GIPHY เว็บไซต์ภาพ GIF ที่ถูกเฟซบุ๊กซื้อ ไปด้วยเงินหมื่นล้าน /โดย ลงทุนแมน
ทุกวันนี้ เวลาคุยกันบนโลกออนไลน์ นอกจากการส่งข้อความ, อีโมจิ หรือสติกเกอร์
อีกวิธีหนึ่งที่หลายคนนิยมใช้กัน คือ ภาพเคลื่อนไหว ที่เรียกว่า “GIF”
รู้ไหมว่า การค้นหาภาพ GIF ในโซเชียลมีเดีย หรือในแอปพลิเคชันแช็ต ส่วนใหญ่แล้วจะเชื่อมต่อมาจากแพลตฟอร์มที่ชื่อว่า “GIPHY” ซึ่งเป็นคลังรวมภาพเคลื่อนไหวรายใหญ่สุดของโลก
เรื่องราวของธุรกิจ GIPHY น่าสนใจอย่างไร และปัจจุบันมีใครเป็นเจ้าของ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
GIF ย่อมาจาก “Graphics Interchange Format” คือ ไฟล์ภาพเคลื่อนไหวระยะเวลาสั้น ๆ
ซึ่งถูกคิดค้นตั้งแต่ปี 1987 แต่เพิ่งเริ่มมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ในยุคที่สังคมและการติดต่อสื่อสาร เปลี่ยนไปอยู่บนโลกออนไลน์กันมากขึ้น
คุณ Alex Chung และคุณ Jace Cooke สองนักธุรกิจชาวอเมริกัน เล็งเห็นเทรนด์ดังกล่าว และมองว่าการสนทนาออนไลน์โดยใช้ภาพเคลื่อนไหว น่าจะทำให้แสดงอารมณ์ความรู้สึก ได้ดีกว่าการพิมพ์แค่ข้อความเฉย ๆ
จึงตัดสินใจก่อตั้งเว็บไซต์ชื่อว่า “GIPHY” ขึ้นในปี 2013 เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมและให้บริการเซิร์ชเอนจิน ภาพ GIF โดยมีการจัดหมวดหมู่แบ่งตามประเภทคอนเทนต์ และความนิยมในแต่ละช่วงเวลา
ซึ่งปรากฏว่า พวกเขาคิดถูก เพราะเพียงแค่สัปดาห์แรกที่เปิดตัว ก็มีคนสนใจเข้ามาค้นหาภาพ GIF บนเว็บไซต์ มากถึง 1 ล้านราย และหลายภาพก็กลายเป็นมีมหรือเป็นไวรัล ที่คนเอาไปแชร์ต่อกันจนทั่วโลกโซเชียล
ทำให้ GIPHY รีบมองหาโอกาสขยายฐานผู้ใช้งานต่อทันที โดยได้เจรจาขอเชื่อมต่อบริการเข้ากับแพลตฟอร์มสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้คนสามารถกดปุ่มค้นหาภาพ GIF มาโพสต์โต้ตอบบทสนทนากันได้อย่างสะดวกสบาย
ตัวอย่างแพลตฟอร์มที่เพิ่มฟีเชอร์ค้นหาภาพ GIF ผ่าน GIPHY
- โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, Twitter, TikTok
- แอปพลิเคชันแช็ต เช่น WhatsApp, Messenger, Snapchat, Slack
นอกจากนั้น บริษัทยังได้มีการพัฒนาบริการเสริม ที่สนับสนุนให้ผู้ใช้งานสร้างสรรค์และแชร์ผลงานภาพ GIF ของตัวเอง ลงไว้ในเว็บไซต์ GIPHY อีกด้วย
GIPHY ยังได้ร่วมเป็นพาร์ตเนอร์กับศิลปินและแบรนด์ดังกว่า 200 ราย เพื่อขอให้นำเอาคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ทั้งด้านภาพยนตร์ การ์ตูน กีฬา หรือรายการต่าง ๆ มาทำเป็นภาพเคลื่อนไหว
โดยเจ้าของคอนเทนต์ จะมีโอกาสสร้างภาพ GIF ให้เป็นกระแสไวรัล หรือทำการตลาดออนไลน์ได้ ส่วน GIPHY ก็ได้ประโยชน์ในแง่ที่ พอมีความหลากหลายขึ้น ก็สามารถดึงดูดคนให้มาใช้งานแพลตฟอร์มมากขึ้น
ในปัจจุบัน GIPHY เปิดเผยว่า มีผู้ใช้บริการอยู่ราว 700 ล้านบัญชีต่อวัน และมีการแชร์ภาพ GIF จากแพลตฟอร์ม ถึงกว่า 1 หมื่นล้านครั้งต่อวัน
ซึ่งด้วยตัวเลขดังกล่าว ทำให้บริษัทเคลมตัวเองว่าเป็น ธุรกิจเซิร์ชเอนจินอันดับ 2 ของโลก รองจาก Google แค่นั้น..
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้มีฐานผู้ใช้งานขนาดใหญ่ แต่ที่ผ่านมา GIPHY เปิดให้ใช้บริการฟรี และยังไม่รีบหารายได้ เนื่องจากต้องการพัฒนาแพลตฟอร์มให้เชื่อมต่อกับสังคมออนไลน์อย่างมั่นคงเสียก่อน
ซึ่งในอนาคต บริษัทก็อาจมีการหารายได้ค่าโฆษณาในลักษณะคล้ายกับ Google ที่เจ้าของคอนเทนต์ยอมจ่ายเงิน เพื่อให้ภาพ GIF ของตน แสดงผลขึ้นมาในอันดับต้น ๆ ของการค้นหา
แล้วตอนนี้ใครเป็นเจ้าของ GIPHY ?
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงมองออกว่า คนที่ได้ประโยชน์จาก GIPHY เป็นอย่างมาก ก็คือ ธุรกิจโซเชียลมีเดีย
เมื่อปี 2015 หรือแค่ 2 ปีหลังจากที่ก่อตั้งบริษัท
“Facebook” ได้ยื่นข้อเสนอขอซื้อกิจการของ GIPHY แต่ทว่าก็ถูกปฏิเสธไป
อย่างไรก็ตาม Facebook ยังไม่ยอมแพ้ และกลับมาเจรจาใหม่อีกครั้งในปี 2020 ซึ่งคราวนี้สามารถบรรลุข้อตกลงซื้อ GIPHY ไปได้สำเร็จ ด้วยเงินมูลค่า 13,000 ล้านบาท
ถามว่า Facebook ได้อะไรจากดีลครั้งนี้
เพราะเดิมที ยอดการใช้งาน GIPHY กว่า 50% มาจากแพลตฟอร์มในเครือของ Facebook อยู่แล้ว ซึ่งในด้านการเชื่อมต่อบริการ คงไม่ใช่ประเด็นใหญ่
แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น น่าจะเป็น “ข้อมูลผู้ใช้งาน”
เพราะมันทำให้รู้ถึงเทรนด์ความสนใจตลาด ผ่านการค้นหาและแชร์ภาพ GIF ซึ่งไม่ใช่แค่จากแพลตฟอร์มของ Facebook เอง แต่รวมถึงแพลตฟอร์มของบริษัทคู่แข่งอย่าง Twitter, Snapchat หรือ TikTok ที่ก็เชื่อมต่อกับ GIPHY ด้วย
ซึ่งคงเป็นตัวเสริมที่ช่วยให้ Facebook วิเคราะห์และแสดงผลโฆษณาบนแพลตฟอร์มหลัก ตามกระแสต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ ได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ขณะเดียวกัน ดีลนี้ก็กลายเป็นประเด็นคำถาม ในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล และการผูกขาดตลาดมากเกินไปของ Facebook
แต่คงเป็นเรื่องยาก ที่แพลตฟอร์มอื่นจะยกเลิกการเชื่อมต่อกับ GIPHY เพราะอาจทำให้ผู้ใช้งานไม่พอใจ ที่ขาดฟีเชอร์ยอดนิยมอย่าง ภาพ GIF ไป
ความสำเร็จของ GIPHY แสดงให้เห็นว่า
การสื่อสารบนโลกออนไลน์ที่ไม่เห็นหน้าของอีกฝ่าย การใช้ภาพเคลื่อนไหว มาแทนที่ภาษากาย สามารถทำให้มนุษย์เข้าใจกันได้มากขึ้น จนบางครั้งเราอาจไม่ต้องพิมพ์ข้อความเลยก็ได้
เพราะถึงแม้เป็นคำพูดเดียวกัน แต่ละคนก็มีวิธีแสดงออกถึงบริบทนั้นแตกต่างกันไป ไม่ซ้ำกัน
และมันก็ได้ทำให้ GIPHY กลายเป็น ธุรกิจที่ถูกให้มูลค่าสูงถึงระดับหมื่นล้าน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.investopedia.com/articles/investing/022216/giphy-how-it-works-and-makes-money.asp
-https://en.wikipedia.org/wiki/Giphy
-https://expandedramblings.com/index.php/giphy-facts-statistics/
-https://www.cnbc.com/2020/05/15/facebook-buys-gif-company-giphy-and-plans-to-integrate-it-with-instagram.html
-https://www.fastcompany.com/90505929/the-real-reason-facebook-bought-giphy-for-400-million
-https://newatlas.com/remarkable-people/alex-chung-interview-giphy/
