครจะรู้ว่า นับจากนั้นเศรษฐกิจของบราซิลก็เริ่มประสบปัญหา
GDP ของบราซิล ในปี 2020 ลดลงมาเหลือ 47.6 ล้านล้านบาท จากที่เคยสูงกว่า 86 ล้านล้านบาท ในช่วงพีกคือปี 2011
ถ้าถามว่าอะไรที่ทำให้อดีตประเทศดาวรุ่งอย่างบราซิล กลับต้องเข้าสู่ยุคแห่งความตกต่ำทางเศรษฐกิจ ปัจจัยก็มีอยู่หลายอย่าง เช่น
- ประสิทธิภาพในการผลิตที่ต่ำ สวนทางกับค่าจ้างแรงงานที่พุ่งสูงขึ้น
ข้อมูลจาก World Bank ระบุว่า ในช่วงปี 2003-2014 ค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 68% ในขณะที่อัตราการผลิตต่อคนงานเพิ่มขึ้นเพียง 21%
พูดง่าย ๆ คือ ต้นทุนค่าแรงของธุรกิจเพิ่มขึ้น แต่ประสิทธิภาพและผลผลิตนั้นเพิ่มขึ้นน้อยกว่ามาก ซึ่งการขาดผลิตภาพในการผลิตส่วนสำคัญเกิดมาจากการลงทุนในนวัตกรรมของประเทศที่ต่ำ
- ปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
โดยเฉพาะท่าเรือ ถนน หนทาง ทำให้เกิดปัญหาในการขนส่งสินค้าภายในประเทศ ข้อมูลของ World Bank ระบุว่า ความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานของบราซิลนั้น ถูกจัดอันดับอยู่ที่ 56 จาก 160 ประเทศทั่วโลก
ขณะที่ข้อมูลจาก International Trade Administration ของสหรัฐอเมริการะบุว่า การขนส่งสินค้าส่วนใหญ่ภายในบราซิลนั้นใช้รถบรรทุก ซึ่งเมื่อโครงสร้างพื้นฐานอย่างถนนหนทางไม่ค่อยมีความพร้อม ก็ทำให้เกิดต้นทุนค่าขนส่งที่สูง
- ปัญหาคอร์รัปชันในบราซิล ถือว่ารุนแรงไม่แพ้หลายประเทศในแถบอเมริกาใต้
ดัชนีภาพลักษณ์คอร์รัปชัน (Corruption Perceptions Index) ของประเทศนั้นได้คะแนนน้อยลงเรื่อย ๆ (ยิ่งน้อยลงคือยิ่งภาพลักษณ์ไม่ดีในเรื่องคอร์รัปชัน)
ปี 2012 บราซิลได้ 43 คะแนน และลดลงเหลือเพียง 38 คะแนนในปี 2020
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาการคอร์รัปชันในบราซิลไม่เพียงแต่ยังคงอยู่ แต่กลับเลวร้ายลงเรื่อย ๆ
ปัญหาคอร์รัปชัน มีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายระดับ ไม่เว้นแม้แต่ผู้นำสูงสุดของประเทศอย่างประธานาธิบดี อย่างเช่น ในปี 2015 อดีตประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ที่ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนจากบริษัทรับเหมาก่อสร้าง
โดยเป็นการรับสินบนเพื่อแลกกับ การอนุมัติให้บริษัทรับเหมาก่อสร้าง เข้าไปรับงานก่อสร้างจากบริษัทน้ำมันแห่งชาติที่รัฐบาลถือหุ้นใหญ่อย่างปิโตรบาส รัฐวิสาหกิจน้ำมันรายใหญ่ของประเทศ
ปัญหาคอร์รัปชันที่อื้อฉาวของนักการเมือง นักธุรกิจ สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบราซิลจำนวนมาก
เรื่องนี้ถึงขนาดทำให้ครั้งหนึ่งชาวบราซิลใน 3 รัฐทางใต้ ที่ไม่พอใจการบริหารและเรื่องคอร์รัปชันของรัฐบาล ร่วมลงคะแนนประชามติเพื่อแสดงความต้องการแยกประเทศ ภายใต้แคมเปน “The South is My Country”
การประท้วง การก่อจลาจล และความไม่สงบเรียบร้อยทางการเมือง เกิดขึ้นบ่อยครั้งในบราซิล
ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ ทำให้บราซิลที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว กลับสะดุด จนเหมือนกลายเป็นคนป่วยแห่งทวีปอเมริกาใต้ไปแล้วในตอนนี้
ความเปราะบางทางเศรษฐกิจแบบนี้ ยิ่งมาเจอผลจากการระบาดของโควิด 19 ก็ยิ่งทำให้จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหาย
ปี 2014 จำนวนผู้ว่างงานในบราซิลเท่ากับ 6.0 ล้านคน
ปี 2021 จำนวนผู้ว่างงานในบราซิลเท่ากับ 14.7 ล้านคน
จำนวนผู้ว่างงานสูง เศรษฐกิจที่ตกต่ำ
ทำให้คนรุ่นใหม่จำนวนมากรู้สึกว่า ตนเองต้องการแสวงหาชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม
ข้อมูลจาก Migration Policy Institute (MPI) ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา มีชาวบราซิลอพยพออกนอกประเทศเฉลี่ยปีละกว่า 100,000 คน และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย และปัญหาความขัดแย้งมากมายในประเทศที่ดูไร้ทางออก
ประเด็นคือ ผู้ที่อพยพออกไป ได้รวมแรงงานที่มีความรู้ ความสามารถ โดยเฉพาะกลุ่มนักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ จนทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Brain Drain” หรือสมองไหล
ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ประเทศหนึ่งกำลังสูญเสียคนเก่งไปจากประเทศ เนื่องจากคนเหล่านั้นต้องการออกไปทำงานและอาศัยในประเทศที่ทำให้พวกเขามีรายได้สูงกว่า สภาพการทำงานที่ดีกว่า
ดังนั้น อนาคตของบราซิลหลังจากนี้ จึงเกิดเครื่องหมายคำถามตัวใหญ่ของคนในประเทศตามมาว่า แล้วประเทศจะพัฒนาและก้าวหน้าจากวันนี้ไปได้อย่างไร ?
คนเก่ง ๆ ที่หมดหวังกับประเทศและอพยพออกไป
ทำให้บราซิลกำลังมีบุคลากรแรงงานที่มีความรู้ ความสามารถ ยิ่งทำให้มีการสร้างสรรค์ความรู้ นวัตกรรมใหม่ ๆ ในการพัฒนาประเทศ ลดน้อยลงเรื่อย ๆ
รู้ไหมว่า วันนี้ สัดส่วนนักวิจัยต่อประชากร 1 ล้านคนของบราซิล มีอยู่เพียง 700 คนเท่านั้น
ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศมหาอำนาจอื่น
- จีน 1,071 คน
- รัสเซีย 3,191 คน
- สหราชอาณาจักร 4,269 คน
- สหรัฐอเมริกา 4,663 คน
ตอนนี้ ยังไม่มีใครรู้ว่า ปัญหาสมองไหลที่บราซิลกำลังเจออยู่นั้น จะรุนแรงมากกว่านี้ในอนาคตหรือไม่
และรัฐบาลจะหาทางหยุดปัญหานี้ พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาโครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมที่ฝังลึกอยู่ในประเทศได้อย่างไร
แต่เรื่องนี้ ก็ถือเป็นกรณีศึกษา ที่หลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยควรต้องจับตามอง
ว่าประเทศที่เคยรุ่งเรือง เปี่ยมไปด้วยความหวัง
ทุกอย่างก็พังทลายลงได้ หากการบริหารจัดการไม่มีประสิทธิภาพ และเต็มไปด้วยปัญหาคอร์รัปชัน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://data.worldbank.org/country/BR
-https://en.wikipedia.org/wiki/BRIC
-https://ditp.go.th/contents_attach/81555/81555.pdf
-https://en.wikipedia.org/wiki/Brazil
-https://www.migrationpolicy.org/article/migration-brazil-making-multicultural-society
-https://en.wikipedia.org/wiki/Brazilian_diaspora
-https://www.worldbank.org/en/country/brazil/publication/brazil-how-resume-growth-keep-social-progress
-https://www.trade.gov/knowledge-product/brazil-infrastructure
-https://tradingeconomics.com/brazil/unemployed-persons
-https://www.if.org.uk/2020/07/06/politics-covid-brain-drain-in-brazil/
-https://www.transparency.org/en/cpi/2020/table/bra
-https://www.bbc.com/thai/international-41544397
-http://chartsbin.com/view/1124
spotify brazil 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
สรุป ความขัดแย้ง จีน กับ ออสเตรเลีย ในตอนนี้ / โดย ลงทุนแมน
จีนกับออสเตรเลีย เป็น 2 ประเทศ ที่มีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้นมาอย่างยาวนาน
ซึ่งมีหลักฐานปรากฏว่า ทั้ง 2 ประเทศ เริ่มทำการค้ากันมา ตั้งแต่ปี 1750 และพึ่งพาอาศัยกันเรื่อยมา
แต่ความขัดแย้งระหว่างจีนและออสเตรเลียครั้งล่าสุดที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ปี 2018
ดูเหมือนว่ากำลังสั่นคลอนความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศนี้อย่างหนัก
ต่างฝ่ายต่างออกมาตรการการตอบโต้ทางเศรษฐกิจกันไปมา
ซึ่งสร้างความเสียหายมากมายให้ทั้งคู่
ความขัดแย้งของทั้ง 2 ประเทศนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ต้องบอกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและออสเตรเลียนั้น ที่ผ่านมาถือว่า มีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้นมานานไม่ต่ำกว่า 270 ปี
ในปี 2020 มูลค่าการส่งออกทั้งหมดของออสเตรเลียเท่ากับ 7.9 ล้านล้านบาท โดยการส่งออกกว่า 3.4 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 43% ของการส่งออกทั้งหมดของออสเตรเลียนั้น มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่จีน
โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญของออสเตรเลียที่ส่งออกไปจีนก็คือ สินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นสินค้าส่งออกสำคัญที่สร้างรายได้ให้แก่ออสเตรเลียอย่างมหาศาล
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงบอกได้ว่า เศรษฐกิจของออสเตรเลียนั้นพึ่งพาการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนมากพอสมควร ถ้าเศรษฐกิจจีนยังเติบโตได้ดีในอนาคต ออสเตรเลียก็น่าจะวางใจได้ในระดับหนึ่งว่า เศรษฐกิจประเทศตนเองก็น่าที่จะเติบโตไปได้ด้วยเช่นกัน
การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้ ส่งผลให้มีความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ จำนวนมหาศาล โดยเฉพาะแร่เหล็กและถ่านหิน ซึ่งนี่คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของออสเตรเลียนั้นไม่เคยประสบกับภาวะถดถอยในช่วงตั้งแต่ปี 1991-2020 หรือเป็นระยะเวลากว่า 29 ปี
อย่างกรณีของแร่เหล็กนั้น จีนก็ต้องการนำเข้าแร่เหล็กที่มีคุณภาพสูงเพื่อมาใช้ในประเทศ ซึ่งมีไม่กี่แห่งในโลก หนึ่งในนั้นอยู่ที่ออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกันมานาน ก็เริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่ปี 2018 หลังจากที่ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในชาติพันธมิตรของสหรัฐอเมริกา และเริ่มแสดงความกังวลที่มากขึ้นเกี่ยวกับอิทธิพลทางการเมืองของจีนในภาคส่วนต่าง ๆ ของสังคม และเศรษฐกิจของออสเตรเลีย
ความกังวลดังกล่าว นำไปสู่การที่รัฐบาลออสเตรเลียสั่งห้ามบริษัทโทรคมนาคมของจีน ดำเนินการจัดหาอุปกรณ์สำหรับการวางโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ 5G เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศและความเสี่ยงที่จะถูกแทรกแซงจากทางรัฐบาลจีน
รวมไปถึง การที่รัฐบาลออสเตรเลีย คัดค้านต่อจุดยืนของจีนที่เกี่ยวกับข้อพิพาททะเลจีนใต้ หลังจากที่จีนได้อ้างกรรมสิทธิ์และต้องการแสดงความเป็นเจ้าของในทะเลจีนใต้
อีกประเด็นที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน จนทำให้ความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศย่ำแย่ลงไปอีกขั้นก็คือ การที่รัฐบาลออสเตรเลียต้องการให้ผู้นำหลายประเทศช่วยกันค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่เกิดขึ้นครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่นของจีน
ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ทางรัฐบาลออสเตรเลียยังถือเป็นหนึ่งในเสียงหลัก ที่ออกมาเรียกร้องให้ทางรัฐบาลจีน
ออกมารับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการระบาดของเชื้อไวรัส
พอเรื่องเป็นแบบนี้ รัฐบาลจีนก็ได้มีการตอบโต้รัฐบาลออสเตรเลียเพื่อเอาคืนกับสิ่งที่ออสเตรเลียนั้นทำเอาไว้ โดยการนำมาตรการทางการค้ามาใช้ เริ่มตั้งแต่
- มีการประกาศว่าจะไม่ให้นักเรียนและนักศึกษาจีนเดินทางไปศึกษาในออสเตรเลีย ซึ่งนักเรียนและนักศึกษาจากจีนนั้น ถือเป็นนักเรียนและนักศึกษาต่างชาติที่มีจำนวนมากที่สุดในออสเตรเลีย ด้วยจำนวนมากถึง 200,000 คน ในปี 2019
- ห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากบริษัทแปรรูปเนื้อวัวของออสเตรเลีย 4 แห่ง ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 35% ของการส่งออกเนื้อวัวทั้งหมดของออสเตรเลียมายังจีน
- เพิ่มภาษีนำเข้าข้าวบาร์เลย์จากออสเตรเลียในอัตรา 80% เป็นระยะเวลา 5 ปี โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้พฤติกรรมการทุ่มตลาด
รวมไปถึงสินค้าอีกหลายอย่าง เช่น ฝ้าย ถ่านหิน เนื้อแดง รวมไปถึงไวน์ ที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีและการสั่งห้ามนำเข้ามายังจีน
ความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศยังส่งผลให้การลงทุนของจีนที่เข้าไปยังออสเตรเลียในปี 2020 ลดลงเหลือเพียง 24,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะมีการฟาดฟันในการกีดกันสินค้าต่าง ๆ จากออสเตรเลีย
แต่ก็มีสินค้าส่งออกอย่างหนึ่งในปี 2020 ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ของ 2 ประเทศ
สินค้านั้นก็คือ แร่เหล็ก (Iron Ore) ซึ่งถือเป็นส่วนประกอบตั้งต้นที่สำคัญในการนำไปผลิตเหล็ก ที่ยังคงมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นจากปี 2019
แน่นอนว่า เหล็กนั้นถือเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญของจีน เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่ป้อนวัตถุดิบให้แก่หลากหลายอุตสาหกรรมตั้งแต่ ก่อสร้าง รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของประเทศ
ยิ่งการที่รัฐบาลจีนต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดจากไวรัสโควิด 19 ในครั้งนี้ ผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ จึงทำให้ในวันนี้ จีนยังมีความต้องการนำเข้าแร่เหล็กเพื่อมาผลิตเหล็กจากออสเตรเลียในจำนวนมาก
ทำให้ในปี 2020 การนำเข้าแร่เหล็กของจีนนั้นเพิ่มสูงถึง 1,170 ล้านเมตริกตัน ทำสถิติสูงสุดตลอดกาล
ซึ่งการนำเข้าแร่เหล็กทั้งหมดของจีนนั้น มาจากออสเตรเลียอยู่มากถึง 61% เลยทีเดียว
เมื่อรวมกับการที่รัฐบาลจีนจำกัดการส่งออกเหล็กเพื่อให้อุตสาหกรรมในจีนหลายแห่งนั้น มีปริมาณเหล็กที่สามารถใช้ได้อย่างเพียงพอ
แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์ที่ออสเตรเลียบางคนจะออกมาแนะนำให้รัฐบาลออสเตรเลียพยายามมองหาตลาดส่งออกใหม่ ๆ เพื่อมาทดแทนตลาดส่งออกอย่างจีนในอนาคต
แต่ดูเหมือนว่า นี่อาจไม่ใช่เรื่องง่าย สำหรับออสเตรเลียที่จะหาตลาดส่งออกที่สามารถรองรับมูลค่าการส่งออกมหาศาลได้เท่ากับจีนในอนาคตอันใกล้
เรื่องนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ความขัดแย้งระหว่างจีนและออสเตรเลีย สุดท้ายแล้วจะออกมาในรูปแบบไหน แต่เชื่อว่า คงไม่มีฝ่ายไหนอยากให้ประเด็นดังกล่าวมาเป็นอุปสรรคในการฟื้นตัวทางด้านเศรษฐกิจของทั้ง 2 ประเทศ
เนื่องจากขนาดเศรษฐกิจของ 2 ประเทศนี้มีมูลค่ารวมกันกว่า 564 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นเกือบ 1 ใน 5 ของมูลค่า GDP ทั้งโลกเลยทีเดียว
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้ไหมว่า ในออสเตรเลียนั้น มีชุมชนคนจีนในต่างแดน หรือที่เรารู้จักกันว่า “Chinatown” ตั้งอยู่ที่เมืองเมลเบิร์นซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศออสเตรเลียรองจากซิดนีย์
โดย Chinatown ที่เมืองเมลเบิร์นเกิดขึ้นในช่วงยุคตื่นทองของออสเตรเลียในปี 1851 หรือเมื่อ 170 ปีที่แล้ว จึงทำให้ Chinatown แห่งนี้ถือเป็นแหล่งชุมชนคนจีนในต่างแดนที่มีอายุยาวนานมากที่สุดแห่งหนึ่งในบรรดา Chinatown ของโลกเลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.worldstopexports.com/australias-top-10-exports/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Coal_in_China
-https://www.worldstopexports.com/coal-imports-by-country/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Australia%E2%80%93China_relations
-https://www.abc.net.au/news/2020-06-03/australian-economy-gdp-recession-march-quarter-2020/12315140
-https://www.bbc.com/thai/international-53420336
-https://www.cnbc.com/2020/12/18/australia-china-trade-disputes-in-2020.html
-://www.steelorbis.com/steel-news/latest-news/chinas-iron-ore-output-increases-by-216-percent-in-q1-1196556.htm
-https://www.hellenicshippingnews.com/chinese-iron-ore-imports-hit-record-in-2020/
-https://www.reuters.com/world/china/china-bought-most-iron-ore-australia-brazil-2020-imports-india-up-nearly-90-2021-01-20/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Chinatown,_Melbourne
-https://www.statista.com/statistics/430276/number-of-chinese-students-in-australia-by-education-sector/
-https://internationaleducation.gov.au/research/datavisualisations/Pages/Student-number.aspx
spotify brazil 在 KAUAN OKAMOTO Youtube 的精選貼文
🎧https://linkco.re/1XVpcDnD?lang=ja
Follow: KAUAN OKAMOTO
Instagram: https://www.instagram.com/kauan_antime_/
Twitter: https://twitter.com/kauan_okamoto_?s=20
Spotify: https://open.spotify.com/playlist/0tR9coEXuAD8chc6mgYGNJ?si=QydaU4njTfmMm1vns3LOEQ
MusicProducer
Tomokazu Matsuzawa
https://instagram.com/tommatzz?igshid...
Choreographed by: Vinih Malukin, YUZUHA, KAUAN OKAMOTO
Dancers: Vinih Malukin, YUZUHA, ZiL, Rinka, Rika
Shoot by: SHIEL, SKY
Edited by: Paulo Guinoza: https://instagram.com/pauloguinoza?utm_medium=copy_link
RHERA: https://instagram.com/rhera.japan?utm_medium=copy_link
Ales: https://instagram.com/ales_group?utm_medium=copy_link
General manager by: KAUAN OKAMOTO
words by: KAUAN OKAMOTO
Music by: KAUAN OKAMOTO
Lyric:
Mina vem dançar comigo pôde relaxar
Não tem mistério nem segredo pra amar
どうもカウアンと申します
BrazilとJapanのハーフです
何がしたい?何がみたい?
思いを全て語り合いたいが上に
君たちがこのニュージャンルに着いてこれるかが心配
Aye 愛もっと頂戴
Vim de Tokyo
Se ta gostando vem pra cá vamos brincar
Descendo até o chão com a bunda
Um dois só nós dois
Fecha comigo, mais corações
Já to na sua mente toda saliente
Segura na cadeira que vai decolar
Pra que parar ? Se a noite curta ?
Me sente eu te sinto
Seu jeito beijando bem lento
Me faz pirar em você !
Mina vem dançar comigo
Pode Relaxar
Não tem mistério nem segredo
Pra amar
Fica dança sente mexe pira sente
Me mostra o que tem
Balança o que tem
#NeoFunk #Japanese #Brazilian #KauanOkamoto #岡本カウアン #KPOP #JPOP #イケメン#BTS #NCT #BigBang #JustinBieber #BrunoMars #ダンス #dance

spotify brazil 在 Nini Music Youtube 的精選貼文
Join My Patreon + Get your own cover: https://www.patreon.com/ninimusic
Download My Music (for free): https://ninimusic.bandcamp.com/releases
♬Watch LIVE (daily) ▹
►Twitch: https://www.twitch.tv/ninimusic1001
♬Stream It ▹
► Spotify: https://spoti.fi/3pw57Jl
► Apple Music: https://apple.co/3nr0AWH
♬SUPPORT ▹ Venmo/Cashapp: ninimusic
paypal.me/ninimusic1001 or ninimusic1001@gmail.com
♬FOLLOW ME ▹ Inst- http://instagram.com/ninimusic1001
FB- https://www.facebook.com/NINIMUSIC1001/
#theweeknd #saveyourtears #metal #edm #remix #cover #instrumental #ruan #chineseinstrument #folkinstrument #rock #hardrock #ninimusic

spotify brazil 在 BLV Anh Quân Youtube 的精選貼文
TIN BÓNG ĐÁ 7/6: ANH THẮNG TỐI THIỂU, DE BRUYNE GIÀNH PFA, BRAZIL THAY CẢ ĐỘI VÌ COPA AMERICA
Chúc các bạn có một tuần làm việc mới tốt lành. 24h qua với những chuyển động không ngừng nghỉ của bóng đá thế giới, và tôi sẽ giúp các bạn mang đến những thông tin nóng hổi nhất để bắt đầu ngày mới. Đừng quên tối nay chúng ta sẽ có 1 đêm không ngủ cùng ĐTQG Việt Nam. Còn bây giờ, hãy cùng đến với những tin chính của ngày hôm nay.
LINK SUBSCRIBE : http://bit.ly/anhquanblv
------------------------------
Đừng quên theo dõi BLV Anh Quân trên:
Youtube: https://www.youtube.com/c/blvanhquan
Facebook: https://www.facebook.com/blvanhquan/
Anchor: https://anchor.fm/blvanhquan
Soundcloud: https://soundcloud.com/blvanhquan
Spotify: https://open.spotify.com/show/0fAT5KU1drY0KAWP1PV6vb
MXH Lotus: https://lotus.vn/w/profile/57277999676796604.htm
MXH Tiktok: https://www.tiktok.com/@blvanhquan132020
Gmail : blvanhquan@gmail.com
----------------------------------------------------------------
© Bản quyền thuộc về BLV Anh Quân
© Do not Reup.
#BLVAnhQuan #binhluanbongda #tintucbongda #GarethSouthgate #Euro2020 #TuyểnAnh #Romania #TuyểnHàLan #Georgia #Lukaku #Croatia #TuyểnBỉ #KevinDeBruyne #GiniWijnaldum #Barcelona #PSG #Zidane #RealMadrid #Simeone #AtleticoMadrid #RubenNeves #Arsenal #Courtois #EdenHazard #CopaAmerica #TuyểnBrazil #Mourinho #MarcusRashford #Deschamps #Pogba #NgoloKante

spotify brazil 在 Spotify Brasil - YouTube 的必吃
Conheça o Spotify e mergulhe no formato streaming de curtir um som! São mais de 30 milhões de músicas para ouvir e compartilhar. ... <看更多>
spotify brazil 在 Spotify - Home | Facebook 的必吃
Spotify. 22923496 likes · 1214 talking about this · 42 were here. ... Viva a mamacita: a @Karolconka é a artista EQUAL Brasil deste mês. ... <看更多>
spotify brazil 在 Spotify Brasil - Escuta As Minas on Behance - Pinterest 的必吃
Mar 5, 2020 - Art Direction, Branding and Design System for Spotify Brazil's project dedicated to female independent artists. ... <看更多>