มือใหม่จะซื้อกีตาร์ไฟฟ้าสักตัว จะเลือกยังไง ?
วันนี้มี 4 แนวทางในการเลือกซื้อกีตาร์ไฟฟ้ามีฝากกันครับ
.
1) กำหนดงบประมาณในการซื้อ
สิ่งสำคัญอันดับแรกคืองบประมาณ มันเป็นตัวกำหนดให้เรารู้ว่าเราสามารถซื้อตัวไหนเลือกแบบไหนยี่ห้อไหนได้บ้าง สมมุติมีงบอยู่ 10,000 บาท เราสามารถซื้อ Squier หรือ Epiphone หรือ Ibanez GIO ได้ ถ้ามีงบเพิ่มขึ้นมาอีกเป็น 2-3 หมื่นอาจจะขยับไปเป็น Fender Gibson ได้ หรือถ้าเรามีงบเยอะเป็นแสน ทีนี้มีให้เลือกกันเยอะแยะเลย
.
คนที่งบน้อยไม่ได้แปลว่าจะไม่มีตัวเลือกนะครับ งบน้อยก็มีตัวเลือกแต่ต้องเลือกดีๆหน่อยให้คุ้มกับที่เราจ่ายไป เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญอันดับแรกกำหนดงบของคุณขึ้นมาก่อน ว่ามีงบเท่าไหร่
.
.
2) เลือกแนวที่จะเล่น เสียงกีตาร์ที่อยากได้ รุปทรงกีตาร์ที่ชอบ
สามเรื่องนี้เอามาอยู่ในหัวข้อเดียวกันเพราะว่ามันสัมพันธ์กัน สมมุติเราอยากเล่นแนว Funk เราก็เลือกกีตาร์ที่ให้เสียงแบบ Funk อยากจะเล่น Jazz ก็เลือกกีตาร์ที่สไตล์นั้น ให้เรากำหนดแนวที่จะเล่นขึ้นมาก่อนว่าจะเล่นแบบไหน ต่อมาก็มาดูเสียงกีตาร์ที่อยากได้ มันก็สัมพันธ์กัน สมมุติอยากได้เสียงแนว Metal ก็เลือกรูปทรงกีตาร์ที่ให้เสียงที่แรงๆ รูปทรงกีตาร์มีผลต่อการเล่นและมีผลต่อเสียงที่ออกมา #ต้องบอกก่อนว่ากีตาร์ทุกตัวสามารถเล่นได้ทุกแนว เพียงแต่ว่าตัวไหน ทรงไหน จะเหมาะกันแนวแบบไหนเท่านั้นเอง ถ้าถามว่าเอากีตาร์ทรง Rock ไปเล่นแนว Jazz ได้ไหม เล่นได้ครับเพียงแต่ว่าจะให้เสียงแบบ Jazz ออกมามากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง
.
ทรงกีตาร์ที่เราเห็นกันทั่วไปบ่อยๆที่ใช้กันทั่วโลกเลย
จะมีประมาณ 7 ทรงหลักๆ คือ
.
- Stratocaster
- Telecaster
- PRS Custom
- SG
- Les Paul
- Flying V
- Semi Hollow
.
กีต้าร์แต่ละทรงก็จะให้เสียงที่แตกต่างกันอย่างเช่น ถ้าเราอยากจะเล่น Rock Metal ก็อาจจะไปเลือกทรง LP , Fling V , SG , PRS อยากจะเล่นเป็น Blue เป็น POP อาจจะเล่นทรง Stratocaster , Telecaster ทุกทรงสามารถเล่นได้ทุกแนว เพียงแต่ว่าเราอยากได้เสียงออกไปทางไหนก็เลือกทรงนั้น
.
.
3) ไปลองของจริงว่าถนัดไหม
เมื่อเราเลือกทรงกีตาร์ได้แล้วต่อมาก็คือให้เราไปลองของจริง เพื่อที่จะให้รู้ว่าเราถนัดตัวนี้ไหม บางทีเราดูจากรูปเราจะไม่รู้เลยว่าคอกีตาร์มันใหญ่ไหม เวลาเล่นที่วางแขนเวลาเล่นจริงๆแล้วมันถนัดไหม เวลาโซโล่ข้างในลึกๆเราเล่นง่ายรึเปล่า ซีเล็กเตอร์อยู่ไกลไหม พวกนี้ต้องไปลองของจริงและเมื่อเราลองเราจะรู้ตัวเองเลยว่าตัวนี้เราถนัดหรือไม่ถนัด ต่อมาดูเรื่องของเฟรตกีต้าร์ด้วย กีตาร์แต่ละตัวเฟรตจะไม่เท่ากัน กีตาร์ส่วนใหญ่มาตราฐานก็จะ 21 22 24 เฟรต ถ้าเราต้องโซโล่ข้างในลึกๆบ่อยๆ แนะนำให้ซื้อกีตาร์ที่มี 24 เฟรต
.
แล้วก็ดูเรื่องคันโยก ถ้าเราเป็นคนที่ต้องใช้คันโยกในการเล่น ก็ซื้อกีตาร์ตัวที่มันสามารถใส่คันโยกได้ เพราะว่ากีตาร์ไม่ได้ใส่คันโยกได้ทุกตัว สรุปว่าควรจะไปลองของจริงว่าเราถนัดรึเปล่าและแนะนำว่าให้ซื้อตัวที่เราเล่นแล้วถนัด เพราะว่าถ้าเราซื้อตัวที่เราเล่นแล้วไม่ถนัด เวลามาฝึกมันจะทำให้เราไม่อยากฝึก เพราะฉะนั้นก็ไปลองว่าเราถนัดตัวนั้นรึเปล่า
.
.
4) เช็คความเรียบร้อยของกีตาร์ก่อนซื้อ
ให้เราตรวจเช็คกีตาร์ว่ามันมีตำหนิตรงไหนรึเปล่า เช็คบอดี้ด้านหน้า ด้านหลัง ตรงคอ ตรงหัวกีตาร์ มีรอยกระแทกอะไรไหม ต่อมาก็มาดูวอลลุ่มกีตาร์ ลองเสียบแจ็คแล้วดีดแล้วเปิดปิดดูว่าเสียงมันสมูทไหม เสียงมีสะดุดหรือเปล่า ลองดีดอีกทีแล้วก็ลองดูเช็คซีเล็กเตอร์กีตาร์ตัวนี้ว่าเสียงติดทุกตำแหน่งไหม เช็คลูกบิด ว่าหมุนได้ไหลลื่นไหม เช็คตรงรูแจ็คว่าเวลาเราเสียบแจ็คมีเสียงค๊อกแค๊กไหม ซื้อทั้งทีเราก็อยากได้ตัวที่ไม่มีตำหนิ เพราะฉะนั้นเราต้องเช็คดีๆก่อนซื้อนะครับ
.
.
น่าจะเป็นแนวทางในการเลือกซื้อกีตาร์ให้กับเพื่อนๆได้นะครับ อย่าลืมว่าซื้อกีตาร์มาแล้วควรฝึกซ้อมเยอะๆด้วยครับ
ถ้าเป็นประโยชน์อย่าลืมแชร์ให้ด้วยนะครับ
