ถอดรหัสบัวขาวจาก Main Stand
“บัวขาวศึกษา” : ทำอย่างไรจึงเป็นนักมวยไทยที่ประสบความสำเร็จมากสุดแห่งยุค
บัวขาว บัญชาเมฆ ชื่อนี้ไม่มีใครในประเทศไม่รู้จักเขา เพราะต่อให้คุณไม่ติดตามวงการมวยไทย ก็ย่อมต้องเคยได้ยินชื่อ หรือได้คุ้นหน้าผู้ชายคนนี้อยู่แล้ว
Aในวัยย่าง 38 ปี “บัวขาว” ยังโลดแล่นอยู่บนสังเวียนผืนผ้าใบ ในฐานะนักชก พร้อมๆ กับการเป็นเจ้าของอาณาจักรมวยไทย “บัวขาว วิลเลจ” บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ รวมถึงมีงานด้านบันเทิง และเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าอีกมากมาย
คงไม่ใช่คำเขียนที่เกินเลยไปสักนิด หากจะบอกว่า “บัวขาว” คือไอค่อนของนักมวยไทยยุคนี้อย่างแท้จริง เพราะเขามีครบทุกอย่างทั้ง รางวัลความสำเร็จ, ชื่อเสียง, เงินทอง และความนิยมชมชอบที่แผ่กระจายไปไกลต่างแดน
การฝึกซ้อมและระเบียบวินัย
“สิ่งที่คุณต้องมีคือประสบการณ์ ความอดทน และความขยันหมั่นเพียร ถ้ามีของพวกนี้ คุณประสบความสำเร็จแน่นอน”
คำพูดของ บัวขาว บัญชาเมฆ ที่ให้สัมภาษณ์กับ Timeout สะท้อนให้เห็นว่า ปัจจัยความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับตัวเขา ล้วนเป็นผลจากความอดทน ขยันหมั่นเพียร ที่สะสมมาเป็นระยะเวลาหลายปี
บัวขาว มีพล็อตชีวิตที่ไม่แตกต่างกับนักมวยไทยอาชีพทั่วไป เขาเกิดและเติบโตในครอบครัวชาวนา ที่จังหวัดสุรินทร์ เริ่มต้นหัดชกมวยไทยตามงานวัด ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ก่อนย้ายมาอยู่ในค่าย ป.ประมุข ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อตอนอายุ 15 ปี (ช่องอายุ 7-12 ปี บัวขาว ผ่านการชกมาแล้ว 100 ครั้ง)
บัวขาว มีความใฝ่ฝันอยากชกมวยออกทีวีสักครั้งในชีวิต เขาคิดว่า หนทางเดียวที่จะช่วยให้เขาไปถึงเป้าหมายได้ คือ ความตั้งใจในการฝึกซ้อม
นั่นจึงทำให้ “บัวขาว” เลือกที่จะหันหลังให้การศึกษาในระบบ มาโฟกัสกับการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของตนเอง และหาเวลาว่างเล่าเรียน กศน. (ศูนย์การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย) แทน
ผลของการจริงจังกับช่วงเวลาฝึกซ้อม ทำให้ บัวขาว มีร่างกายที่แข็งแกร่ง พละกำลังที่แข็งแรง กลายเป็นจุดขายของเจ้าตัวที่เป็นมวยสไตล์บู๊ดุดัน เดินอัด เดินเบียดคู่ชก ซึ่งการชกในลักษณะนี้ ต้องอาศัยร่างกายที่ฟิตสมบูรณ์อย่างมาก เพื่อเดินหน้าเปิดเกมได้ตลอดทุกยก รวมถึงทนทานต่อความเจ็บปวดจากอาวุธมวยของคู่ต่อสู้
เขาเคยเปิดเผยว่า โปรแกรมการฝึกซ้อมของตนนั้น จะแบ่งออกเป็น 2 เบรก ช่วงเช้าตั้งแต่ 6.00-9.00น. และช่วงเย็นตั้งแต่ 15.30-19.00น. เป็นประจำแทบทุกวัน (หยุดแค่ 1 วันต่อสัปดาห์) ไม่เว้นแม้แต่ในช่วงที่เขาดังและมีชื่อเสียง บัวขาว ก็ยังยึดมั่นและเชื่อในการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง
สิ่งเหล่านั้น ส่งผลให้ บัวขาว สามารถยืนระยะได้นานกว่า นักมวยไทยในรุ่นราวคราวเดียว ที่ส่วนมากเลิกชกไปหมดแล้ว เพราะปกติ หากเป็นนักมวยไทยอาชีพ สไตล์บู๊ดุดันแบบบัวขาว มักจะอยู่ในช่วงเวลาดีที่สุดของชก ได้แค่อายุสัก 25-30 ปีเท่านั้น
เพราะหลังจากนั้น สภาพร่างกายจะไม่ค่อยเอื้ออำนวยนัก เนื่องจากการชกลักษณะนี้ ต้องใช้ร่างกาย และพละกำลังเยอะมาก จนทำให้ นักมวยโรยราได้ง่ายกว่า นักมวยประเภทตั้งรับ สู้ด้วยเหลี่ยมเชิง และการอาศัยจังหวะสองเล่นคู่ต่อสู้ ที่เรียกว่า “มวยฝีมือ”
แต่สภาพร่างกายของ บัวขาว ในวัยพ้นเลข 3 ยังคงดูเฟิร์ม และแข็งแรง เขาแทบไม่แสดงให้เห็นว่า สภาพร่างกายเขาโรยราไปตามวัย ภาพจำของ บัวขาว จึงยังคงเด่นชัด ในฐานะนักมวยไทยที่มีพละกำลังมหาศาล ชกได้ดุดัน ร่างกายทนทรหด ไม่ยอมแพ้ ไม่ถอดใจ ต่อยสนุกถูกใจคนดู แม้อายุจะมากแล้วก็ตาม
“เคล็ดลับของผมก็คือซ้อมเยอะๆ คิดว่านี่เป็นสิ่งที่ผมทำ และทำจนสำเร็จมากกว่า มันเลยกลายเป็นรางวัลความสำเร็จของผม”
กล้าที่จะเติบโต
อย่างไรก็ดีชีวิตการเป็นนักมวยของ บัวขาว บัญชาเมฆ ใช่ว่าจะมาถึงจุดนี้ด้วยความง่ายดาย เพราะครั้งหนึ่ง เขาเคยประสบปัญหา จนทำให้ตนเองมีความคิดอยากยุติอาชีพ พ่อค้ากำปั้น แต่ทว่าเมื่อผ่านพ้นช่วงเวลานั้นมาได้ ก็กลายเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนชีวิตที่ทำให้เขา มีทรัพย์สิน เงินทอง และชื่อเสียงเพิ่มพูนมากขึ้น
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2012 บัวขาว ตกเป็นข่าวดังคึกโครม เมื่อเจ้าตัวหายตัวไปจากค่ายเดิม ป.ประมุข ก่อนจะปรากฏอยู่ที่บ้านเกิด พร้อมกับทำค่ายมวยของตนเอง โดยใช้นามสกุล บัญชาเมฆ มาตั้งเป็นชื่อค่าย ก่อนจะมีการติดต่อนัดเจรจาส่วนแบ่งผลประโยชน์ใหม่กับทางค่ายเดิม
การเจรจายืดเยื้อมาเป็นเวลาหลายเดือน ถึงขั้นฟ้องร้องกันเป็นคดีความ จนทำให้ บัวขาว เคยมีความคิดอยากจะเลิกชกมวย เนื่องจากตอนนั้นก็อายุ 30 ปีแล้ว กระทั่งมีการประสานจากหลายๆ ฝ่าย เพื่อจบปัญหานี้
ท้ายที่สุด บัวขาว ได้เป็นอิสระจากค่าย ป.ประมุข พร้อมเปลี่ยนชื่อในการชกมวยเป็น “บัวขาว บัญชาเมฆ” ที่เขาจะได้สามารถเลือกรับงาน บริหารจัดการสิทธิประโยชน์ และขยายธุรกิจค่ายมวยของตนเองได้อย่างเต็มที่
นั่นคือความแตกต่างระหว่าง บัวขาว กับ นักมวยไทยทั่วไป ที่แทบทั้งหมดล้วนมีสังกัด มีค่าย คอยทำหน้าที่ดูแล และแบ่งสิทธิประโยชน์ “นักมวยไทยอาชีพ” จะมีหน้าที่แค่ฝึกซ้อม และขึ้นสังเวียนไปชก
แต่สิทธิ์ในการเป็นเจ้าของนักมวยยังเป็นทางค่าย โดยเรื่องค่าตัว งานจ้างต่างๆ รายได้ของนักมวย จะถูกแบ่งสัดส่วนกับทางค่ายตามตกลง เพื่อเป็นค่าบำรุงค่าย และผลประโยชน์ต่อตัวค่าย
เนื่องจากต้นทุนค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งสถานที่กินอยู่หลับนอน อาหารการกิน อาหารเสริม ค่าจ้างเทรนเนอร์ การดูแลทุกอย่าง ทางค่ายเป็นผู้ออกทั้งหมดอยู่แล้ว เมื่อนักมวยทำผลงาน มีรายได้จากค่าตัว ก็จะมีการแบ่งกันโดยปกติอยู่แล้ว ตามโครงสร้าง ไม่ใช่เรื่องเอาเปรียบกันแต่อย่างใด
อันที่จริง ระบบค่ายมวยกับนักมวย ก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป เช่น นักมวยที่มีค่าย เขาก็ได้รับการฝึกสอนอย่างถูกวิธี, มีผู้ใหญ่ที่คอยเจรจาหารายการให้ชกอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการดูแลต่างๆ เงินรางวัลอัดฉีด
ไปจนถึงการต่อยอดเสนอนักมวยไปชกในรายการใหญ่ๆ ยกตัวอย่าง ค่าย พี.เค.แสนชัย, ค่ายเพชรยินดี, ค่ายจิตรเมืองนนท์ ที่มีการดูแลนักมวย และฝึกสอนนักมวยเป็นอย่างดี ก็ช่วยพัฒนาศักยภาพให้นักชกเก่งขึ้นและมีชื่อเสียง
ส่วนข้อดีของการแยกตัวออกมาเป็น “นักชก” เจ้านายตนเอง อันดับแรกคือเรื่องรายได้ที่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ประการต่อมา เขาสามารถใช้เงินจ้างคนที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านมาทำงานได้ เช่น เทรนเนอร์, โค้ชฟิตเนส, ผู้จัดการส่วนตัว หรือทีมงานในค่าย
และประการสุดท้ายคือ บัวขาว บัญชาเมฆ สามารถเลือกรายการชกได้อย่างที่ตนเองต้องการ เพราะอย่าลืมว่าในวัยอายุเลยเลขหลัก 3 การจะต่อยใช้ร่างกายอย่างหักโหม ชกมวยไทย 5 ยกในประเทศนั้น เป็นสิ่งที่เสี่ยงเกินไป และให้ค่าตอบแทนได้น้อยกว่าที่ชกต่างประเทศ
แต่ความเสี่ยงก็มีนั่นคือ การที่นักมวยคนนั้น ต้องแบกรับต้นทุน ค่าใช้จ่ายทั้งหมด และแบกรับความเสี่ยงในการทำธุรกิจเอง
“เรื่องร่างกาย ผมเตรียมตัววางแผนมานานหลายปีแล้วว่าจะดูแลร่างกายอย่างไร เพราะอายุก็มากขึ้น จึงต้องเลือกแต่รายการที่สำคัญเท่านั้น” บัวขาว กล่าว
สังเกตได้ว่า บัวขาว จะเลือกชกไฟต์ที่สามารถต่อยอดชื่อเสียง หรือโอกาสในการทำธุรกิจของเขา อาทิ การเซ็นสัญญาเข้าร่วมสังกัด คุนหลุน ไฟต์ ซึ่งเป็นองค์กรการต่อสู้เจ้าใหญ่ของประเทศจีน ทำให้คนจีนเริ่มหันมาสนใจ บัวขาว ยิ่งเมื่อเขาได้ชกกับนักมวยระดับซูเปอร์สตาร์ของ จีน อย่าง อี้ หลง ก็ยิ่งทำให้ฐานแฟนคลับในต่างแดนของเขา เพิ่มขึ้นไปอีก นอกเหนือจากในญี่ปุ่น ที่มีฐานเก่ามาจากสมัยที่บัวขาว ชกรายการ K-1
นี่ยังไม่รวมไฟต์ยิบย่อยที่เจ้าตัว ชกกับนักชกจากยุโรป ก็ส่งผลให้ บัวขาว เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ จนมีชาวต่างชาติติดตามเขาเป็นจำนวนมากในระดับเดียวกับ แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทย อีกหนึ่งซูเปอร์สตาร์มวยไทยที่มีชื่อเสียงในระดับสากล
ท้ายที่สุด บัวขาว ก็เลือกต่อยอดทางธุรกิจ ด้วยการเปิดค่ายมวยไทย ผสมผสาน การท่องเที่ยวเชิงเกษตร ในชื่อ “บัวขาว วิลเลจ” บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้รับการตอบรับจากชาวต่างชาติจำนวนมาก และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างรายได้นอกสังเวียนของเจ้าตัว
“ผมคิดว่าผมมาไกลเกินฝันที่อยากได้ออกทีวี สิ่งที่ตนได้ทำและเป็นความภาคภูมิใจคือ มีชาวต่างชาติที่ส่งจดหมายมาพยายามเขียนจดหมายภาษาไทยมาแบบตกๆ หล่นๆ แต่มีความพยายามมาก”
“พวกเขาเขียนจดหมายมาเป็นกองใหญ่ ว่าอยากรู้จักประเทศไทย อยากมาเมืองไทย อยากมาเรียนเมืองไทย ตรงนั้นผมรู้สึกว่า ผมภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจให้คนต่างชาติอยากรู้จักประเทศไทย และมวยไทยครับ”
"ผมดีใจที่คนเห็นผมเป็นผู้บุกเบิก เป็นตัวแทนคนที่ส่งเสริมมวยไทยและศิลปะต่างๆ นี่แหละยิ่งใหญ่กว่ารางวัลใดๆ เลยครับ"
เป็นมากกว่านักกีฬา
บัวขาว วิลเลจ จึงเป็นการต่อยอดธุรกิจที่ชาญฉลาดมากๆ ของเขา ลองคิดดูว่า หากคุณชื่นชอบหรือคลั่งไคล้นักกีฬาสักคนหนึ่ง มันจะดีแค่ไหนถ้าได้ตื่นตอนเช้ามาสัมผัสวิถีชีวิตแบบบ้านๆ แบบที่คนพื้นบ้านประเทศนั้นอยู่ และได้ซ้อมกีฬา อยู่ยิมเดียวกับ นักกีฬาคนโปรด
บัวขาว ทำให้แฟนคลับใกล้ชิด และมีประสบการณ์ร่วมกับเขา ผ่าน “บัวขาว วิลเลจ” นั่นแสดงให้เห็นถึงวิธีคิดในการทำธุรกิจ และการวางตำแหน่งของตัวเองที่เป็นมากกว่าแค่นักกีฬา เพราะเขาเคยให้สัมภาษณ์ว่าต้องการตีตลาดธุรกิจให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก
แม้จะสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมฯ จาก กศน. แต่บัวขาว ก็ให้ความสำคัญอย่างมากกับเรื่องการศึกษา เขามีปริญญาติดตัวถึง 3 ใบ ซึ่งในหนึ่งนั้นคือ ปริญญาบริหารธุรกิจบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต ที่เขาเลือกเรียนสาขานี้ เพราะต้องการศึกษาเรื่องการบริหารธุรกิจอย่างจริงจัง
ไม่เพียงเท่านั้น บัวขาว ยังปรากฏตัวอยู่ในภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์อยู่สม่ำเสมอ ด้วยคารม และทักษะสื่อสารที่ไม่แพ้นักแสดงคนใด เรียกว่ามีความเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์อยู่ในตัว ทั้งบนเวที และนอกสังเวียน ทำให้ผู้คนชื่นชอบในตัวเขา
นอกจากนี้ การปรากฏอยู่ในหน้าสื่อๆ หลายครั้ง ยังทำให้ผู้คนในสังคมวงกว้างรู้จักเขา ต่อให้จะไม่เคยติดตามว่า บัวขาว ชกกับใคร ชกที่ไหน แต่ก็จะมีความรู้สึกชอบ ชื่นชม หรือมองว่า บัวขาว เป็นนักมวยไทยที่เก่งและประสบความสำเร็จ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย
แม้ว่าบัวขาวจะสร้างโอกาสให้ตัวเองจนมีรายได้ รายรับมากมายจากหลายๆ ช่องทาง ไม่ใช่แค่การชกมวย แต่เคล็ดลับสำคัญที่ยังทำให้เขามีเงินทองต่อยอดทำธุรกิจได้อีกเรื่อยๆ นั่นคือการที่เขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย
เขายังคงให้ความสำคัญกับเรื่องระเบียบวินัย การดูแลตัวเอง ให้ฟิตสมบูรณ์เสมอ เพื่อรักษาระยะเวลา ในการชกมวยให้นานที่สุด
ควบคู่กับการรักษาชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และมองหาโอกาสใหม่ๆ นอกสังเวียน เพื่อต่อยอดรายได้และมูลค่าให้ตัวเขาเพิ่มขึ้นทุกวัน แม้ต่อให้ถึงวันที่เขาเลิกชกก็ตาม....
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過36萬的網紅Club gig,也在其Youtube影片中提到,วิธีหาลุคให้ดูดี? เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องที่ต้องคิด และลงมือทำด้วยตัวเอง ฟังแค่ไหน เรียนมาแค่ไหน ถ้าคุณยังทำตัวเองแบบเดิม ใส่เสื้อผ้าเหมือนเดิม คุณจะเ...
「ภาพลักษณ์ คือ」的推薦目錄:
- 關於ภาพลักษณ์ คือ 在 Facebook 的最佳解答
- 關於ภาพลักษณ์ คือ 在 อ้ายจง Facebook 的最讚貼文
- 關於ภาพลักษณ์ คือ 在 JaNNiLiCiOuS Facebook 的最佳解答
- 關於ภาพลักษณ์ คือ 在 Club gig Youtube 的最佳貼文
- 關於ภาพลักษณ์ คือ 在 Digicup - การสร้างภาพลักษณ์คือศาสตร์แขนงหนึ่งที่เราทุกคนจำเป็... 的評價
- 關於ภาพลักษณ์ คือ 在 ภาพลักษณ์คือเจ้าสัวแก่ๆ เพราะขึ้นหลังเสือแล้วมันลงไม่ได้ #Shorts ... 的評價
ภาพลักษณ์ คือ 在 อ้ายจง Facebook 的最讚貼文
‘Live Streaming’ จีน โตสวนวิกฤติ ทางรอดใหม่ของแบรนด์ Luxury ขายสินค้าหรู ผ่าน Live
.
ปัจจุบันผู้บริโภคชาวจีนนิยมซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ โดยเฉพาะจากการรับชม Livestreaming หรือ Live เพื่อขายสินค้า แม้แต่สินค้า Luxury แบรนด์เนมราคาแพง ก็สามารถใช้ช่องทางนี้ กระตุ้นยอดขายได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น Tiffany สามารถขายสร้อยคอ 300 เส้น จากกิจกรรม Live โดย KOL คนดังบนโลกออนไลน์จำนวน 3 คน ซึ่งผู้ซื้อ ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงรายได้สูงจากเมืองเล็กๆ ในจีน ที่เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในตลาดสินค้าราคาแพง แทนที่เมืองใหญ่
.
Amanda Xie คนดังบนแพลตฟอร์ม Xiaohongshu แอปพลิเคชัน live style ชื่อดังในจีน มีคนติดตามเธอทั้งหมด 414,000 คน โดยเธอเป็นหนึ่งใน KOL ของกิจกรรม Live ขายสร้อยคอ Tiffany เผยว่า รู้สึกลังเลเมื่อได้รับการติดต่อจาก Tiffany ให้ Live รีวิวและขายสร้อยเพชรมูลค่า 3,500 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 108,185 บาท) เพราะไม่แน่ใจว่าสินค้าราคาสูงขนาดนั้น ขายได้หรือไม่ อีกทั้งยังไม่มีส่วนลด เหมือนกับสินค้าอื่นๆ ที่ใช้ส่วนลด มาดึงดูดคนจีนซื้อผ่านออนไลน์หรือการถ่ายทอดสดขายสินค้าเช่นนี้
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ออกมา คือ ขายได้ และนี่คือสิ่งยืนยัน เราไม่สามารถมองข้ามพลังของ Livestreaming ในจีนได้เลย
.
อีกหนึ่งตัวอย่างน่าสนใจซึ่งอาจทำให้เรามองภาพได้ชัดเจนขึ้น ได้แก่ กรณี Jo Sun KOL ชื่อดังในมหานครเซี่ยงไฮ้ ขายสินค้าแบรนด์ Gucci, Chanel และ Louis Vuitton 70-80 รายการ มูลค่ารวมมากกว่า 1 ล้านหยวน (ราว 5 ล้านบาท) ภายในเวลาแค่ 3 ชั่วโมงของการ Live เมื่อเทียบกับห้างสรรพสินค้าขายสินค้าหรู ปักกิ่ง หรือ เซี่ยงไฮ้ ที่ทำยอดขายเฉลี่ย 500,000 – 700,000 หยวน (ราว 2.5 – 3.5 ล้านบาท) ต้องใช้เวลาทั้งวัน
.
นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า จากวิกฤตระบาดใหญ่ COVID-19 ส่งผลโดยตรงต่อตลาดสินค้าหรู Luxury product โดยปีนี้ 2020 ยอดขายทั่วโลกจะลดลง 17-35% แม้ว่าห้างสรรพสินค้าในหลายประเทศเริ่มกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งหลังสถานการณ์ COVID-19 ดีขึ้น แต่ประเทศจีนมีแนวโน้มฟื้นตัวมากที่สุด ด้วยการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งปี 2019 ที่ผ่านมา ผู้บริโภคชาวจีนสร้างเม็ดเงินในตลาด Luxury คิดเป็นสัดส่วน 40%
.
และจากการเผยของ iiMedia บริษัทที่ปรึกษาสัญชาติจีน ข้อมูลที่ออกมาสอดคล้องกันกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ข้างต้น เมื่อเราได้เห็นเม็ดเงินจากตลาด ‘Live commerce’ ขายสินค้าผ่าน Live ในจีน ที่เม็ดเงินสูงถึง 4.34 แสนล้านหยวน (ราว 21 ล้านล้านบาท) ในปี 2019
.
ดังนั้น ทุกแบรนด์ต่างมุ่งเป้ามายัง ตลาดผู้บริโภคสินค้าหรูประเทศจีน และทำแคมเปญขายสินค้าผ่านการร่วมมือกับ KOL คนดังออนไลน์บนแพลตฟอร์มยอดนิยม อาทิ Weibo, Xiaohongshu, WeChat อย่างยิ่งช่วง COVID-19 เนื่องจากยอดการรับชมสตรีมมิ่งพุ่งสูงขึ้นอีกด้วย อย่าง Kuaishou แพลตฟอร์ม Online video ลักษณะเดียวกับ TikTok ยอดผู้ใช้งานทะลุ ร้อยล้านรายต่อเดือน เพิ่มจากห้าสิบล้านราย เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา โดยมีการขายสินค้าบนแพลตฟอร์มนั้น เป็นล่ำเป็นสัน ตั้งแต่ คอเป็ดอบเกลือ ราคา 30 หยวน (ราว 150 บาท) ไปถึง กระเป๋า Hermès ใบละ 370,000 หยวน (ราว 1.85 ล้านบาท)
.
McKinsey บริษัทที่ปรึกษาชื่อดัง ระบุว่า 73% ของผู้ซื้อสินค้าผ่านการถ่ายทอดสดโลกออนไลน์จีน อายุระหว่าง 20 – 40 ปี และเป็นสัดส่วน 78% ของการซื้อสินค้าหรูเมื่อปี 2018 จึงถือว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของทุกแบรนด์
.
หลักสำคัญของการขายสินค้าแบรนด์เนม และราคาแพง ผ่าน Live ในประเทศจีน คือ ต้องคงความหรู การลดราคาจึงเป็นสิ่งหลีกเลี่ยง เราจึงได้เห็นการกำหนดราคาขายในประเทศจีนของหลายแบรนด์ดัง เช่น Louis Vuitton และ Chanel ที่สูงกว่าวางจำหน่ายประเทศอื่น หรือสร้าง Limited edition เฉพาะตลาดจีน
นอกจากนี้ การเลือก KOL ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง ภาพลักษณ์ Lifestyle และฐานแฟนคลับของ KOL แต่ละคน รวมถึงสถานที่ Live เป็นตัวทำนายผลลัพธ์ตั้งแต่เริ่มเลยว่า สินค้าจะขายได้หรือไม่
.
อ้างอิงจาก
https://www.ft.com/con…/1a31079c-69ff-4646-aeed-cce1a80e34c8
ภาพจาก:
https://asiatimes.com/…/luxury-market-re-commits-to-china-…/
#onUFO #LuxuryMarket #China #LiveCommerce #LiveStreaming
ภาพลักษณ์ คือ 在 JaNNiLiCiOuS Facebook 的最佳解答
โพสนี้ที่รอคอย ยาวหน่อยนะคะ
จุดนี้ไม่พูดถึงไม่ได้แล้วจริง ๆ สำหรับแบรนด์ ARgENTUM ขอสารภาพตามตรงเลยว่าหลงสเน่ห์ในความ Unique ของแบรนด์นี้มาก ๆ ตั้งแต่ concept ภาพลักษณ์ ความเรียบโก้ ที่ดูไม่ธรรมดา ทำให้เราอยากรู้ อยากสัมผัส ว่าเค้ามีดีอะไร
เริ่มแรกแจนได้ลองแบบซองก่อน คือตัว la potion infinie ที่ซองใหญ่มากสำหรับขนาด sample ให้มาถึง 5 ml คือใช้อยู่ 4 วันเลย ครั้งแรกที่ได้ใช้คือ ว้าว ในใจเลยค่ะ ชอบกลิ่นมาก กลิ่นแบบเท่ห์ ๆ คล้ายน้ำหอมผู้ชาย หรือกลิ่น unisex อ่อน ๆ ผสมความหลงใหลน่าค้นหา
ครีมซึมลงผิวดีมาก ไม่ข้น หรือเหลวไป และให้ความชุ่มชื่นที่กำลังดี ไม่หนึบหลังใช้เลย พอซึมแล้วสบายผิวมาก ๆ ผิวฟู ตึงขึ้นในทันที
ตอนนั้นใช้หมดซองแล้ว วอแวมาก อยากใช้ต่อ ตอนนี้ใช้กระปุก Full size ต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 วีคแล้ว ใช้ทุกวันค่ะ คืออินมากกก ก่อนกลับมาใช้คือ สิว ผด อุดตัน กำลังเห่อได้ที่ค่ะ พอได้มาก็รีบใช้ ก็ไม่อยากจะเชื่อแค่ไม่กี่วัน สิวยุบ ผดยุบ หน้าเรียบขึ้น คือผิวดีขึ้นมากอย่างน่าแปลกใจ ผิวที่จับแล้วไม่เรียบ หรือรอยสิวที่เพิ่งกดเอง มันจางลงไวมาก ไม่ได้หายไปเลยทีเดียวแต่มันดูดีขึ้นมากเหมือนผิวได้รับการซ่อมแซม และฟื้นฟูอย่างทันที
ด้วยส่วนผสมที่ไม่เหมือนใครคือ แร่เงินบริสุทธิ์ Silver Hydrosol และ DNA HP คุณสมบัติช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวต่าง ๆ ช่วยสมานผิว ลดริ้วรอย ให้ความชุ่มชื่นและยืดหยุ่น ปรับสมดุลย์ผิว
และคือเราไม่ใช้คนชอบ layer หลายชั้น ไม่ว่าจะสภาพอากาศไหน ฤดูไหน แต่เราจะปรับเปลี่ยน skincare แทน ตัวนี้คือใช่เลย เราจะไม่มาบรรจงทาทีละเลเยอร์ หลายตัวหลายสเต็ป เคยลองแล้วไม่เวิร์ค รู้สึกว่า Less is more นั้นดีกว่าสำหรับเรา คือน้อยแต่มาก เน้นคุณภาพ เท่าที่ผิวรับได้ค่ะ
เค้าให้ลงหลัง Essence หรือพวกน้ำตบ เนื้อใส ๆ เหลว ๆ แล้วต่อด้วย la potion infinie และถึงจะตามด้วย serum เพื่อไปช่วยเคลียร์ผิวให้พร้อมรับบำรุงเข้มข้นเต็มประสิทธิภาพ ใช้คู่กับแบรนด์อื่นได้ ไม่มีปัญหา ไม่มีการขึ้นขุย คือเค้าซึมแล้ว ผิวตึงกระชับ รู้สึกได้เลย และสามารถใช้รอบดวงตาได้อย่างปลอดภัย
อีกหนึ่ง detail ที่น่าสนใจที่ชอบมาก ๆ คือ เค้ามีการ์ดมาให้ในกล่องด้วย 1 ใบ ค่ะ มีทั้งหมด 12 แบบ สุ่มมาให้ เหมือนไพ่ Tarot Card บ่งบอกถึงความรู้สึก เหมือนการหยิบไพ่เสี่ยงทาย แจนได้มาเป็น SAGE ก็เข้าไปดูความหมายในเวบมาว่าคืออะไร ความหมายดี ๆ
Lessons of the past
Fate smiles on you. The lessons of the past teach you your future and help you live now, in the present. Always learning, growing, choosing beauty and light. You are coming home.
เอาเป็นว่า ชอบทุกอย่างของเค้าเลย จะหาว่าอวยก็ได้เพราะรักสุดใจ รักมาก ๆ ยกให้เป็น Holy Grail จะใช้ต่ออย่างแน่นอน ชอบกลิ่น เนื้อสัมผัส feeling ทุกอย่างเลย และมันเข้ากับผิวเราได้อย่างดีมาก ๆ
ความจริงเราชอบ skincare มาก ชอบลอง เปลี่ยน ใช้ไปเรื่อย แต่นาน ๆ ทีจะรู้สึกแบบนี้ แบบที่ได้ใช้ Argentum มันคือความรู้สึกพิเศษที่ต้องได้ลองสัมผัสเอง
อีกนิดนึง ขวดที่มาคู่กัน คือ Face Oil ค่ะ หลัง ๆ เรากล้าใช้ออยล์มากขึ้นแล้ว มันไม่ได้น่ากลัวอะไรนะ เอาออยล์ มาทาหน้า แค่ใช้ให้ถูกวิธีค่ะ คือการวอร์มที่มือก่อน และเอามากด ๆ ลงที่หน้า ออยล์ตัวนี้ เนื้อ เบา มาก เพิ่งเห็นว่าเค้าได้รับรางวัล Best Facial Oil 2020 ด้วย ไม่แปลกใจเลย เนื้อเบา ดุจน้ำ เป็น Oil ที่บางเบาที่สุดที่เคยใช้มา แจนใช้ตอนกลางคืน ลงหลัง la potion infinie ได้เลย เป็นการปิดจ๊อบ จบการบำรุง ล็อกทุกอย่าง เตรียมพักผ่อน
รักมาก จริง ๆ อยากใช้ตัวอื่นของแบรนด์อีก ค่อย ๆ เก็บ สะสมไปเนอะ
ARgENTUM la potion infinie 70 ml 6,950.-
l’étoile infinie 30 ml 3,550.-
มีวางที่ Skin Lab ทุกสาขานะคะ เป็นผู้นำเข้าอย่างถูกต้องเพียงรายเดียวในไทย Xtrastrong Beauty ARgENTUM apothecary
ขอร้องว่าอย่าเลิกนำเข้านะคะ Cause I’m a Big fan!!
ภาพลักษณ์ คือ 在 Club gig Youtube 的最佳貼文
วิธีหาลุคให้ดูดี?
เรื่องแบบนี้ เป็นเรื่องที่ต้องคิด และลงมือทำด้วยตัวเอง ฟังแค่ไหน เรียนมาแค่ไหน ถ้าคุณยังทำตัวเองแบบเดิม ใส่เสื้อผ้าเหมือนเดิม คุณจะเป็นคนใหม่ในลุคใหม่ได้อย่างไร?
ถ้าไม่เปลี่ยนแล้วชีวิตเท่าเดิม แต่ถ้าเปลี่ยนดูบ้าง ชีวิตมีโอกาส 2 เรื่อง คือ เท่าเดิม หรือ ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่เห็นจะมีอะไรไม่น่าลองเพื่อตัวเองเลยนะคะ
หาลุคให้ดูดีได้ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด คุณต้องลองค่ะ ลองมันไปเรื่อยๆ จาก 5 ข้อนี้
1. ทำแล้วเช็คตัวเอง "visual check"
2. ทำแล้วให้คนอื่น cross check
3. ลดขั้นตอนในการลองผิดลองถูก หา ไอดอล หรือต้นที่แบบที่ชื่นชอบ และเราคิดว่าเรามีลุคไปในทางนั้นได้ ไม่หลุดจากความเป็นตัวเอง เพราะอย่าลืมนะคะ สิ่งที่ดีที่สุดคือ พัฒนาจากความเป็นตัวเอง และ เลือกเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด
4. communicate หรือ เอาภาพลักษณ์นั้นๆ ออกไปเล่าเรื่อง จะเล่าผ่าน อินสตาแกรม, เฟซบุ๊ก หรือ ช่องทางการสื่อสารไหนที่คุณถนัดก็ได้
5. คุณก็แค่ทำมันไปเรื่อยๆ จนทุกคนจดจำว่ามันคือลุคใหม่ที่เป็นคุณก็เท่านั้นเอง
--
มาสร้างสังคมผู้หญิงยุคนี้ไปด้วยกัน
เรา สวย รวย เก่ง มั่นใจ มีความคิด ทำธุรกิจ มีรายได้ ดูแลตัวเองได้ เป็นตัวของตัวเองอย่างมีรสนิยม และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงด้วยกัน กับ
อุ้ม สุขอาริยาภา คะกิจ
ผู้บริหาร บริษัท แบรนด์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด
ที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์, ภาพลักษณ์, และการสื่อสาร
ปรึกษาฟรี! ได้ที่ http://nav.cx/9mLlciP
ภาพลักษณ์ คือ 在 ภาพลักษณ์คือเจ้าสัวแก่ๆ เพราะขึ้นหลังเสือแล้วมันลงไม่ได้ #Shorts ... 的必吃
ภาพลักษณ์คือ เจ้าสัวแก่ๆ เพราะขึ้นหลังเสือแล้วมันลงไม่ได้ #Shorts #ค่อยๆรัก #StepByStep | one31. 2.6K views · 23 hours ago ...more ... ... <看更多>
ภาพลักษณ์ คือ 在 Digicup - การสร้างภาพลักษณ์คือศาสตร์แขนงหนึ่งที่เราทุกคนจำเป็... 的必吃
การสร้างภาพลักษณ์คือศาสตร์แขนงหนึ่งที่เราทุกคนจำเป็นต้องเรียนรู้กันเอาไว้ เพราะบางครั้งเราอาจจะต้องใช้ทักษะนี้เวลาเข้าสังคม เช่น การพบลูกค้า การพบปะสังสรรค์ ... ... <看更多>