พักหนี้ กู้เพิ่ม เงินเยียวยา รวมมาตรการช่วยเหลือ SME จากสถาบันการเงินและภาครัฐมาไว้ให้แล้ว เช็คเลย!
.
🔺 สถาบันการเงิน 🔺
⚪️ธนาคารแห่งประเทศไทย
🔹 โครงการพักทรัพย์ พักหนี้ เป็นโครงการที่ออกมาเพื่อลดภาระหนี้ชั่วคราวให้กับลูกหนี้รายเล็กและธุรกิจรายย่อย โดยเป็นการตีโอนทรัพย์หลักประกันให้สถาบันการเงิน และมีสิทธิ์ซื้อคืนในอนาคต ซึ่งจะมีการคำนวณราคาซื้อคืนไว้ชัดเจน และให้ลูกหนี้รายเดิมสามารถมีสิทธิ์ในการซื้อคืนได้ก่อนภายในระยะเวลา 3 - 5 ปี ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ต้องเป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงินนั้นอยู่แล้วก่อน 1 มี.ค. 64 และไม่เป็น NPL ณ วันที่ 31 ธ.ค. 62
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3eFAqxN)
🔹 มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู มาตรการที่จะให้ผู้ประกอบการได้รับสินเชื่อใหม่ ด้วยอัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาเฉลี่ยไม่เกิน 5% ต่อปี ระยะเวลา 5 ปี โดยรัฐช่วยชดเชยดอกเบี้ยช่วง 6 เดือนแรกให้ สำหรับลูกหนี้เดิมต้องมีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาทต่อรายต่อธนาคาร ณ วันที่ 28 ก.พ. 64 สามารถขอซอฟต์โลนได้สูงสุด 30% ของวงเงินสินเชื่อเดิม สูงสุด 150 ล้านบาท และสำหรับลูกหนี้ใหม่ที่ไม่มีวงเงินสินเชื่อกับธนาคารทุกแห่ง ณ วันที่ 28 ก.พ. 64 ขอสินเชื่อได้สูงสุด 20 ล้านบาทรวมทุกสถาบันการเงิน
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/2SMD9x1)
*ผู้ประกอบการสามารถเข้าร่วมทั้ง 2 โครงการในช่วงเวลาเดียวกันได้หากมีคุณสมบัติตามที่กำหนด เช่น เข้าโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ เพื่อลดภาระ แต่ขอสินเชื่อเพื่อดำเนินกิจการต่อ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3obcIgf )
⚪️ออมสิน
🔹 สินเชื่อเสริมพลังฐานราก ให้ผู้ประกอบอาชีพค้าขาย/ด้านบริการ ผู้มีรายได้ประจำ ไม่มีหลักประกัน ไม่มีบุคคลค้ำประกันสามารถกู้ในวงเงินสูงสุด 50,000 บาท/ราย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.35 ต่อเดือน
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3faG8a9 )
🔹 สินเชื่อสู้ภัย COVID-19 ให้ผู้ประกอบการรายย่อย ผู้มีรายได้ประจำ ผู้มีอาชีพอิสระ สามารถกู้เงินได้สูงสุด 10,000 บาท/ราย ในอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 0.35 ต่อเดือน ชำระเงินกู้คืนไม่เกิน 3 ปี ปลอดดอกเบี้ย 6 งวดแรก ลงทะเบียนผ่านแอป MyMo แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.ลูกค้าในพื้นที่สีแดง 6 จังหวัด เริ่มกู้ 13 พ.ค. 64 2. ลูกค้าพื้นที่ทั่วไป เริ่มกู้ได้ 20 พ.ค. 64
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3f5N1Jy)
⚪️ธนาคารอาคารสงเคราะห์
🔹มาตรการที่ 13 : พักชำระเงินต้น และจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน ระยะแรกเป็นเวลา 3 เดือน (1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2564) สำหรับลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติ (ไม่เป็น NPL ไม่อยู่ขั้นตอนของกฎหมาย และไม่อยู่ระหว่างทำข้อตกลงประนอมหนี้) ครอบคลุมทั้งลูกค้าที่ไม่เคย หรือเคยใช้ หรืออยู่ระหว่างใช้มาตรการความช่วยเหลือเดิมของธนาคาร และต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จาก COVID-19 รวมถึงยังไม่สามารถผ่อนชำระหนี้ได้ตามสัญญาเงินกู้
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3uJ2eHl )
🔹 มาตรการที่ 14 : พักชำระเงินต้นและจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยรายเดือน พร้อมลดดอกเบี้ยลงเหลือ 3.90% ต่อปี ระยะแรกเป็นเวลา 3 เดือน(1 พฤษภาคม – 31 กรกฎาคม 2564) สำหรับลูกหนี้ที่สถานะ NPL และลูกหนี้ NPL ที่อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ ซึ่งจะพ้นสิทธิการปรับโครงสร้างหนี้ที่ใช้อยู่หากใช้มาตรการที่ 14 และต้องเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจ หรือการค้า เนื่องจาก COVID-19 และไม่สามารถผ่อนชำระเงินงวดให้ธนาคารได้ตามสัญญาเงินกู้หรือข้อตกลงปรับโครงสร้างหนี้หรือตามคำพิพากษา
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3uJ2eHl )
⚪️ไทยพาณิชย์
🔹สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการรายย่อย (ยอดขายไม่เกิน 75 ล้านบาทต่อปี) ลูกค้าสามารถพักชำระค่างวดสูงสุด 3 เดือน หรือปรับลดอัตราผ่อน และขยายระยะเวลาผ่อน
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/2RQMiE4 )
⚪️ทีเอ็มบีและธนชาต
🔹 โครงการตั้งหลักเพื่อลูกค้าธุรกิจ
- ลูกค้า SME วงเงินกู้ระยะยาว : พักชำระเงินต้นสูงสุด 3 เดือน และขยายระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 3 เดือน นับจากวันที่ลูกค้าได้รับอนุมัติเข้าร่วมโครงการ
- ลูกค้า SME วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี (OD)/วงเงินสินเชื่อหมุนเวียน : แปลงวงเงินกู้เบิกเกินบัญชี(OD)หรือวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนระยะยาว
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3fb1vIg )
⚪️กสิกรไทย
🔹 สินเชื่อเงินด่วนแบบผ่อนระยะยาวเพื่อธุรกิจ (Xpress Loan – Long Term Loan) มอบมาตรการช่วยเหลือเพิ่ม 3 ทางเลือก
1. จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน
2. ลดยอดผ่อนชำระ 30% เป็นเวลา 3 เดือน
3. พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 เดือน
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3hg43Ym)
⚪️ธนาคารกรุงเทพ
🔹 มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อฟื้นฟูท่องเที่ยวไทย กู้ได้ไม่เกิน 100 ล้านบาท (รวมทุกสถาบันการเงิน) อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี คงที่ตลอดระยะเวลา 2 ปี หลังจากนั้นคิดดอกเบี้ยตามอัตราปกติของธนาคาร ยื่นขอสินเชื่อภายใน 30 มิ.ย. 64 (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3eGel25)
⚪️กรุงศรี
🔹 มาตราการช่วยเหลือลูกค้าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า 2019 ระยะที่ 2 (2564)
- ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจรายย่อย (SME BB) พักชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน, พักชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน, ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวดสูงสุดไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ และไม่เกิน 12 เดือน
- ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SME และ สินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ พิจารณามาตราการช่วยเหลือตามผลกระทบที่ได้รับ ทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงความสามารถในการชำระหนี้เป็นรายกรณีไป
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3eFjd7K )
⚪️กรุงไทย
🔹 มาตรการที่ 3 ลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจไม่เกิน 100 ล้านทุกราย ไม่ต้องลงทะเบียนสามารถพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนาน 6 เดือน
🔹 มาตรการที่ 4 ลูกค้าสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางขึ้นไป มีเอกสารแสดงว่ารายได้ลดลง พักชำระหนี้เงินต้นสูงสุด 12 เดือน และขยายเวลาชำระหนี้ P/N และ Trade Finance สูงสุด 6
🔹 มาตรการที่ 5 ลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อเกิน 500 ล้าน กู้ได้ไม่เกิน 20% เดือนของยอดคงค้าง ณ 31 ธ.ค. 62 อัตราดอกเบี้ย 2% ระยะเวลา 2 ปี พักชำระนานสุด 12 เดือน ไม่คิดดอกเบี้ย 6 เดือน
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3tIZfgF)
⚪️Exim Bank
🔹 มาตรการสินเชื่อ CLMV อุ่นใจ เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้แก่ผู้ประกอบการไทยใน CLMV ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.99 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 3 ปีสามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 พฤศจิกายน 2564
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/3uJPVud )
🔹 มาตรการเยียวยาธุรกิจไทยในเมียนมา สามารถพักชำระหนี้เงินต้นกรณีวงเงินกู้ระยะยาวสูงสุด 12 เดือนต่ออายุตั๋วสัญญาใช้เงินรวมสูงสุดไม่เกิน 180 วัน โดยแจ้งความประสงค์ได้ภายใน 30 กันยายน 2564
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/2SKNSrP )
⚪️บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
🔹 โครงการค้ำประกันสินเชื่อ พ.ร.ก. สินเชื่อฟื้นฟู โครงการจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่ประสบปัญหาหรือได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยจะให้วงเงินค้ำประกันสูงสุดไม่เกิน 150 ล้านบาท/ราย/สถาบันการเงิน ระยะเวลาสูงสุด 10 ปี สิ้นสุดรับคำขอภายในวันที่ 9 ตุลาคม 2566 หรือวงเงินค้ำประกันครบ 100,000 ล้านบาท สำหรับค่าธรรมเนียมการค้ำประกันปีที่ 1 -2 อยู่ร้อยละ 1.75 ต่อปี และจะมีการปรับในปีที่ 3 เป็นต้นไป สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3hqUQg1
-------------------------------------------------------
🔺 มาตรการส่งเสริมการใช้จ่ายจากรัฐบาล 🔺
🔹 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 3 สนับสนุนค่าครองชีพเพิ่มเดือนละ 200 บาท ระยะเวลา 6 เดือน เริ่มเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2564
🔹 คนละครึ่งเฟส 3 เพิ่ม รัฐช่วยจ่ายสูงสุด 150บาท/วัน ในวงเงินคนละไม่เกิน 3,000 บาท เริ่มจ่ายเงินให้ในเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป
🔹 เราชนะ เพิ่มวงเงินให้อีกคนละ 2,000 บาท แบ่งจ่ายสัปดาห์ละ 1,000 บาท และใช้ได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564
🔹 ม.33 เรารักกัน เพิ่มวงเงินให้อีกคนละ 2,000 บาท แบ่งจ่ายสัปดาห์ละ 1,000 บาท และใช้ได้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564
🔹 ยิ่งใช้ ยิ่งได้ รัฐบาลสนับสนุน E-Voucher ให้ประชาชนเพื่อซื้อสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม และค่าบริการร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ในวงเงินไม่เกิน 7,000 บาท/คน โดยจะได้รับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2564
🔹 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ, ผู้พิการ ทุพพลภาพ, ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเดินทางออกจากที่พักอาศัยหรือจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลืออีกคนละ 200 บาท เป็นเวลา 6 เดือน ในช่วงเดือนกรกฎาคม – ธันวาคม 2564
🔹 สำหรับโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และ โครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่ประชุมครม. มีมติให้เลื่อนออกไปก่อน
-------------------------------------------------------
🔺ลดค่าน้ำ – ค่าไฟ 🔺
มาตรการลดค่าน้ำ-ค่าไฟ มีผลเป็นระยะเวลา 2 เดือนด้วยกัน คือ เดือนพฤษภาคม ถึงมิถุนายน 2564
🔹 ลดค่าน้ำปะปา
ลดค่าน้ำประปาลงร้อยละ 10 เปอร์เซ็นต์ ในประเภทของบ้านอยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ
🔹 ลดค่าไฟฟ้า
ลดค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย และกิจการขนาดเล็ก โดยใช้ค่าไฟฟ้าในช่วงเดือนเมษายน 2564 เป็นฐานในการคำนวณ
1. ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วย ได้สิทธิ์ใช้ไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยแรก
2. ใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วย หากหน่วยใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับบิลเดือนเมษายน 2564 ให้คิดตามหน่วยการใช้งานจริง
** กรณีใช้ไฟฟ้าเกินบิลเดือนเมษายน 2564 ให้คิดดังนี้
- ไม่เกิน 500 หน่วย คิดตามบิลเดือนเมษายน 2564
- มากกว่า 500 แต่ไม่เกิน 1,000 หน่วย ให้คิดเท่ากับบิลเดือนเมษายน 2564 บวกด้วยหน่วยการใช้ไฟฟ้าที่มากกว่าบิลค่าไฟฟ้าเดือนเมษายน 2564 ในอัตราร้อยละ 50
- ใช้มากกว่า 1,000 หน่วย ให้คิดเท่ากับบิลเดือนเมษายน 2564 บวกด้วยหน่วยการใช้ไฟฟ้าที่มากกว่าบิลค่าไฟฟ้าเดือนเมษายน 2564 ในอัตราร้อยละ 70 โดยให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม
3 .กิจการขนาดเล็ก(ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ)จะได้สิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี 50 หน่วยแรกของเดือนทั้ง 2 เดือน
-------------------------------------------------------
🔺 สำนักงานประกันสังคม 🔺
🔹 จ่ายเงินเยียวยากรณีว่างงานจากกรณีโควิด-19 ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างรายวัน ระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน โดยลูกจ้างจะต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 ส่งเงินสมทบครบ 6 เดือนใน 15 เดือน
(อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม : www.sso.go.th )
.
ที่มา :
https://bit.ly/3y6zV7F
https://bit.ly/33QnzCZ
https://bit.ly/2RHnMW5
https://bit.ly/2ROtsha
https://bit.ly/3fspB1x
https://bit.ly/3bmcFZE
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan #อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#Business #ธุรกิจ #ไอเดียธุรกิจ #เยียวยาโควิด #มาตรการ #SME #พักหนี้ #กู้สินเชื่อ #ผ่อนชำระ #กู้เงิน
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過53萬的網紅วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB,也在其Youtube影片中提到,ถ้าคุณอยากหาเงินออนไลน์ ด้วยวิธีอื่นๆ กับ WBL (Warattapob Business Learning) แอดไลน์โดยคลิกลิงก์นี้ https://line.me/ti/p/~@warattapob หรือแอดไลน์โดยไอ...
clmv คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
กรณีศึกษา ยาสีฟัน "เทพไทย" จากสินค้า OTOP สู่แบรนด์ระดับประเทศ /โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า ตลาดยาสีฟันสมุนไพรในไทย
มีเจ้าตลาดที่ครองตลาดมายาวนานหลายปี คือ ดอกบัวคู่
แต่ตอนนี้ กำลังมีผู้ท้าชิงรายใหม่ ที่กำลังเข้าแย่งชิงส่วนแบ่งนี้
นั่นก็คือ ยาสีฟัน “เทพไทย”
เรื่องราวของแบรนด์นี้เป็นอย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
อีกครั้งกับกรณีศึกษาธุรกิจมากมายที่จะช่วยเปิดกว้างมุมมองความรู้ของคุณ
ใน ลงทุนแมน 13.0 เล่มล่าสุด สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/130-i1587474257-s4309842746.html
Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือลงทุนแมน-13.0-i.116732911.7453767586
╚═══════════╝
ถ้าเรามาดูแบรนด์ยาสีฟันสมุนไพรในไทย
ดอกบัวคู่ เริ่มขายยาสีฟันมานานกว่า 43 ปี โดยตระกูล ลีเลิศพันธ์
ส่วนยาสีฟัน เทพไทย เริ่มขายอย่างเป็นทางการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2547 หรือเมื่อ 16 ปีก่อนเท่านั้น
หลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไม เทพไทย เพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จักเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ. 2546
คุณสิริกร ชิวปรีชา ได้พัฒนาสูตรยาสีฟันสมุนไพรในครอบครัว ที่ต่อยอดมาจากองค์ความรู้ ที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่ที่เป็นแพทย์ทหาร
โดยแต่เดิม ครอบครัวของคุณสิริกร อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ
แต่หลังจากเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งในช่วงปี พ.ศ. 2540
คุณสิริกรและครอบครัวจึงย้ายไปอาศัยที่จังหวัดสงขลา ที่มีค่าครองชีพต่ำกว่า และยังพอมีลู่ทางทำธุรกิจได้
คุณสิริกร เริ่มจากการลองนำสูตรยาสีฟันที่คิดค้นขึ้นนี้ไปให้เพื่อนบ้านที่มีปัญหาทางช่องปากใช้
ซึ่งปรากฏว่า ได้รับผลตอบรับที่ดี คุณสิริกร จึงตัดสินใจเริ่มทำขาย โดยทำเองทุกขั้นตอน แล้วนำใส่ตะกร้าขายตามสถานที่ต่างๆ
วันหนึ่งระหว่างที่คุณสิริกร หิ้วขายของ และแวะนั่งพักบริเวณ ห้างไดอาน่า ในตัวเมืองหาดใหญ่ ซึ่งในขณะนั้นกำลังมีงาน OTOP หรือ สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
คุณสิริกร เห็นเช่นนั้นก็มีความคิดอยากทำให้ยาสีฟันของตัวเอง เข้ามาขายในงานนี้บ้าง
จึงได้เริ่มเดินหน้าจดทะเบียนให้ยาสีฟันของตัวเอง ได้การรับรองเป็นสินค้า OTOP
สุดท้ายยาสีฟันเทพไทย (ในช่วงแรกชื่อ รักษ์ไทย) ก็ได้รับการรับรองเป็นสินค้า OTOP ของจังหวัดสงขลา
เทพไทย เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากนัก จนกระทั่ง คุณกร สุริยพันธุ์ ลูกชายคนเล็กของคุณสิริกร เข้ามาช่วยสานต่อกิจการ
คุณกร เริ่มพิจารณาข้อดีข้อเสียของแบรนด์ตัวเอง
แล้วก็ค้นพบว่า สิ่งที่ยังขาดไปของแบรนด์ เทพไทย
นั่นก็คือ “การทำการตลาด”
คุณกร นำบริษัทเข้าจดทะเบียนด้วยชื่อว่า บริษัท เทพไทย โปรดัคท์ จำกัด ในปี พ.ศ. 2556
จากนั้นก็เริ่มเดินหน้าปรับภาพลักษณ์ของบริษัท
โดยเริ่มตั้งแต่การจ้างพรีเซนเตอร์ เป็นดาราชื่อดัง
เช่น คุณเมญ่า นนธวรรณ มิสไทยแลนด์เวิลด์, คุณเวียร์ ศุกลวัฒน์ และ คุณเบลล่า ราณี
โดยในช่วงนั้น คุณเบลล่า ราณี กำลังมีผลงานแสดง เรื่อง บุพเพสันนิวาส ละครไทยย้อนยุค ซึ่งกำลังเป็นกระแสร้อนแรงในขณะนั้น จึงทำให้ยาสีฟันเทพไทย เป็นที่รู้จักมากขึ้น
เทพไทย ยังจับมือกับบริษัท Mass Marketing ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าชื่อดังหลายแบรนด์ และมีพาร์ตเนอร์ที่เป็นช่องทางจัดจำหน่ายจำนวนมาก ทำให้ยาสีฟันเทพไทย ยิ่งเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมากขึ้นอีก
นอกจากนั้น เทพไทย ยังได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย (ฮาลาล) และได้รับ รางวัลเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 5 ดาว
จึงทำให้เทพไทย มีภาพลักษณ์เป็นแบรนด์ที่สะอาด และมีคุณภาพสูง
แล้วรายได้ของยาสีฟันเทพไทยเป็นอย่างไร?
ผลประกอบการของ บริษัท เทพไทย โปรดัคท์ จำกัด
ปี 2560 รายได้ 73 ล้านบาท กำไร 14 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 176 ล้านบาท กำไร 16 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 298 ล้านบาท กำไร 71 ล้านบาท
รายได้ของ เทพไทย เติบโตขึ้นกว่า 300% ในเวลา 3 ปี
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจสงสัยว่า
ยาสีฟันเทพไทยนั้นแตกต่างจากแบรนด์อื่นในตลาดอย่างไร
สิ่งที่น่าสนใจอย่างแรกคือ
ขณะที่ยาสีฟันแบรนด์อื่นๆ อาจจะพยายาม ทำให้ปากหลอดยาสีฟันใหญ่ขึ้น เพื่อให้ใช้หมดเร็วขึ้น
แต่ยาสีฟันของเทพไทย กลับเคลมว่า 1 หลอดใหญ่สามารถใช้แปรงได้ถึง 350 ครั้ง
โดยมีจุดขายว่า บีบยาสีฟันเท่าเม็ดถั่วเขียวก็เพียงพอ
นอกจากคุณสมบัติทำความสะอาดฟันแบบยาสีฟันทั่วไปแล้ว
ยาสีฟันเทพไทยก็มีคุณสมบัติในการรักษาโรคเหงือกฟัน
ตามสรรพคุณสมุนไพรไทยอีกด้วย
เรื่องนี้จึงทำให้ ยาสีฟันเทพไทย ถูกแนะนำปากต่อปาก จนค่อยๆ กลายเป็นยาสีฟันที่หลายคนติดใจ
และปัจจุบัน คุณกร ก็ยังมีเป้าหมายที่จะขยายสินค้าไปยังต่างประเทศอีก โดยเริ่มจากแถบ CLMV หรือประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ไทย
สำหรับเรื่องของยาสีฟันเทพไทย
ก็เป็นกรณีศึกษาที่ดีที่ทำให้เราเห็นว่า
ธุรกิจเล็กๆ ระดับชุมชน ก็สามารถผลักดันตัวเองให้ก้าวสู่แบรนด์ระดับประเทศได้
จะเห็นว่าสิ่งสำคัญของการทำธุรกิจ คือการทำสินค้าให้ดี มีมาตรฐาน
และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้คุณภาพของสินค้า ก็คือการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักให้ได้
เพราะถ้าแบรนด์มีทั้งสินค้าคุณภาพดี
และสามารถทำให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคได้
ก็จะสร้างการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
เหมือนอย่าง ยาสีฟันเทพไทย ยาสีฟันสมุนไพรของไทย ที่กำลังมาแรง ในตอนนี้..
╔═══════════╗
อีกครั้งกับกรณีศึกษาธุรกิจมากมายที่จะช่วยเปิดกว้างมุมมองความรู้ของคุณ
ใน ลงทุนแมน 13.0 เล่มล่าสุด สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ที่
Lazada: https://www.lazada.co.th/products/130-i1587474257-s4309842746.html
Shopee: https://shopee.co.th/Longtunman-หนังสือลงทุนแมน-13.0-i.116732911.7453767586
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-http://www.opt-news.com/news/6800
-https://www.tepthaiproduct.com/OUR_Und_STORY/5678d9ef8ab7f7b46330f259
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
-http://www.psub.psu.ac.th/broadcast/archives/4578
-https://workpointtoday.com/korn-suriyapan/
-https://www.youtube.com/watch?v=XG78NthzIbA
clmv คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
มหากาพย์ โรซ่า / โดย ลงทุนแมน
อาหารคู่ใจ ราคาเป็นมิตรยามสิ้นเดือน คงหนีไม่พ้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและปลากระป๋อง
หนึ่งในแบรนด์ปลากระป๋อง ที่เราคุ้นเคยก็คือ “โรซ่า”
นอกจากปลากระป๋องแล้ว
โรซ่า ก็ยังเป็นเจ้าของซอสมะเขือเทศอีกด้วย
แล้วระหว่างซอสมะเขือเทศ กับปลากระป๋อง บริษัทเริ่มผลิตอะไรก่อนกัน?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
หลายคนยังไม่รู้ว่า ปลากระป๋องโรซ่ากับไฮคิว มีเจ้าของเดียวกัน คือ บริษัท ไฮ คิว ผลิตภัณฑ์อาหาร
ซึ่งบริษัทไม่ได้ตั้งใจแตกแบรนด์เพื่อขยายตลาด แต่มันมีเบื้องหลังของเรื่องราวอยู่
ปัจจุบัน บริษัท ไฮ คิว ผลิตภัณฑ์อาหาร บริหารโดยพี่น้องตระกูลวังพัฒนมงคล
ซึ่งรุ่นพ่อได้หอบเสื่อผืนหมอนใบจากเมืองจีน มาเริ่มต้นธุรกิจ และสร้างครอบครัวที่ไทย
โดยเปิดร้านยี่ปั๊ว ขายน้ำตาลทราย กับนมข้นหวาน แต่เมื่อทำไปสักพัก ก็รู้สึกว่าการเป็นพ่อค้าคนกลางสร้างกำไรได้น้อย หากต้องการให้ธุรกิจเติบโต ก็ต้องหันมาสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเอง
ร้านจึงได้เริ่มพัฒนาสินค้าซอสปรุงรส อย่างซีอิ๊ว ภายใต้แบรนด์ “ตราแพะ” จำหน่าย
และต่อมาเห็นว่าคนไทยกำลังนิยมบริโภคอาหารตะวันตกมากขึ้น จึงอยากให้คนไทยได้มีโอกาสเข้าถึงซอสมะเขือเทศกันในราคาถูก
ซึ่งในตอนนั้น ซอสมะเขือเทศ ไม่มีผลิตในไทย ต้องนำเข้าอย่างเดียว ราคาจึงแพง
อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นสินค้าตะวันตก แต่ชื่อไทย ทำให้ลูกชายคนโตรู้สึกว่าภาพลักษณ์ไม่เข้ากัน
จึงเสนอให้เปลี่ยนแบรนด์เป็น “โรซ่า” ซึ่งเป็นชื่อดินแดนในประเทศรัสเซีย หนึ่งในพื้นที่ปลูกมะเขือเทศมากที่สุดในโลก
พร้อมตั้งเป็นบริษัท โรซ่าผลิตภัณฑ์อาหาร (ประเทศไทย) จำกัด
กระบวนการผลิตซอสแน่นอนว่ามีมะเขือเทศเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งมะเขือเทศจะออกผลได้ดีเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น
บริษัทจึงต้องนำเข้าเครื่องจักรผลิตน้ำมะเขือเทศชนิดเข้มข้นจากอิตาลี เพื่อคั้นน้ำมะเขือเทศเก็บไว้ผลิตซอสได้ตลอดทั้งปี
แต่ในบางช่วง บริษัทก็สามารถผลิตมะเขือเทศเข้มข้นในปริมาณที่เกินความต้องการ
จึงต้องหาวิธีที่จะระบายออก โดยนำมะเขือเทศเข้มข้นส่วนเกินนี้ไปขายให้กับโรงงานปลากระป๋อง
แต่ผลปรากฏว่า ไม่มีใครยอมรับซื้อ
บริษัทจึงแก้เกมโดยการตัดสินใจลงทุนสร้างโรงงานผลิตปลากระป๋องภายใต้แบรนด์ตัวเองเสียเลย..
กิจการซอสมะเขือเทศและปลากระป๋องโรซ่า จึงเป็นเหมือนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน และดำเนินไปด้วยดี จนมีรายได้หลักร้อยล้านบาท
อย่างไรก็ตาม แม้จะทำธุรกิจเก่งแค่ไหน หากขาดความรู้ทางการเงินที่ดีพอ
สถานีสุดท้าย ก็อาจเป็นหน้าผา..
ซึ่งในตอนนั้น เงินทุนส่วนใหญ่ที่บริษัทใช้นำเข้าเครื่องจักร และสร้างโรงงานนั้น มาจากการกู้นอกระบบ
ทำให้ พิษร้ายที่เรียกว่า ดอกเบี้ย ยากที่จะหา “ยา” มารักษาให้ธุรกิจได้
จนในที่สุด บริษัทขาดสภาพคล่อง และสู้ภาระทางดอกเบี้ยไม่ไหว จึงต้องล้มละลายในปี พ.ศ. 2529
บริษัทซึ่งเป็นหนี้อยู่ร้อยล้านบาท ถูกยึดทรัพย์สินไป ทั้งโรงงาน เครื่องจักร รวมถึง เครื่องหมายการค้า “โรซ่า”
ซึ่งแบรนด์ถูกนำไปให้บริษัท พรีเมียร์ มาร์เก็ตติ้ง เจ้าของแบรนด์ปลาเส้น ทาโร เช่าทำตลาดในระหว่างคดีอยู่ในชั้นศาล
เรื่องเหมือนจะจบตรงนี้ แต่ความจริง มันกลับเป็นจุดเริ่มต้น..
ในปีเดียวกัน ลูกชายคนโต กลับไม่รู้สึกสิ้นหวัง และเสียดายความชำนาญเรื่องซอส เรื่องปลากระป๋อง
จึงได้ชวนเพื่อนๆ รวมถึงลูกคนเล็ก มาร่วมตั้งบริษัทใหม่ขึ้นอีกครั้ง คือ บริษัท ไฮ คิว ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด เพื่อผลิตและจำหน่ายปลากระป๋องโดยเฉพาะ ภายใต้แบรนด์ “ไฮคิว” เนื่องจากประสบการณ์บอกว่า เป็นสินค้าที่เข้าถึงคนทั่วไปได้มากกว่าซอสมะเขือเทศ
สุดท้ายแบรนด์ ไฮคิว ก็ต้องมาสู้รบกับ โรซ่า ซึ่งมีผู้ให้กำเนิดเดียวกัน
ถึงแม้แบรนด์ไฮคิวจะมาทีหลัง
แต่ด้วยกลยุทธ์การแก้ pain point ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
โดยไฮคิว ได้นำฝาเปิดแบบห่วงมาใช้เปิดบรรจุภัณฑ์ แทนแบบเดิมที่ต้องใช้มีดเจาะฝาเปิด เพื่อความสะดวกแก่ผู้บริโภค
ต่อมาแบรนด์เริ่มเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค
และปี 2539 ก็เป็นวันที่รอคอย เมื่อคดีฟ้องล้มละลายสิ้นสุดลง
แบรนด์โรซ่าถูกขายทอดตลาด ซึ่งครอบครัววังพัฒนมงคล มองว่าเป็นโอกาสดีที่จะเอาแบรนด์ของครอบครัวกลับคืนมาสู่อ้อมกอดอีกครั้ง
ซึ่งช่วงนั้นยอดขายของธุรกิจไฮคิวกำลังโตอย่างรวดเร็ว
ทำให้ ไฮคิว มีเงินสดเก็บสะสมไว้ได้มาก จึงพร้อมทุ่มสุดตัว เพื่อชนะการประมูลแบรนด์โรซ่า
ซึ่งมีการกำหนดราคาเริ่มต้นที่ 31 ล้านบาท แต่ไฮคิวชนะประมูลด้วยราคาที่ 92 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง บริษัทยังได้โชคชั้นที่สอง โดยการได้ที่ดินและโรงงานซึ่งถูกยึดมาในราคาถูก เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอสำหรับซอสมะเขือเทศ และปลากระป๋องในอนาคต
แต่เมื่อมีสองแบรนด์ บริษัทเลยต้องวางตำแหน่งตลาดให้แตกต่างกัน โดยไฮคิวจะเป็นแบรนด์ระดับกลาง
ส่วนโรซ่าเป็นแบรนด์ระดับบน
บริษัท ไฮ คิว ผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด
ปี 2559 มีรายได้ 3,374 ล้านบาท กำไร 140 ล้านบาท
ปี 2560 มีรายได้ 3,690 ล้านบาท กำไร 59 ล้านบาท
ปี 2561 มีรายได้ 3,891 ล้านบาท กำไร 140 ล้านบาท
โดยสัดส่วนรายได้มาจาก ปลากระป๋อง 45%, ซอสมะเขือเทศ 30%, อาหารพร้อมทานและซอสปรุง 25%
ในตลาดซอสมะเขือเทศ คู่แข่งที่น่ากลัวของโรซ่า ก็คือแบรนด์นอกอย่าง ไฮนซ์
เมื่อไฮนซ์เข้ามาทำตลาดช่วงแรกๆ โรซ่าแทบสู้ไม่ได้เลย เนื่องจากผู้บริโภคต่างมองว่า โรซ่า เป็นแบรนด์เก่า
ดังนั้น บริษัทจึงทำการรีแบรนด์ ปรับภาพลักษณ์และบรรจุภัณฑ์ใหม่ ที่ใช้มากว่า 20 ปี ให้ดูทันสมัย
จับถนัดมือ และเทง่ายยิ่งขึ้น
พร้อมกับออกสินค้าชนิดขวดพลาสติกแบบบีบ ในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง
และนั่นทำให้ โรซ่า ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 60% ซึ่งทิ้งช่วงห่างคู่แข่งไปได้
และนับเป็นความภูมิใจของบริษัทที่ชนะแบรนด์ระดับโลก
ส่วนในตลาดปลากระป๋อง โรซ่าครองส่วนแบ่งอันดับสองที่ 15% เป็นรองจากแบรนด์ สามแม่ครัวที่ 35%
อย่างไรก็ตาม ตลาดปลากระป๋องก็กำลังเจอความท้าทาย
เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง และการมีตัวเลือกที่มากขึ้น
ทำให้ผู้บริโภคอาจหันไปรับประทานอาหารกลุ่มอื่นแทน เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และอาหารพร้อมทานต่างๆ
ซึ่งโรซ่าแก้เกม โดยการใช้กลยุทธ์พัฒนาสินค้าใหม่เข้ามา เพื่อขยายตลาดและทดแทนรายได้จากปลากระป๋อง เช่น ผลิตภัณฑ์ “โรซ่าพร้อม” อาหารพร้อมทานบรรจุในซอง ไม่ต้องแช่แข็ง แค่เปิดซองก็ทานได้เลย
ตอบโจทย์คนยุคสมัยปัจจุบัน ที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว
ในเรื่องการส่งออกของแบรนด์ไฮคิวและโรซ่า
บริษัทมีตลาดหลักคือ กลุ่มประเทศ CLMV โดยเฉพาะประเทศพม่าและลาว เนื่องจากเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมการรับประทานอาหารใกล้เคียงกับไทยมากที่สุด
เรื่องราวของไฮคิวและโรซ่า กำลังบอกอะไรกับเรา?
ชีวิตกับธุรกิจก็เหมือนกันตรงที่ มีขึ้น มีลง มีรุ่งเรือง มีพังทลาย
แต่ไม่ว่าจะเจอกับเหตุการณ์อะไร การไม่ยอมแพ้
และลงมือทำ ลงมือแก้ไขเรื่องต่างๆ ด้วยกำลัง ความสามารถที่มีทั้งหมดของเรา
โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
เพราะไม่มีใครรู้หรอกว่าตอนจบจะเป็นแบบไหน
แค่ทำมันไปเรื่อยๆ ตามแผนที่วางไว้
สุดท้าย ไม่ว่าเรื่องในอดีตจะเจ็บปวดแค่ไหน
เราก็จะผ่านมันไปได้..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-http://rozaprompt.com/about
-https://thepeople.co/suwit-wangpattanamongkol-hi-q-food-products/
-https://www.prachachat.net/marketing/news-347493
-https://www.tcijthai.com/news/2019/1/scoop/8700
-https://forbesthailand.com/people/asean-biz/
-https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/747311
-https://www.sentangsedtee.com/job-is-money/article_118381
-กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
clmv คือ 在 วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB Youtube 的精選貼文
ถ้าคุณอยากหาเงินออนไลน์ ด้วยวิธีอื่นๆ กับ WBL (Warattapob Business Learning) แอดไลน์โดยคลิกลิงก์นี้ https://line.me/ti/p/~@warattapob หรือแอดไลน์โดยไอดี @warattapob (อย่าลืมใส่ @ ข้างหน้าครับ)
.
AEC หรือประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ได้เอื้อโอกาสในการทำธุรกิจกับประเทศสมาชิกเพื่อนบ้านได้อย่างง่ายขึ้น ดังนั้นคุณจึงไม่ควรมองข้ามในการนำสินค้า ผลิตภัณฑ์ ไปขายในต่างประเทศด้วย
.
มีสิ่งใดบ้างที่คุณควรจะรู้เพื่อนำมาวิเคราะห์เป็นปัจจัยในการพัฒนาสินค้าหรือบริการเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละพื้นที่ครับ
.
? พบกับวิดีโอใหม่ทุกวัน ? ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จและรวย "เร็วขึ้น"
จากประสบการณ์การทำธุรกิจไทย-จีน มาแล้ว 14 ธุรกิจของผม
? คลิกลิงก์แล้วกด “SUBSCRIBE - ติดตาม และกดกระดิ่งแจ้งเตือน ตอนนี้เลย!! ?
https://www.youtube.com/channel/UC6GkGouzOitA6vUzOEBEqwA?sub_confirmation=1
—
/ ดูวิดีโอของ "วรัทภพ" ตามเพลย์ลิสต์
? คลิปใหม่ล่าสุด (มีคลิปใหม่ทุกวัน) https://bit.ly/2OCDdvb
========================
?ลงทุนอะไรดี https://bit.ly/2kH0Lm0
?วิธีขายของ LAZADA https://bit.ly/2TUxuRn
?วิธีขายของ SHOPEE https://bit.ly/2lJ5LHe
?วิธีสั่งสินค้าจากจีน https://bit.ly/2IERdmE
?วิธีส้รางรายได้บน YOUTUBE https://bit.ly/2NT8l8L
?การทำตลาดจีน และส่งออกจีน https://bit.ly/2GWdITq
?วิธีขายสินค้าแบบ ดรอปชิป https://bit.ly/2x2sOPf
?WARATTAPOB PODCAST https://bit.ly/2SBlrHR
?วิธีทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ https://bit.ly/2lRZuZn
?วิธีปลดหนี้ https://bit.ly/2PKNplE
========================
??VLOG IN CHINA ชีวิตในจีนของผม https://bit.ly/2AqaFNB
??VLOG IN THAILAND ชีวิตในไทยของผม https://bit.ly/2AUvnWf
========================
?แกะคำคม ข้อคิด นักปราชญ์ และนักธุรกิจ https://bit.ly/2SDzHjh
?5 นาที หาเงินแบบมหาเศรษฐี https://bit.ly/2k9oyuu
?รีวิวหนังสือที่ผมชอบ http://bit.ly/2lRZJnf
?วิธีเริ่มต้นธุรกิจ ในปัจจุบัน https://bit.ly/2ChCNT7
?ความรู้ หาเงิน เพิ่มรายได้ ที่จะทำให้คุณรวยเร็วขึ้น https://bit.ly/2CR2Jqc
?เคล็ดลับ การตลาดและการขาย https://bit.ly/2M8P7cV
?ไอเดียธุรกิจเงินล้าน https://bit.ly/2TrY2IT
?พัฒนาตัวเอง เพื่อความสำเร็จในด้านที่ต้องการ https://bit.ly/2LTPms2
?แรงบันดาลใจและกำลังใจ ในการใช้ชีวิต https://bit.ly/2TKQAbW
?รีวิว ธุรกิจจีนและเศรษฐกิจจีน https://bit.ly/2M8Phkx
?ความรู้ไทย-จีน อื่นๆ http://bit.ly/2kIZaMn
—
// วรัทภพ รชตนามวงษ์ คือ ใคร?
ผม "วรัทภพ รชตนามวงษ์" เป็นคนไทย เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่
เป็นผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจมาแล้ว 14 ธุรกิจ
ทั้งในประเทศไทย และ จีน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนถึงปัจจุบัน
ผมตั้งใจทำสื่อเพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์
ให้คนรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิตและรวย “เร็วขึ้น”
?คุณสามารถดูคลิปจากลิงก์ล่างนี้ ว่าผมมีประสบการณ์ธุรกิจอะไรบ้าง?
http://bit.ly/2kHDgt4
—
// ติดตาม วรัทภพ รชตนามวงษ์ เพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.warattapob.com
?SOCIAL
Instagram : https://www.instagram.com/warattapob_rachatanamwong
Facebook : https://fb.me/WarattapobRachatanamwong
YouTube: https://www.youtube.com/c/WarattapobRachatanamwong
Line official : http://line.me/ti/p/~@warattapob
Twitter : https://twitter.com/warattapob
Tiktok : https://www.tiktok.com/@warattapob
?PODCAST
--สำหรับ Android
Soundcloud : https://bit.ly/2QjfVYm
Spotify : https://spoti.fi/2Jcwh6Y
--สำหรับ iOS
Apple Podcast : https://apple.co/2QjW5fM
—
#WARATTAPOB #บุกตลาดAEC #ประเทศเพื่อนบ้าน
วิดีโอนี้เกี่ยวกับ บุกตลาด AEC อย่างไรให้สำเร็จ ลาว พม่า เวียดนามกัมพูชา
LINK https://youtu.be/X5huIlIsswo
LINK https://youtu.be/X5huIlIsswo