Speed (7.5/10)
มาพูดถึงหนังเรื่อง Speed กันหลังหนังฉายไปแล้ว ผู้คนคงจะจดจำแต่ความสำเร็จและความสนุกของหนัง แต่ถ้าพูดถึง Speed เมื่อตอนก่อนออกฉายแล้วคงจะมีแต่ประเด็นว่าหนังแบบนี้จะไปรอดเหรอ ขนาดสตูดิโอ Paramount ที่ได้สคริปต์มาในปี 1992 ยังปฏิเสธที่จะทำเป็นหนังเพราะคิดว่ามันคงไม่เวิร์ค ซึ่งทำให้สตูดิโอ 20th Century Fox เอามาทำต่อเอง แต่พอเอาไปเสนอผู้กำกับดัง ๆ ในยุคนั้นอย่าง 'จอห์น แมคเทียร์แนน' ที่ประสบความสำเร็จต่อเนื่องมาจาก Predator, Die Hard, The Hunt for Red October แต่มาเจ๊งกับ Last Action Hero ก็ยังโดนปฏิเสธ ตอนนั้นสตูดิโอเลยล้มเลิกความคิดจะเอาผู้กำกับดังมาทำหนังแล้วไปหาผู้กำกับหน้าใหม่เอาก็ได้ มองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครสักคน สุดท้ายสงสัยอยากได้กลิ่นอายความเป็นหนังแอ็คชั่นแบบ Die Hard เลยไปเลื่อนขั้นเอา 'แจน เดอ บอนต์' ผู้กำกับภาพในหนังของจอห์น แมคเทียร์แนนมากำกับหนังซะเลย ซึ่งตอนนั้นเขาก็คุ้นเคยกับหนังแอ็คชั่นอยู่พอตัวเพราะเป็นคนกำกับภาพทั้ง Die Hard, The Hunt for Red October, รวมถึง Black Rain กับ Lethal Weapon 3 ด้วย
-------------------------------
ได้ตัวผู้กำกับมาแล้วก็ถึงคิวการหานักแสดง ในเมื่อหนังขายชื่อผู้กำกับไม่ได้ก็ขอขายชื่อนักแสดงนำชายละกัน ตอนนั้นสตูดิโอเลยเล็งไปแต่ตัวเป้ง ๆ ไล่ตั้งแต่ ทอม แฮงค์ส, ทอม ครูซ, ไมเคิล คีตัน ตอนนั้นเป็นแบทแมน, จอห์นนี่ เดปป์, แฮร์ริสัน ฟอร์ด, เมล กิ๊บสัน, กระทั่ง อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ กับซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ยังได้รับการทาบทามแต่พวกเขาล้วนปฏิเสธบทกันมา พอสตูดิโอไปหาตัวรอง ๆ ที่ตอนนั้นยังไม่ดังมากอย่างพวกแบรด พิตต์, จอร์จ คลูนี่ย์, นิโคลัส เคจ, มิกกี้ รู้ค, จอห์น ทราโวลต้า ก็ไม่มีใครเอาสักคน สุดท้ายผู้กำกับเลยเสนอไปว่าเอา 'คีอานู รีฟส์' ไหมล่ะ ผมเคยเห็นเขาเล่น Point Break (1991) แล้วโอเคเลยนะ เขาดูเป็นมิตรสำหรับผู้ชายด้วยกันแถมยังหน้าดีในสายตาสาว ๆ ด้วย
.
แต่พอสตูดิโอติดต่อคีอานู รีฟส์ปุ๊บ เจ้าตัวอ่านบทแล้วปฏิเสธปั๊บ เหตุผลง่าย ๆ เลยคืออ่านสคริปต์ตอนแรกแล้วทำไมมันคล้าย Die Hard ขนาดนี้ จะให้เล่นเป็นบรูซ วิลลิสคนที่สองเหรอไง ตอนนั้นบอนต์คงคิดเหมือนกันเลยไปดึงตัวนักแก้บทมือวางอันดับต้น ๆ ของฮอลลีวูดอย่าง 'จอส วีดอน' มาแก้บทซะเลย ซึ่งพอคีอานู รีฟส์ได้ยินเช่นนั้นจึงตกลงเล่นหนังทันที ซึ่งหลัก ๆ แล้ววีดอนเข้ามาแก้ไดอะล็อกในหนังเกือบทั้งหมด แต่ว่าไม่ได้ขึ้นเครดิตเป็นคนเขียนบทหนังแต่อย่างใด (เอาแต่เงินไม่เอาหน้าจ้า)
.
อย่างไรก็ตามพอสตูดิโอเห็นคีอานู รีฟส์เป็นนำชายเดี่ยว ๆ แล้วกลัวจะไม่รอดเหลือเกิน เพราะว่ากันตามจริงแล้วในเวลานั้นเขายังเป็นนักแสดงค่อนไปทางไม่มีชื่อเสียงอยู่เลย สตูดิโอเลยเสนอไปว่าจะหานักแสดงหญิงดัง ๆ มาประกบซะหน่อยจะได้พอขายได้บ้าง แต่ผู้กำกับอย่างบอนต์ยืนกรานหนักแน่นว่าไม่เอา(โว้ย) เถียงกันอยู่นานจนในที่สุดสตูดิโอยอมอ่อนข้อให้(แต่นึกในใจว่าตูคนออกเงินนะ) แล้วก็ไปมองหานักแสดงหญิงไม่ค่อยดังเท่าไร ในตอนแรกพวกเขาเลือก 'ฮัลลี่ เบอร์รี่' ที่เริ่มถูกจับตามองจากบททาสในละครโทรทัศน์ขนาดสั้นเรื่อง Queen แต่เธอตอบปฏิเสธกลับมา โดยภายหลังที่ Speed ออกฉายแล้วประสบความสำเร็จอย่างดีก็มีคนไปถามเธอว่าเสียใจไหมที่ปฏิเสธหนังดัง ซึ่งเธอไม่เสียใจเลยพร้อมกับบอกว่าถ้าเธอแสดงหนังคงไม่ประสบความสำเร็จแบบนี้ เพราะบทเธอคงกลายเป็นแค่คนขับรถบัสผิวดำเท่านั้น
.
ในตอนนั้นสตูดิโอก็เริ่มหานักแสดงหญิงคนอื่น ๆ ไปด้วย มีทั้งโจแอน คูแซ็ค, เจนนิเฟอร์ เจสัน ลีห์, ชารอน สโตน (ตอนนั้นมี Basic Instinct), เดมี มัวร์ (Ghost), เด็บบรา วิงเกอร์ แต่สุดท้ายสตูดิโอเลือกเบนเข็มไปหา 'แซนดร้า บูลล็อค' ที่เวลานั้นมีผลงานเด่น ๆ เป็นบทสมทบในหนังไซไฟแอ็คชั่นเรื่อง Demolition Man ซึ่งก็ได้ตัวบูลล็อคมากระชั้นชิดมาก ๆ เพราะอีกแค่ 2 สัปดาห์ก็จะเปิดกองถ่ายหนังอยู่แล้ว
.
ปรากฎว่ายังไม่ทันเปิดกองถ่ายก็มีความขัดแย้งรอบสองระหว่างสตูดิโอกับผู้กำกับเรื่องทรงผมของคีอานู รีฟส์ ซึ่งฝ่ายบอนต์ยืนยันหนักแน่นว่าบทตำรวจทำงานหนักมันต้องไว้ผมเกรียนทั้งหัว (buzz cut) แหละเหมาะสมดีแล้ว ส่วนฝั่งสตูดิโอไม่เห็นด้วยเลยตัดสินใจเลื่อนเปิดกองออกไปอีกหน่อยเพื่อรอให้ผมคีอานู รีฟส์ยาวขึ้นกว่านี้สักนิดนึง ซึ่งอันนี้อาจจะเป็นฝั่งสตูดิโอที่ตัดสินใจถูกต้องเพราะทรงผมของพระเอก Speed ฮิตไปทั่วบ้านทั่วเมืองจริง ๆ ส่วนบอนต์ก็มาได้เครดิตเรื่องการเพิ่มฉากรสบัสกระโดดข้ามถนนยกระดับที่ขาด ซึ่งกลายเป็นฉากดังของหนัง โดยในตอนแรกมันไม่ได้มีอยู่ในบทแต่บอนต์ได้ไอเดียมาจากตอนที่เขาขับรถในลอส แองเจลิสแล้วสังเกตว่าส่วนหนึ่งของถนน I-105 มันหายไป เลยเอามาใส่ในหนังซะเลย จะว่าไปหนังก็ถ่ายบนถนน I-105 มาตั้งแต่แรกแล้วด้วย โดยเวลานั้นมันเพิ่งสร้างเสร็จแต่ยังไม่เปิดให้คนทั่วไปใช้บริการ กองถ่ายเลยมีอิสระกันสุด ๆ
.
ทีนี้พอเปิดกองถ่ายหนังก็ดันกลัวแป้ก ๆ กัน นักแสดงในเรื่องอย่าง 'เจฟฟ์ แดเนียลส์' ก็คิดว่าหนังคงเจ๊งแน่นอน สตูดิโอยังเสียว ๆ ว่าหนังจะไม่รอดเลยจนกระทั่งเอาไปฉายรอบทดลองแล้วปรากฎว่าเสียงตอบรับดีมาก แถมระหว่างฉายเนี่ยมีคนปวดฉี่แต่แทนที่จะเดินออกไปตามปกติเขากลับค่อย ๆ เดินถอยหลังช้า ๆ เพราะแทบไม่อยากพลาดฉากในหนังแม้แต่นิดเดียว ซึ่งตอนนั้นทำให้สตูดิโอมั่นใจมากว่าหนังเปรี้ยงแน่นอน แล้วเจฟฟ์พอได้มาดูหนังหลังถ่ายเสร็จก็เปลี่ยนใจมาเชื่อว่าจะไม่เจ๊งหรอก ฟันธง
.
โดยตอนแรกสตูดิโอวางกำหนดฉาย Speed เอาไว้เดือนสิงหาคม เพราะคิดว่ายังไงหนังก็เจ๊งแน่ ๆ เอาไปฉายหลัง True Lies ของเจมส์ คาเมร่อนที่จะเปิดตัวเดือนกรกฎาคมเลยละกัน ยังไงก็ไม่น่ารอดอยู่แล้ว แต่พอฉายรอบทดลองแล้วกระแสดีมากกกกกกกกกกกจึงทำให้สตูดิโอเปลี่ยนใจทันที เลื่อน Speed เข้ามาฉายเดือนมิถุนายน ให้ชนกับช่วงต่อของ The Flintstones วัดกันไปเลยระหว่างหนังแอ็คชั่นสำหรับผู้ใหญ่กับหนังครอบครัวใครจะอยู่ใครจะไป ซึ่งน่าจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของ 20th Century Fox เพราะหนังทำเงินเฉพาะในอเมริกาสูงถึง 121 ล้านเหรียญ ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 8 ของปี 1994 ทั้ง ๆ ที่ทุนสร้างแค่ 30 ล้านหรียญเท่านั้นเอง แถมทำเงินทั่วโลกสูงถึง 350 ล้านเหรียญ เป็นอันดับ 5 ของปีนั้นด้วย
.
ซึ่งความสำเร็จของ Speed จึงทำให้เกิดภาคต่อตามมาในชื่อ Speed 2: Cruise Control ที่สตูดิโอมั่นใจว่าภาคแรกดังขนาดนี้ภาคต่อคงฮิตถล่มทลายแน่นอน จึงทุ่มทุนสร้างสูงถึง 160 ล้านเหรียญ แต่ปรากฎว่าฉายจริงแป้กสนิท ทำเงินไปเหงา ๆ ในอเมริกาแค่ 48 ล้านเหรียญ รวมทั้งโลก 164 ล้านเหรียญ กลายเป็นหนังเจ๊งสนิทปิดอนาคตแฟรนไชส์ Speed กันไปเลย แต่ภาคแรกคือสนุกสุด ๆ เลยนะ
.
.
.
.
ดูแบบซับไทยได้เลยใน Disney+ Hotstar: https://www.hotstar.com/th/movies/speed/1770000923
.
.
.
.
ดูรีวิวซีรีส์จากทุกค่ายได้ที่: http://bit.ly/2STE5O4
อ่านเกร็ดหนังคั่นเวลา: http://bit.ly/2QMsEVV
หรืออยากอ่านสาระยาว ๆ แก้เบื่อ: http://bit.ly/2QnHCmb
#หนังโปรดของข้าพเจ้า
同時也有12部Youtube影片,追蹤數超過164萬的網紅จดอ - JUSTดูIT.,也在其Youtube影片中提到,คุณรู้จักชื่อของเขา.. คุณเคยได้ยินเพลงของเขา.. แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังเสียงที่เป็นตำนาน มีที่มาที่ไปอย่างไร? 'BOHEMIAN RHAPSODY โบฮีเมียน แรปโซด...
「20th century fox movies」的推薦目錄:
- 關於20th century fox movies 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的精選貼文
- 關於20th century fox movies 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於20th century fox movies 在 白色豆腐蛋糕電影日記 Facebook 的最讚貼文
- 關於20th century fox movies 在 จดอ - JUSTดูIT. Youtube 的最佳解答
- 關於20th century fox movies 在 Miharu Kenshin Youtube 的最讚貼文
- 關於20th century fox movies 在 จดอ - JUSTดูIT. Youtube 的最佳解答
- 關於20th century fox movies 在 20th Century Studios - YouTube 的評價
- 關於20th century fox movies 在 福斯影片20th Century Fox - Home - Facebook 的評價
- 關於20th century fox movies 在 20th Century Fox Loud Intro - YouTube - Pinterest 的評價
- 關於20th century fox movies 在 20th Century Fox Loud Intro - YouTube - Pinterest 的評價
20th century fox movies 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
จอร์จ ลูคัส ผู้กำกับภาพยนตร์ ที่รวยสุดในโลก ผู้สร้าง Star Wars /โดย ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงภาพยนตร์ที่ทำรายได้ทั่วโลกได้สูงสุดตลอดกาล
ก็ต้องมีชื่อ Avatar, Avengers: Endgame และ Titanic
แต่ถ้าเรารวมค่าเข้าชมภาพยนตร์กับยอดขายจากสินค้าและค่าลิขสิทธิ์ที่ต่อยอดจากภาพยนตร์เข้าไปด้วย
ภาพยนตร์ที่สามารถกวาดรายได้ไปได้มากที่สุดในโลกจะเป็น “Star Wars”
และนั่นก็ได้ทำให้ผู้สร้างจักรวาล Star Wars อย่าง “George Lucas”
กลายเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ที่รวยที่สุดในโลก ด้วยทรัพย์สินมูลค่ากว่า 2.2 แสนล้านบาท
แล้วเบื้องหลังเรื่องราวชีวิตของ George Lucas เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
George Lucas เกิดในปี 1944 และเติบโตที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
เมื่ออายุได้ 11 ปี Lucas ได้ไปเที่ยวกับครอบครัวที่ Disneyland ซึ่งเพิ่งเริ่มเปิดให้บริการเป็นครั้งแรก
และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาหลงใหลในการ์ตูนภาพเคลื่อนไหวและนวนิยายแนววิทยาศาสตร์
แต่พอเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เขามีความสนใจอีกอย่างเพิ่มเข้ามานั่นก็คือ การแข่งรถ
Lucas จึงตั้งเป้าหมายที่จะเป็นนักแข่งรถ แต่ต่อมาแผนการนี้ก็ถูกล้มเลิก
เพราะในวัยเพียง 18 ปี Lucas ได้ประสบอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำอย่างรุนแรงจนเขาต้องรักษาตัวอยู่นาน
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ก็ได้ทำให้ความตั้งใจที่จะเป็นนักแข่งรถหมดลง
เขาจึงนำความหลงใหลในวัยเด็กหรือ “การ์ตูน” กลับมาเป็นเครื่องนำทาง
แม้ว่าพ่อของ Lucas ที่เปิดกิจการขายเครื่องเขียน อยากให้ลูกชายมาช่วยกิจการครอบครัว
แต่ Lucas ที่ตั้งใจแล้วว่าจะไปเรียนต่อในด้านศิลป์ จึงได้ตัดสินใจออกจากบ้าน
พร้อมกับบอกครอบครัวของเขาว่าจะมีเงิน 30 ล้านบาท ก่อนอายุ 30 ปีให้ได้
Lucas จึงเลิกเรียนมัธยมกลางคันทั้งที่ใกล้จะจบแล้ว
และไปสมัครเรียนที่ Modesto Junior College ซึ่งเป็นวิทยาลัยชุมชนแทน
ซึ่งในตอนแรก Lucas ได้ลงเรียนหลายแขนงวิชามาก เพราะยังไม่แน่ใจว่าตัวเองอยากทำอะไรกันแน่
ระหว่างเรียนอยู่ที่นี่ Lucas ก็เริ่มสนใจเกี่ยวกับการถ่ายภาพเคลื่อนไหวและการสร้างภาพยนตร์
เขาจึงตัดสินใจเรียนต่อระดับปริญญาตรีด้าน Cinematic Arts ที่มหาวิทยาลัย Southern California
ซึ่งหนึ่งในเพื่อนสนิทของ Lucas ที่มหาวิทยาลัยก็คือ Steven Spielberg ผู้กำกับระดับตำนานอีกคนหนึ่ง
หลังเรียนจบในปี 1967 Lucas เลือกเรียนต่อปริญญาโทด้าน Film Production ที่มหาวิทยาลัยเดิม
และได้ทำหนังสั้นประเภท Sci-Fi ที่ชื่อ Electronic Labyrinth: THX 1138 4EB โดยได้นำภาพยนตร์เรื่องนี้ไปแข่งขันในงาน National Student Film Festival และได้รับรางวัลชนะเลิศ
รางวัลที่ Lucas ได้รับ นอกจากทาง Warner Bros. จะให้ทุนการศึกษาแล้ว
บริษัทยังให้สิทธิ์กับเขาไปดูงานเบื้องหลังการถ่ายทำภาพยนตร์ได้หนึ่งครั้ง
ซึ่ง Lucas ได้เลือกภาพยนตร์ที่กำกับโดย Francis Ford Coppola
Coppola ประทับใจความสามารถของ Lucas จึงชักชวนเขามาร่วมกันเปิดสตูดิโอ
ที่ชื่อว่า American Zoetrope ในปี 1969 และแนะนำให้ Lucas ดัดแปลงภาพยนตร์สั้นที่ได้รับรางวัล
มาทำเป็นภาพยนตร์ยาว แต่ผลตอบรับของผลงานชิ้นนี้กลับไม่ดีเท่าที่ควร
ปี 1971 Lucas จึงตัดสินใจขอออกมาเปิดบริษัทของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า “Lucasfilm”
ซึ่งหลังจากนั้น ปี 1972 Coppola ได้กลายเป็นผู้กำกับระดับตำนานจากภาพยนตร์เรื่อง The Godfather
และแม้ว่า Lucas จะออกมาแล้ว แต่ทาง Coppola ก็ยังคงคอยให้ความช่วยเหลือเขามาโดยตลอด
ตั้งแต่ภาพยนตร์เรื่องแรกของ Lucasfilm อย่าง American Graffiti ที่เข้าฉายในปี 1973
ซึ่งสามารถทำรายได้กว่า 4,500 ล้านบาทจากทุนสร้างเพียง 25 ล้านบาท
โดยถือเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ ที่มีอัตรากำไรมากที่สุดในขณะนั้น
American Graffiti ได้กลายเป็นผลงานแจ้งเกิดในฐานะผู้กำกับดาวรุ่งของ Lucas
และทำให้เขามีเงินถึง 30 ล้านบาทได้ในวัย 29 ปี ตามที่เคยบอกกับครอบครัวก่อนออกจากบ้านมา
ในปีเดียวกันนี้เอง ช่วงระหว่างรอ American Graffiti เริ่มเข้าฉาย
Lucas ก็เดินหน้าเสนอบทภาพยนตร์แนวที่เขาอยากทำมากที่สุดมาโดยตลอด
โดยเป็นภาพยนตร์ Sci-Fi ที่มีเรื่องราวการต่อสู้ในอวกาศ นั่นก็คือเรื่อง “Star Wars”
แต่ด้วยความที่ภาพยนตร์ Sci-Fi ในสมัยนั้นยังไม่ค่อยเป็นที่นิยม บวกกับต้นทุนการถ่ายทำที่สูง
เพราะยังแทบไม่มีการใช้คอมพิวเตอร์กราฟิกหรือ CG จึงมีตัวอย่างภาพยนตร์แนวนี้ที่เจ๊งแทนที่จะแจ้งเกิดมาแล้วหลายเรื่อง จนไม่มีบริษัทไหนสนใจให้ทุนเขาเลย แม้แต่ Universal Pictures ที่เป็นผู้ให้ทุนสร้าง American Graffiti
จนกระทั่ง Lucas ได้มาเจอกับผู้บริหารของ 20th Century Fox ที่รู้สึกสนใจในไอเดียของเขา
จึงตอบตกลงเป็นผู้ให้ทุนสร้างและเป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ Star Wars ให้ Lucasfilm
หลังจาก Lucas เริ่มเจรจากับ 20th Century Fox ไปได้ 3 เดือน ภาพยนตร์เรื่อง American Graffiti ที่เพิ่งเริ่มเข้าฉายได้รับกระแสตอบรับดี จึงทำให้ 20th Century Fox เสนอเพิ่มทุนสร้างให้กับ Star Wars เข้าไปอีก
และเหตุการณ์ที่จะเล่าต่อจากนี้ ก็น่าจะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดในชีวิตของ Lucas เลยก็ว่าได้..
นั่นก็เพราะว่า Lucas เลือกปฏิเสธเงินทุนที่มากขึ้น แต่เขากลับเจรจาขอเป็นผู้ครอบครองลิขสิทธิ์และสิทธิ์ในสินค้าที่เกี่ยวกับ Star Wars ทั้งหมดแทน
ซึ่งทาง 20th Century Fox ก็ตอบตกลงแต่โดยดี เพราะแม้จะสนใจในเรื่องราวของ Star Wars
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่าหลังจากนั้น Star Wars จะประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในเวลาต่อมา
หลังจากซุ่มเขียนบทและเตรียมตัวอยู่ 3 ปี Star Wars ก็ได้เริ่มถ่ายทำในปี 1976
และผลจากการที่ Lucas ปฏิเสธข้อเสนอเพิ่มทุนสร้าง ทำให้เขาต้องเครียดจากการมีงบประมาณที่จำกัด
ด้วยเหตุผลที่ Star Wars คือเรื่องราวในโลกเสมือน ตัวละครที่ Lucas สร้างสรรค์มาจึงเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตรูปร่างหน้าตาแปลกใหม่ อย่างเช่น โยดาและชิวแบคคา รวมไปถึงฉากหลักที่เป็นโลกอวกาศ อุปกรณ์ประกอบฉากอย่างยานอวกาศหรือแม้แต่ดาบไลท์เซเบอร์
การแปลงภาพจากจินตนาการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ให้มาปรากฏในภาพยนตร์ ยังเป็นยุคที่ต้องให้คนสร้างของจริงขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ส่งผลให้ต้องใช้งบประมาณมหาศาล ซึ่งจำเป็นต้องบริหารงบประมาณอย่างรอบคอบ
แต่ด้วยความประณีตและใส่ใจรายละเอียดของทั้ง Lucas และทีมงาน จึงทำให้ภาพยนตร์มีภาพออกมาสมจริงรวมถึงเนื้อเรื่องที่แปลกใหม่
และเมื่อ Star Wars: Episode IV - A New Hope ได้เข้าฉายในปลายปี 1977 ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับผลตอบรับดีแบบถล่มทลาย จนดังระเบิดไปทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา ต่อเนื่องไปจนทั่วโลก
ทาง 20th Century Fox เลยให้ Lucas เริ่มถ่ายทำภาคต่อในทันที
แต่ Lucas ตระหนักดีว่าทุนสร้างภาพยนตร์ที่ได้รับ จะทำให้มีข้อจำกัดในการผลิตมากมายจากผู้ให้เงิน
เขาจึงขอใช้เงินทุนตัวเองในการสร้างภาคต่อที่เหลือ
โดยยังมี 20th Century Fox เป็นผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ให้อยู่
ภาพยนตร์ไตรภาคชุดแรกของ Star Wars ก็จบลงอย่างสวยงามในปี 1983 และได้ทำให้ Lucas กลายเป็นผู้กำกับและโปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ชั้นนำของโลก ที่กวาดรางวัลใหญ่ไปมากมาย
นอกจากบทบาทการเป็นผู้สร้างภาพยนตร์ที่ครองใจผู้ชมไปทั่วโลกแล้ว
ในด้านของการผลิตภาพยนตร์ Lucas ยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ซึ่งเขามุ่งมั่นและทุ่มงบประมาณให้ Lucasfilm วิจัยพัฒนา โดยได้แบ่งออกเป็นบริษัทย่อยที่เน้นโฟกัสคนละอย่าง
จนสามารถเป็นผู้นำในด้านนั้น ๆ ได้มาจนถึงปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่น
- ILM ที่ก่อตั้งในปี 1975 เน้นพัฒนาการสร้างภาพเคลื่อนไหวเสมือนจริงด้วยคอมพิวเตอร์
- Skywalker Sound ที่ก่อตั้งในปีเดียวกัน เน้นพัฒนาการใส่เสียงประกอบภาพยนตร์
- Pixar ที่ก่อตั้งในปี 1979 เน้นพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสร้างแอนิเมชัน 3 มิติ
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจทั้งหมดนี้ต้องใช้เงินลงทุนสูงโดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้น
ส่งผลให้ Lucasfilm ประสบปัญหาทางการเงินจนได้ตัดสินใจขาย Pixar
ให้กับ Steve Jobs ในปี 1986 ซึ่งเป็นช่วงที่ Steve Jobs เพิ่งโดนไล่ออกจาก Apple
ในตอนนั้น George Lucas ผู้เป็นเจ้าของ ได้ขาย Pixar ให้กับ Steve Jobs ด้วยราคา 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดย 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จ่ายให้กับ George Lucas
และอีก 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ใช้เป็นเงินทุนของ Pixar
ก่อนที่ Disney จะขอซื้อ Pixar ต่อจาก Steve Jobs อีกทีในปี 2006
และทั้ง 2 บริษัทที่มีผู้ก่อตั้งคนเดียวกันอย่าง Pixar กับ Lucasfilm ก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง
เมื่อทาง Disney เจรจาขอซื้อ Lucasfilm จาก Lucas ในปี 2012
ด้วยมูลค่า 4.05 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมากถึง 1.31 แสนล้านบาท
แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่สร้างมูลค่าให้กับ Lucasfilm และความมั่งคั่งของ Lucas อย่างมหาศาล
กลับไม่ได้มาจากรายได้ของภาพยนตร์ Star Wars ที่ทำเงินได้กว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทุกภาครวมกันในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก
นั่นก็เพราะว่าความนิยมของจักรวาล Star Wars ไม่ได้จบลงที่จอภาพยนตร์เท่านั้น
แต่ยังถูกต่อยอดไปเป็นผลิตภัณฑ์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าจากภาพยนตร์ อย่างเช่น หุ่นจำลองของตัวละครหรือดาบไลท์เซเบอร์ หรือจะเป็นในสื่อชนิดอื่น อย่างซีรีส์ที่ฉายในโทรทัศน์ วิดีโอเกม หรือหนังสือ
โดยสินค้าทั้งหมดนี้ทำรายได้ให้ Star Wars มากกว่าค่าเข้าชมภาพยนตร์เกือบ 6 เท่า
ซึ่งเราก็ต้องกลับไปดูการตัดสินใจครั้งสำคัญของ Lucas ที่ได้เลือกเจรจาขอเป็นผู้ครอบครองลิขสิทธิ์และสิทธิ์ในสินค้าที่เกี่ยวกับ Star Wars ทั้งหมด มันส่งผลให้ Lucas มีช่องทางรายได้ที่มั่นคงกว่ามากในเวลาต่อมา
ปัจจุบัน Forbes ได้จัดอันดับให้ Lucas เป็นเซเลบริตีที่รวยสุดในโลกในปี 2018 และครองตำแหน่งผู้กำกับที่รวยสุดในโลกได้อย่างยาวนาน ด้วยมูลค่าทรัพย์สินในปัจจุบันกว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.2 แสนล้านบาท
นึกย้อนกลับไปถึง Lucas ในวัย 11 ปี
ที่เริ่มหลงใหลในตัวละครโลกเสมือนจากการไป Disneyland เป็นครั้งแรก
มาถึงวันนี้ Disneyland แห่งเดิม ได้มีโซนใหม่ที่ชื่อว่า “Star Wars: Galaxy's Edge”
ซึ่งมันก็เป็นผลงานของ Lucas ที่เกิดขึ้นได้เพราะการเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเขาเอง ที่สถานที่แห่งนี้ในวันนั้น
และเมื่อ 3 สิ่งนี้มาบรรจบกัน ก็ดูเหมือนว่าจะทำให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกจริง ดูน่าตื่นเต้นไม่แพ้โลกในภาพยนตร์เช่นกัน..
Lucas | Star Wars | Disney
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.businessinsider.com/how-star-wars-made-george-lucas-a-billionaire-2015-12
-https://www.businessinsider.com/star-wars-george-lucas-net-worth-movies-house-spending-2019-7
-https://www.theatlantic.com/magazine/archive/1979/03/the-man-who-made-star-wars/306228
-https://www.radiotimes.com/movies/how-to-watch-the-star-wars-movies-in-the-right-order/
-https://clubjade.net/nine-ways-george-lucas-changed-movies-forever/
-https://en.wikipedia.org/wiki/George_Lucas
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_highest-grossing_media_franchises
-https://www.forbes.com/profile/george-lucas/?sh=35340de56e63
20th century fox movies 在 白色豆腐蛋糕電影日記 Facebook 的最讚貼文
對於很多《X戰警》系列的影迷,都會希望電影可以有更好的發展。
雖然不知道未來怎麼樣,不過現在看來倒是有點可惜,還是很希望迪士尼繼續沿用《X戰警》原始班底這些演員。
福斯影片 20th Century Fox
X-Men Movies
#xmen
#X戰警
#黑鳳凰
#darkphoenix
20th century fox movies 在 จดอ - JUSTดูIT. Youtube 的最佳解答
คุณรู้จักชื่อของเขา.. คุณเคยได้ยินเพลงของเขา.. แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเบื้องหลังเสียงที่เป็นตำนาน มีที่มาที่ไปอย่างไร? 'BOHEMIAN RHAPSODY โบฮีเมียน แรปโซดี' ภาพยนตร์อัตชีวประวัติที่ทั้งโลกจับตา กับเรื่องราวชีวิตอันโลดโผนโจนทะยานของ FREDDIE MERCURY และวงร็อคระดับตำนานอย่าง QUEEN
นับตั้งแต่วินาทีแรกที่พวกเขารวมวง..สู่นาทีอัดเสียงบทเพลงที่ยังคงทุ้มอยู่ในใจคนทั้งโลก.. ไปจนถึงนาทีหยุดโลกกับคอนเสิร์ตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ LIVE AID!
'#BohemianRhapsody #โบฮีเมียนแรปโซดี 1 พฤศจิกายน ในโรงภาพยนตร์ และกึกก้องก่อนใครในรอบ Sneak Preview หลังสองทุ่มได้แล้ววันนี้!
20th century fox movies 在 Miharu Kenshin Youtube 的最讚貼文
"Today, Fox mengeluarkan tarikh baru untuk beberapa movies mereka and miharu dah explained in this video so take note movies like Dark
Phoenix, Alita and Gambit just changed their release date."
Don't forget to hit the like button and subscribe to my channel ..
Love,
M
Twitter/Instagram :
@miharukenshin
THE CLIPS IS FROM 20TH CENTURY FOX I DONT NOT OWN IT
Music credit; And So It Begins by Artificial.Music https://soundcloud.com/artificial-music
Creative Commons — Attribution 3.0 Unported— CC BY 3.0
http://creativecommons.org/licenses/b...
Music promoted by Audio Library https://youtu.be/JpoEFiAJdxo
20th century fox movies 在 จดอ - JUSTดูIT. Youtube 的最佳解答
จากภาพยนตร์แอ็กชันระดับตำนาน สู่ ไอคอนแห่งโลกภาพยนตร์ที่ยังคงออกล่า และทวีความหฤโหดขึ้นทุกครั้ง! เพื่อต้อนรับการกลับมาของโคตรเพชฌฆาตต่างดาว #จดอ #JUSTดูIT และ DHZ: Deva Hellblazer จะขอพาทุกคน ร่วมกันย้อนรอยสู่จุดกำเนิดของ PREDATOR ก่อนที่เกมล่า...จะยกระดับสู่ความมันส์ครั้งใหม่!!
THE PREDATOR เดอะ เพรดเดเทอร์ 13 กันยายน ในโรงภาพยนตร์
สนับสนุนรายการ JUSTดูIT. ได้ที่ https://www.patreon.com/JUSTDOOIT
20th century fox movies 在 福斯影片20th Century Fox - Home - Facebook 的必吃
福斯影片20th Century Fox. 2 likes. ... http://www.foxmovies.com.tw/. Movie. ·. Movie Theater. ·. Movie/television studio. 2017年福斯強片,為你展開新的一年 ... <看更多>
20th century fox movies 在 20th Century Fox Loud Intro - YouTube - Pinterest 的必吃
20th Century Fox Home Entertainment in SpongeBob SquarePants Major ... Twentieth Century Fox Film Corporation Video: 30th Century Fox Television. ... <看更多>
20th century fox movies 在 20th Century Studios - YouTube 的必吃
... <看更多>