รู้จักเรื่องราวของ Kildall ที่เสียโอกาสทองให้ Bill Gates ไปอย่างน่าเสียดาย /โดย ลงทุนแมน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Microsoft Windows” เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาด ที่มากถึง 83%
นวัตกรรมดังกล่าว กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft อย่าง “Bill Gates” กลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐี ที่รวยที่สุดในโลกมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเขามีทรัพย์สินมากถึง 4.4 ล้านล้านบาท
โดยจุดเริ่มต้นของ Microsoft Windows เกิดจากการที่บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลกขณะนั้นอย่าง IBM เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ PC และกำลังตามหาบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ ซึ่ง IBM ก็ได้เลือกทำสัญญากับบริษัท Microsoft ที่ในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้ 5 ปี
แต่รู้หรือไม่ว่านอกจาก Bill Gates แล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์อัจฉริยะอีกคน ที่เกือบได้เป็นผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ให้กับ IBM และอาจจะกลายมาเป็นแบบ Bill Gates ในทุกวันนี้
แล้วเขาคนนั้น คือใคร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อัจฉริยะที่เกือบได้เป็น Bill Gates คนนั้น มีชื่อว่า “Gary Kildall”
Kildall เกิดในปี 1942 ที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา
แต่เดิม Kildall ตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบมาจะเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ แต่ระหว่างเรียนระดับปริญญาตรีเขาเริ่มสนใจเรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Kildall จึงเรียนต่อจนถึงระดับปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
ในปี 1971 ช่วงที่ Kildall กำลังเรียนปริญญาเอก เขาได้ยินมาว่า Intel จะเปิดตัว ไมโครโพรเซสเซอร์ตัวแรกของโลกที่ชื่อว่า “Intel 4004”
ไมโครโพรเซสเซอร์ ก็คือชิปขนาดเล็กที่มีแผงวงจรรวมจำนวนมหาศาล
ซึ่งนวัตกรรมนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่เดิมมีขนาดใหญ่ นิยมใช้กันแต่ในองค์กร มีขนาดเล็กลง จนเป็นไมโครคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในเวลาต่อมา
ด้วยความที่ Kildall สนใจเรื่องราวของไมโครโพรเซสเซอร์เป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเข้าไปทำงานพาร์ตไทม์เป็นที่ปรึกษาให้กับ Intel ซึ่งหลัก ๆ แล้ว Kildall จะพัฒนาและเขียนโปรแกรมที่ใช้งานร่วมกับไมโครโพรเซสเซอร์ของ Intel ได้
จากจุดเริ่มต้นนี้ Kildall ก็ได้ต่อยอดจนสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์
ที่ชื่อว่า “CP/M” ที่นับว่าเป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แรกของโลก
โดยก่อนหน้าที่จะมี CP/M คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องบนโลกจะต้องใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาของใครของมัน แต่ Kildall ได้พัฒนา CP/M ให้เป็นระบบปฏิบัติการกลาง ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
แรงผลักดันในการพัฒนา CP/M และผลงานอื่น ๆ ของ Kildall เกิดขึ้นจากความหลงใหลในคอมพิวเตอร์
เพราะจริง ๆ แล้ว Kildall ไม่เคยสนใจเรื่องธุรกิจเลย แต่ภรรยาของเขาก็ได้โน้มน้าวให้จัดตั้งบริษัทเพื่อจดสิทธิบัตรระบบปฏิบัติการและทำธุรกิจจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ ทั้งคู่เลยร่วมกันก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า “Digital Research”
ลูกค้าที่เลือกใช้ CP/M ของ Digital Research ก็เช่น IMSAI 8080 ไมโครคอมพิวเตอร์ชื่อดัง ที่เปิดตัวในปี 1975 ซึ่งทำออกมาแข่งกับไมโครคอมพิวเตอร์รุ่นตำนานอย่าง Altair 8800 ของบริษัท MITS
โดย Altair 8800 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านั้น 1 ปี ยังใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาใช้เฉพาะรุ่น ชื่อว่า BASIC ซึ่งซอฟต์แวร์นี้เองก็เป็นผลิตภัณฑ์แรก ๆ ของบริษัทซอฟต์แวร์น้องใหม่ที่ก่อตั้งโดยชายวัย 20 ปี ที่ชื่อว่า “Bill Gates” ซึ่งเขาได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแล้วชวนเพื่อนมาตั้งบริษัท “Microsoft”
มาถึงในปี 1976 บริษัท Apple ก็ได้ปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นแรก ๆ ของโลกที่ชื่อว่า Apple I ก่อนที่ในปีถัดมาจะประสบความสำเร็จจาก Apple II ซึ่งบริษัท Apple เรียกว่าเป็น Home Computer ที่คนทั่วไปใช้งานได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์
นั่นเลยทำให้ Apple II ได้รับความนิยมสูงมากและสามารถลบคำสบประมาทที่คนมักเถียงกันว่าคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับคนที่คลั่งไคล้ในคอมพิวเตอร์เท่านั้น คนทั่วไปคงไม่สนใจซื้อมาใช้งาน
ความสำเร็จของ Apple ก็ทำให้บริษัทเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลกในขณะนั้นอย่าง IBM อยากเข้ามาร่วมในตลาดคอมพิวเตอร์สำหรับคนทั่วไปบ้าง
ในปี 1980 IBM จึงได้เริ่มออกแบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเรียกว่า Personal Computer หรือ PC แทน Home Computer แบบ Apple เพราะ IBM ไม่ได้มองว่าคอมพิวเตอร์จะต้องใช้แค่ที่บ้าน แต่จะถูกใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่านั้น อย่างเช่นการนำไปใช้งานตามออฟฟิศ
IBM ต้องการทำให้ PC เริ่มวางขายได้เร็วที่สุด IBM จึงโฟกัสที่การออกแบบฮาร์ดแวร์โดยใช้ชิปของ Intel ส่วนซอฟต์แวร์อย่างระบบปฏิบัติการ ทางบริษัทจะจ้างบริษัทขนาดเล็กพัฒนาแทน โดยหนึ่งในบริษัทที่ IBM ติดต่อไปก็คือ Microsoft ซึ่งในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้เพียง 5 ปี
IBM เดินทางไปที่ออฟฟิศของ Microsoft ซึ่งเมื่อไปถึง IBM ได้ให้ Gates เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล เพราะ IBM ต้องการเก็บเรื่องที่กำลังพัฒนา PC ไว้เป็นความลับ
หลังจากนั้น IBM ก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ Gates ฟัง
แต่โชคร้ายที่ตอนนั้น Microsoft ยังไม่ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
Gates จึงได้แนะนำกับ IBM ว่าให้ไปหา Kildall แห่งบริษัท Digital Research ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ไว้แล้ว IBM ตัดสินใจเดินทางไปพบ Kildall ที่ซีแอตเทิลทันที
Gates โทรไปบอก Kildall ว่าจะมีคนสำคัญมากไปพบ ให้ปฏิบัติกับพวกเขาดี ๆ
แต่ Gates เล่ารายละเอียดให้ฟังไม่ได้เพราะติดสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลกับ IBM
Kildall ไม่รู้เลยว่ากลุ่มคนที่กำลังมาพบเขา จะมาจากบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลก
ซึ่งเขากลับคิดว่าคนที่ Gates เล่าถึงจะเป็นเพียงกลุ่มคนที่มาจากบริษัทขนาดเล็ก
เขาจึงไม่ได้สนใจมากนักและเขาก็ได้ขับเครื่องบินส่วนตัวไปอีกเมือง ซึ่งจนถึงตอนนี้ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเขาไปขับเครื่องบินเล่นเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือไปติดต่องานทางธุรกิจกันแน่
นั่นจึงทำให้เมื่อ IBM ไปถึงออฟฟิศบริษัท Digital Research ทีมงานจึงได้เจอแต่เพียงภรรยาของ Kildall ซึ่งก่อนที่ทีมงานจาก IBM จะแนะนำตัวและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการให้ฟัง
ทาง IBM ก็ได้ขอให้ภรรยาของ Kildall เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลก่อนเหมือนกับที่ให้ Gates เซ็น แต่ภรรยาของ Kildall ยังไม่ยอมเซ็นสัญญา
ซึ่งสาเหตุที่เธอไม่ได้เซ็นก็เพราะว่าเธอรู้สึกเหมือนโดนบังคับ
รวมถึงเธอก็อยากรอ Kildall กลับมาพูดคุยเองมากกว่า
ส่วนทาง IBM ก็เริ่มหัวเสียที่เธอไม่ยอมเซ็นสัญญา ทีมงานจาก IBM ก็รอต่อไปไม่ไหว
สุดท้ายแล้ว IBM จึงเดินทางกลับไปโดยยังไม่ทันได้เล่ารายละเอียดเรื่องระบบปฏิบัติการให้ฟัง..
หลังจากนั้น IBM เลยติดต่อไปหา Gates อีกครั้ง
Gates เห็นว่าโปรเจกต์ PC ของ IBM กำลังจะเปลี่ยนตลาดคอมพิวเตอร์ทั่วโลกครั้งใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ของเราให้มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นแบบก้าวกระโดด
Gates เลยบอก IBM ไปว่า Microsoft สามารถทำระบบปฏิบัติการให้ได้
ทั้งที่ความจริงแล้ว ในตอนนั้น Microsoft ยังไม่มีอะไรเลย
ทางออกเดียวที่ Microsoft จะมีระบบปฏิบัติการไปเสนอให้ IBM ได้ทันเวลาก็คือ การควานหาผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการไว้แล้วและไปซื้อต่อมา
Microsoft ไปเจอว่ามีโปรแกรมเมอร์ที่ชื่อว่า Tim Paterson ซึ่งทำงานในบริษัทเล็ก ๆ ที่ชื่อ Seattle Computer ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Q-DOS
หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft จึงเดินทางไปพบ Paterson เพื่อเจรจาขอซื้อ Q-DOS และดึงตัว Paterson มาเพื่อดัดแปลง Q-DOS ให้เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพื่อขายให้ IBM
โดยใช้ชื่อว่า “MS-DOS” โดยที่ Microsoft ไม่รู้ว่า Q-DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ Paterson เลียนแบบและดัดแปลงมาจาก CP/M ของ Kildall
IBM ตกลงซื้อ MS-DOS ของ Microsoft แต่แทนที่ Microsoft จะขายระบบปฏิบัติการแบบครั้งเดียวจบ Gates เสนอกับทาง IBM ว่าให้ Microsoft ได้รับส่วนแบ่งจากทุกเครื่อง PC ที่ทาง IBM ขายได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ Gates เคยใช้มาแล้วตอนเขียนซอฟต์แวร์ให้ไมโครคอมพิวเตอร์ Altair 8800
ความนิยมของ PC จาก IBM ก็เป็นไปตามที่ Gates คาด เพราะหลังจากที่ “IBM PC” เปิดตัวในเดือนสิงหาคม ปี 1981 ผ่านไป 2 ปีแรก IBM PC สามารถขายได้กว่า 2 ล้านเครื่อง เกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เกือบ 10 เท่า
และด้วยความที่ IBM PC มีราคา คิดเป็นเพียง 2 ใน 3 ของ Apple จึงทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกนำไปใช้กันทั่วไปในสำนักงาน จน IBM สามารถเอาชนะ Apple และกลายมาเป็นผู้ผลิต PC ที่ใหญ่สุดในโลกได้
แต่จุดอ่อนของ IBM PC ก็คือตัวเครื่องไม่มีอะไรซับซ้อนและเลียนแบบได้ง่าย
จึงทำให้ในเวลาต่อมา แบรนด์อื่นอย่างเช่น Compaq และ HP ซึ่งก็เป็นผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์เหมือนกันสามารถทำตามได้ ในขณะที่เจ้าของซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft ก็ไม่เคยตกลงว่าจะขายระบบปฏิบัติการให้ IBM เจ้าเดียว..
Microsoft เลยสามารถขาย MS-DOS ให้กับคู่แข่งของ IBM ได้ทั้งหมด
ซึ่ง Microsoft ก็ยังใช้วิธีเดิมคือคิดส่วนแบ่งจาก PC ทุกเครื่องที่ขายได้
แต่สุดท้ายแล้ว ของเลียนแบบก็คือของเลียนแบบ
เพราะในภายหลัง MS-DOS ที่ดัดแปลงมาจาก Q-DOS ถูกพบว่าเป็นของที่เลียนแบบมาจาก CP/M ของ Kildall
พอ Kildall รู้ เลยจะฟ้องร้อง IBM และ Microsoft ว่าลอกเลียนแบบผลงาน
IBM ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เลยยอมวางขายระบบปฏิบัติการทั้ง 2 ยี่ห้อไปพร้อมกัน Kildall ดีใจได้เพียงไม่นาน ก็ต้องพบว่าราคาขาย CP/M ของเขา แพงกว่า MS-DOS ถึง 6 เท่า
ของคล้ายกันที่ใช้ทดแทนกันได้ แต่มีราคาต่างกันถึง 6 เท่า แถมคนส่วนใหญ่ได้รู้จักและลองใช้ MS-DOS มาก่อนจึงเริ่มคุ้นเคยและไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นที่ต้องลองอีกยี่ห้อหนึ่ง สุดท้ายแล้ว CP/M จึงหายไปจากตลาด
Microsoft จึงกลายเป็นผู้ชนะไป ซึ่งในเวลาต่อมา MS-DOS ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “Microsoft Windows” ที่ได้เปิดตัวในปี 1983 ก่อนที่จะเริ่มวางขายจริงในปี 1985
หลังจากพลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของ Kildall เขาได้หย่ากับภรรยา และใช้ชีวิตอยู่กับความสิ้นหวัง จนท้ายที่สุด เขาก็ได้จบลงที่กลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์ตั้งแต่นั้นมา
ส่วนบริษัท Digital Research ก็ถูกขายให้กับบริษัท Novell ในปี 1991
จนกระทั่งในปี 1994 Kildall ในวัย 52 ปี ก็เสียชีวิตลง จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในบาร์ ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 ปีก่อนที่ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 95 จะเปิดตัวและดังระเบิดไปทั่วโลก
ซึ่งก็น่าคิดเหมือนกันว่าหากวันนั้น Kildall ใส่ใจในสิ่งที่ Bill Gates พูดสักนิด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ จะมีเส้นทางที่ต่างจากเดิมมากแค่ไหน
Kildall อาจกลายเป็นมหาเศรษฐีคล้าย Bill Gates
Bill Gates อาจจะไม่ได้โปรเจกต์นั้น และ Windows คงไม่เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
เส้นทางที่เป็นไปแล้วก็คือ ทุกคนรู้จัก Windows และไม่รู้จัก CP/M..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2004-10-24/the-man-who-could-have-been-bill-gates
-https://www.forbes.com/forbes/1997/0707/6001336a.html?sh=65404ead140e
-https://www.theguardian.com/technology/blog/2004/oct/16/themanwhocou
-https://www.embedded.com/was-dos-copied-from-cp-m/
-https://medium.com/@Harasees_Singh/gary-kildall-the-inventor-of-operating-system-ccae7bb50e46
-https://bookjelly.com/the-tragic-story-of-gary-kildall/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Gary_Kildall
同時也有396部Youtube影片,追蹤數超過15萬的網紅Gina music,也在其Youtube影片中提到,Don't forget to turn on the bell icon for future uploads 🔔✔️ 西洋音樂愛好者✨這裡不會有冗長的介紹文卻是個讓你挖歌的好地方😎 追蹤Gina music社群挖掘更多音樂🌹 facebook👉 https://www.facebook.com...
「instagram story download」的推薦目錄:
- 關於instagram story download 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於instagram story download 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於instagram story download 在 貓的成長美股異想世界 Facebook 的最讚貼文
- 關於instagram story download 在 Gina music Youtube 的最佳解答
- 關於instagram story download 在 竹渕慶 / Kei Takebuchi Youtube 的最讚貼文
- 關於instagram story download 在 Yunny Hou Youtube 的最佳解答
- 關於instagram story download 在 How to Download Videos, Photos, Stories From Instagram in ... 的評價
- 關於instagram story download 在 How To Save/Download Instagram Story WITH MUSIC?! (2022) 的評價
- 關於instagram story download 在 How to Download Instagram Story Highlights - YouTube 的評價
- 關於instagram story download 在 instagram story video download - Pinterest 的評價
- 關於instagram story download 在 How to share a YouTube video on Instagram as a post or Story 的評價
instagram story download 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
เศรษฐีรวยสุดในเอเชีย มีน้องชาย เป็นบุคคลล้มละลาย ได้อย่างไร ? /โดย ลงทุนแมน
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Mukesh Ambani เจ้าของ Reliance Industries กลุ่มธุรกิจที่ใหญ่สุดในอินเดียและเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเอเชีย มีน้องชายชื่อ Anil Ambani
สำหรับน้องชายของมหาเศรษฐีคนนี้ ก็เป็นเจ้าของธุรกิจที่แยกตัวออกมาจาก Reliance Industries ของพี่ชาย มีชื่อบริษัทว่า Reliance ADA Group
ในปี 2008 Mukesh Ambani มีทรัพย์สิน 1.4 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 5 ของโลก
ในขณะที่ Anil Ambani ตามมาติด ๆ ด้วยทรัพย์สิน 1.37 ล้านล้านบาท และรวยเป็นอันดับ 6 ของโลก
โดยในปีนั้น เศรษฐี 4 อันดับแรกของโลก ได้แก่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (อเมริกัน), คาร์ลอส สลิม (เม็กซิโก),
บิลล์ เกตส์ (อเมริกัน) และลักษมี นิวาส มิตตัล (อินเดีย)
หลังจากผ่านไป 13 ปี Mukesh Ambani มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านล้านบาท
กลายมาเป็นมหาเศรษฐีรวยสุดในอินเดียและเอเชีย และรวยเป็นอันดับ 10 ของโลก
แต่ในปี 2019 Ambani คนน้องกลับมีทรัพย์สิน เพียง 5.6 หมื่นล้านบาท
จนล่าสุด มีหลายคนกล่าวว่าความมั่งคั่งตอนนี้ของ Ambani คนน้อง ลดลงจนเกือบเป็นศูนย์
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับน้องชาย ของคนที่รวยสุดในเอเชีย ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปในปี 1948 หรือเมื่อ 73 ปีก่อน ชายชาวอินเดียวัย 16 ปี
ที่ชื่อ Dhirubhai Ambani ได้ตัดสินใจเดินทางออกจากบ้านเกิดไปทำงานที่ประเทศเยเมน
ผ่านไป 10 ปี Dhirubhai กลับมาที่อินเดียพร้อมกับเงินเก็บ เพื่อมาเริ่มสร้างธุรกิจเอง
Dhirubhai เริ่มจากการนำเข้าเส้นใยสังเคราะห์และส่งออกเครื่องเทศ ก่อนจะเริ่มทำธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งก็เติบโตอย่างรวดเร็ว จน Dhirubhai ได้ขยายกิจการไปในอุตสาหกรรมอื่น และเปลี่ยนมาใช้ชื่อบริษัทว่า “Reliance Industries” ในปี 1973
Reliance Industries สามารถ IPO ได้ในปี 1977 ซึ่งหุ้นของบริษัทก็มีชาวอินเดียสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดเคยจัดประชุมผู้ถือหุ้นที่สเตเดียม
ตั้งแต่ที่กิจการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว Dhirubhai ก็เริ่มให้ลูกชายทั้ง 2 คนของเขา เข้ามาช่วยบริหารงานที่บริษัท
Mukesh Ambani ลูกชายคนโต เป็นประธาน
Anil Ambani ลูกชายคนรอง เป็นกรรมการผู้จัดการ
แต่แล้วในปี 2002 Dhirubhai ได้เสียชีวิตลงและได้ทิ้งกิจการ Reliance Industries ไว้กับลูกชายทั้ง 2 คน
Dhirubhai ที่จากโลกนี้ไปไม่ได้ทำพินัยกรรมและข้อตกลงแบ่งกิจการให้กับลูกแต่ละคนไว้ ซึ่งเขาก็คงไม่คิดว่า จะเกิดปัญหาตามมา
โดยปัญหาที่ว่านั้นเริ่มเกิดขึ้นเพราะลูกชายทั้ง 2 คน ที่เริ่มเข้าทำงานและมีบทบาทในบริษัทมาพร้อม ๆ กัน
กลับตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเป็นเจ้าของและใครจะดูแลและรับผิดชอบบริษัทไหนบ้าง
สุดท้ายแล้ว ในช่วงปี 2004 ถึง 2005 ผู้เป็นแม่ต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
โดยการจ้างบุคคลที่ 3 ให้เข้ามาจัดการเรื่องการแยกบริษัทออกจากกันไปเลย
Mukesh Ambani คนพี่ได้ธุรกิจหลักคือปิโตรเลียม ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการขยายกิจการในส่วนนี้มาตั้งแต่แรก และยังได้ธุรกิจอื่น ๆ อย่างเช่นปิโตรเคมี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจยุคเก่า โดยกลุ่มบริษัทของ Mukesh ใช้ชื่อว่า Reliance Industries
Anil Ambani คนน้องได้ธุรกิจหลักคือ Reliance Communications ธุรกิจโทรคมนาคมที่เพิ่งเริ่มกิจการได้ไม่นาน แต่ก็กลายเป็นบริษัทเทเลคอมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอินเดีย ซึ่งแม้ว่า Mukesh จะมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่ต้น แต่ Anil ก็อยากได้ธุรกิจนี้เช่นกัน
นอกจากธุรกิจเทเลคอมแล้ว กิจการอื่นที่ Anil Ambani ได้รับไปดูแลอีกก็อย่างเช่น ธุรกิจพลังงาน และบริการทางการเงิน ซึ่งส่วนมากจะเป็นธุรกิจยุคใหม่ โดยกลุ่มธุรกิจของ Anil Ambani ใช้ชื่อว่า “Reliance ADA Group”
หลังจากจบเรื่องการแบ่งธุรกิจแล้ว แต่ละคนก็เริ่มต่อยอดธุรกิจตามเส้นทางของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น
Mukesh Ambani เริ่มทำธุรกิจค้าปลีกในปี 2006 จน Reliance Retail กลายมาเป็นธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่สุดในอินเดีย
ในขณะที่ Anil Ambani ก็ได้ต่อยอดทำธุรกิจบันเทิง อย่างเช่นในปี 2005 ได้ซื้อบริษัท Adlabs Films ที่เป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ Big Cinemas ซึ่งกลายมาเป็นโรงภาพยนตร์ที่มีสาขามากสุดในอินเดียในอีก 3 ปีถัดมา
ในปี 2008 Reliance Entertainment ของ Anil Ambani ก็ได้เซ็นสัญญากับบริษัทผลิตภาพยนตร์ DreamWorks ของผู้กำกับ Steven Spielberg ซึ่งได้ร่วมผลิตภาพยนตร์ที่ได้รางวัลมากมาย อย่างเช่น The Help และ Lincoln
และปีเดียวกันนี้ Anil Ambani ก็ได้นำบริษัทพลังงานอย่าง Reliance Power จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยมูลค่าการระดมทุนที่สูงเป็นประวัติการณ์ในขณะนั้น
ผ่านไป 6 ปีหลังจากการเสียชีวิตของ Dhirubhai
ดูเหมือนว่าลูกชายของเขาทั้งคู่ก็ต่อยอดกิจการไปได้อย่างสวยงาม
จนทำให้ในปี 2008 Mukesh มีทรัพย์สิน 1.4 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 5 ของโลก และ Anil มีทรัพย์สิน 1.37 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 6 ของโลก
แต่หลังจากนั้น เส้นทางความมั่งคั่งของพี่น้องคู่นี้ กลับเริ่มมีทิศทางที่สวนทางกัน
คนพี่รวยขึ้น ส่วนคนน้องความมั่งคั่งหายไปเกือบหมด
แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ?
เรื่องทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นมาจากเงินที่บริษัท Reliance Power ของ Anil Ambani ได้มาจากการ IPO มีแผนจะใช้สร้างโรงไฟฟ้าที่ส่วนใหญ่จะผลิตจากก๊าซ
โดยก๊าซที่ Reliance Power ใช้ ก็มาจากบริษัทก๊าซธรรมชาติในเครือ Reliance Industries ของ Mukesh นั่นเอง
ซึ่งในตอนที่แยกบริษัทกัน สองพี่น้องก็ได้เซ็นสัญญาว่าบริษัทก๊าซของ Mukesh Ambani จะขายก๊าซให้โรงไฟฟ้าของน้องชายที่ราคาหนึ่ง
แต่ในวันที่โรงไฟฟ้าสร้างใกล้จะเสร็จและถึงเวลาที่พี่ชายจะขายก๊าซให้กับน้อง ราคาก๊าซในตลาดโลกกลับเพิ่มสูงขึ้นไปเกือบเท่าตัว
Anil Ambani จึงต้องการซื้อก๊าซในราคาที่ตกลงกัน เพื่อที่จะไม่ต้องเผชิญต้นทุนก๊าซที่สูงขึ้น
แต่ทาง Mukesh Ambani ไม่สามารถขายก๊าซตามราคาที่ตกลงกันไว้ได้เพราะบริษัทของเขาจะขาดทุน
แต่แทนที่จะเจรจาตกลงกัน Anil Ambani กลับเลือกที่จะยื่นฟ้องบริษัทพี่ชายในปี 2010 เพื่อให้ซื้อก๊าซได้ในราคาเดิมที่เคยตกลงกัน
แต่ศาลก็ได้มีคำสั่งให้ Anil Ambani ซื้อก๊าซในราคาใกล้เคียงกับราคาตลาดโลก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายราคาก๊าซของประเทศ
สุดท้ายแล้ว Anil Ambani ที่ต้องแบกรับต้นทุนก๊าซเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จึงไม่สามารถจัดหาก๊าซเพื่อไปใช้ผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าที่สร้างรอไว้แล้วได้
Reliance Power จึงกลายเป็นบริษัทที่มีหนี้มหาศาล จนต้องขายทรัพย์สินและกิจการบางส่วนออกไป เพื่อเอามาใช้หนี้ ซึ่งรวมถึงกิจการโรงภาพยนตร์ Big Cinemas ที่ซื้อมาเมื่อปี 2008 ด้วย
แต่ความผิดพลาดทางธุรกิจของ Anil Ambani ยังไม่ได้จบลงแค่นี้ เพราะเรื่องราวที่ร้ายแรงกว่านั้น เกิดขึ้นกับธุรกิจโทรคมนาคมอย่าง Reliance Communications (RCom)
ในปี 2002 ซึ่งเป็นช่วงที่ RCom เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ RCom เลือกใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่เรียกว่า CDMA ซึ่งใช้เงินลงทุนน้อยกว่า ขณะที่บริษัทคู่แข่งอย่างเช่น Airtel เลือกใช้เทคโนโลยีที่ชื่อ GSM
แม้เทคโนโลยีทั้ง 2 แบบจะใช้ได้ดีกับ 2G และ 3G เหมือนกัน แต่ปัญหาก็คือ CDMA ที่ RCom เลือกใช้ ไม่สามารถรองรับ 4G และ 5G ได้แบบ GSM ที่เหล่าคู่แข่งเลือกใช้
นั่นจึงทำให้ช่วงเวลาที่ทั่วโลกเปลี่ยนผ่านจาก 3G มาเป็น 4G อย่างรวดเร็ว RCom เลยตามคนอื่นไม่ทัน จน RCom กลายเป็นบริษัทที่เริ่มมีหนี้มากขึ้น
และจุดพลิกผันครั้งใหญ่ของ RCom รวมไปถึงทั้งอุตสาหกรรมเทเลคอมของอินเดีย ก็เกิดขึ้นในปี 2016
เมื่อ Mukesh Ambani ได้ก่อตั้งบริษัทย่อยของ Reliance Industries ในชื่อ “Jio” ซึ่งเป็นบริษัท
ที่เน้นบริการด้านเทคโนโลยี รวมถึงการให้บริการโทรคมนาคมแบบเดียวกับ RCom ด้วย
ด้วยชื่อเสียงของ Reliance Industries ก็ทำให้ Jio มีจำนวนผู้ใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กำไรของบริษัทที่เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอย่าง Airtel ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้อีก 2 บริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดรองลงมาอย่าง Vodafone และ Idea ต้องควบรวมกิจการกัน
ในเวลาต่อมาบริษัท Jio ของ Mukesh Ambani ก็กลายมาเป็นบริษัทเทเลคอมที่ใหญ่สุดในอินเดีย ส่วน RCom ของ Anil ที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ก็หายไปจากการแข่งขันในตลาดเทเลคอม จนทำให้บริษัทขาดทุนและกลายเป็นหนี้มหาศาล
RCom ต้องยอมขายสินทรัพย์ของกิจการบางส่วนให้กับ Jio เพื่อลดหนี้
แต่นั่นก็ยังไม่ช่วยให้สถานการณ์ของ RCom ดีขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 RCom ได้ทำข้อตกลงกับ Ericsson โดยจ้างให้ Ericsson มาเป็นผู้บริหารเครือข่ายในบริเวณทางเหนือและตะวันตกของอินเดีย แต่ผลจากการขาดทุนต่อเนื่องก็ทำให้ RCom ไม่มีเงินจ่ายให้ Ericsson ตั้งแต่ปี 2016
RCom ติดหนี้ Ericsson 2.46 พันล้านบาท ซึ่ง RCom ก็ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ตามกำหนด และขอเลื่อนเวลาการจ่ายหนี้ออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งสุดท้ายแล้ว RCom จ่ายหนี้ได้เพียง 528 ล้านบาท นำไปสู่การถูกฟ้องร้องในเวลาต่อมา
ศาลสูงสุดจึงมีคำตัดสินว่า ถ้าภายใน 1 เดือน RCom ยังจ่ายหนี้ให้ Ericsson ไม่ได้ Anil จะต้องถูกจำคุก 3 เดือน
สุดท้ายแล้วพี่ชายของ Anil Ambani อย่าง Mukesh ก็เข้ามาช่วย
โดยการจ่ายหนี้ที่เหลือ มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาทให้
ในขณะที่ บริษัท RCom ก็ต้องยื่นล้มละลาย
แต่เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น เพราะ RCom ยังมีหนี้ก้อนใหญ่อีกก้อน ที่กู้ยืมมาจาก 3 ธนาคารขนาดใหญ่ของจีน ทั้ง ICBC, China Development Bank และ EXIM Bank of China เป็นมูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท
ทั้ง 3 ธนาคารจึงยื่นฟ้อง RCom และ Anil Ambani..
ช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่ง Anil ได้พูดระหว่างพิจารณาคดีออนไลน์กับศาลของประเทศอังกฤษว่า เขาไม่มีเงินใช้หนี้ เพราะความมั่งคั่งของเขาตอนนี้ใกล้จะเป็นศูนย์แล้ว.. ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเขาจะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้
จากความขัดแย้งเพื่อแย่งกิจการกันเองในครอบครัว บวกกับการบริหารธุรกิจที่ผิดพลาด การทุ่มเงินลงทุนขนาดใหญ่แต่ได้ผลลัพธ์แย่กว่าที่คาด ทำให้บริษัทก่อหนี้ก้อนโต
ทั้งหมดนี้ก็ได้ส่งผลไปยังทรัพย์สินของผู้ที่เคยรวยติดอันดับ 6 ของโลกอย่าง Anil Ambani ได้หายไปเกือบหมด ในขณะที่พี่ชายที่เติบโตมาพร้อมกัน กลับเดินสวนทางกัน เพราะประสบความสำเร็จในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นเศรษฐี ที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย นั่นเอง
ถ้าใครเชื่อว่าชีวิตของเราถูกกำหนดมาแล้วตั้งแต่เกิด
เกิดมาในครอบครัวที่รวย ก็ย่อมมีแรงส่งให้พวกเขารวยขึ้น
ซึ่งมันก็เป็นจริงในหลายกรณี
แต่ในบางกรณี มันก็อาจเป็นตรงกันข้าม
ซึ่งอย่างน้อย มันก็เกิดขึ้นแล้วกับ Anil Ambani น้องชายของ มหาเศรษฐี ที่รวยสุดในเอเชีย นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.in/thelife/personalities/news/anil-ambanis-journey-from-42-billion-net-worth-to-claiming-poverty/articleshow/74028627.cms
-https://www.scmp.com/magazines/style/celebrity/article/3093874/mukesh-vs-anil-why-did-one-ambani-brother-go-bankrupt
-https://economictimes.indiatimes.com/industry/telecom/telecom-news/from-glory-to-dust-an-ambani-brands-journey-to-bankruptcy/articleshow/67837769.cms?from=mdr
-https://www.businesstoday.in/latest/economy-politics/story/anil-ambani-road-to-bankruptcy-how-the-brother-of-indias-richest-man-lost-his-way-271119-2020-08-25
-https://www.moneycontrol.com/news/business/a-timeline-of-reliance-communications-versus-ericsson-case-3661261.html
-https://youtu.be/dBH0E20kc30
-https://www.forbes.com/forbes/2008/0324/080.html?sh=3e185f910f2e
-https://en.wikipedia.org/wiki/Reliance_Industries
-https://en.wikipedia.org/wiki/Reliance_Group
instagram story download 在 貓的成長美股異想世界 Facebook 的最讚貼文
🌻
美國聯準會(Fed)在美東時間22日下午2時(台灣23日凌晨2時)宣布利率維持在趨近零的水準,但暗示升息可能會比預期來得快一些,同時也大幅下修今年的經濟展望。
https://udn.com/news/story/6811/5764746
🌻Adobe(ADBE)電話會議內容讀後感
ADBE前兩天發表財報了.
這次ADBE在財報後下跌, 主要是兩個原因(如下). 不過個人覺得是瑕不掩瑜:
1. 因為之前已經漲了不少(投資人期望太高)
2. 因為Digital Marketing這部分的業務受到季節性的影響, 所以表現不是很突出(沒有比預期高出很多)
a. net new Digital Media ARR (3% beat vs guide, vs 15% beat in 2Q21 vs 35% beat in 3Q20).
b. 有分析師在問(“Maybe just -- can we double-click on the seasonality commentary in the quarter? Because if we look at the beat versus guidance on net new digital media ARR, it looks, at the same time you had the weakest beat, but then the strongest guide in the last three years, which kind of speaks to and confirm some of those seasonality comments that you made.)
i. 高層對此的回答是, 主要是疫情後, 加上正值夏季, 大家的日子回復到正常&放假外出, 所以這部分的業務有受到影響(I think going into the quarter, we had expected that the consumer with a little bit more return to normalcy as what's happening in the environment.)
ii. 高層又說了一些話, 不過重點就是他不認為這是甚麼大事”So, net-net, I would say that the growth prospects for that particular business and the growth drivers remain intact. But again, very much in line. And this is what we feel good about the insights that we're getting on the business.”
iii. 也提到, Q4通常會是digital marketing業務的旺季(表現會不俗的意思)
另外, 覺得這次令我印象深刻的是, 當高層與分析師提到這些事情:
• 常在一些公司的電話會議中提到omnichannel這個字(疫情後, 更明顯了). 這次高層也有提到. ADBE可說是omnichannel概念股:
o “I mean, a big part of that is more and more companies are thirdly doing the multi-channel omnichannel, whatever they want to call it. And I think that's only going to continue to be a driver of our Digital Experience Solutions. Because today that stable stakes and so we just look at it and say whether you're shopping in-store over they are shopping online. You need a solution that treats you like a customer that we know of.”
• 網路上影片(video)的興起, 以及串流影音, 有提高了Adobe的營收天花板(用句分析師的術語, 就是TAM (total addressable market) expansion.
• 當使用者製作了越來越多的內容, 內容管理(content management)的能力就越顯重要, 內容上的流程管理(workflow)也越顯重要. Adobe的產品能夠幫內容製作者解決這樣的問題.
• 而Adobe各產品間的相容性, 標準化, 整合能力, 是它的競爭優勢之一:
o And one of the things we did really well is what we called our named user deployment and how, you know, when we have these enterprise licensing agreements, we offer enterprises the ability to download and distribute within the companies. And the more we do training and evangelism of the products, that leads to adoption. So, I would say there's an element of standardization, there's an element of more content.
而最近ADBE有個新聞, 引起了我的注意, 就是它即將在自己的平台上, 提供付款服務(payment service). 根據之前研究SHOP的經驗, 這有可能會對股價造成一定的漲幅:
On Sept. 15, Adobe announced that it will add payment services to its e-commerce platform this year to help merchants accept credit cards and other ways of paying. The move will deepen Adobe's rivalry with e-commerce firm Shopify (SHOP).
For the service, Adobe has partnered with PayPal (PYPL), which will process a variety of payment types, including credit and debit cards as well as PayPal's own payment and buy-now-pay-later offerings.
https://www.investors.com/news/technology/adbe-stock-adobe-beats-fiscal-q3-targets/
接下來該怎麼辦? 對於基本面良好的公司如ADBE, 我能說的就是buy the dip(逢低買進)了. 供參.
🌻The Facebook Files
一個星期前, WSJ上面有個關於FB的大篇幅調查報導. 有興趣的可以看看.
The Facebook Files
https://www.wsj.com/articles/the-facebook-files-11631713039
這篇文章挺長, 也沒有看到華爾街中文版本的完整翻譯, 不過可以看看這篇:
https://on.wsj.com/2ZmFimp
"《華爾街日報》的相關調查顯示,這家社交媒體巨頭心知肚明,其平台會傷害用戶,而且是以該公司常常完全了解的方式造成傷害。目前,全球近半數人口都是Facebook旗下平台的用戶。其中一些證據尤其令人不安:據《華爾街日報》報導,Facebook的內部研究顯示,在報告稱有過自殺念頭的青少年中當中,有13%的英國用戶和6%的美國用戶把這種念頭歸結於Instagram。"
另一篇相關新聞:
https://www.thenewslens.com/article/156683
"《華爾街日報》於13日揭露Facebook的XCheck系統,也就是內部系統中的VIP名單,數百萬名人、政治人物與記者等知名公眾人物都在特別的一份「白名單」之內。"
"這些「貴賓」在社群上發布的內容可以躲過一般的審查系統,即使發布明顯的不當內容,也不會立即被刪除。《衛報》報導,Facebook的獨立監督委員會表示,在閱讀該篇報導後,決定要審查XCheck系統,並要求Facebook對其進行報告與解釋。"
🌻我喜歡的Apple TV影集, "Ted Lasso", 是這次艾美獎的大贏家, 很多主要演員都得獎了.
很高興這兩年, 因為有這部戲的陪伴, 讓我撐過了疫情, 家人離世, 以及一些烏煙瘴氣的事情.
前幾天看演員的得獎影片, 一位娛樂記者問得獎的男配角(也是編劇之一)說, 你覺得這部片的核心思想是甚麼. 他說, be curious, not judgemental.
就像得獎的女演員在劇中一開始是很鴨霸很壞心的球隊主人, 但這樣做是因為被前夫傷透了心, 所以想要弄垮離婚後分到的財產(也是前夫的最愛--球隊); 外表看起來永遠陽光燦爛做啦啦隊的男主角, 在青少年時父親自殺, 造成了他心裡永遠的痛&障礙(讓他在球賽時, 會有突發恐懼症).
我們每個人其實都有很多面, 很多個故事. 尤其在社群, 大家都是萍水相逢, 對彼此的了解都是非常片面的; 而有時候在社群裡, 看到有人會因為只看到一個面向, 就去下斷語. 這其實是人之常情很難避免, 所以我們需要常用第二層思考去提醒自己. 社群裡需要更多的同理心.
“Be curious, not judgmental” – Walt Whitman(惠特曼)(美國詩人)
Picture來源:
https://www.apple.com/newsroom/2021/09/apples-global-hit-comedy-series-ted-lasso-sweeps-the-2021-primetime-emmy-awards-scoring-history-making-win-for-outstanding-comedy-series/
instagram story download 在 Gina music Youtube 的最佳解答
Don't forget to turn on the bell icon for future uploads 🔔✔️
西洋音樂愛好者✨這裡不會有冗長的介紹文卻是個讓你挖歌的好地方😎
追蹤Gina music社群挖掘更多音樂🌹
facebook👉 https://www.facebook.com/Ginamusicland
instagram👉https://www.instagram.com/ginamusic_yujia/
spotify 歌單👉https://open.spotify.com/playlist/2EfPjFfdqN8NzUwj1XNoZC
🌺贊助GINA讓頻道走得更長久•̀.̫•́✧
Donate and support my channel 👉https://p.opay.tw/WSwM8
想讓更多人認識你的聲音嗎?歡迎投稿😎
Submit your music 👉ginamusictaiwan@gmail.com
For business inquiries about copyright issues, photos and song submissions,
please contact👉 https://www.facebook.com/Ginamusicland
____________________________________________________
Social Media:
▶ Download / Stream link : https://thescript.lnk.to/listenYD
👑The Script
Facebook: https://TheScript.lnk.to/followFI
Instagram: https://TheScript.lnk.to/followII
Twitter: https://TheScript.lnk.to/followTI
Spotify: https://TheScript.lnk.to/followSI
YouTube: https://TheScript.lnk.to/subscribeYD
---------------------------------------------------------------------------------------
Lyrics:
All I could do I've done
我能做的 我已竭我所能
Down every road I've run
每一條路 我都全速奔跑
Just tryna find someone
只為找到一個人
But I did it all for nothing
但我這一切皆是徒勞
Looked for the fire got burnt
尋覓著已經燃盡的火
Held out so much hope it hurt
抱有如此多的希望 使人感到痛苦
They're not mistakes I've learnt
它們不是我吸取的教訓
When it comes to love I'm searching for
說到愛 我正苦苦尋覓
Not just someone I can live with
不只是與我一同生活的人
I want someone I can't live without
我想要我的生命無法剝離之人
Not just someone I can be with
不只是在我身旁的一個人
I need someone I can't be without
我需要一個我不能缺少的人
I will stop at nothing until I find the one
我永不止步 直到我找到那個人
I want it all and then some...
我渴望一切 還有更多
I want it all and then some...
我渴望一切 還有更多
I was a fool you know
你明白 我是一個傻瓜
Cause who'd ever let you go
因為誰會讓你離開呢
But when the story's told
但當這個故事結束時
Don’t want it all just to be for nothing
不希望所有的一切都將是徒勞的
I made you feel worthless
我讓你感到失去價值
You should have felt priceless
你本該感到無價之重
I was in the wrong ye, but now I'm gonna right this
我處在錯誤的地方 但現在我要糾正問題
No I didn't see it from the start
一開始我並未認清
But now I know exactly who you are
但如今我已深知你是何模樣
You're not just someone I can live with
你不只是與我一同生活的人
You're someone I can't live without
你是我的生命無法剝離之人
Not just someone I can be with
不只是在我身旁的一個人
You're someone I can't be without
你是我不可缺少的人
I will stop at nothing cause I know you're the one
我永不止步 直到我找到那個人
I want it all and then some...
我渴望一切 還有更多
I want it all and then some...
我渴望一切 還有更多
I made you feel worthless
我讓你感到失去價值
You should have felt priceless
你本該感到無價之重
I was in the wrong ye, but now I'm gonna right this
我處在錯誤的地方 但現在我要糾正問題
No I didn't see it from the start
一開始我並未認清
But now I know exactly who you are
但如今我已深知你是何模樣
You're not just...
你不僅僅是
Just another love, this story happens ones
只是另一種愛 這個故事的發生者
You're not just...
你不僅僅是
Just another love, this story happens ones
只是另一種愛 這個故事的發生者
You're not just someone I can live with
你不只是與我一同生活的人
You're someone I can't live without
你是我的生命無法剝離之人
I want it all and then some...
我渴望一切 還有更多
And then some
還有更多
You're not just someone I can live with
你不只是與我一同生活的人
You're someone I can't live without
你是我的生命無法剝離之人
Not just someone I can be with
不只是在我身旁的一個人
You're someone I can't be without
我需要一個我不能缺少的人
I will stop at nothing cause I know you're the one
我永不止步 直到我找到那個人
I want it all and then some...
我渴望一切 還有更多
歌詞翻譯 : LUXURI
#TheScript #IWantItAll #Lyrics #西洋歌曲推薦
instagram story download 在 竹渕慶 / Kei Takebuchi Youtube 的最讚貼文
[New Album - OVERTONES]
ダウンロード/ストリーミングはこちら
Available on download & streaming platforms.
https://ffm.to/overtones
0:00 In This Blanket
0:50 Love
2:19 クリスマスの話(The Story of Christmas)
3:02 24 Hours
3:40 lofi
4:15 Torch
4:43 あなたへ(Anatae)
5:23 糸 / 中島みゆき(Cover)
6:05 Butter〜Dynamite / BTS(Cover)
9:00 Invisible
10:05 Trust You That You Trust Me
10:55 ドロシー(Dorothy)
11:58 誕生日サプライズ(Birthday surprise from everyone)
14:10 Tokyo
来てくれた方、気持ちは会場に飛ばしてくれていた方、ありがとうございました!ずっと会えなかった中での1年半振りの有観客ワンマン、レコ発、そして誕生日という、幸せの詰め合わせライブでした。歌わせてくれてありがとう。
このライブを実現させてくれた全ての方、力を貸してくれた全ての方に感謝を。
また元気で会いましょう!
Thank you to each and everyone who came to see us, and to those who sent us love. First show with audience after a year and a half, on my birthday, to celebrate the release of the new album... I couldn't be any happier. Thank you.
[ 竹渕慶 | Kei Takebuchi ] FOLLOW ME ON ]
Twitter : https://twitter.com/keibambooty
Instagram : https://www.instagram.com/keibamboo/
HP : https://keitakebuchi.com/
[ YAMO (クリエイティブパートナー/Creative Partner)]
Twitter: https://twitter.com/YAMO_wbsb
Instagram: https://www.instagram.com/yamo_wabisabi/
ライブ制作/演出:Kei Takebuchi
音楽監督/バンマス/映像監督:YAMO
Guitars:Shinichi Ihara
Keyboards:Haruna Oogo
Drums:Shota Kanbayashi
Basses:Keitaro Sasaki
MANAGEMENT:Noe Ueda (UUUM)
MANAGEMENT:Ryo Ishikawa (UUUM)
LIVE PRODUCTION:Takashi Miyazaki (M Direction)
LIVE PRODUCTION:Yusuke Kobori (UUUM)
STAGE MANAGER:Sachie Urakabe
SOUND CREW:Masanori Itose (Shownan Onkyo)
LIGHTING CREW:Yasuhiro Komukai (R3inc)
STAGE TECH:Takahiro Suzuki (DEUCE)
CAMERA CREW:Satoshi Imamura (feat.)
Hair & Makeup:Miho Sugizaki
Dance Performance
1st:WK DANCE
2nd:DANCE STUDIO OOPS!!
会場:調布グリーンホール・大ホール
[ その他オススメのビデオ | Other Recommended Videos ]
Butter:https://youtu.be/Dbukpf33UiY
Dynamite:https://youtu.be/eapRkjSKrfc
Torch : https://youtu.be/y9ltZL5osBI
In This Blanket : https://youtu.be/s9MXv28fJsY
[ グッズ | MERCH ]
https://muuu.com/collections/19268-1012244
[ オンラインコミュニティーPATREON ]
https://www.patreon.com/KeiTakebuchiY...
[お仕事のご依頼、お問い合わせ | Business inquiries]
下記、UUUM株式会社までお願いいたします ↓
https://www.uuum.co.jp/inquiry_promot...
[ファンレター送り先|Fan letters]
〒107-6228
東京都港区赤坂9-7-1 ミッドタウン・タワー 28階
UUUM株式会社 竹渕慶 宛
Kei Takebuchi(UUUM)
〒107-6228
Midtown Tower 28F, 9-7-1, Akasaka, Minato-ku, Tokyo, Japan
#KeiTakebuchi #竹渕慶
instagram story download 在 Yunny Hou Youtube 的最佳解答
Hello! I'm back with another Lightrom Tutorial, I published this Milk Blush preset under my Milk Collection preset pack on my story, and a lot of you guys asked me to do a tutorial on this soft and milky pink tone~ if you like this tone and want to download the other 2 tones in this collection, feel free to chek it out on my Ko-Fi Shop!
Milk Collection Preset Pack:https://ko-fi.com/s/9a75295d1a
最近調出很喜歡的一個色調分享給大家,粉白系的純純牛奶色,上週一po我的限時動態大家都DM我的小盒子問我怎麼調出這種色調,希望這個教學影片會有幫助唷!簡簡單單就把所有的照片都調出粉粉的亮白色!
如果喜歡這個牛奶色系列的調色可以到我的Ko-Fi上下載喔!
純純粉白牛奶色懶人包:https://ko-fi.com/s/9a75295d1a
------- 𝘼𝙙𝙤𝙗𝙚 𝙇𝙞𝙜𝙝𝙩𝙧𝙤𝙤𝙢 𝘿𝙤𝙬𝙣𝙡𝙤𝙖𝙙 -------
Apple Store:https://apps.apple.com/us/app/adobe-lightroom-photo-editor/id878783582
Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.adobe.lrmobile&hl=en&gl=US
Desktop:https://lightroom.adobe.com/
Connect with Me!
♡ Instagram | @x.yunny.x
♡ Instagram | @my.eatz
♡ Email | yunnyhou@gmail.com
Songs
Music by LUXID - Why won't she answer my call -
https://soundcloud.com/luxid_dream/why-wont-she-answer-my-call
Music by HOAX - Beach House - https://thmatc.co/?l=66507F22
What I use:
♡ Camera | Canon G7X Mark ii
♡ Doodles | SketchBook iPad App
♡ Editing | Final Cut Pro x Adobe Premiere Pro
instagram story download 在 How To Save/Download Instagram Story WITH MUSIC?! (2022) 的必吃
(2022)Here's how to save instagram story music with music to your ... you have to use this extra step to download IG story with music. ... <看更多>
instagram story download 在 How to Download Instagram Story Highlights - YouTube 的必吃
Instagram Highlights is one of the tools to save and share favorite moments captured in Stories. Any user may use the Highlights to prolong ... ... <看更多>
instagram story download 在 How to Download Videos, Photos, Stories From Instagram in ... 的必吃
Looking for the latest method to download Instagram video, stories, and photos? We've got you covered. We've already made a video showing ... ... <看更多>