Blog 3.
Why I deleted the Instagram app on my phone for 2 weeks
Confession: I think I'm not alone in that I have a love-hate relationship with social media, and insta for me is the worst - I lose track on how much time I waste on it. It’s amazing how one app can do so much to give me all sorts of emotions - inspired, educated, entertained, but also, sometimes, skeptical, insecure, and recently, downright depressed.
and so... some time last week, I decided I'm going to check myself out of that daily time-wasting routine. I knew it would be a temporary thing, but I needed to physically delete it for a bit. It wasn't too difficult because I also (very) recently became an aunt, a 舅母!! So right around when that happened, I decided I was going to take a break from Instagram for a while. I just really needed to breathe; and it has been SO nice, and also SO nice to have a beautiful little soul to adore during this time - it made me forget a lot of sad things for a moment, and it was amazing.
I don’t know about you, but for me, a new part of growing up that I am starting to love, is meeting new little members in the family or in friendship circles. Even when they’re not necessarily your own, something about the birth of a human being gives you a new kind of perspective, and a new appreciation for simplicity, and feelings of gratefulness and contentment in life as it is, seeing how beautiful and magical the world is again, from the eyes of a new born baby.
And then it is during moments like these, when you witness a new life coming to this world, that always reminds me of my mother. I wish I could still ask her stories about me as a baby... though she's also told me many 🙂
My mother did not grow up in very fortunate circumstances. Her family was a very humble family, and she was the neglected middle child of three girls. She was always underappreciated, always the one to take the blame, always the one that did things wrong. It didn't come easy for her. But she always told herself that she will love her children equally without biases, and she truly did. She became the most successful one amongst her siblings, and she was a really successful power woman, and my first and biggest inspiration.
But she was also a painter, a singer, a daring driver, and a chef. Where she’s from, she enjoyed a very starchy diet of dumplings, noodles and buns... and perhaps that’s why I have this weird obsession that fans know about, with 饅頭s. I got it from her - it was her favorite as a child, no sauce, just plain steamed. I also used to love the 餃子 dumplings she made, they were the best in the world!
She might not be around anymore, but her spirit lives within me and my family's hearts. And I look back upon our memories now with no sorrow but just joy and gratefulness. A lot of things she's told me, all the lessons, the values, I remember vividly still, and make up a lot of who I am today - Working hard to earn what you cherish and care about, being kind to people, understanding different perspectives, and always remembering the importance of family. From her, I learned how to give love unconditionally, forgiveness, and having a big heart. I may never be as selfless as her, but I guess it's a good thing in a way - I wish she took better care of herself. Perhaps if she placed a little bit more attention on herself... she would still be here. I just got too lucky to have a mother like her, and I wish I was there for her sooner, and learned to cherish her sooner.
I guess now as a new aunt, I have this rush of emotions that I cannot fully explain. The world is crazy right now, social media is crazy, the news is crazy... but I pray for similar things for baby niece that my late mother wished for me. Be happy and healthy, don't be spoiled. Be grateful, be kind, be generous. But, also, be able to receive love as much as give love. LISTEN TO YOUR MOMMY!
I am so grateful for the joy and light my baby niece brought me during these tumultuous times in the city, and I just want to focus on that for a little longer... Life is crazy, but for now, I just wanna choose simplicity, and faith.
Welcome to the world, little one! ❤️
And for everyone else, thank you for reading my long blogs, and reading till here. Please let me know what you'd like to hear my share about 🙂 in the mean time, choose love, and bring light. Till next time!
#robynnblogs
「it's nice to hear from you again」的推薦目錄:
it's nice to hear from you again 在 Aum napat Facebook 的最佳貼文
1 วัน มี 3 มื้อ ต้องสู้รบปรบมือกับลูกทุกมื้อ มื้อไหนลูกกินเยอะ คนเป็นแม่ก็อิ่มอกอิ่มใจจนลืมกินข้าวไปเลยทีเดียว ส่วนใหญ่ถ้าเรื่องอาหารการกิน หรือป้อนข้าวลูกจะเป็นหน้าที่ของคุณแม่ สำหรับอุ้มๆว่าเรื่องนี้เครียดมากที่สุดแล้ว ขนาดอุนยายเป็นเด็กทานง่ายและทานเยอะ แต่มันจะต้องมีบ้างสักมื้อที่งอแง ไม่กินเอง กินน้อย ต้องป้อน เครียดจนหน้าเหี่ยว.. .😹 จนได้มาเจอบทความนี้ของคุณหมอ ทำให้เรารู้ว่าสิ่งที่เราทำมาทั้งหมด มันคือสิ่งที่เราทำถูกทางแล้ว อุ้มอยากมาให้กำลังคุณแม่ๆทุกคนค่ะ อย่าท้อนะคะ เราจะสู้ไปด้วยกัน เพื่อครอบครัว และเพื่อลูกๆที่เรารัก และหวังว่าเมนูต่างๆนาๆที่อุ้มพยายามทำทุกวิถีทางให้ลูกได้กินอย่างมีประโยชน์ในทุกๆมื้อ จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้คุณแม่ๆที่ทำอาหารไม่ต้องคิดเยอะแยะให้ปวดหัวเวลาที่นึกเมนูไม่ออก 😆 สุดท้าย ขอบคุณที่ติดตามเพจกันมายาวนานนะคะ ตอบข้าความบ้างไม่ตอบบ้าง ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ อยู่กันไปแบบนี้นานๆนะคะ รัก ♥️ จากใจอุนแม่ค่ะ.
21 คำถามคัดสรร 25 มีนาคม 62
1.พ่อแม่จะเลิกกัน จะบอกลูกอย่างไรดีคะ?
-พ่อแม่เป็นเพื่อนกัน แต่จะไม่อยู่ด้วยกัน
-แม่จะอยู่กับลูกตลอดไป
-ห้ามกล่าวร้ายอีกฝ่าย มิเช่นนั้นลูกจะตกอยู่ในสภาพยากลำบากมาก
2.ลูก 4 ขวบ ใจร้อน ขี้โมโห ควบคุมตนเองไม่ได้/
-อ่านนิทานก่อนนอน ตรงเวลา มากกว่าเดิม เพื่อสร้างแม่ที่มีอยู่จริง สอนอะไรจะได้ฟังบ้าง
-สละเวลาลงไปเล่นกับเขาจริงๆมากกว่าเดิม เพื่อระบายส่วนเกินและความคับข้องใจออกไป
-สอนเขาทำงานบ้านและสละเวลาทำด้วยกันเสมอ เพื่อให้เขาฝึกฝนความสามารถควบคุมตนเอง
3.ลูกดื้อ อ่านโพสต์คุณหมอ ซื้อทรายมาเล่นกับลูก สามวันเท่านั้นเขาเป็นคนละคน เชื่อฟัง น่ารักมากเลยค่ะ ดีใจจริงๆ/
ผมต่างหากขอบพระคุณที่แวะมาเล่า ดีใจมากที่ได้ยินครับ รูปที่ส่งมาน่ารัก
4.ฝึกกินข้าวไม่ได้เลย/
การกินข้าวด้วยตนเองเป็นเรื่องพูดตรงกันในตำราทุกเล่ม ควรฝึกให้ได้ก่อน 3 ขวบเพราะหลังจากนั้นจะฝึกยากมากขึ้นทุกที หากใช้ BLW ทำได้ตั้งแต่อายุ 7-8 เดือนตามข้อบ่งชี้ คือนั่งได้และไม่สำลัก
การควบคุมตนเองให้กินข้าวบนโต๊ะร่วมกับผู้ใหญ่ได้จะช่วยให้เด็กควบคุมตนเองในเรื่องอื่นๆง่ายขึ้นมาก เขาจะเก่งในอีกหลายเรื่องโดยที่เราไม่ต้องออกแรงอะไร คนส่วนใหญ่ไม่เชื่อเรื่องนี้ ซึ่งผมเสียใจทุกครั้งที่ได้ยิน อยากให้พยายามทำ เพราะดีต่ออนาคตของเด็กมากกว่ามาก
5.เราทะเลาะกันบ่อยมากต่อหน้าลูก/
ไม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูกครับ ไปหาที่คุยกันสองต่อสอง สองท่านเหนื่อยจากที่ทำงาน ลูกเล็ก มีการแทรกแซงจากผู้ใหญ่ เช่นนี้สองท่านจะปรับตัวเข้าหากันลำบาก ผมให้กำลังใจว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องชั่วคราว ให้เวลาแก่ตนเองทั้งสองท่านอีกนิดหนึ่ง พยายามช่วยเหลือกันในทุกๆเรื่อง ไม่พึ่งคนอื่นมากจนเกินไป เวลาจะเป็นเรื่องช่วยได้ การร่วมทุกข์ร่วมสุขสองต่อสองจะช่วยให้สองคนรักกัน
6.กับคนอื่นดีหมด แต่ดื้อกับแม่ แม่ถูกตำหนิประจำ/
เพราะแม่สำคัญที่สุดโดยธรรมชาติ เด็กจำเป็นต้องใช้แม่เป็นเสาหลักของพัฒนาการ เขาจะทดสอบแม่อย่างหนักจนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าแม่แน่จริง ดีจริง เก่งจริง มั่นคงจริง สวยจริง เขาจึงจะตั้งตัวติดแล้วพัฒนาได้ คนอื่นเป็นเพียงทางผ่าน ไม่มีความหมายอะไรมากมาย เขายิ่งดื้อ แปลว่าเขายิ่งต้องการแม่ เท่านั้นเอง
7.หมอกควันมากมาย จับเจ่าในห้อง ไม่รู้จะทำอะไรกับลูกค่ะ/
ดินน้ำมัน ระบายสี ต่อบล๊อกไม้ ตัดกระดาษ เล่นบทบาทสมมติ ตั้ง 5 อย่าง เกมกระดานใช้กับเด็กโตได้ครับ หมากฮอส หมากข้าม หมากรุก โมโนโปลี่ สแคร็บเบิ้ล เยอะแยะเลย นี่เป็นโอกาสทองเลยนะครับ
8.แยกห้องนอนได้เมื่อไรครับ?
การแยกห้องนอนเป็นประเด็นทางวัฒนธรรม ไม่มีประเด็นทางจิตวิทยา จะแยกก็ได้ ไม่แยกก็ได้ จะแยกเมื่อไรก็ได้ เอาที่ทุกคนสบายใจ มีความสุข คือพ่อ แม่ ลูก พี่-น้อง สบายใจ
ห้องนอนควรเหมือนโต๊ะอาหารคือสถานที่ที่เด็กๆมีความสุข สุขสันต์นิรันดร เขาจะกลับมาหาพ่อแม่เสมอในวันหน้า เป็นเรื่องดีมากๆเลยครับ ดีมาก
9.เคยถามคุณหมอเรื่องเอาลูกไปที่ทำงานแล้วรบกวนเขา คุณหมอแนะนำให้หาศูนย์เด็กเล็กดีๆ หาพบแล้วค่ะ ดีมากๆเลย ลูกชอบ ขอบคุณมากนะคะ
ผมขอบคุณเช่นกัน สมัยใหม่แล้ว เราชั่งน้ำหนักผู้เลี้ยงเสมอครับว่าใครทำได้ดีที่สุด เราเลือกคนนั้น
10.ป2 ไม่ยอมไป รร เขาเคยไปตั้งแต่สองขวบครึ่งไม่มีปัญหาอะไร/
หาก ป2 แล้วเราถือเป็นเรื่องสำคัญ เราไม่ควรอนุญาตให้หยุดแม้แต่วันเดียว การส่งลูกไปเร็วเกินหรือการเร่งเรียนไม่มีพักนำมาสู่เรื่องนี้เสมอๆ ถ้าเป็นมากควรไปพบจิตแพทย์จะมียาช่วยให้คุณแม่ทำงานง่ายขึ้นครับ ให้เขาได้ทำแบบทดสอบทางจิตวิทยาและพบจิตแพทย์สักพัก อย่านิ่งนอนใจเพราะเรื่องจะยากมากขึ้นทุกทีๆ
11.ขัดใจ ตีตนเอง ผู้ใหญ่ว่าเขาก้าวร้าว/
เขาเพิ่ง 2 ขวบเอง อย่าเพิ่งว่าเขาก้าวร้าวเลย ได้โปรด เขากำลังพยายามพัฒนาตนเอง เราควรเมตตาและให้โอกาส การตีตนเองเราไม่อนุญาต ดังนั้นอุ้มออกจากพื้นที่เสมอ ไปนั่งสงบด้วยกันจนกว่าเขาจะควบคุมตนเองได้
แล้วพิจารณาเรื่องการอ่าน-เล่น-ทำงาน มากกว่าเดิมเพื่อให้เขาควบคุมตนเองได้ การทำงานเล็กๆน้อยๆเราเริ่มได้เสมอนะครับ เขาจะชอบมาก
12.2 ขวบครึ่งไม่แบ่งของเล่น ผู้ใหญ่ชอบพูดใส่หน้าเขาว่าเขาเป็นคนเห็นแก่ตัว นิสัยไม่ดี โตมาจะลำบาก แล้วเขาก็ชอบไปเล่นกับเด็กโต 6 ขวบ ถูกแย่งของเล่นไปประจำก็นั่งร้องไห้/
2 ขวบกว่าเท่านั้นเอง อย่าว่าเขาหลายข้อหาเช่นนั้นเลย ได้โปรด เขายังเห็นตนเองเป็นศูนย์กลางเท่านั้นเอง เขาปกติมาก เราควรจัดที่จัดทางให้เขาเล่นคนเดียวหรือเราเองลงไปเล่นกับเขา รอเขาโตแล้วรู้จักแบ่งปันเอง
ส่วนเรื่องเด็กโต จะเห็นว่านี่เป็นคนละดิวิชั่น เราควรป้องกันเขามิให้ถูกกระทำ
พยายามอย่าคาดหวังสูงเช่นนี้เลยครับ เราไม่รีบ
13.ลูกเป็นสมาธิสั้น ADHD กินยาแล้วไม่ดีขึ้นเลย ทำตารางแล้วเขาก็ไม่ทำอะไร อ่าน เล่น ทำงานก็ทำแล้วแต่เขาก็ไม่ดีขึ้น หนูยอมแพ้แล้ว ไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว/
ไม่ยอมแพ้ ผมไม่อนุญาต เอาใหม่นะครับ
-แม่ออกกำลังกายมากที่สุด
-ถ้าง่วง เหนื่อย กินกาแฟดำเข้มๆ ช่วยได้มาก
-กลับไปพบแพทย์ ปรับยา จนกว่าจะดี เราไม่ยอมแพ้
-ทำตารางกิจวัตร แต่เราต้องสละเวลาลงไปทำด้วยกันเสมอ มิใช่สั่งด้วยวาจา
-อ่านนิทานก่อนนอนตรงเวลาทุกคืน แม้เขาจะมีทีท่าไม่ฟัง เราอ่าน
-สละเวลาลงไปเล่นกับเขาบนพื้นดินจริงๆ พาไปเที่ยวเล่นนอกสถานที่ทุกสัปดาห์ ใช้ชีวิตด้วยกัน
-สอนทำงานบ้าน และทำด้วยกันเสมอ ไม่ให้เขาทำคนเดียว
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีมาตรฐานที่ได้ผลแน่นอนอยู่แล้วครับ ไม่ให้แพ้ สมมติคุณแม่บอกว่าต้องไปทำงาน ไม่มีเวลา อาจจะถึงเวลาลาออกจากงานมาหางานทำที่บ้านและดูลูก จะต้องทำอะไรเพื่อให้คำแนะนำทั้งหมดนี้เดินหน้าได้ ก็ต้องทำทั้งนั้น อนาคตที่ดีรอคุณแม่อยู่ คุณแม่ยังไม่เห็นเท่านั้นเอง
คืนนี้ ร้องไห้ให้พอ พรุ่งนี้ เอาใหม่
14.ไทมเอาท์ประจำเลยค่ะ/
ไทมเอาท์ แทบจะเป็นการแก้ปลายเหตุแล้ว ลองถ้าทำเป็นประจำแปลว่าเขาควบคุมตนเองไม่ได้เอาเลย กลับไป อ่าน-เล่น-ทำงาน มากกว่าเดิมนะครับ ดีแน่นอน ไม่ให้ยอมแพ้ เพราะเราชนะใสๆแน่ๆ เขาตัวกะเปี๊ยกเดียว
15.กรี๊ดประจำ ทำตัวหนักนอนพื้นประจำ โวยวายประจำ พูดอะไรก็ไม่ฟัง
-ไป รร เร็วเกินไป
-การบ้านมากเกินไป
-พ่อแม่อยู่บ้านน้อยเกินไป
-ทุกคนในบ้านก้มหน้ามากไป
-เด็กดูจอมากไป
-เด็กเหลือเวลาเล่นบนพื้นดินจริงๆน้อยเกินไป
-เด็กควบคุมตนเองกินข้าว แปรงฟัน อาบน้ำ ได้ช้าเกินไป
พยายามแก้ไขปัจจัยเหล่านี้ให้มากที่สุดนะครับ รับรองว่าอะไรที่เล่ามาจะลดลง
16.”อ้วนๆ มานี่หน่อย” ครูเรียกลูกสาวเสียงดังแบบนี้ประจำ
ไปบอกคุณครูว่ากรุณาไม่เรียกเช่นนั้น ทำได้มั้ยครับ
การละเมิดเด็กด้วยวาจาอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครถือสาเมื่อศตวรรษก่อน วันนี้ไม่ควรทำแล้ว โลกเปลี่ยนไปแล้ว บ้านและ รร ไม่ควรมีใครสักคนละเมิดเด็กด้วยวาจาแบบนี้อีกครับ
17.วัยรุ่น ทำอย่างไรก็ไม่ดี/
-ทำบ้านให้น่าอยู่
-ทำกับข้าวรอเขาทุกวัน
-หยุดพูด หยุดบ่น หยุดตำหนิ
-บอกเขาสั้นๆว่าเราคาดหวังอะไรได้ แต่สั้นๆ
-รอ
5 ขั้นตอนนี้ได้ผลเสมอ ขอให้ทำให้ได้เท่านั้นเอง ส่วนใหญ่แล้วทำไม่ได้ เรื่องจึงไม่จบเสียที
ไว้ใจและให้เกียรติเขา เขาจึงจะกลับคืนมา
18 หากผู้ใหญ่ในบ้านชอบพูดว่า “ทำแบบนี้ พ่อแม่จะไม่รัก” จะมีผลอย่างไรต่อเด็กคะ?
เขาจะไม่ไว้ใจพ่อแม่ เขาจะไม่ไว้ใจโลก เขาจะไม่พัฒนา เราไม่ควรละเมิดเด็กด้วยวาจาเช่นนี้
19.พ่อแม่ที่ขัดแย้งกันเสมอ จะส่งผลเสียอะไรมากมั้ยคะ
มาก เด็กไม่รู้จะฟังใคร เขาจะไม่มั่นคง เขาจะลำบากมาก น่าสงสารมาก
20.พ่อแม่ที่ไม่สามารถเป็นเสาหลักของบ้านได้ จะส่งผลอะไรกับลูกมากมั้ยคะ
มาก พ่อแม่ที่ไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองในบ้าน ทำตัวให้ลูกเห็นอยู่เสมอว่าพ่อแม่ไม่มีอะไรที่ไว้ใจได้ ไม่มีอำนาจที่จะสั่งสอนหรือจัดการเขาได้ เขาจะเสียใจ สั่นคลอน และไม่มั่นคง กระทบพัฒนาการหลายเรื่องเป็นลูกโซ่ พ่อแม่ควรมี authority มากที่สุดในบ้าน อันนี้เป็นหลักการพื้นฐาน
21.เล่นต่อจิ๊กซอว์ดีมั้ยคะ?
จิ๊กซอว์ เสริมความฉลาดปลายปิด concergence
บล๊อคไม้ เสริมความฉลาดปลายเปิด divergence
#QA
21 questions selected 25 March 62
1. parents will break up. What should I tell their kids?
- Parents are friends but they won't be together.
- I will stay with you forever.
- Do not say bad, otherwise you will be in a very difficult condition.
2. kids 4 years old, impatient, angry, uncontrolling themselves /
- Read more bedtime stories to create a real mother. What to listen to.
- Take more time to play with him to drain and grievance.
- teach him how to do chores and always take time to practice his ability to control himself.
3. kids read the post. Doctor bought Sai to play with kids for three days. He is a different person. Very cute. So happy /
It's me. Thank you for stopping by. I'm so glad to hear that I sent photos that I sent.
Haha. I can't practice eating /
Eating by yourself is the same thing in every book. You should practice before 3 years old. Because after that, it will be more difficult to practice. If you use BLW, you are 7-8 months old. According to sit and not choking.
Self-control to eat on the table with adults will help children control themselves in other things. He will be good at many things without having to work. Most people don't believe this, which I regret every time I want to try to do. Because much better for the future of children.
Lol we fight a lot in front of kids /
No fighting in front of kids. Let's go to talk to two to two. Tired from work. Small children have intervention from adults like this. Two of them will adapt to each other. I encourage you that this will be temporary. Give both of you time. A little bit more. Try to help each other in everything. Not too much on others. Time can help. Being together. Being together. Two to two will help two love each other.
Haha. With other people. It's all good but stubborn with mother. Mother is blamed. /
Because mother is the most important thing. The child needs to use mother as a pillar of development. He will test the mother hard until it is real. It's really good. Really good. Really good. So he is really beautiful. So he can be addicted to develop. Other people are just a pass. So much. He is stubborn. It means he wants mom.
Haha. So much smog. Catch Sgt in the room. I don't know what to do with
Doh, coloring, wood block, paper cutting, playing 5 things. Board game can be used with big kids. Checkers across Chess. There are plenty of Chess. This is a golden opportunity.
When can I separate 8. bedrooms?
Separating the bedroom is a cultural issue. There is no psychological issue. You can be separated. You can separate. You can separate whenever you can do what everyone is happy. Be happy. It
Bedroom should be like a table. It's a place where kids are happy forever. He will always come back to parents next day. It's very good. Very good.
Haha. I asked the doctor about taking kids at work and disturbing him. Doctor recommended to find a good small children's center. It's very good. I like it. Thank you very much.
I thank you too. Modern. We always weigh the shepherd who does the best. We choose that
10. th grade. I won't go to school. He has been there since two and a half years old. No
If the 2th year is important, we should not allow for one day off. Sending kids too early or rushing to study. Always bring to this. If it's a lot, you should go to see a psychiatrist, there will be medicine to help mother to work easier. Yes, let him do psychological quiz and see a psychiatrist for a while. Don't be calm because it will be more difficult.
Haha. Interrupted. I hit myself. Adult that he is
He's just 2 years old. Don't say that he is aggressive. Please he is trying to develop himself. We should be kind and give ourselves a chance. We don't allow it. So always carry out of the area. Let's sit in peace together
Consider reading-play-work more than before so that he can control himself. We can always start. He will love it very much.
12.2 and a half years old. I don't share toys. Adults like to say that he is selfish. He is a bad person. He is difficult to grow up and he likes to play with big kids. 6 years old. He is taken by toys
2 years old. Don't say that he is so many charges. Please he still see himself as the center. He is normal. Should we arrange a way for him to play alone or I go down to play with him. Wait for him to grow up and know how to share.
As for the big boy will see that this is different division. We should prevent him from being treated.
Try not to expect this high. We are not in a hurry.
13. kids are short meditation. ADHD. Take medicine and it doesn't get better. He doesn't do anything. Read, play, work, but he doesn't get better. I give up. I don't want to do
If you don't give up, I won't allow it again.
- Mom worked out the most
- If you are sleepy, tired, drinking dark black coffee can help a lot.
- Go back to see doctor. Adjust the medicine until it's good. We don't
- Make a routine schedule, but we always take time to do it together, not order with words.
- Read a bedtime story on time. Even if he has a tendency to not listen to us.
- Take time to play with him on the ground. Take a trip to play outside every week. Live together.
- Always teach him how to do chores and do it together. Not to do it alone.
All of these are the standard methods that work. Not to lose. Assuming that mother has to go to work. I don't have time to quit the job, find a job at home and see what to do to make all these advice. We have to do. Good future. Mother is here. Mother hasn't seen it yet.
Cry enough tonight. Let's do it again tomorrow.
14. Taimout regularly /
Tai-out is almost solving the end of the cause. If you do it regularly, it means he can't control himself. Go back to read-play-work more than before. It's good. It's good not to give up because I will win clear.
Haha. Scream regularly. Being hard. Sleep on the floor regularly. I don't listen to say anything.
- Going to school too early.
- Too much homework.
- Parents at home too little
- Everyone in the house looks down too much
- The kid looks too much
- Kids have too little time to play on the ground.
- Kids control themselves, eat, brush their teeth, shower too late.
Try to fix these factors as much as possible. Guarantee that what I tell you will be reduced.
Haha."Fat, come here" Teacher calls my daughter to be loud like this.
Tell the teacher that please don't call it. Can I do it?
Child abuse may be something that no one considered a century ago today should not do. The world has changed. Home and school should never abuse children with this.
17. Teenagers are not good to do /
- Make a nice house.
- Cooking and waiting for him everyday
- Stop talking, stop complaining, stop blaming.
- Tell him what we can expect but short
- Wait.
These 5 steps always work. I wish I could do it. Most of them can't do it. So it's not over.
Trust and honor him so he will return.
18 If adults in the house like to say "do this, parents won't love" how will it affect children?
He will not trust parents. He will not trust the world. He will not develop. We should not abuse children with words like this.
19. parents who are always controversial. Will it affect each other?
So much. Kids don't know who to listen to. He will be unstable. He will be very
20. parents who can't be the pillar of the house. Will it affect their children?
So much parents who can't be themselves in the house. Always see that parents have nothing to trust, no power to teach or manage them. They will regret and unstable. Many things in the most authority in the house. This is the house. Basic basic
Haha. Should I continue playing puzzle?
Intelligence puzzle
Wood block to enhance intelligence. Open divergence.
#QATranslated
it's nice to hear from you again 在 謙預 Qianyu.sg Facebook 的最佳貼文
《習慣這兩個字》(English writing below)
今天您向自己的命運說了什麼話?
一位師姐買了師父數十本新書,想在自己的臉書送出一部份。她興致勃勃地說要分享師父的直播。
師父斥責她,學佛這麼久,為何不自己寫一篇貼文去介紹書籍,而要用分享功能?
她吞吞吐吐地說:「我不知道要怎麼寫⋯⋯」
師父說,學佛就是教我們如何用腦去思考,懶得用腦而祇會東分享西分享,貪方便貪快走捷徑,根本就沒用心學佛。
後來,我跟這位師姐說,天底下還是有許多男人看不起女人,因為覺得我們女人不怎麼聰明。她先生遲遲不與她在生意合作,也正是因為覺得她沒有這能力。(其實她有許多方面的能力是強過先生的)
想想看,一個女子習慣在自己的臉書上,寫些今天到哪裡玩,明天在哪間咖啡座吃蛋糕,讓他人覺得自己多享受生活。這些都祇是勾起眾生享樂的欲望,引他們去耗掉自己的福份。這女子已當了差不多一輩子的佛教徒。某天,想突破自己習慣,去勸善,教大家如何補福的時候,卻又說不懂、不會、不知道,我做媽的一定很難過,供妳上學讀書二十年,妳都讀了些什麼啊?一個大學生怎麼講出這麼不爭氣的話?!
我有時想,這應該也是為何我們佛教徒「遜色」於基督教徒的原因。在介紹自己的宗教方面,我們好像就沒有他們的膽量和口才。是我們太習慣含蓄和隨緣,而辜負給予我們心靈力量的佛教嗎?
上個週末,在餐館用餐時,聽到一位婦人和家人聚餐時,不停地說:「這些東西在這裡吃好吃,我買食材回去,都沒有煮。為什麼啊?」
然後又自己接著說:「哎呀,習慣了啦,習慣了咯!」
我聽了,頓時覺得有點悲從中來。
多少客人在我面前,講過類似的話,還講得不亦樂乎。有時,我會反問他們:「那你來找我幹嘛?何必浪費我的時間又浪費你自己的錢?我來不是來聽你講這些掃興的話。你要講這樣的話,回家講。
你想想一下,你今天來難道是要我跟你講,對咯,是這樣的啦?既然不是,那你講話要用腦,想過了才講。你看你幾歲的人了。不會講就不要亂講,亂亂講祇會亂了自己的命運,划得來嗎?」
人祇所以會「賤命」,有時是因為自己嘴巴「賤」。
習慣講
「不知道」
「不會」
「不懂」
「沒想過」
「習慣了啦」
「我都那麼老了」
「隨便咯」
「哦,是嗎?」
「沒想那麼遠啦」
「是這樣的嘛」
「認命咯」
「我的命是這樣的」
不知道,要問。
不會,就要學。
不懂,可以多了解。
沒想過,現在去想。
習慣,就要突破盲點。
老了,就不用好命嗎?幹嘛要折磨自己?
隨便?你還嫌你過去一生不夠隨便嗎?
哦,是嗎?是啊,要不然呢?
沒想那麼遠,現在不再想,你就來不及了。
是這樣,也可以是那樣,那樣明明比較好,不要笨得還要這樣。
認命?大哥,你搞錯了,命是拿來「認」識,然後再去改的。
不要死腦筋,以為命運是這樣就沒別的路可以走。
今早,我向一位舊客人說:「你有沒有想過你的婚姻這樣這樣,也會影響到你的孩子將來會以為婚姻就是這樣?」
他答:「我沒有想過。」
我們的命運,會牽連身邊很多的人,包括自己的最愛。
習慣說某種話,也是從一個念頭開始的。
而念頭是可以改變的。
走出去,就有路。念頭轉一下,就有生機。
還有七天便進入2019年了,我祝願大家,不要怕吃苦,不要抗拒改變習慣,不要敗給自己的命運。
無論前面的山有多高,無論前面的路有多崎嶇,有我的幫忙,你一定能夠平安喜樂的度過。這是我給妳你的保證。
⋯⋯⋯⋯⋯⋯⋯
What have you told your Destiny today?
A Dharma Sister bought tens of Shifu's new book. She wanted to give out some of them through her Facebook platform and was telling Shifu how she would do it by sharing his FB Live.
Unexpectedly, Shifu reprimanded her. Since she had been learning the Dharma for a period of time, why didn't she try writing a post to introduce the book, but instead take to using the share function?
Most of us would know that sharing on FB doesn't generate much interest as posts we write ourselves.
She hesitantly replied, "I don't know how to write..."
Shifu said, to learn the Dharma is to learn how to use our brains to think. If we are lazy to exercise our brain conigitive ability, and resort to taking the shortcut u sharing here and there, for the sake of convenience and speed, then we have actually never put our heart in learning the Dharma.
Later on, I also told this Dharma Sister that in this world, there were still many men who looked down on women for our perceived lack of intelligence. Her Husband had hesitated to work together with her in his business because he felt she lacked the ability. Fact was, there were many areas she excelled in compared to her Husband.
Think about this, a lady, who is used to writing on her Facebook where she went to play today and which cafe she is going tomorrow to have cake, is just conveying how much she is enjoying her life. All these will only evoke the desire of hedonism in others, luring them to exhaust their good fortune.
Say one day, this lady has a momental thought to do good and preach about it. She haa been a Buddhist almost all her life. She wants to change her habitual FB posts to one that teaches others how to top up their good fortune, but that momental thought is swiftly replaced with a "I don't know how". If I am her mother, I would be so upset. Having funded her through school for 20 years, what had she been studying? How can a university graduate utter such disappointing words?
I sometimes think this is why we Buddhists often "lose" to our Christian counterparts. They seem to be more fearless and eloquent in talking about their religion than us Buddhists. Are we too used to being docile, that we let down the religion that helped us up?
Last weekend, while dining in a restaurant, I overheard the conversation of one elderly who was having dinner with her family.
She was saying this repeatedly, "This food is so nice when I eat here. When I buy the raw ingredients back to cook, I just never get about doing it. Why hah?"
And then she continued her monologue, "Aiyah, it's a habit lah. Habit already lah!"
Upon hearing it, I felt a momentary sense of grief.
So many clients have said something similar in front of me, and some of them seemed to get so much joy in saying it, as if it justifies everything that have happened in their lives.
Sometimes, I would ask them, "Then why do you look for me? Why waste my time and your money? I come all the way here not to hear you speak in this killjoy manner. If you want to talk like this, do it at home.
Think about this for a minute. Did you come here today to hear me say, yeah, it's like this lah? No, right? Then use your brain before you speak. Look at how old you are now. If you don't know how to say, don't talk nonsensically. This will only mess up your Destiny. Will it be worth it?
Sometimes, the reason why a person has a lousy Destiny is because he or she has a lousy way of speaking.
He or she habitually says things like,
"Don't know."
"Don't know how."
"Don't understand."
"Never thought of it before."
"I'm used to it."
"I'm so old already!"
"Whatever"
"Oh, is it?"
"Got to succumb to life."
"My Destiny is like this."
If you don't know, you must ask.
If you don't know how, then you should learn.
If you don't understand, you can go figure it out.
If you never think about it before, think about it now.
If you are used to something, it's time to breakthrough from your blind points.
So what if you are old? Does that mean there's no need to have a better life? Why choose to torture yourself when you can have better fortune?
Whatever? You think you have not been "whatever-ing" enough? Look where you end up now.
Oh is it? Yes it is. Abo then?
If you have planned ahead, it's time to do so now before it's too late
It's like this? It can also be like that. When "that" is better, don't be foolish to continue like "this".
Succumb to your Destiny? Our destiny is for us to recognise ourselves, and then turn things around.
Don't be blockheaded and think that there is no other way out of your Destiny.
For this who think it's troublesome to change, let me tell you this, your mindset is going to haunt you in your many subsequent rebirths. If you don't get rid of your limiting beliefs, it will be more painful to live the same Destiny, again and again and again.
This morning, I was asking an old client, "Have you ever thought that your marriage like this will influence your child, into thinking that marriages are supposed to be like this?"
His reply, "I never thought of it."
Our destiny has huge repercussions on the many people around us, including our loved ones.
Our habit of saying something begins from a thought.
And a thought can always be changed .
You will find a road ahead when you decide to take the first step and walk out.
You will find Spring again when you can turn your thoughts around.
7 more days before 2019 rolls in. I wish that you will not be afraid of hardship, not be resistant to changing your habits, and most importantly, not to be defeated by your own Destiny.
No matter how high the mountain is, no matter how windy the road ahead may be, with my help, you can always cross your hurdles with ease and joy. That is my assurance to you.
it's nice to hear from you again 在 it was nice to hear ur voice - YouTube 的必吃
buttxrfly - heaven in a waySADTRAP5.MP4 : footage from my favorite beach during my trip to Australia. Did alot of deep thinking out on that ... ... <看更多>