เมื่อ Bill Gross ราชาแห่งพันธบัตร กำลังบอกว่า พันธบัตรคือขยะ /โดย ลงทุนแมน
เราอาจแปลกใจถ้ามีคนพูดว่า “การลงทุนในพันธบัตรคือ การลงทุนในขยะ”
แต่เราคงตกใจยิ่งกว่านั้น เมื่อรู้ว่าคนที่พูดประโยคนั้นคือ หนึ่งในนักลงทุนผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ที่มีชื่อว่า บิลล์ กรอสส์ เจ้าของฉายา “ราชาแห่งพันธบัตร”
พันธบัตรเป็นหนึ่งตัวแทนของสินทรัพย์ทางการเงิน
ที่หลายคนมองว่าปลอดภัย และมีความเสี่ยงต่ำ
แต่ทำไมตอนนี้ บิลล์ กรอสส์ ถึงมองว่า การลงทุนในพันธบัตร คือการลงทุนในขยะ..
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ถ้าพูดถึงนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ในตลาดหุ้น หลายคนคงนึกถึง วอร์เรน บัฟเฟตต์
แต่ถ้าพูดถึงนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ในตลาดพันธบัตร เราจะต้องพูดถึง บิลล์ กรอสส์ (Bill Gross)
บิลล์ กรอสส์ เป็นผู้จัดการกองทุนรวมที่เน้นการลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้ และประสบความสำเร็จ จนได้รับฉายาว่า “Bond King” หรือ “ราชาแห่งพันธบัตร”
เขาเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทจัดการลงทุน
ที่ชื่อว่า Pacific Investment Management Company หรือเรียกสั้น ๆ ว่า PIMCO ซึ่งปัจจุบัน เป็นหนึ่งในบริษัทจัดการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
PIMCO มีการลงทุนที่หลากหลายตั้งแต่ ตราสารหนี้ ตราสารทุน สินค้าโภคภัณฑ์ กองทุน ETF กองทุนเฮดจ์ฟันด์ และไพรเวทอิควิตี้
จากจุดเริ่มต้นของ PIMCO ที่มีทรัพย์สินภายใต้การบริหารไม่ถึง 400 ล้านบาท ในปี 1971 ก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนสูงกว่า 72 ล้านล้านบาท ในปี 2020
โดยการลงทุนที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเขาในฐานะผู้จัดการกองทุนอย่างมาก คือการลงทุนในสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้
ในปี 2010 Morningstar องค์กรที่ให้บริการข้อมูลและจัดอันดับเปรียบเทียบกองทุนรวมทั่วโลก ระบุว่า “ไม่มีผู้จัดการกองทุนคนไหนอีกแล้ว ที่จะสามารถทำเงินจากการลงทุนในตราสารหนี้ ได้มากกว่า บิลล์ กรอสส์”
แต่ประเด็นน่าสนใจที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ คือ
บิลล์ กรอสส์ ได้ออกมาบอกว่า
“การลงทุนในพันธบัตรคือ การลงทุนในขยะ”
ทำไมราชาแห่งพันธบัตร ถึงพูดแบบนี้ ?
เราลองมาทำความเข้าใจกับ ลักษณะที่สำคัญของตราสารหนี้ ไม่ว่าจะเป็นพันธบัตรรัฐบาล หรือหุ้นกู้เอกชนกันก่อน
ตราสารหนี้เป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนในรูปของ “ดอกเบี้ย” อย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนดไว้
หรือพูดอีกมุมหนึ่งคือ ผู้ที่ลงทุนในตราสารหนี้ จะมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของผู้ที่ออกตราสารหนี้นั้น
จุดเด่นสำคัญของตราสารหนี้ คือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหุ้น
ยิ่งถ้าผู้ที่ออกตราสารดังกล่าว เป็นรัฐบาลที่มีเครดิตดี และโอกาสน้อยมากที่จะผิดนัดจ่ายดอกเบี้ยให้ผู้ถือตราสาร ความเสี่ยงจากการลงทุนในตราสารหนี้ก็ยิ่งต่ำ
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงต่ำ ก็ไม่ได้แปลว่า ไม่มีความเสี่ยง
เพราะนอกจากความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้แล้ว การลงทุนในตราสารหนี้ ยังมีความเสี่ยงอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ “ความเสี่ยงจากดอกเบี้ยที่กำลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้น”
อธิบายกลไกของตราสารหนี้ง่าย ๆ คือ
ความสัมพันธ์ของราคาตราสารหนี้กับอัตราดอกเบี้ยจะสวนทางกัน
หมายความว่า เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ราคาตราสารหนี้จะเพิ่มขึ้น และเมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ราคาตราสารหนี้จะลดลง
ทีนี้ย้อนกลับมาถึงในสิ่งที่ บิลล์ กรอสส์ พูดไว้ข้างต้น ซึ่งเขามองว่า การลงทุนตราสารหนี้เริ่มไม่น่าสนใจ เนื่องจาก
- นโยบายอัดฉีดเงินเข้าระบบผ่านการเข้าซื้อสินทรัพย์โดยทางธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) หรือที่เรียกว่าการทำ QE กำลังจะลดขนาดลง
การปรับตัวขึ้นของราคาสินทรัพย์ทางการเงินหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหุ้น ตราสารหนี้ หรือแม้แต่สินทรัพย์ทางเลือกอย่างคริปโทเคอร์เรนซีในช่วงหลายปีที่ผ่านนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากการอัดฉีดเงิน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องตลาดการเงินของสหรัฐอเมริกา
โดย Fed ทำการซื้อพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อจำนองค้ำประกันของ Fed รวมกันเดือนละประมาณ 3.9 ล้านล้านบาท อย่างต่อเนื่อง
เรื่องนี้ทำให้ราคาพันธบัตรเหล่านี้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐอเมริกา อายุ 10 ปี นั้นลดลง ซึ่งมีอยู่ช่วงหนึ่งอัตราผลตอบแทนดังกล่าวเคยลดลงไปเหลือเพียง 0.5% ในช่วงกลางปี 2020
อย่างไรก็ตาม การที่เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ Fed เริ่มส่งสัญญาณลดการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบลง หรือที่เรียกว่า QE Tapering
ซึ่งเม็ดเงินที่ลดลงนี้ หมายความว่า ปริมาณการซื้อตราสารหนี้มีแนวโน้มจะลดลง จนทำให้ความน่าสนใจในตราสารหนี้ ลดลงไปด้วย
- แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่กำลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
เราอยู่ในจุดที่อัตราดอกเบี้ยนั้นต่ำมาเป็นเวลานานพอสมควร ธนาคารกลางหลายประเทศปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปอยู่ที่ 0% หรือแม้แต่ติดลบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวกลับมาเติบโตเหมือนเดิม
แต่สิ่งหนึ่งที่มักมาพร้อมกับการเติบโตของภาวะเศรษฐกิจคือ “เงินเฟ้อ” ซึ่งหากเงินเฟ้อมีการปรับตัวขึ้นเร็วจนเกินไป ก็จะส่งผลเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจ
เพราะฉะนั้น ธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ อย่างเช่น Fed ก็ต้องมีมาตรการมาควบคุม ไม่ให้เงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นเร็วจนเกินไป
หนึ่งในวิธีที่ทำกันมานาน ก็คือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อให้ดอกเบี้ยในภาพรวมของประเทศปรับตัวสูงขึ้น เพื่อให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจและชะลอเงินเฟ้อได้
ขณะเดียวกัน นักลงทุนหรือคนที่ถือพันธบัตรอยู่ในปัจจุบัน พอเห็นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น พวกเขาก็จะเริ่มทยอยขายพันธบัตรที่ถืออยู่ออกมา เพื่อนำเงินไปลงทุนในตราสารหนี้ชุดใหม่ ๆ ที่จะให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า หรือเอาเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ที่สร้างผลตอบแทนได้ดีกว่า
เมื่อมีการขายตราสารหนี้ออกมาจำนวนมาก ก็จะทำให้ราคาตราสารหนี้นั้นปรับตัวลดลง จนทำให้ผู้ที่ถือตราสารหนี้ โดยเฉพาะยิ่งเป็นตราสารหนี้ระยะยาวอาจจะขาดทุนหนักได้
นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อ ยังทำให้อัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (อัตราผลตอบแทนที่เป็นตัวเงินหักด้วยอัตราเงินเฟ้อ) จะยิ่งลดลงไป ซึ่งหมายความว่า อัตราผลตอบแทนที่แท้จริงจากการถือตราสารหนี้ ลดลงไปอีก
เมื่อเป็นแบบนี้ ก็จะทำให้มีแรงเทขายตราสารหนี้ออกมาในปริมาณมาก จนอาจทำให้หลายคนที่ลงทุนในตราสารหนี้อยู่ ต้องขาดทุนอย่างหนักมากกว่าเดิมก็เป็นได้
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า สิ่งที่ บิลล์ กรอสส์ คาดการณ์ไว้เช่นนี้ จะเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน
แต่ก็ต้องยอมรับว่า นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในตราสารหนี้ กำลังจะต้องเจอความท้าทายจากอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกที่กำลังจะปรับตัวขึ้นหลังจากนี้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-09-01/bill-gross-says-bonds-are-investment-garbage-just-like-cash
-https://www.investopedia.com/terms/w/william-h-gross.asp
-https://en.wikipedia.org/wiki/Bill_H._Gross
-https://www.ft.com/content/f1a48ac2-36fb-4e7f-8d23-71477f1fc0a4
-https://www.sunsigns.org/famousbirthdays/d/profile/bill-gross/
同時也有50部Youtube影片,追蹤數超過2萬的網紅もつく,也在其Youtube影片中提到,#ばへもっつ @バギーさん @つんつん-TsunTsun- @King Halo twitter : https://twitter.com/nikomotsuku 欲しいものリスト : https://t.co/NBq9Op8W6G ファン交流用discord https://discord.g...
「king wiki」的推薦目錄:
king wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
กรณีศึกษา ฟองสบู่หุ้นรถไฟ ที่เคยเกิดขึ้นหลัง ปฏิวัติอุตสาหกรรม /โดย ลงทุนแมน
เมื่อช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ในประเทศอังกฤษ ได้มีการคิดค้นสิ่งที่เรียกว่าเครื่องจักร เพื่อเอามาใช้ในกระบวนการผลิตแทนแรงงานมนุษย์ ซึ่งนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ที่เรียกว่า “การปฏิวัติอุตสาหกรรม”
หลังจากนั้น เครื่องจักร ก็ถูกใช้แพร่หลายในหลายอุตสาหกรรม รวมไปถึงระบบขนส่ง ที่มีการพัฒนาหัวรถจักรไอน้ำ ก่อนจะพัฒนากลายมาเป็น “รถไฟ” ในเวลาต่อมา
การเดินทางรูปแบบใหม่นี้ สร้างความตื่นเต้นให้กับคนอังกฤษในยุคนั้นมาก ถึงขนาดที่ทำให้เกิดการเก็งกำไร “หุ้นบริษัทรถไฟ” อย่างร้อนแรง จนฟองสบู่แตกในที่สุด
เรื่องราวเหตุการณ์ในตอนนั้นเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะย้อนอดีตให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เส้นทางรถไฟสาธารณะเชิงพาณิชย์สายแรกของโลก เริ่มให้บริการเมื่อปี 1830 หรือ 191 ปีที่แล้ว โดยเชื่อมระหว่างเมือง แมนเชสเตอร์และลิเวอร์พูล ในประเทศอังกฤษ ซึ่งมีระยะทางยาว 56 กิโลเมตร
นับตั้งแต่นั้นมา คนอังกฤษก็สามารถเดินทางและขนส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การใช้บริการรถไฟ ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ด้วยเหตุนี้ อุตสาหกรรมรถไฟ จึงอยู่ในช่วงเวลาที่เฟื่องฟูมาก
โดยในปี 1845 มีบริษัทประกอบธุรกิจเกี่ยวกับรถไฟ จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ถึง 259 บริษัท
สาเหตุเนื่องจาก รัฐบาลอังกฤษมีนโยบายเปิดเสรี ให้บริษัทต่าง ๆ ไม่ว่าจะมีประสบการณ์ หรือเพิ่งก่อตั้งใหม่ สามารถยื่นเสนอแผนก่อสร้างเส้นทางเดินรถไฟต่อรัฐสภาได้ รวมทั้งยังไม่ค่อยมีการตรวจสอบฐานะทางการเงินที่เข้มงวดมากด้วย
ซึ่งต่อมา รัฐสภาอังกฤษ มีการเห็นชอบแผนก่อสร้างเส้นทางรถไฟ รวมระยะทาง 15,300 กิโลเมตร
ทำให้เม็ดเงินลงทุนไหลมายังอุตสาหกรรมรถไฟในอังกฤษ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 7% ของมูลค่า GDP ประเทศอังกฤษ ในขณะนั้นเลยทีเดียว
ถึงตรงนี้ เราคงจะพอรู้กันแล้วว่า มีผู้ประกอบการสนใจทำธุรกิจรถไฟเต็มไปหมด
ทีนี้มาลองดูในฝั่งของนักลงทุนกันบ้าง
หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรม คนอังกฤษมีฐานะร่ำรวยขึ้นและมีเงินเก็บออม
ประกอบกับในช่วงต้นทศวรรษ 1840s ธนาคารกลางอังกฤษ ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ ส่งผลให้เงินทุน เริ่มไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่าง หุ้น
และกลุ่มธุรกิจที่ตกเป็นเป้าหมายหลักของนักลงทุน ก็หนีไม่พ้น “หุ้นรถไฟ” ที่กำลังเติบโตดี และผลตอบแทนสูง
ต้องบอกว่า ในช่วงดังกล่าว สื่อหนังสือพิมพ์ มีอิทธิพลต่อการรับรู้ข่าวสารเป็นอย่างมาก และสำนักข่าวต่าง ๆ มีการเขียนถึงธุรกิจรถไฟแทบทุกวัน ซึ่งยิ่งทำให้นักลงทุนมีความคาดหวังสูงต่อผลประกอบการในอนาคต
นอกจากนั้น กฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์ ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อหุ้นรถไฟได้ โดยจ่ายเงินเพียง 10% ของมูลค่าทั้งหมดก่อน แล้วค่อยชำระส่วนที่เหลือเมื่อบริษัทเริ่มก่อสร้างโครงการ
เท่ากับว่า นักลงทุนบางรายอาจใช้เงินลงทุนเกินตัวได้ คล้ายกับการซื้อขายหุ้นแบบใช้มาร์จินในปัจจุบัน
เมื่อปัจจัยที่เกี่ยวข้องเป็นเช่นนี้ ฟองสบู่ของการเก็งกำไร จึงก่อตัวขึ้น..
ในปี 1843 ถือเป็นจุดเริ่มต้น ดัชนีราคาหุ้นกลุ่มรถไฟในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง
หลายคนที่เริ่มมีเงินเก็บเงินออมเมื่อได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ว่าราคาหุ้นกลุ่มรถไฟเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ ก็เริ่มทยอยเอาเงินเก็บมาลงทุนในหุ้นรถไฟ
บางคนทุ่มเงินเก็บทั้งหมดซื้อหุ้นรถไฟ บางคนถึงกับไปกู้เงินมาซื้อหุ้น เพราะต่างก็หวังว่าราคาหุ้นจะเพิ่มสูงขึ้นไปอีกเรื่อย ๆ แล้วตัวเองก็จะได้กำไรก้อนโต
ดัชนีราคาหุ้นกลุ่มรถไฟในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ทำจุดสูงสุดในเดือนสิงหาคม ปี 1845 โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 100% ภายใน 2 ปีครึ่ง
แต่เมื่อเวลาผ่านไป นักลงทุนกลับพบความจริงว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทเหล่านั้น ไม่เป็นไปตามคาดหวังสักเท่าไรนัก..
เพราะโครงการเส้นทางรถไฟ จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนสูง และใช้เวลาก่อสร้างนาน ทำให้กำไรของบริษัทโตไม่ทันตามนักลงทุนคาด และบริษัทก็จ่ายเงินปันผลได้น้อยลง
นักลงทุนหลายคนที่เริ่มหมดหวังและเห็นท่าไม่ดี ก็เริ่มเทขายหุ้นรถไฟออกมา
และสุดท้าย หุ้นรถไฟ จึงเริ่มถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง
ในปี 1850 ดัชนีราคาหุ้นกลุ่มรถไฟ ปรับตัวลดลงต่ำสุดกว่า 67% เทียบกับจุดสูงสุดเมื่อ 5 ปีก่อนหน้า และต่ำกว่าตอนก่อนเกิดการเก็งกำไรถึง 33%
วิกฤติฟองสบู่ในครั้งนั้น ได้ส่งผลให้นักลงทุนขาดทุนหนัก บางคนที่ไปกู้มาหรือใช้มาร์จินซื้อหุ้นก็เสียหายหนัก จนบางรายสูญเสียเงินเก็บไปหมด ต้องไปกู้หนี้ยืมสินเพิ่ม หรือกระทั่งล้มละลาย
และเมื่อนักลงทุนไม่สามารถชำระเงินระดมทุนได้ตามสัญญา ก็ทำให้บริษัทรถไฟหลายแห่ง ต้องปิดตัวลงไป หรือยอมขายกิจการให้กับผู้เล่นรายใหญ่ ในราคาที่ถูกมาก
ไม่เว้นแม้แต่ บริษัทของคุณ George Hudson ซึ่งมีฉายาว่า “ราชาแห่งรถไฟ (The Railway King)” เนื่องจากเขาเป็นผู้บริหารเส้นทางรถไฟที่มีความยาวกว่า 1,600 กิโลเมตร
ในภายหลัง เขากลับถูกเปิดโปงว่า บริษัทมีการตกแต่งบัญชี และจ่ายปันผลจากเงินของนักลงทุนรายใหม่ ในลักษณะเดียวกับแชร์ลูกโซ่
โดยในปี 1850 มีบริษัทรถไฟ หลงเหลืออยู่ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน เพียง 87 บริษัท จากก่อนหน้านี้ที่มีอยู่มากกว่า 250 บริษัท
นอกจากนั้น เส้นทางรถไฟจากเดิมที่ตามแผนต้องสร้างให้เสร็จรวม 15,300 กิโลเมตร ก็ถูกสร้างเสร็จราว 10,000 กิโลเมตร หรือแค่ 2 ใน 3 ของระยะทางที่รัฐสภาเคยอนุมัติและตั้งเป้า
อย่างไรก็ตาม หลายปีหลังจากนั้น อุตสาหกรรมรถไฟ ก็ค่อย ๆ ฟื้นตัว และไม่เกิดเหตุการณ์เก็งกำไรอย่างร้อนแรงซ้ำอีก เพราะภาครัฐมีบทเรียนในอดีต และเข้ามากำกับดูแลให้เข้มงวดมากขึ้น
สรุปข้อคิดที่ได้จากวิกฤติฟองสบู่ทุกครั้งคือ
เมื่อมนุษย์ได้รู้จักกับของสิ่งใหม่ ย่อมเกิดความสนใจเป็นพิเศษ
แต่ถ้าความตื่นตาตื่นใจที่มากเกินไป จนกลายเป็นความคลั่ง รวมตัวเข้ากับ “ความโลภ”
มันก็จะทำให้เกิดเหตุการณ์เก็งกำไรในลักษณะนี้ อยู่เรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้ นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Railway_Mania
-https://www.focus-economics.com/blog/railway-mania-the-largest-speculative-bubble-you-never-heard-of
-https://mpra.ub.uni-muenchen.de/21820/1/MPRA_paper_21820.pdf
king wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
Hans Zimmer นักแต่งเพลง ที่มีทรัพย์สิน 6,000 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
ถ้าใครชื่นชอบภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร อย่างอัศวินรัตติกาล “แบทแมน”
หรือเป็นสายเล่นเกมในสมาร์ตโฟน เช่น “RoV” รวมถึงแฟนรถยนต์ไฟฟ้า ของ “BMW”
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเพลงประกอบฉากภาพยนตร์
เพลงประกอบในเกม หรือแม้แต่เสียงเครื่องยนต์ของรถยนต์ไฟฟ้า
รู้หรือไม่ว่า ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของชายคนเดียวกัน ที่มีชื่อว่า “ฮันส์ ซิมเมอร์” นั่นเอง
ที่น่าสนใจคือ เขาคนนี้ตัดสินใจที่จะหยุดเรียนเปียโนตามหลักสูตร หลังจากเรียนได้เพียง 2 สัปดาห์ และเขาก็ไม่ได้เรียนพื้นฐานทางดนตรีเหมือนกับนักดนตรีคนอื่น ๆ
แล้วสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมถึงยังมีคนจ้างให้ฮันส์ ซิมเมอร์ แต่งเพลง
ด้วยค่าตัวที่สูงถึง 60 ล้านบาท ต่อภาพยนตร์หนึ่งเรื่อง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ฮันส์ โฟลเรียน ซิมเมอร์ หรือ ฮันส์ ซิมเมอร์ เป็นนักแต่งเพลง นักแต่งดนตรีประกอบภาพยนตร์ชาวเยอรมัน เกิดในปี 1957 ปัจจุบันอายุ 64 ปี
ซิมเมอร์ รู้ตัวเองมาตั้งแต่เด็กว่าเขาชอบเสียงดนตรีและชอบที่จะเล่นดนตรี แม้ว่าเสียงเพลงคือสิ่งที่เขารัก แต่เขากลับรู้สึกว่าการเรียนดนตรีตามหลักสูตรทั่วไปนั้นเป็นการเสียเวลา
ทำให้หลังจากเริ่มเรียนเปียโนได้เพียง 2 สัปดาห์
เขาก็ตัดสินใจที่จะหยุดเรียนตามหลักสูตร และกระโจนเข้าร่วมวงดนตรี
เพื่อที่จะเรียนรู้ทักษะด้านเสียงเพลง ด้วยตัวของเขาเอง
ในวัยเด็กนั้นเขาเกิดในเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี แต่ได้มาใช้ชีวิตที่สวิตเซอร์แลนด์
ก่อนจะย้ายมาเข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
โดยในช่วงที่อยู่อังกฤษนั้น เขาก็ได้เริ่มต้นอาชีพของเขาด้วยการไปเข้าร่วมกับวงดนตรีต่าง ๆ และเริ่มแต่งเพลงให้ภาพยนตร์ร่วมกับนักแต่งเพลงคนอื่น ๆ
จุดเปลี่ยนในชีวิตของซิมเมอร์เริ่มขึ้นเมื่อปี 1988
ซึ่งเขาได้มีโอกาสแต่งเพลงให้ภาพยนตร์ฮอลลีวูดเรื่อง “Rain Man” ที่แสดงนำโดย ทอม ครูซ
ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับรางวัล ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากทาง Academy Awards หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อรางวัลออสการ์
กวาดรายได้ไปถึง 11,000 ล้านบาท โดยใช้ทุนในการสร้างเพียง 780 ล้านบาท
และนั่นก็ทำให้ชื่อ ฮันส์ ซิมเมอร์ เริ่มเป็นที่รู้จักกันในวงการ และได้สร้างผลงานชื่อดังอีกมากมาย เช่น
- The Dark Knight หรือแบทแมนทั้งสามภาค สร้างรายได้รวม 76,000 ล้านบาท
- The Lion King (1994) สร้างรายได้ 30,000 ล้านบาท
- Inception สร้างรายได้ 28,000 ล้านบาท
- Interstellar สร้างรายได้ 21,000 ล้านบาท
อ่านมาถึงตรงนี้ อาจเริ่มสงสัยว่า อะไรคือสิ่งที่ทำให้ ฮันส์ ซิมเมอร์ ประสบความสำเร็จ
หนึ่งในคำตอบนั้น ก็คือ “ความกล้าที่จะแตกต่าง”
โดยจุดเด่นของเขา คือ การนำเสียงจากเครื่องดนตรีแบบดั้งเดิม ที่ไม่มีการนำไฟฟ้าหรืออิเล็กทรอนิกส์มาเกี่ยวข้อง เช่น เปียโน ไวโอลิน หรือเสียงร้อง
มาผสมผสานเข้ากับ ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เช่น กีตาร์ไฟฟ้า หรือเครื่องซินธิไซเซอร์ ซึ่งเป็นเครื่องดนตรีลักษณะคล้ายคีย์บอร์ด แต่สามารถปรับแต่งเสียงได้หลากหลายกว่ามาก
ทั้งที่จริง ๆ แล้ว การแต่งเพลงสำหรับภาพยนตร์ส่วนใหญ่จะใช้วงออร์เคสตรา หรือวงดนตรีที่บรรเลงโดยใช้เครื่องดนตรีจำนวนมากเป็นหลัก
โดยเฉพาะในยุคแรก ๆ นั้นการนำเสียงจากเครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาร่วมด้วย ก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับกันสักเท่าไรนัก
แต่ซิมเมอร์ กลับไม่กลัวว่าจะถูกมองว่าแปลก
เพราะเขามองว่า สิ่งสำคัญที่สุดของการทำงาน คือการหาเสียงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับภาพยนตร์แต่ละฉาก
ซึ่งใครจะรู้ว่า ด้วย “ความแตกต่าง” นี่แหละ ที่ทำให้เขากลายมาเป็นหนึ่งในนักแต่งเพลงที่ดีที่สุดในโลก
และมีทรัพย์สินมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท
ที่สำคัญ ผลงานของซิมเมอร์ ก็ยังไม่ได้หยุดแค่เพียง เพลงประกอบภาพยนตร์
แต่เสียงเพลงของเขา ยังได้ไปประกอบอยู่ในฉากเกมชื่อดัง
เช่น RoV จากค่าย Tencent หรือ FIFA 19 จากค่าย EA
และล่าสุดยังได้ร่วมงานกับทาง BMW เพื่อทำเสียงเครื่องยนต์ให้รถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย
เรื่องนี้บอกเราว่าหลายครั้งการคิดนอกกรอบ อาจจะทำให้เราดูบ้าหรือแตกต่างจากคนอื่น หลายครั้งเรามักจะกลัวการถูกมองว่าต่างจากคนอื่น กลัวที่จะล้มเหลวจากความคิดที่แตกต่าง
แต่ถ้าเรามองย้อนกลับไปในอดีต สิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบิน, โทรศัพท์, หลอดไฟ หรือแม้แต่สมาร์ตโฟน ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้
ก็ล้วนเกิดจากความคิดที่ไม่ยึดติดกับความสำเร็จเดิม ๆ
และหากปราศจากความคิดที่แตกต่างเหล่านี้
ในวันนี้ เราก็อาจจะไม่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นบนโลก ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Hans_Zimmer_discography#Video_games
-https://en.wikipedia.org/wiki/Hans_Zimmer
-https://en.wikipedia.org/wiki/Rain_Man
-https://www.bmw.co.th/th/bmw-explore/bmw-newsletter/2019/aug-2019/hans-zimmer.html
-https://work.chron.com/much-money-average-film-scorer-make-15385.html
king wiki 在 もつく Youtube 的最佳解答
#ばへもっつ
@バギーさん @つんつん-TsunTsun- @King Halo
twitter : https://twitter.com/nikomotsuku
欲しいものリスト : https://t.co/NBq9Op8W6G
ファン交流用discord https://discord.gg/yMBcpqH6ts
グッズ販売始めました https://motsuku.booth.pm/
ファンクラブ(fantia) : https://fantia.jp/motsuku
LINEスタンプ販売してます : https://store.line.me/stickershop/product/10434256
メールアドレス nikomotsuku@yahoo.co.jp
アクションカードバトルフリーゲーム「モックバトル」作ってます
無料でダウンロード頂けますので、是非一度プレイしてみて下さい
公式wiki : http://mockbattle.game-info.wiki/
#遊戯王 #遊戯王デュエルリンクス #Vtuber
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/L9HeN8rULLM/hqdefault.jpg)
king wiki 在 もつく Youtube 的最讚貼文
@つんつん-TsunTsun- @バギーさん @King Halo
twitter : https://twitter.com/nikomotsuku
欲しいものリスト : https://t.co/NBq9Op8W6G
ファン交流用discord https://discord.gg/yMBcpqH6ts
グッズ販売始めました https://motsuku.booth.pm/
ファンクラブ(fantia) : https://fantia.jp/motsuku
LINEスタンプ販売してます : https://store.line.me/stickershop/product/10434256
アクションカードバトルフリーゲーム「モックバトル」作ってます!
無料でダウンロード頂けますので、是非一度プレイしてみて下さい!
公式wiki : http://mockbattle.game-info.wiki/
メールアドレス nikomotsuku@yahoo.co.jp
#ばへもっつ #コラボ #雑談 #Vtuber
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/f8TdJftPIfI/hqdefault.jpg)
king wiki 在 もつく Youtube 的最佳解答
【重要】対戦相手批判、ダメゼッタイ
コラボ相手 @バギーさん @つんつん-TsunTsun- @King Halo
twitter : https://twitter.com/nikomotsuku
欲しいものリスト : https://t.co/NBq9Op8W6G
ファン交流用discord https://discord.gg/yMBcpqH6ts
グッズ販売始めました https://motsuku.booth.pm/
ファンクラブ(fantia) : https://fantia.jp/motsuku
LINEスタンプ販売してます : https://store.line.me/stickershop/product/10434256
アクションカードバトルフリーゲーム「モックバトル」作ってます!
無料でダウンロード頂けますので、是非一度プレイしてみて下さい!
公式wiki : http://mockbattle.game-info.wiki/
メールアドレス nikomotsuku@yahoo.co.jp
#ポケモン #ポケモンユナイト #Vtuber
![post-title](https://i.ytimg.com/vi/9F7CR0Mr18s/hqdefault.jpg)
king wiki 在 King Steph's..Wiki Biography,age,weight,relationships,net worth 的必吃
... <看更多>