กรณีศึกษา BBIK กับการเป็น IPO คอนซัลต์ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันตัวแรกของไทย
Bluebik x ลงทุนแมน
ถ้าถามว่าปัจจัยที่ 5 ในการดำเนินชีวิตยุคนี้คืออะไร
หนึ่งคำตอบของใครหลายคนก็คือ เทคโนโลยีดิจิทัล
ปัจจุบันคนไทย 70% ของประเทศกำลังใช้งานอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยเกือบ 9 ชั่วโมงต่อวัน
สูงเป็นอันดับที่ 9 ของโลก
ผลที่ตามมาคือ ฐานข้อมูลจำนวนมหาศาลที่เรียกว่า Big Data
รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้ผู้ประกอบการหลากหลายอุตสาหกรรมต่างต้องปรับตัวครั้งใหญ่ เพื่อตามทันโลกดิจิทัล
เรื่องนี้กำลังเป็นโอกาสทางธุรกิจครั้งใหญ่ของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีดิจิทัล
หนึ่งในนั้นคือ Bluebik องค์กรเล็ก ๆ ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จขององค์กรขนาดใหญ่ใน SET 100 และ SET 50
เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์, กลุ่มธุรกิจประกัน, กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มสื่อสาร
เพื่อช่วยให้สามารถแข่งขันได้ และผลักดันให้เกิดการเติบโตในระยะยาวได้
โดยล่าสุด Bluebik กำลังจะ IPO ในชื่อ BBIK (อ่านว่า บี-บิก) ในตลาดหลักทรัพย์ MAI
ซึ่งจะกลายเป็น บริษัทที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ตัวแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อีกด้วย
ความน่าสนใจของธุรกิจนี้ จะเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Digital Transformation เป็นอีกหนึ่งคำคุ้นหูในช่วงเวลานี้
ซึ่งก็คือ การเปลี่ยนแปลงองค์กรแบบพลิกโฉมด้วยเทคโนโลยี เพื่อเข้าสู่โลกดิจิทัล
หลายองค์กรมักจะจ้างที่ปรึกษาหรือ Consulting Firm เข้ามาช่วยดูแล
ซึ่งก็แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ
- ที่ปรึกษาด้านการวางกลยุทธ์ในระดับผู้บริหารหรือ C-Level
ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่ปรึกษามีชื่อเสียงระดับโลก เช่น McKinsey, BCG
มักจะมีค่าใช้จ่ายสูง เน้นบริการด้านกลยุทธ์ แต่อาจจะขาดการให้คำปรึกษาด้านการดำเนินการ
- ที่ปรึกษาด้านการดำเนินการ ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจสัญชาติไทย
ที่มีความเชี่ยวชาญในงานระบบเฉพาะด้านตามความต้องการของลูกค้า
แต่ปัญหาก็คือ มักจะขาดความเชี่ยวชาญด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์
สังเกตไหมว่าตลาด Consulting Firm กำลังมีช่องว่างที่น่าสนใจเกิดขึ้น
และนั่นจึงเป็นที่มาของ Bluebik หรือก็คือ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ธุรกิจที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ครบวงจร ที่มีบริการ 5 ด้าน ตั้งแต่ต้นน้ำไปยังปลายน้ำเรียกว่า End-to-End Consulting Firm เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย
แล้วบริการ 5 ด้านแบบ End-to-End Consulting Firm ของ Bluebik น่าสนใจอย่างไร ?
1. ที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการ หรือ Management Consulting
เช่น กำหนดทิศทางกลยุทธ์ธุรกิจ, ค้นหาปัจจัยความสำเร็จทางธุรกิจ, กลยุทธ์สร้างมูลค่าเพิ่ม
2. ที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการโครงการเชิงยุทธศาสตร์ หรือ Strategic PMO
เช่น บริหารโครงการขนาดใหญ่, วางโครงสร้างระบบไอทีภายในองค์กร
3. ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี หรือ Digital Excellence and Delivery
เช่น การออกแบบประสบการณ์ของผู้ใช้งานและส่วนติดต่อระหว่างผู้ใช้กับระบบ (UX/UI) บนหน้าเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
4. ที่ปรึกษาด้านการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ Big Data & Advanced Analytics เช่น การวางโครงสร้างพื้นฐานข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ด้วย AI
5. ให้บริการทรัพยากรบุคคลชั่วคราวด้านไอที หรือ IT Staff Augmentation เช่น พนักงานที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอทีอย่างโปรแกรมเมอร์ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
พูดง่าย ๆ ว่า Bluebik มีบริการครบถ้วนที่จะเปลี่ยนแปลงองค์กรสู่โลกดิจิทัลได้ทุกรูปแบบ
สะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพตัวจริงในวงการที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation นั่นเอง
ที่สำคัญไม่เพียงจะมี “รูปแบบบริการ” ครบถ้วนทุกขั้นตอนตอบโจทย์ยุค Digital Economy
แต่ Bluebik ยังมี “บุคลากรทำงาน” ที่เป็นตัวจริงในวงการธุรกิจ อีกด้วย
เราจึงเห็น “บอร์ดบริหาร” ล้วนเป็นแนวหน้าหลากหลายธุรกิจชั้นนำของประเทศไทย เช่น
- คุณธนา เธียรอัจฉริยะ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัทในเครือ SCB 10X
- คุณครรชิต บุนะจินดา ซึ่งเป็นกรรมการธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ เซ็นทรัล, โรบินสัน
- คุณชลากรณ์ ปัญญาโฉม ซึ่งเป็นกรรมการธุรกิจสายงานดิจิทัลทีวีชั้นนำ เวิร์คพอยท์
- คุณวศิษฐ์ กาญจนหัตถกิจ ซึ่งมีประสบการณ์ด้านธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ศรีสวัสดิ์
- คุณพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจสื่อมากกว่า 20 ปี
รวมทั้ง “ทีมผู้บริหารและพนักงาน” ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง อายุน้อย แต่มากประสบการณ์
จากธุรกิจที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกกว่า 100 คนมารวมกัน
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะสร้างความน่าเชื่อถือ และความมั่นใจให้กับลูกค้าได้
จึงไม่แปลกใจที่กลุ่มลูกค้า Bluebik ล้วนเป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่ใน SET 100 และ SET 50
เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์, กลุ่มธุรกิจประกัน, กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มสื่อสาร
โดยล่าสุด Bluebik ยังได้ร่วมทุนกับ OR ในเครือธุรกิจ ปตท.
จัดตั้งธุรกิจ ORBIT Digital ที่มีทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท
โดยมีสัดส่วนหุ้น Bluebik : OR เท่ากับ 60:40
เป้าหมายก็เพื่อก้าวทันโลก ต่อยอดธุรกิจที่จะสร้างรายได้เติบโตในยุค Digital Economy อีกด้วย
มาถึงตรงนี้ จะเห็นได้ว่า Bluebik เป็นอีกหนึ่งดวงดาวจรัสแสง
ที่ครบถ้วนด้วยบริการเต็มรูปแบบ พร้อมด้วยบุคลากรทำงานคุณภาพ
และกำลังเดินเคียงข้างองค์กรธุรกิจชั้นนำของประเทศไทยสู่ Digital Transformation
แล้วผลประกอบการ Bluebik เป็นอย่างไร ?
ปี 2561 รายได้รวม 133 ล้านบาท กำไรสุทธิ 19 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้รวม 185 ล้านบาท กำไรสุทธิ 32 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้รวม 201 ล้านบาท กำไรสุทธิ 44 ล้านบาท
ส่วนในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีรายได้จากการขายและบริการ 126.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 30.06 ล้านบาท คิดเป็นอัตราทำกำไรสุทธิที่ 23.67%
จะเห็นได้ว่า Bluebik มีรายได้และกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีงานในมือ (Backlog) 161 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ภายใน 1-2 ปีนี้
ทั้งนี้ ยังไม่ได้นับรวมรายได้ที่จะมาจาก ORBIT Digital จากการร่วมมือกับ OR อีกด้วย
มาถึงตรงนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เรากำลังเดินทางเข้าสู่โลกดิจิทัลมากขึ้นเรื่อย ๆ
รู้หรือไม่ว่า ตลาด Digital Transformation ในประเทศไทยปี 2564
ถูกคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่า 280,000 ล้านบาท และจะขยายตัวเป็น 442,000 ล้านบาทในอีก 4 ปีข้างหน้า
ภายใต้เทรนด์ Digital Transformation ที่กำลังเปลี่ยนโลกนี้เอง
เราจะได้เห็น Bluebik หรือ BBIK หุ้นที่ปรึกษาด้าน Digital Transformation ตัวแรกของประเทศไทย จะนำพาธุรกิจก้าวเข้าสู่ยุคใหม่นี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ด้วยจุดเด่นด้านบริการ End-to-End Consulting Firm และทีมบุคลากรคุณภาพระดับผู้บริหาร และระดับบุคลากรทำงาน
ซึ่งโอกาสเติบโตของ Bluebik หรือ BBIK หุ้นที่กำลังจะ IPO ในครั้งนี้ อาจจะกลายมาเป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่ ในตลาด Consulting Firm ระดับโลก ด้าน Digital Transformation ก็เป็นได้..
คำเตือน: บทความนี้ไม่ได้เป็นการชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นนี้แต่อย่างใด การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
Reference
- บทสัมภาษณ์ผู้บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過361萬的網紅Dan Lok,也在其Youtube影片中提到,A Lot Of People Have Been Asking Dan, “Is Consulting A Business?” Starting A Consulting Business Is Not Easy, However, Here’s The Skill That Made Dan ...
「consulting firm」的推薦目錄:
- 關於consulting firm 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於consulting firm 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於consulting firm 在 美國在台協會 AIT Facebook 的最佳解答
- 關於consulting firm 在 Dan Lok Youtube 的最佳貼文
- 關於consulting firm 在 Dan Lok Youtube 的精選貼文
- 關於consulting firm 在 Dan Lok Youtube 的最佳解答
- 關於consulting firm 在 Private Career Consulting Firm - Home | Facebook 的評價
- 關於consulting firm 在 the Business of Running and Growing a Consulting Firm ... 的評價
consulting firm 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
Saverin อยู่กับเฟซบุ๊กปีเดียว แต่มีทรัพย์สิน 6 แสนล้าน /โดย ลงทุนแมน
Mark Zuckerberg เริ่มก่อตั้ง Facebook ในปี 2004 ร่วมกับเพื่อนอีก 4 คน
หนึ่งในนั้นคือรุ่นพี่ที่ชื่อว่า “Eduardo Saverin”
Saverin คือเพื่อนคนแรกที่ Zuckerberg ชวนมาร่วมทีมและเขาคนนี้ยังเป็นคนแรกที่ร่วมลงทุนใน Facebook
แต่ผ่านไปเพียงปีเดียว กลับมีเรื่องราวที่ทำให้เขากลายเป็นผู้ร่วมก่อตั้งที่ต้องออกจากบริษัทไปเป็นคนแรกเช่นกัน
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับ Saverin ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
“Eduardo Saverin” เกิดที่เมืองเซาเปาลู ประเทศบราซิล ในปี 1982 ก่อนจะย้ายไปอยู่ที่เมืองรีโอเดจาเนโร
เขาเกิดมาในครอบครัวชาวยิวที่ร่ำรวย โดยพ่อของเขาเป็นนักธุรกิจ ที่เป็นเจ้าของกิจการทั้งการส่งออก เรือขนส่ง ไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์
แต่ความมั่งคั่งนี้ ก็เป็นที่ล่อตาล่อใจของแก๊งมาเฟีย ทำให้เมื่อปี 1993 Saverin ในวัย 11 ปี มีชื่ออยู่ในลิสต์เหยื่อที่จะโดนแก๊งลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่
โชคดีที่พ่อของเขาไหวตัวทัน เขาจึงพาครอบครัวอพยพไปตั้งต้นชีวิตในที่ที่ปลอดภัยกว่า อย่างประเทศสหรัฐอเมริกา จน Saverin ได้สัญชาติอเมริกันในปี 1998
หลังจากเรียนจบมัธยมศึกษา Saverin เลือกเรียนเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
เขาโดดเด่นเรื่องการลงทุนเป็นพิเศษ ทั้งการได้เป็นประธาน Harvard Investment Association และยังเป็นที่เลื่องลือจากการทำกำไรเป็นเงิน 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10 ล้านบาท จากการลงทุนในฟิวเจอร์สน้ำมัน
ปี 2003 ขณะที่ Saverin เรียนอยู่ปี 3 รูมเมตรุ่นน้องของเขาที่ชื่อ “Mark Zuckerberg” กำลังพัฒนา TheFacebook.com หรือที่เรารู้จักกันก็คือ Facebook ในปัจจุบัน
เวลานั้น Zuckerberg กำลังมองหาพาร์ตเนอร์มาร่วมทีม ซึ่งเขามองหาคนที่มีเงินทุนและเก่งในด้านที่เขาไม่ถนัด นั่นคือการลงทุนและการทำธุรกิจ ซึ่ง Saverin ก็เรียกได้ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่ Zuckerberg ต้องการ นั่นจึงทำให้เขาถูกชวนมาเป็นพาร์ตเนอร์คนแรก
พวกเขาตกลงว่าจะร่วมทุนกันคนละ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 5 แสนบาทและแบ่งหน้าที่กัน โดย Zuckerberg โฟกัสการพัฒนาเซิร์ฟเวอร์ ส่วน Saverin รับผิดชอบด้านการเงินและธุรกิจ
จนในที่สุด TheFacebook.com ก็ได้เปิดตัวในช่วงต้นปี 2004 และได้รับความนิยมไปทั่วมหาวิทยาลัยทันที โดยมีผู้สมัครใช้งานกว่า 4 พันคนภายใน 2 สัปดาห์แรก
พวกเขาเลยชวนรูมเมตอีกคนที่ชื่อ Dustin Moskovitz มาร่วมทีม ซึ่งรับหน้าที่เป็นโปรแกรมเมอร์ และหลังจากนั้นไม่นานก็มีเพื่อนอีก 2 คนมาร่วมทีม
เดือนเมษายน หรือหลังเปิดตัวเว็บไซต์ไปได้ 2 เดือน TheFacebook ก็จดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด
โดยมีผู้ถือหุ้นคือ Zuckerberg ถือหุ้น 65%, Saverin ถือหุ้น 30% และ Moskovitz ถือหุ้น 5%
มาถึงช่วงปิดเทอมหน้าร้อนในเดือนมิถุนายน Zuckerberg กับ Moskovitz เดินทางไปที่เมืองพาโล อัลโต รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นที่ตั้งของซิลิคอนแวลลีย์ เพื่อเช่าบ้านและโฟกัสกับการพัฒนา TheFacebook.com
ส่วน Saverin เลือกไปฝึกงานกับสถาบันการเงิน Lehman Brothers ที่นิวยอร์ก และ Zuckerberg ได้แบ่งความรับผิดชอบให้เขา 3 อย่าง คือ วางโครงสร้างบริษัท ทำโมเดลธุรกิจ และที่สำคัญคือหาเงินทุน
แต่การเลือกเส้นทางที่แตกต่างกันในครั้งนี้ กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของรอยร้าว
สิ่งที่ Saverin ให้ความสำคัญมากที่สุดในเวลานั้น คือการฝึกงาน
เขาจึงละเลยสิ่งที่ Zuckerberg ฝากให้เขาจัดการทั้ง 3 ข้อ
ทั้งที่ Zuckerberg และคนอื่นในทีม ทุ่มเทกับการต่อยอด TheFacebook.com ซึ่งในตอนนั้นมีจำนวนผู้ใช้งานเติบโตอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่มีใครคาดคิด ดังนั้นสิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คือการหาเงินทุน ซึ่งเป็นหน้าที่ของ Saverin มาตั้งแต่ต้น
แต่กลับกลายเป็นว่าคนที่รับหน้าที่ในการหานักลงทุนก็คือ Sean Parker ไอดอลแห่งวงการเทคโนโลยี ผู้ก่อตั้ง Napster แพลตฟอร์มแชร์และดาวน์โหลดเพลงออนไลน์ ที่เป็นต้นแบบของ iTunes
ก่อนหน้านี้ไม่นาน Parker ได้รู้จัก TheFacebook.com และรู้สึกสนใจ จึงติดต่อ Zuckerberg เพื่อมาร่วมทีมด้วย
ซึ่ง Parker สามารถโน้มน้าวให้ Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal มาลงทุนใน TheFacebook.com ได้สำเร็จ เป็นเงิน 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 16.6 ล้านบาท
นอกจากนี้ Parker ซึ่งมีประสบการณ์ธุรกิจมาก่อน จึงกลายเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญของ Zuckerberg และยังมีบทบาทสำคัญในการทำหน้าที่ทุกอย่างที่ Saverin ละเลย
มาถึงตรงนี้ Saverin ที่ให้ความสำคัญกับ TheFacebook.com น้อยกว่าคนอื่น ก็หมดความจำเป็น Zuckerberg เลยคิดจะตัดเขาออกจากทีม แต่ก็ติดปัญหาตรงที่เขาไม่รู้จะใช้วิธีไหน
เพราะ Saverin เป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้งและที่สำคัญคือเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท
Parker เลยแนะนำวิธีหนึ่งให้กับ Zuckerberg ซึ่งเป็นทริกที่ Thiel เคยใช้และเรียนรู้ต่อมาจากนักลงทุนระดับตำนานคนหนึ่ง
วิธีการนั้นก็คือ การลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทของ Saverin ลง ด้วยการตั้งบริษัทใหม่ เพื่อมาซื้อบริษัทเดิม หลังจากนั้นก็ออกหุ้นเพิ่ม และจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ให้กับทุกคน ยกเว้น Saverin
Zuckerberg ได้ลองอธิบายแผนการนี้ผ่านทางอีเมลเพื่อขอคำปรึกษาจากนักกฎหมายของเขา ซึ่งนักกฎหมายก็เตือนว่าอาจจะเกิดการฟ้องร้องตามมาได้ แต่สุดท้ายแผนการนี้ก็ยังดำเนินต่อไป
ขั้นตอนแรกเริ่มขึ้นในปลายเดือนกรกฎาคม ทีม Zuckerberg จัดตั้งบริษัทใหม่และใช้บริษัทใหม่นี้ไปซื้อบริษัทเดิม ซึ่งสัดส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัทใหม่ จะถูกจัดสรรโดยรวมผู้ลงทุนอย่าง Thiel เข้าไปด้วย ดังนี้
Zuckerberg ถือหุ้น 40%
Saverin ถือหุ้น 24%
Moskovitz ถือหุ้น 16%
และ Thiel ถือหุ้น 9%
ส่วนอีก 11% ที่เหลือ เก็บไว้เผื่อแจกเป็นอ็อปชันให้กับผู้ร่วมทีมในอนาคต
ขั้นตอนนี้ ทำให้สัดส่วนหุ้นของ Saverin ลดลงจากเดิม 30% มาเป็น 24%
หลังจากนั้น ทาง Zuckerberg ก็ได้ให้ Saverin เซ็นชื่อในข้อตกลงจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่นี้ในเดือนตุลาคม โดย Saverin ตกลงให้ทรัพย์สินทางปัญญาทุกอย่างของบริษัท รวมถึงสิทธิ์ในการออกเสียงในบริษัท ที่เคยเป็นส่วนของเขา โอนมาเป็นของ Zuckerberg แทน
และเมื่อปิดเทอมหน้าร้อนสิ้นสุด ความสำเร็จเกินคาดของ TheFacebook.com ก็ทำให้ Zuckerberg และ Moskovitz ตัดสินใจออกจากมหาวิทยาลัยและอยู่ที่แคลิฟอร์เนียต่อ ขณะที่ Saverin กลับมาเรียนต่อที่ฮาร์วาร์ดในปีสุดท้าย
ต่อมา ในต้นเดือนมกราคม ปี 2005 บริษัท Facebook ก็ได้ออกหุ้นสามัญเพิ่ม 9 ล้านหุ้น โดยถูกจัดสรรเป็นของ Zuckerberg 3.3 ล้านหุ้น Parker และ Moskovitz ได้ไปคนละ 2 ล้านหุ้น ส่วน Saverin ไม่ได้อะไรเลย
ขั้นตอนนี้ ทำให้สัดส่วนหุ้นของ Saverin ลดลงจาก 24% จนเหลือไม่ถึง 10%
Saverin ผู้ที่ไม่รู้อะไรเลยก็เพิ่งมารับรู้ถึงวิธีที่เขาโดนลดสัดส่วนการถือหุ้นหลังผ่านไปเกือบ 4 เดือน
ซึ่งในอีกไม่กี่สัปดาห์ต่อมา เขาก็ต้องออกจากบริษัทและถูกลบชื่อออกจากผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท
ความขัดแย้งนี้ก็นำไปสู่การฟ้องร้อง ตามที่นักกฎหมายของ Zuckerberg เคยเตือนไว้
Zuckerberg ยื่นฟ้อง Saverin โดยอ้างว่า Saverin ทำให้บริษัทเสียหาย จากการระงับบัญชีธนาคารของบริษัทเมื่อช่วงปิดเทอมหน้าร้อน รวมถึงอ้างว่าข้อตกลงเรื่องการจัดสรรหุ้นตอนจัดตั้งบริษัทใหม่ไม่มีผลบังคับใช้
Saverin ฟ้อง Zuckerberg กลับ โดยอ้างว่าในช่วงปิดเทอมหน้าร้อน Zuckerberg นำเงินทุนของบริษัทในตอนแรก ซึ่งเป็นส่วนที่เขาร่วมลงทุนด้วย ไปใช้กับเรื่องส่วนตัว และอีกข้อหาคือเรื่องที่เขาถูกบังคับให้ออกจากบริษัท
แต่สุดท้ายแล้ว ในปี 2009 ทั้งสองฝ่ายก็มาทำความตกลงกันนอกศาล ซึ่งจบที่การยอมความ
และชื่อของ Saverin ก็กลับมาอยู่ในผู้ร่วมก่อตั้งเหมือนเดิม
ตั้งแต่นั้นมา Saverin ก็ย้ายไปอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์
และได้เปลี่ยนสัญชาติจากอเมริกันเป็นสิงคโปร์ ในปี 2011
ซึ่งนอกจากจะแต่งงานและสร้างครอบครัวที่สิงคโปร์แล้ว ในปี 2015 Saverin ได้ร่วมก่อตั้งบริษัท Venture Capital ที่ชื่อ “B Capital” กับเพื่อนสมัยเรียนฮาร์วาร์ดที่ชื่อ Raj Ganguly ซึ่งเคยทำงานในบริษัทที่ปรึกษาธุรกิจระดับโลกอย่าง McKinsey & Company และ Boston Consulting Group
โดย B Capital จะเน้นให้เงินทุนกับสตาร์ตอัปในเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย อย่างเช่นบริษัทจากอินเดียที่ชื่อ BYJU’S ซึ่งปัจจุบันเป็นสตาร์ตอัปด้านเทคโนโลยีการศึกษาที่มูลค่ามากสุดในโลก
แต่เรื่องการเปลี่ยนสัญชาตินี้ก็ได้ทำให้เขาถูกวิจารณ์ เพราะหลังจากนั้นไม่นาน Facebook ก็เตรียม IPO ในปี 2012 Saverin จึงถูกมองว่าเขาสละสัญชาติอเมริกันเพราะต้องการเลี่ยงภาษีกำไรจากเงินลงทุน
เพราะแม้ว่าการระดมทุนในตลาดหุ้นของ Facebook จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้น Facebook ของเขาลดลงเหลือเพียง 2% ก็คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งถ้าเขาขายทำกำไร เขาจะถูกคิดภาษีกำไรจากเงินลงทุนราว 2 หมื่นล้านบาท
แต่ Saverin ก็ยืนยันว่าเขาตั้งใจจะทำงานและใช้ชีวิตที่สิงคโปร์มาตั้งแต่แรกจริง ๆ
และจากตอน IPO ปี 2012 มาถึงวันนี้ ปี 2021 Saverin ก็ไม่ได้ขายหุ้น Facebook เพื่อทำกำไร ในทางกลับกันเขากลับซื้อเพิ่มอีกเล็กน้อยด้วยซ้ำ
ปี 2012 Saverin มีหุ้น Facebook 53.13 ล้านหุ้น
ปี 2021 Saverin มีหุ้น Facebook 53.46 ล้านหุ้น
ปัจจุบัน Saverin ในวัย 39 ปี ได้กลายเป็นชาวบราซิลที่รวยสุดในโลก และเป็นคนที่รวยสุดเป็นอันดับ 2 ในสิงคโปร์ ด้วยมูลค่าทรัพย์สินกว่า 6.5 แสนล้านบาท ซึ่งความมั่งคั่งเกือบทั้งหมดมาจากการที่เขายังถือหุ้น Facebook โดยที่ยังไม่ได้ขายออกไป
โดยถ้าคิดจากราคา IPO ของ Facebook ที่ 38 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ปัจจุบันราคาหุ้น Facebook อยู่ที่ 355 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น
ซึ่งมูลค่าหุ้นที่ Severin ถืออยู่ตอน IPO ปี 2012 ที่กว่า 6 หมื่นล้านบาท ตอนนี้ได้เพิ่มขึ้นกลายเป็น 6.2 แสนล้านบาทแล้ว
ที่น่าสนใจคือ 6.2 แสนล้านบาทนี้มีจุดเริ่มต้นจากเงินลงทุนหลักแสน
และเขาใช้เวลาอยู่ในบริษัท Facebook เพียงปีเดียว โดยแทบไม่ต้องทำอะไรเลย
สิ่งที่เขาทำหลังจากนั้น เป็นเพียงการถือหุ้น Facebook ที่มีอยู่ไปเรื่อย ๆ เท่านั้นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.com/how-mark-zuckerberg-booted-his-co-founder-out-of-the-company-2012-5
-https://www.businessinsider.com/goodbye-america-billionaire-facebook-cofounder-renounces-citizenship-2012-5
-https://www.forbes.com/sites/alexkonrad/2019/03/19/life-after-facebook--the-untold-story-of-billionaire-eduardo-saverins-highly-networked-venture-firm/?sh=21f9b3462c8c
-https://www.forbes.com/sites/briansolomon/2012/05/18/eduardo-saverins-net-worth-publicly-revealed-more-than-2-billion-in-facebook-alone/?sh=47dee32a32ac
-https://www.rollingstone.com/culture/culture-news/the-battle-for-facebook-242989/
-https://www.dailymail.co.uk/news/article-2143764/Facebook-founder-Eduardo-Saverin-risk-kidnapping-moving-US.html
-https://www.forbes.com/profile/eduardo-saverin/?sh=dbbbb3b7bd56
-https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1326801/000132680121000022/facebook2021definitiveprox.htm
consulting firm 在 美國在台協會 AIT Facebook 的最佳解答
💕「愛台灣,我的選擇」系列第14發:環境科學家馬耐德發現台灣的生物多樣性與供應鏈的關鍵角色
「我來自美國加州聖地亞哥,畢業於美國創價大學,主修環境科學,當時主要從事淡水魚和基礎漁業的研究。隨後我到加州蒙特瑞國際研究學院攻讀碩士,研究海洋及沿海資源管理。當時其中一位教授就是來自台灣,她告訴我:『你應該去台灣看一看。』很多旅居海外的台灣人都會這樣鼓勵外國人拜訪台灣。
而我後來也的確到台灣進行了一個海峽兩岸的研究,作為唯一一位環境科學學人,我必須要想一個能在台北和上海演講的主題,垃圾就是一個最明顯的題材。因為當你來到台灣,你會發現台灣街道上都沒有垃圾,這點讓我感到非常新奇,為什麼會沒有垃圾呢?當時我也發現並沒有什麼關於台灣廢棄物管理轉型的英文資訊,所以我就決定住在台灣,研究這個讓我很著迷的題目。那是2013年的事,後來我獲得傅爾布萊特獎助金在墾丁海生館擔任訪問學者一年,至此之後我就待了下來。大約六個月前,我開始在銳思碳管理顧問公司上班,我們負責協助大型品牌和他們的供應鏈設定並達成碳供應鏈目標。這是我們剛在台灣成立的新辦公室,公司的總部在香港,但我們想要把重心移到台灣,因為台灣是關鍵的供應鏈環節。我們認為台灣將在永續報告和減碳目標上持續成長,而且台灣真的是個好地方。
台灣有很多我很喜歡的優點,我覺得最棒但很少被注意到的一點是台灣的生物多樣性。台灣是亞熱帶島嶼,擁有非常豐富多樣的原生種和特有種,美麗的蝴蝶、螢火蟲、珊瑚、鯨鯊、鮪魚、熊……物種多到我三天三夜都講不完。而且就算不開車,也很容易親近大自然。我也喜歡騎單車,台灣的單車道做的非常好,還有優質的單車品牌和產品。我在台灣大多時候過的很不錯,沒什麼好抱怨的,食物也好吃。而且台灣人基本上對科學有充分的信任和熱忱,許多民選官員都曾經是醫生、科學家、工程師等等,連總統都曾發表過博士論文。台灣的前副總統大概是地球上最有資格帶領對抗新冠疫情的領袖。感覺上,台灣有很多科學家,當個理工宅男好像也很OK。」
✨馬耐德(Nate Maynard)連續兩年(2014及2015 年)榮獲美國傅爾布萊特獎助學金,現為「鬼島之音Waste Not Why Not」節目製作及主持人,及銳思碳管理顧問股份有限公司高級顧問。
💕Why I chose Taiwan #14 – Environmental sciences scholar Nate Maynard discover Taiwan’s and its key role in supply chains
"I’m from San Diego California originally. My undergrad was from Soka University of America; liberal arts with a concentration in environmental studies, and I work on fresh-water fishes mostly and basic fisheries. And then my Master’s program was at the Monterey Institute of International Studies with a concentration in ocean and coastal resource management. One of my professors was Taiwanese, and she said: ‘you gotta go to Taiwan,’ as most Taiwanese people living abroad will tell foreigners.
And I did go visit Taiwan for a cross-Strait research trip, and as the only environment person, I had to come up with something I could talk about in Taipei and Shanghai, and garbage was the most obvious thing. Because when you come to Taiwan, there’s no garbage, and I became fascinated: Why is there no garbage? I realized there really wasn’t much information in English about Taiwan’s waste management transformation, and that’s sort of how I got hooked and decided I wanted to live in Taiwan. That was 2013. And then I got the Fulbright Fellowship and spent a year at the National Aquarium in Kenting....and they haven’t been able to get me to leave. About six months ago, I started working for a private consulting firm called Reset Carbon. We help major brands and their supply chains set and achieve carbon supply chain targets. This is a new office that we just set up in Taiwan. The company’s headquarter is in Hong Kong, but we wanted to pivot to Taiwan because Taiwan’s the key supply chain link. We expect to see Taiwan growing in terms of sustainability reporting, carbon reduction goals, and Taiwan’s just a nice place.
There’s a couple things that I really enjoy about Taiwan. I think the best thing that doesn’t get enough coverage is biodiversity. Taiwan is a sub-tropical island. It’s full of native and endemic species, beautiful butterflies, fireflies, coral, whale sharks, tuna, bears...I can list the animals for hours. It’s easy for me to go and get access to nature, even without a car. I also enjoy biking and Taiwan has excellent biking infrastructure, and great bike companies that make fine products. Most aspects of my life in Taiwan are pretty good. I can’t complain. Food is great too. I think there’s also a general trust and enthusiasm for science in Taiwan. I mean there’s a lot of elected officials that are doctors, scientists, engineers, and the president has published papers as a PhD. And you know, the vice president was probably the most qualified person on Earth to lead the COVID response. In Taiwan, it feels like the scientists are pretty well-represented, and like being a nerd is kinda okay." -- Nate Maynard
✨Nate Maynard won Fulbright Fellowship two times in a row (2014-15, 2015-16), now serving as a program host and producer of “Waste Not Why Not” with Ghost Island Media and a senior consultant at Reset Carbon.
consulting firm 在 Dan Lok Youtube 的最佳貼文
A Lot Of People Have Been Asking Dan, “Is Consulting A Business?” Starting A Consulting Business Is Not Easy, However, Here’s The Skill That Made Dan Successful As A Consultant:
http://successfulconsulting.danlok.link (HIC) http://consultingasbusiness.danlok.link (HTC)
With so many business models and opportunities out there, the question is, is a consulting business right for you? You see business gurus and mentors on social media selling you these opportunities, and sure you might learn from them. But is consulting a business opportunity for you? Watch this video to find out.
? SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL NOW ?
https://www.youtube.com/danlok?sub_confirmation=1
Check out these Top Trending Playlists -
1.) Boss In The Bentley - https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46OWsrbWGPnPW8mvDtjge_6-
2.) Sales Tips That Get People To Buy - https://www.youtube.com/watch?v=E6Csz_hvXzw&list=PLEmTTOfet46PvAsPpWByNgUWZ5dLJd_I4
3.) Dan Lok’s Best Secrets - https://www.youtube.com/watch?v=FZNmFJUuTRs&list=PLEmTTOfet46N3NIYsBQ9wku8UBNhtT9QQ
Dan Lok is a Chinese-Canadian business magnate and global educator known for being the founder and chairman of Closers.com - the world’s #1 virtual-closers network, Copywriters.com, and SalesCalls.com. Beyond his businesses, Mr. Lok has led several global movements to redefine modern education where he has taught individuals from 150+ countries to develop high income skills and financial confidence.
Beyond his success in business, he was also a two time TEDx opening speaker. An international best-selling author of 12+ books. A member of Young Presidents Organization (YPO) - a private group of global chief executives whose companies employ 22 million people and generate 9-trillion USD in annual revenues. He also hosts The Dan Lok Show - a series on elite business tycoons and world-leading entrepreneurs.
Today, Mr. Lok continues to be featured in thousands of media channels and publications every year and is widely seen as one of the top business leaders by millions around the world.
If you want the no b.s. way to master your financial destiny, then learn from Dan. Subscribe to his channel now.
★☆★ CONNECT WITH DAN ON SOCIAL MEDIA ★☆★
YouTube: http://youtube.danlok.link
Dan Lok Blog: http://blog.danlok.link
Facebook: http://facebook.danlok.link
Instagram: http://instagram.danlok.link
Linkedin: http://mylinkedin.danlok.link
Podcast: http://thedanlokshow.danlok.link
#DanLok #Consulting #Business
Please understand that by watching Dan’s videos or enrolling in his programs does not mean you’ll get results close to what he’s been able to do (or do anything for that matter).
He’s been in business for over 20 years and his results are not typical.
Most people who watch his videos or enroll in his programs get the “how to” but never take action with the information. Dan is only sharing what has worked for him and his students.
Your results are dependent on many factors… including but not limited to your ability to work hard, commit yourself, and do whatever it takes.
Entering any business is going to involve a level of risk as well as massive commitment and action. If you're not willing to accept that, please DO NOT WATCH DAN’S VIDEOS OR SIGN UP FOR ONE OF HIS PROGRAMS.
This video is about Is Consulting A Business?
https://youtu.be/vUzJGSH5Y90
https://youtu.be/vUzJGSH5Y90
consulting firm 在 Dan Lok Youtube 的精選貼文
★☆★BONUS FOR A LIMITED TIME★☆★
You can download Dan Lok's best-selling book F.U. Money for FREE: http://youtubesuperstar.danlok.link
★☆★ SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL NOW ★☆★
http://bit.ly/DanLokSubscribe
Aaron Marino (Alpah M.) is an image consultant and men’s style expert. In 2006, Aaron Marino started a men’s image consulting firm, alpha m. Image Consulting, to help average men with simple common sense advice; aimed to enhance their image, style, grooming, fashion and most importantly their confidence. Aaron Marino has been featured in countless publications, as well as guest appearances on various television and radio programs, both locally, as well as nationally.
★☆★ SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL AND GET MORE DOSES OF DAN: ★☆★
http://bit.ly/DanLokSubscribe
Dan Lok, a.k.a. The King of High-Ticket Sales, is one of the highest-paid and most respected consultants in the luxury and “high-ticket” space.
Dan is the creator of High-Ticket Millions Methodology™, the world's most advanced system for getting high-end clients and commanding high fees with no resistance.
Dan is one of the rare keynote speakers and business consultants that actually owns a portfolio of highly profitable business ventures.
Not only he is a two times Tedx opening speaker, he's also an international best-selling author of over 12 books and the host of Shoulders of Titans show.
Dan's availability is extremely limited. As such, he's very selective and he is not cheap.
But if you think you or your brand might benefit from one-on-one interaction with Dan, visit http://danlok.com
Or consider becoming a member of his high-level mastermind:
http://www.danlokinnercircle.com
★☆★ WANT TO OWN DAN'S BOOKS? ★☆★
http://www.amazon.com/Dan-Lok/e/B002BLXW1K
★☆★ NEED SOLID ADVICE? ★☆★
Request a call with Dan:
https://clarity.fm/danlok
★☆★ CONNECT WITH DAN ON SOCIAL MEDIA ★☆★
Blog: http://www.danlok.com/blog/
Podcast: http://www.shouldersoftitans.com/
Facebook: https://www.facebook.com/danlokfan/
Twitter: https://twitter.com/danthemanlok
Instagram: https://www.instagram.com/danlok/
YouTube: https://www.youtube.com/user/vanentrepreneurgroup
Linkedin: https://www.linkedin.com/in/danlok
Meetup: http://www.meetup.com/Vancouver-Entrepreneurs-Group-Business-Network/
Amazon: http://www.amazon.com/Dan-Lok/e/B002BLXW1K
consulting firm 在 Dan Lok Youtube 的最佳解答
★☆★BONUS FOR A LIMITED TIME★☆★
You can download Dan Lok's best-selling book F.U. Money for FREE: http://joevitale.danlok.link
★☆★Subscribe to our channel★☆★
https://www.youtube.com/user/vanentrepreneurgroup?sub_confirmation=1
Dr. Joe Vitale endorses Dan Lok. Joe Vitale is President of Hypnotic Marketing, Inc., a marketing consulting firm. He has been called the "The Buddha of the Internet" for his combination of spirituality and marketing acumen. Remember to Like, Share and Subscribe for more videos!
His professional clients include the Red Cross, PBS, Children's Memorial Hermann Hospital, and many other small and large businesses. His other books include The Attractor Factor, There's a Customer Born Every Minute, and Life's Missing Instruction Manual, all from Wiley. He is also one of the stars of the hit movie The Secret.
Dan Lok is a serial entrepreneur, best-selling author and the world’s leading expert in internet marketing and is referred to by many as the “Millionaire Mentor".
Dan also sponsors Vancouver Entrepreneurs Group, which is a community of entrepreneurs at any level whether you are just thinking about starting your first business or you are an experienced entrepreneur.
Vancouver Entrepreneurs Group is the Fastest Growing Business Network & Most Active Entrepreneurs Community at Vancouver Club. We get together every second Wednesday to learn and share our vision & experience!
★☆★Subscribe to our channel★☆★
https://www.youtube.com/user/vanentre...
★☆★Share this video★☆★
https://youtu.be/P0I3mVM39gQ
★☆★Watch more videos★☆★
https://www.youtube.com/user/vanentre...
★☆★Join our meet up★☆★
http://www.meetup.com/Vancouver-Entre...
http://www.meetup.com/New-Zealand-Bus...
http://www.meetup.com/Toronto-Entrepr...
★☆★Follow Dan Lok★☆★
https://www.facebook.com/groups/Vanco...
https://www.linkedin.com/in/danlok
http://www.danlok.com/
Keywords: dan lok, dan the man lok, business mentor, business coach, vancouver business, vancouver entrepreneur, vancouver millionaire, vancouver entrepreneurs group, vancouver meetup, business networking, entrepreneurship, business coaching, business mentoring, business speaker, keynote speaker, conference speaker, ted talk
consulting firm 在 Private Career Consulting Firm - Home | Facebook 的必吃
外商及海外求職顧問、精品獵才服務、中英西法文履歷自傳cover letter修改與諮詢、模擬面試及指導。我們的顧問群為各語言母語,並自美加、歐洲等地名校畢業, ... ... <看更多>