發現網上有 Magic Tree House 的日語動畫,內容包含了第 1 集(Dinosaur Before Dark)、第 2 集(The Knight at Dawn)、第 13 集(Vacation under the Volcano) 、以及第 4 集(Pirates Past Noon)的故事,Jack 和 Annie 遊走恐龍時代、古城堡、龐貝古城、以及遇上尋找寶藏的海盜,他們經歷這四趟冒險旅程,最後完成解除 Morgan 魔咒的任務。
剛好我與孖仔伴讀了頭四本,因此動畫大部份的內容他們都已經從書本看過了,而正仔差不多完成 Merlin Mission 的整個系列,他對 Magic Tree House 的故事非常熟悉。動畫改動的情節都幾多,也滲入了日本動畫的風格,主角也充滿著日本人的性情氣質,雖然如此,就算只有簡體字字幕,孩子還是看得很投入。
前陣子,正仔着我找來 Oliver Twist 給他讀,他說這是 Charles Dickens 的作品,他竟然認識 Charles Dickens 以及他的著作,這讓我感到很驚訝。細問之下,原來 Merlin Mission 系列的其中一集講及 Jack 和 Annie 去到某個時空,遇到四位藝術家,而 Charles Dickens 就正正是其中一人,這讓正仔對 Oliver Twist 這書大感興趣。
關於第 13 集的舊文:https://www.facebook.com/633911513387110/posts/1789183224526594/
#magictreehouse
「oliver twist」的推薦目錄:
- 關於oliver twist 在 男孩媽媽的育兒手記 Facebook 的最佳貼文
- 關於oliver twist 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最讚貼文
- 關於oliver twist 在 夏朧 Camille Facebook 的最佳解答
- 關於oliver twist 在 Oliver Twist - 照片 - Facebook - 登录或注册 的評價
- 關於oliver twist 在 ArrDee - Oliver Twist (Lyrics) - YouTube 的評價
- 關於oliver twist 在 Oliver Twist by Seid Tursic - Art - Pinterest 的評價
oliver twist 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最讚貼文
The Haunting of Hill House (สามารถดูได้ใน Netflix)
• ขึ้นแท่นบ้านผีสิงอันดับหนึ่งในใจเราเรียบร้อย สามารถสร้างบรรยากาศความหลอนไปพร้อม ๆ กับสตอรี่ที่แข็งแรงมาก
• ซีรีส์จริง ๆ หนักไปทางดราม่าระหว่างพี่น้อง แต่สามารถใช้ความสยองขวัญเป็นฟังค์ชั่นขยายและกระตุ้นเรื่องราวให้เข้มข้น
• เหมือนงานของไมค์ ฟลานาแกน อย่าง Oculus, Doctor Sleep, และ Gerald's Game ที่เอาบาดแผลในวัยเด็กมาแสดงให้เห็นถึงผลกระทบตอนเป็นผู้ใหญ่
• ชอบความเป็นซีรีส์ที่ออกตัวชัดเจนว่ามีผีนะ แต่พยายามอธิบายสิ่งลี้ลับด้วยวิทยาศาสตร์ตลอดเวลา เอาจิตวิทยามาบรรยายพฤติกรรม, เอาพันธุกรรมมาอ้าง, เอาฝันร้ายหรือภาพหลอนมากลบเกลื่อนสิ่งที่ยากจะอธิบาย
• บ้านผีสิงนี่คือแบบ ถ้ากูเป็นลูกบ้านนี้นะ กูหนีออกจากบ้านไปนานแล้ว ไม่อยู่แล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย
• สิ่งที่ต้องยกนิ้วให้เป็นพิเศษคือ match cut ตัดต่อข้ามเวลาไปมาได้ลื่นไหลสุด ๆ ใช้ match cut เนียนกริบตลอดทั้งซีซั่น คือดูออกเลยว่ากำกับตามสตอรี่บอร์ด คนตัดต่อสบายมือเลยเพราะไม่ต้องออกแบบใหม่เอง
• รู้ก่อนดูว่าซีรีส์มีผีซ่อนอยู่ในหลายฉาก แต่ด้วยความที่เราดูจอโทรทัศน์ไม่สว่างและผีที่ปรากฎมันสัดส่วนแค่ประมาณ 1/50 ของจอเงี้ย เอาจริงก็แทบไม่สังเกต แค่รู้ว่ามีแล้วมันน่ากลัวดีออก (ส่วนผีที่ตัวใหญ่โผล่โต้ง ๆ อันนั้นสยองดี)
• ความ horror ของซีรีส์คือเอนไปทางหลอน มีใช้ jump scare ตุ้งแช่น้อยครั้งมาก แต่ครั้งที่ใช้รุนแรงจนสะดุ้งเลย คือตุ้งแช่จังหวะไม่คาดคิดแล้วมาแบบเหี้ยมาก (ไม่ได้ชม)
• ตอนที่ชอบสุดในซีรีส์คือ ep. 5 และ 6
• e.p. 5 เฉย ๆ มาตลอดทั้งตอน จนกระทั่งฉากจบร้องเชี่ยยยยยย (อันนี้ชม) ครีเอทเว่อร์ หนังผียุค 2018 ต้องมาเลเวลนี้แล้ว
• ส่วน e.p. 6 ลองเทคระดับขึ้นหิ้ง บ้าพลังมาก งานเคลื่อนกล้องไม่หวือหวา แต่การใช้ลองเทค 15-5-20-10 นาที คือโชว์ระเบิดพลังการแสดงสด ๆ กระทั่งนักแสดงเด็กยังเล่นกันไม่หลุดอารมณ์ แถมกล้องหมุนแต่ละครั้งต้องลุ้นว่าจะเจออะไรไม่คาดฝันอีก
• ฉากหลอนที่ชอบสุดอยู่ใน e.p. 8 เป็นตอนที่พ่อเริ่มเปิดใจคุยกับสตีฟ (พี่ชายคนโต) ในรถ ที่พูดถึงช่างซ่อมนาฬิกา ถึงกับต้องย้อนดูเลย อีกฉากที่ชอบคือตอนลุคเจอผีมาเอาหมวกคืน กำกับจังหวะน่ากลัวดี
• 5 ตอนแรกเหมือนเป็นการแบ่งสัดส่วนให้พี่น้องทั้ง 5 คนได้เวลาของตัวเองคนละตอน ซึ่งก็ไปแตะเรื่องเหนือธรรมชาติด้วย คือตอน Touch และ The Twin Thing ตอนฝาแฝดเชื่อมจิตกันนี่ชอบเรื่องของลุคมาก จังหวะเล่าหลอนเว่อร์
• ซีรีส์มันเล่าเหมือนเป็น Vantage Point ด้วย เล่าจากสายตาแต่ละคน ซึ่งในสถานการณ์เดียวกันพอคนละมุมมองก็จะเข้าใจทุกฝ่าย แล้วได้อารมณ์ของฝ่ายที่ถูกเล่าทีหลังโดยยังเข้าใจฝ่ายที่ถูกเล่าก่อน
• ขัดใจอย่างเดียวคือ e.p.10 แหม่ง ๆ นิดหน่อย แหม่งไม่ได้หมายถึงแย่ แค่รู้สึกว่าบางปมมันมาขมวดปุ๊บปั๊บรวบรัดมาทางนี้เกินไปแบบไม่ได้ถูกปูให้คนดูพร้อมรับมือ แถมเซ็ตอารมณ์ใหม่ขึ้นมาหลุดจาก 9 ตอนแรก เฉลยแบบกึ่ง ๆ จะเป็น twist บิดไปอีกอารมณ์ ซึ่งแหม่งมากที่โผล่มาโทนนี้ แหม่งแบบลังเลเลยว่าเกือบต้องลดเกรด
-------------------------------------
กระบวนการรับมือกับสิ่งลี้ลับของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ประสบการณ์จากบ้านผีสิงในวัยเด็กส่งอิทธิพลต่อเส้นทางชีวิตตอนเป็นผู้ใหญ่ของแต่ละคน 'สตีฟ' (Michiel Huisman) พี่ชายคนโตเอาประสบการณ์ที่พี่น้องแชร์และตัวเองเจอไปเขียนเป็นนิยายสยองขวัญขายดีทั้งที่ตัวเองไม่เชื่อเรื่องพวกนี้, 'เชอร์ลีย์' (Elizabeth Reaser) พี่สาวของบ้านเยียวยาความเจ็บปวดจากความสูญเสียในวัยเด็กด้วยการมาเป็นคนดูแลจัดงานศพ, 'ธีโอดอร่า' (Kate Siegel) ลูกคนกลางศึกษาจนจบปริญญาเอกเพื่อเป็นจิตแพทย์เด็ก แน่นอนว่าชีวิตวัยเด็กของเธอต้องเจอเรื่องประหลาดร่วมกับพี่น้องที่เหลือ, แต่ 'ลุค' (Oliver Jackson-Cohen) น้องชายรับมือกับประสบการณ์หลอนจากวัยเด็กไม่ไหวกลายเป็นคนติดยาที่พี่น้องไม่เชื่อถือ, และ 'เนลล์' (Victoria Pedretti) น้องสาวยังคงหวาดผวาจากสิ่งที่ตามหลอกหลอนในวัยเด็ก ต้องปรึกษาแพทย์ด้านการนอนและหาหมออยู่เป็นประจำ
.
ในขณะที่ซีรีส์ขายความเป็นผีล้วน ๆ แต่ทุกอย่างกลับถูกอธิบายด้วยเหตุและผลเสมอ ไม่ว่าจะเป็นยามที่ลูกเจอผีก็ถูกอธิบายว่าเป็นฝันร้ายหรือเพื่อนในจินตนาการ, พฤติกรรมผิดปกติถูกอธิบายในเชิงจิตวิทยาไปเสียหมด, เช่นเดียวกับการทำรีเสิชหาเรื่องเขียนนิยายของสตีฟ ที่ไปเจอคนเล่าถึงคนตายกลับมาหา เขาก็อธิบายเรื่องหยดน้ำว่าเป็นหลังคารั่ว และเสียงแตรก็มาจากความที่บ้านอยู่ติด 3 แยกที่รถสวนกันบ่อย ทุกคนเจอเรื่องผิดปกติกันหมดแต่กลับใช้ชีวิตกันดูเป็นปกติเพราะการอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ ปฏิเสธสิ่งลี้ลับว่าไม่มีอยู่จริง ส่วนคนที่ทนไม่ไหวก็แก้ปัญหาด้วยการติดยาหรือฆ่าตัวตายไปเลย
.
ทำให้ซีรีส์มันมีมุมให้แตะประเด็นเยอะแยะไปหมด หนึ่งในสาเหตุที่เราชอบ e.p. 5 ต่อเนื่องถึง 6 คือการพูดถึงเนลล์ เป็นตัวละครที่ถูกทำให้ล่องหนไม่มีตัวตนเพราะไม่มีใครสักคนสนใจจะฟังปัญหาของเธอ การจบฉากด้วยประโยคที่ว่า "ฉันอยู่ตรงนี้ ทั้งกรีดร้องทั้งตะโกนแต่ไม่มีใครเห็นเลย" จึงเป็นอะไรที่ร้าวรานมาก เธอเจอผีคอหักตั้งแต่เด็กแต่ไม่มีคนเชื่อ เธอรับมือกับการสูญเสียแม่และสามีได้ไม่ดีแต่ไม่มีพี่น้องคนไหนอยู่เคียงข้างหรือเข้าใจเธอ ฉากพี่ ๆ ไม่รับโทรศัพท์ของเธอคือใจพังไปหมด
.
มันมีส่วนที่เราอินเหมือนกับที่ชอบ e.p. 4 The Twin Thing ที่เป็นเรื่องของลุค เพราะเขาคือคนที่เห็นวิญญาณตามติดแต่พูดกับพี่น้องคนไหนก็ไม่มีใครฟัง ไม่มีใครเชื่อ เหมือนถูกทอดทิ้งให้เป็นเด็กไม่รู้จักโต เรื่องจะเลิกยาก็ไม่มีใครเชื่อมั่นหรืออยู่เคียงข้าง ดูแค่นี้ก็เจ็บปวดแล้วที่คนในครอบครัวไม่ช่วยประคองหรือเอาใจช่วยในความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เลิกยาได้ 30 วัน ซ้ำคอยแต่จะคิดว่าจะหาเงินไปเสพยาใหม่ บางทีลุคแค่ต้องการที่พึ่งที่ไม่ทำให้ตัวเองรู้สึกด้อยค่าหรือห่วยแตก ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเจอมาตลอดตั้งแต่เด็ก ทั้งยาและผีไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ แต่จะผ่านไปได้นั้น สำหรับบางคนไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเองคนเดียว แค่มีมือใครสักคนช่วยประคองก็เพียงพอแล้ว
.
ภาพที่เห็นจึงเป็น 5 พี่น้องที่จวนเจียนจะแตกสลาย ยังมีสายใยเล็ก ๆ คอยผูกพันกันไว้อยู่ ประสบการณ์จากวัยเด็กในบ้านผีสิงทำให้แต่ละคนกำหนดชะตาชีวิตตัวเองแตกต่างกันออกไป ซึ่งก็ส่งผลต่อปัจจุบันอยู่ดี มันมีผลกระทบจากการเชื่อในความคิดตัวเองสูงจนทำให้มองพี่น้องคนอื่นด้วยอาการทางจิต ปิดกั้นตัวเองจากปัญหาของคนอื่น การเปรียบเปรยผีเป็นความหวาดกลัวในใจ แต่ละคนย่อมเลือกวิธีต่อสู้กับความกลัวแตกต่างกันออกไป ในบางทางอาจจะประคองไปได้ด้วยการเก็บความลับ หรืออาจจะเลือกเปิดเผยความกลัวออกมา ที่เลวร้ายคือความไม่รู้ ไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำอยู่คือปัญหา ผีอาจจะไม่ใช่การเปรียบเปรยในมุมนี้ที่ดี แต่ซีรีส์ก็ใช้บ้านผีสิงมาบอกเล่าบาดแผลที่เป็นรอยข่วนติดตัวได้อย่างดี
************ เปิดเผยตอนจบ ************
จุดที่แหม่งจนเกือบจะลดเกรดคือเรารู้สึกว่า 9 ตอนถูกเล่าด้วยน้ำเสียงแบบหนึ่งคือดราม่าขัดแย้งภายใต้บ้านผีสิง แต่อยู่ดี ๆ ตอนจบดันบิดมาพูดเรื่องความรักและการเปรียบเปรยผีกับความกลัว/ความลับต่าง ๆ ซึ่งแหม่งมากพอสมควร ไม่นับความพยายามจะซึ้ง ซึ่งตอนอื่น ๆ ก็มีฉากซึ้งแบบปล่อยบรรยากาศและอารมณ์เป็นไปโดยอัตโนมัติ แต่ e.p.10 คือบิ๊วผ่านไดอะล็อกยืดยาวและดนตรีประกอบชวนซึ้งหนักมาก แถมจังหวะผีก็หลุดไปจากที่เคยเล่ามา มีผีเคาะหัวเงี้ย (อย่าผวนนะ) หรือการเล่าถึงผีก็ถูกเปลี่ยนบรรยายกาศไปพอสมควร ตั้งตัวไม่ค่อยทันกับความเปลี่ยนแปลงของโทนที่กะทันหัน ซึ่งอย่างที่บอกว่ามันไม่ได้แย่ แค่แหม่ง ๆ พอปล่อยเวลาสักพักก็คิดว่าคนทำซีรีส์เลือกจบแบบดูมีชีวิต มีหัวใจ ซึ่งก็ดีและงดงาม แต่จะดีกว่านี้ถ้าหาวิธีเล่าให้กลมกล่อมกว่าหรือไม่หลุดโทนมากเกินไป
Creator: Mike Flanagan (ผู้กำกับ Hush, Oculus, Doctor Sleep, Ouija: Origin of Evil)
10 Episodes (เฉลี่ยตอนละ 60 นาที)
A+
#หนังโปรดxซีรีส์Netflix
oliver twist 在 夏朧 Camille Facebook 的最佳解答
今天是什麼造型?
A)孤雛淚角色造型
B)oversized男友風
C)隨便挑朋友的衣服的風格
Today’s outfit :
A) Oliver Twist style
😎 oversized boyfriend style
C) borrowing clothes from friends’ wardrobe style
oliver twist 在 Oliver Twist by Seid Tursic - Art - Pinterest 的必吃
Oct 7, 2012 - I tried to do a Character based on Charles Dickens Novel Oliver Twist. It was inspired by the character who endures a miserable existence so I ... ... <看更多>
oliver twist 在 Oliver Twist - 照片 - Facebook - 登录或注册 的必吃
查看Oliver Twist 的照片、头像和相册。 ... <看更多>