เอกสารการเงินที่คุณเก็บไว้นอกจากจะใช้เพื่อยื่นภาษีได้แล้ว ก็ยังสามารถนำเอามาต่อยอดเพื่อพัฒนาและทำให้บริษัทเติบโตได้อีกด้วย!
.
สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กแล้วนั้น แน่นอนว่าการทำบัญชีหรืองบการเงินก็เป็นสิ่งสำคัญที่เอาไว้ใช้ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อยื่นภาษีอย่างถูกต้อง แต่จริง ๆ แล้วเอกสารเหล่านี้ยังมีข้อดีที่เหล่าเจ้าของธุรกิจสามารถนำเอาไปใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนากิจการให้ก้าวหน้าต่อได้ ซึ่ง 5 รายงานการเงินที่สามารถสร้างแต้มต่อให้ธุรกิจคุณได้มีดังนี้
.
1. งบกำไร-ขาดทุน
รายงานที่สำคัญที่สุดของธุรกิจ เป็นรายงานที่แสดงให้เห็น รายได้ ค้าใช้จ่าย และกำไรของบริษัท โดยการทำบัญชีที่ดีคือต้องระบุชัดเจนว่า เงินที่จ่ายออกไปไหน และเงินที่เข้ามาจากทางใด ผู้ประกอบการควรดูรายงานนี้อย่างน้อยทุกเดือน เพื่อดูแนวโน้มและเปรียบเทียบผลลัพธ์ของเวลาปัจจุบันเทียบกับปีก่อนในช่วงเวลาเดียวกัน รวมถึงเทียบกับช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เพื่อให้เห็นภาพรวมของรายรับรายจ่ายโดยจะทำให้รู้ว่ารายได้ส่วนไหนดีหรือรายจ่ายส่วนไหนที่ควรปรับลด อีกทั้งยังช่วยให้ทราบว่าควรมุ่งเน้นไปที่การทำกำไรส่วนไหนมากที่สุดของธุรกิจ
.
2. งบดุล
หรืองบแสดงฐานะทางการเงิน เปรียบเสมือนภาพถ่ายของกิจการ ณ วันต้นงวดกับปลายงวด เพราะเป็น รายงานทางการเงินที่จะทำให้เห็นภาพรวมได้ถึงฐานะทางการเงินในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยงบดุลจะเป็นการเปรียบเทียบว่าตอนปลายงวดนั้นบริษัทเติบโตขึ้นจากตอนต้นงวดหรือไม่นั่นเอง เมื่อทำการตรวจสอบงบดุลก็ควรดูที่สินทรัพย์ระยะสั้นกับหนี้สินระยะสั้นด้วย เพราะจะทำให้เห็นสภาพคล่องของกิจการได้
.
3. การดูอายุลูกหนี้
หรือ Accounts Receivable Aging เป็นรายงานที่แสดงการแบ่งช่วงอายุของลูกหนี้ให้เห็นอย่างชัดเจน เช่น 30 วัน 60 วัน 90 วัน 180 วัน หรือมากกว่านั้น 270 วัน โดยรายงานนี้จะทำให้ทราบว่าการเก็บเงินลูกหนี้นั้นเป็นไปตามข้อตกลงหรือไม่ รายไหนที่จ่ายแล้ว รายไหนที่จ่ายล่าช้า รายไหนที่ค้างจ่าย เหตุการณ์นี้มักเกิดขึ้นบ่อยกับธุรกิจค้าส่งที่มักใช้วิธีปล่อยเครดิตให้ลูกค้าเพราะอยากทำรายได้ให้เยอะ ๆ และซื้อใจลูกค้าในระยะยาว ซึ่งนั่นถือเป็นเรื่องที่ดีแต่หากเรามัวสนใจแต่กำไร แต่ไม่สนใจว่าจะเก็บเงินจริงได้ไหมก็คงไม่ทำให้บริษัทเราเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน
.
4. รายได้จากลูกค้า
เหมือนกับการดูว่าใครคือลูกหนี้ของเราบ้าง แต่รายงานนี้คือการดูว่าใครที่ให้ประโยชน์กับธุรกิจเราได้มากที่สุด ซึ่งรายงานนี้จะสามารถบอกได้ว่าธุรกิจของคุณสามารถสร้างรายได้จากลูกค้าแต่ละรายได้อย่างไรบ้าง ซึ่งไม่ควรที่จะยึดติดกับแหล่งรายได้แหล่งใดแหล่งหนึ่งมากจนเกินไป เพราะการได้รายได้เพียงทางเดียวคือความเสี่ยงของธุรกิจเนื่องจากเป็นการกระจุกตัวของรายได้ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดลูกค้ารายนั้นเกิดการถอนตัวออกไปก็จะสามารถส่งผลกระทบขนาดใหญ่ให้กับธุรกิจได้ ดังนั้นผู้ประกอบการทุกท่านควรหาลูกค้าที่หลากหลายเพื่อกระจายรายรับให้ไม่ไปอยู่ที่ใคนคนใดคนหนึ่งมากจนเกินไป
.
5. การดูอายุเจ้าหนี้การค้า
Accounts Payable Aging อีกหนึ่งรายงานทางการเงินที่สำคัญก็คือ นอกจากจะดูว่าใครเป็นลูกหนี้เราแล้ว ก็ควรดูว่าเราเป็นลูกหนี้ใครอยู่บ้าง จำนวนเท่าไหร่ กำหนดการชำระวันไหน ซึ่งควรอัปเดตข้อมูลเหล่านี้อยู่เสมอเพื่อไม่ให้พลาดวันครบกำหนดชำระหนี้ไป เพราะนั่นอาจหมายถึงสัมพันธ์ทางการค้าที่แย่ลง หรืออาจจะต้องจ่ายค่าปรับ รวมถึงค่าเสียหายอื่นๆ ตามมา คิดภาพง่ายๆ ว่าเราอยากให้ลูกหนี้เราจ่ายตรงเวลาแค่ไหน เราก็ควรจ่ายหนี้ของตัวเองให้ตรงเวลาด้วยเช่นกัน
.
นอกจากนี้ข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจก็สามารถนำมาต่อยอดได้อีก เช่น ฟีดแบคจากลูกค้าที่สามารถนำมาพัฒนาสินค้าและบริการให้ดีขึ้นมากกว่าเดิม และทั้งหมดนี้ก็คือรายงานทางการเงินที่เจ้าของธุรกิจไม่ควรมองข้าม เพราะบางคนไม่สนใจปล่อยให้เป็นเพียงแค่ข้อมูลในการยื่นภาษีเพียงเท่านั้น แต่รายงานเหล่านี้นี่แหละที่จะทำให้คุณนั้นรู้จักธุรกิจตัวเองดีมากขึ้น และสามารถนำมาสร้างแต้มต่อให้ธุรกิจก้าวหน้าและเติบโตได้ไวกว่าคนอื่น
.
ที่มา : https://www.smethailandclub.com/startups-5374-id.html?fbclid=IwAR11Ot-m5sL9DqFBJ_J_7tb5Rv0wDTGVhcUUql3lo7ELaZ1_c3u46DOcPmg
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan
#อายุน้อยร้อยล้านNEWS
#SME #วางแผนการเงิน #ต่อยอดธุรกิจ #การเงิน
