Search
🎺 ขออนุญาตประชาสัมพันธ์นิดนึงค่า
ขณะนี้เหล่าป้าๆ ในหมู่บ้านของเป่าเป้ยที่ตจว. กำลังประสบปัญหางานหดงานหาย เงินไม่มีใช้ไม่มีเลี้ยงหลาน จากที่รับเย็บผ้าโหลให้โรงงาน ไม่มีงานป้อนมาเป็นเดือนแล้ว
📍รับจ้างเย็บผ้า , ถักโครเชต์
งานอะไรก็ได้ลองบรีฟมาก่อน ชิ้นเดียวก็รับ รับถักรับเย็บ
ภาพด้านล่างคือตัวอย่างงานถักปลอกหมอน
ราคาเสนอมาได้เลย ถ้ารับราคาได้ก็จะทำให้
ขอบคุณค่า 🙏
เมื่อรู้สึกแย่กับชีวิต
---
1
หญิงสาวคนหนึ่งบอกผมว่า ในช่วงเวลาที่ชีวิตพัง ความคาดหวังล้มเหลว หรือรู้สึกใจสลาย วิธีเยียวยาตัวเองแบบหนึ่งคือออกไปซื้อเครื่องสำอางใหม่ มิได้ช้อปปิ้งฟุ่มเฟือยอะไร แต่ออกไปเลือกหยิบลิปสติก แป้ง อายแชร์โดว์ อะไรสักอย่างที่ชอบใจ ใช้แล้วดูดี ติดไม้ติดมือกลับมา แล้วเริ่มวันใหม่ด้วยการแต่งหน้าตัวเองให้ตัวเองชอบ
2
ฟังแล้วชวนให้นึกถึงตัวเอง ช่วงรู้สึกแย่จากเหตุปัจจัยควบคุมไม่ได้ที่เกิดขึ้นในชีวิต ผมมักใช้วิธีง่ายๆ คือกำหนดระยะการวิ่งของวันนี้แล้วออกไปวิ่งให้ครบเป้า ระหว่างวิ่งก็บรรเทาความรู้สึกนั้นไปได้มาก เมื่อวิ่งจบก็โล่งใจขึ้นไม่น้อย แม้ว่าความคิดเกี่ยวกับเรื่องแย่ๆ จะวนกลับมาอีก แต่ก็จางลง
3
เรื่องเครื่องสำอางกับการวิ่งคล้ายกันอย่างไร เคล็ดลับเพื่อผ่านช่วงเวลาแย่ๆ ในชีวิตอาจอยู่ตรงที่--เราต้องหาอะไรสักอย่างที่ 'อยู่ในการควบคุม' ของเรา ในช่วงเวลาที่ชีวิตอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ อกหัก สัมภาษณ์งานไม่ผ่าน เพื่อนโกรธ พ่อแม่ไม่เข้าใจ เจ้านายดุ ฯลฯ หลายสิ่งในชีวิตนั้นมีคนอื่นมามีส่วนในเรื่องราวนั้นจึงไม่เป็นไปตามใจคิด บางครั้งทำให้เรา 'เป๋' เหมือนคนเมาหมัด และคิดวนอยู่กับเรื่องนั้นเนิ่นนาน ถ้าปล่อยให้วนนานเกินไปเราอาจตกเป็นทาสของอารมณ์แย่ๆ ของตัวเอง
4
การแต่งหน้าหรือการวิ่งจึงเป็นรูปธรรมของการบัญชาการชีวิตตัวเองอีกครั้ง มันย้ำเตือนเราในส่วนลึกว่า ยังมีอีกหลายส่วนในชีวิตที่เราจัดการได้ ที่ยังอยู่ในมือเรา มิใช่อารมณ์ความรู้สึกของเราจะต้องขึ้นกับคนอื่นไปเสียหมด ความตระหนักว่าเรา 'ควบคุมชีวิตตัวเองได้' นี้สำคัญ มันทำให้เราแข็งแรงขึ้นอีกครั้ง พร้อมจะเริ่มต้นใหม่ในเรื่องราวใหม่ๆ แม้ไม่อาจแก้ไขเรื่องที่ล้มเหลวไปแล้วได้ก็ตาม แต่ชีวิตก็ยังมีอีกหลายเรื่อง
5
แต่งหน้ากับวิ่งจึงเป็นเพียงตัวอย่าง บางคนอาจทำอาหาร เล่นดนตรี ถักโครเชต์ วาดรูป จัดดอกไม้ เพาะต้นไม้ ฯลฯ กิจกรรมที่เราสามารถทำเองได้ ทำให้สำเร็จได้อย่างใจ ทำแล้วรู้สึกดีกับตัวเอง เหล่านี้ล้วนเรียกความสามารถในการควบคุมชีวิตตัวเองกลับคืนมาอีกครั้ง แม้เป็นเพียงกิจกรรมเล็กๆ แต่ส่งผลต่อความรู้สึกอย่างมาก เพราะในเวลาที่เรากำลัง 'เป๋' หรือรู้สึกแย่ บ่อยครั้งที่ไม่อยากลุกขึ้นมาทำอะไรเลย นอนจมความผิดหวังและยอมแพ้ต่อชีวิต
6
เมื่อได้ฟังหญิงสาวเล่าเรื่องการเยียวยาตัวเองด้วยเครื่องสำอาง ผมจึงคิดว่าทุกคนล้วนแล้วแต่มีพื้นที่เล็กๆ ในชีวิตตัวเองที่ยังควบคุมได้เสมอ ในวันที่พ่ายแพ้ เราอาจกลับมากอบกู้พลังและความมั่นใจจากพื้นที่ที่เราสามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง เมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้ว เมื่อแข็งแรงขึ้นแล้ว เราจะมีเรี่ยวแรงในการทำในเรื่องยากหรือไล่ตามความฝันครั้งใหม่ได้อีกครั้ง
7
ทุกคนล้วนมีช่วงเวลาที่ต้องเยียวยาตัวเอง เวลาแพ้เราไม่ได้แพ้ทุกสนาม ยังมีพื้นที่เราจัดการได้ แต่งหน้าให้ตัวเองสวยได้ แต่งตัวให้ตัวเองดูดีได้ อ่านหนังสือให้ตัวเองคิดอ่านดีขึ้นได้ ออกกำลังกายให้ตัวเองแข็งแรงขึ้นได้ ยิ่งแพ้ยิ่งต้องดูแลตัวเองให้ดี จะได้มีแรงออกไปพยายามใหม่ จะมีหัวใจที่แข็งแรงเพื่อออกไปชนะ ซึ่งจะว่าไป แค่ลุกขึ้นมาทำบางสิ่งที่พอทำไหวก็ชนะใจตัวเองแล้ว
อยากมีอะไรก่อนอายุ 40?
คำถามนี้เป็นคำถามที่ดูง่ายๆสั้นๆ แต่ตอบยากมาก ยากจนต้องไปนั่งอ่านบทความเพื่อหาคำตอบให้ตัวเอง
ถ้าลองพิมพ์หาเป็นภาษาอังกฤษ บทความต่างประเทศจะเป็นแนว ซื้อบ้านตากอากาศที่ต่างประเทศ ไปซาฟารีที่แทนซาเนีย ลงแข่งไตรกีฬา เรียนภาษาสเปน ว่ายน้ำข้ามช่องแคบบ้าง ต้องไปล่องเรือจากท่าเรือนู้นไปท่าเรือนี้
แต่พออ่านบทความภาษาไทยก็ย้ายไปอยู่โลกฝั่งตรงข้าม คือ เริ่มต้นลงทุน จัดการหนี้สิน ศึกษาเรื่องภาษี ซื้อบ้านก่อนรถ ซื้อประกันชีวิต
มันเหมือนกับว่าก่อนอายุ 40 ฝั่งหนึ่งให้เราทุบกระปุกหมู เอาเงินออกมาใช้วิ่งตามความฝันของตัวเอง ส่วนอีกฝั่งบอกให้มีเก็บเงินหยอดกระปุกไว้ ต้องวางแผนชีวิต หลังจากอ่านบทความ และได้คุยกับคนรอบตัวหลายๆคน มิ้นท์สรุปได้ว่าสุดท้ายมันสำคัญทั้ง 2 อย่าง ทั้งความฝัน ทั้งการวางแผนชีวิตอย่างรอบคอบมันต้องมาคู่กัน ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ และมันควรเป็นแบบนี้ตั้งแต่ก่อน 40 มากๆเสียด้วย
มิ้นท์เลยขอแบ่งหัวข้อออกเป็น 2 อย่างด้วยกัน
1. สิ่งที่ต้องมีก่อนอายุ 40
2. สิ่งที่อยากมีก่อนอายุ 40
อันแรกเพื่อให้ใช้ชีวิตบนโลกได้อย่างดี เป็นอาหารหลักที่หล่อเลี้ยงร่างกาย
อันที่สองเพื่อมีมุมความฝันเล็กๆไว้เติมรสชาติชีวิต เหมือนขนมหวานให้พอชื่นใจ
สิ่งที่ต้องมีก่อนอายุ 40
1. ต้องรู้ได้แล้วว่าความสุขจริงๆของเราคืออะไร แล้วก็ทำสิ่งนั้นซะ หลายคนอาจเข้าใจว่าความสุขที่ว่าต้องเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องยาก แต่ถ้าลองพิจารณาดูดีๆ ความสุขมันคือสิ่งเล็กๆในชีวิตนั่นล่ะ มันเป็นสิ่งง่ายๆ ซึ่งนี่คือสิ่งสำคัญที่ต้องมองให้เห็น ความสุขของมิ้นท์ คือ การได้กินของอร่อยๆ ได้เล่าเรื่อง ความสุขของแม่มิ้นท์ คือ การเล่นโยคะ ของอาม่า คือ การได้ดูแลญาติๆด้วยเอง สุดท้ายมันคือการสนุกกับโมเม้นต์เล็กๆในแต่ละวัน มองให้เห็น หามันให้เจอ
2. ต้องจัดการกับความสัมพันธ์กับรอบข้าง เพราะคนเหล่านี้คือกำลังใจสำคัญ สุดท้ายงานจะทิ้งเราไป แต่คนข้างๆคือคนที่จะอยู่ ถ้าเรามีความสัมพันธ์กับคนรอบข้างดี ชีวิตเราก็จะดีตามไปด้วย ไม่ได้หมายความว่าต้องมีเพื่อนเยอะนะ แต่ต้องมีเพื่อนดีๆและดูแลเพื่อนดีๆเหล่านั้นไว้ และที่สำคัญที่สุด คือ คนใกล้ตัวอย่างพ่อแม่ของเรา ใครทะเลาะกับพ่อหรือแม่ ท่านพูดอะไรก้ไม่เข้าหู ไม่ค่อยคุย ไม่เจอ คุยทีไรก็ทะเลาะกัน แบบนี้ต้องเคลียร์ เพราะสิ่งที่น่าเสียใจที่สุด คือ ความค้างคา
3. รู้จักการจัดสรรเงินทอง คือ ต้องรู้จักเก็บ แต่ก็ต้องรู้จักใช้ด้วย เงินก็ต้องเก็บ เก็บเพื่ออนาคตกลางๆ ไม่ไกลมากจนปัจจุบันไม่ต้องทำอะไร และไม่ใช่อนาคตใกล้มากจนพอถึงเวลาจำเป็นไม่เหลือเงินเก็บสักบาท อย่างน้องมิ้นท์คนนึง เอาไปแต่งรถ ซื้อรองเท้า แล้วก็เที่ยวหมด พอคอมที่ต้องใช้ทำงานพัง งานเข้าไม่เหลือเงินเลย แต่ก็ต้องรู้จักใช้ชีวิต ซื้อของดีๆให้ตัวเอง ให้รางวัลชีวิตกับตัวเองบ้าง แก่กว่านี้เที่ยวก็ไม่สนุก แก่กว่านี้กินอะไรก็ไม่อร่อย ก็ออกไปเที่ยวๆ กินๆ ซื้อที่นอนดีๆ เก้าอี้นวด อะไรที่อยากได้แล้วมันยังเหลือเงินเก็บอยู่บ้างก็ทำไปเถอะ
4. รู้จักการจัดสรรเวลาเพื่อดูแลคนรอบข้างและที่สำคัญ คือ เพื่อดูแลตัวเอง เพราะสุขภาพมันไม่ดีขึ้นแล้ว มันมีแต่แย่ลง สุดท้ายเวลาทำงานก็สำคัญ เวลาเจอเพื่อนก็สำคัญ เวลานอนก็สำคัญ อยู่กับที่บ้านก็สำคัญ และเวลาว่างก็สำคัญ เราต้องมีเวลานั่งโง่ๆ นั่งคิด นั่งป่วยๆ เพื่อทบทวนชีวิต ตั้งคำถามบ้าๆบอๆให้สมองมันวุ่นวาย เช่น อยากมีอะไรก่อนอายุ 40
5. ต้องคิดถึงความตาย ต้องรู้ว่าชีวิตมีจุดหมดอายุ วันก่อนไปงานที่วัดพระสวดว่า ‘เห็นกันอยู่เย็นนี้ พรุ่งนี้ก็ไม่เห็นเสียแล้ว’ มันเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะเราเกิดมาก็เข้าใกล้ความตายขึ้นทุกวัน ถ้าเรารู้แบบนั้นเราก็จะใช้ชีวิตอย่างมีสติมากขึ้น เห็นคุณค่าของวันนี้มากขึ้น
6. ต้องหางานอดิเรก ออกไปลองกิจกรรมหลายๆแบบจนกว่าจะเจอกิจกรรมที่ชอบ อาจจะเป็นโยคะ ชงกาแฟ วิ่งเทรล ถักโครเชต์ ทำอาหาร เดินทาง ร้องเพลง เพราะงานอดิเรกนี่ล่ะที่จะเป็นเหมือนห้องพักจากงานไม่อดิเรก เป็นการผ่อนคลาย พักสมอง เปลี่ยนที่ให้ไม่เบื่อ งานอดิเรกหลายๆอย่าง เช่น การถ่ายรูป อ่านหนังสือ หรือเป็นปอเต๊กตึ๋งก็ช่วยให้ได้เห็นมุมมองใหม่ ได้เพื่อนกลุ่มใหม่ หรือยิ่งดีไปกว่านั้นหลายๆครั้งงานอดิเรกกลายเป็นรายได้เสริม และอาจจะเป็นรายได้หลักได้ด้วย
นี่ล่ะคือสิ่งที่น่าจะต้องมี ซึ่งมันเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้เลยนะ มิ้นท์เองยังมีไม่ครบแต่ก็ต้องพยายามต่อไป
สิ่งที่อยากมีก่อนอายุ 40
มิ้นท์รู้สึกว่าตอนเด็กๆเวลามีคนถามว่าอยากได้อะไร มิ้นท์ตอนเด็กๆจะตอบได้ทันที แต่มิ้นท์ตอนโตขึ้น คำตอบมันออกมายากมากขึ้น คิดแล้วคิดอีก เพราะกลัวว่าที่พูดไป ‘จะเป็นไปได้หรอ?’ อาจไม่ใช่เพราะไม่รู้ แต่แค่มีประสบการณ์มามาก ผิดหวังมามาก เลยรู้สึกว่าไม่อยากผิดหวังด้วยการพูดมันออกมาดังๆอีก
แต่จริงๆแล้วความอยากมัน คือ เพิ่มแรงขับ เป็นดันตัวเองออกจากกรอบ และเป็นการการตั้งเป้าหมายชีวิตอย่างนึง เป็นเหมือนน้ำจิ้มให้กับไก่ย่าง มันทำให้ชีวิตเปรี้ยว หวาน มัน เค็มมากขึ้น ถ้าสิ่งที่ต้องมีคือไก่ สิ่งที่อยากมีคือน้ำจิ้มไก่ เพราะฉะนั้นอย่ากลัวที่จะพูด เพราะคนรอบข้างจะได้ฟัง แล้วอาจจะช่วยเราได้ด้วย
มิ้นท์อยากเต้นท์แบบหนังบอลลีวู้ด อยากมีครอบครัว แล้วพาลูกไปเที่ยวเป็น I Roam Alone X Baby (ฝันไว้ๆ)
สุดท้ายสิ่งที่ ‘ต้องมี’ กับสิ่งที่ ‘อยากมี’ มันจะเป็นอะไรก็ได้ ทุกคนควรคิดไว้และหาคำตอบพร้อมกับเขียนเอาไว้ด้วย มันเป็นเหมือนการวางโครงชีวิตไว้คร่าวๆแล้วที่เหลือปล่อยให้ชีวิตลงรายละเอียดเองทีหลัง เป็นแผนที่ไม่เคร่งครัดเกินไป ชีวิตจะได้ไม่หลงทาง ไม่เคว้างคว้างจนเกินไป
เท่านี้ละค่ะ
สอนวิธีการทำเคสมือถือ ทำเองได้ง่ายๆด้วยหนังยาง ถัก ซิลิโคน loom bands : การคำนวนขนาดตั้งต้นแบบSubscribe for free: ... ... <看更多>
สอนพื้นฐานโครเชต์อย่างง่าย ที่คุณสามารถทำตามได้หลังจากนี้การ ถักโครเชต์ จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป. ... <看更多>
ถักโครเชต์ 在 สอนถักโครเชต์พื้นฐาน 6 ลาย สำหรับมือใหม่หัดถัก - YouTube 的必吃
... for the beginnerคลิปนี้ จัดทำขึ้น เพื่อมอบเป็น ของขวัญปีใหม่ 2562 มอบให้มือใหม่ที่อยากเริ่มต้นฝึก ถักโครเชต์ นะคะทุกท่านทราบไหมคะว่า การ. ... <看更多>